(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 165 Side:ไอแซค (ผู้หลุดจากกลุ่มคนที่สอง ความเสียใจภายหลังนั้น)
- Home
- (นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 165 Side:ไอแซค (ผู้หลุดจากกลุ่มคนที่สอง ความเสียใจภายหลังนั้น)
Side:ไอแซค (ผู้หลุดจากกลุ่มคนที่สอง ความเสียใจภายหลังนั้น)
(ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้……? ทั้งที่ผมก็แค่อยากจะมีความสุขในโลกนี้เองแท้ๆ……!)
ไอแซคที่หลบหนีจากการจับกุมของพวกมาร์กอส และใช้พลังเฮือกสุดท้ายจนหมดในตอนนั้น ได้วิ่งหนีไปในเมืองโดยไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย
ด้วยบาดแผลจากความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้และผลข้างเคียงจากการถูกบังคับดัดแปลงร่างกายให้กลายเป็นสัตว์เกราะมาร รวมถึงภาระที่เกิดจากการใช้ดาบมาร ทำให้เขาตอนนี้อยู่ในสภาพสะบักสะบอมทั้งร่างกายและจิตใจ
ไอแซคพิงกำแพง……ตั้งคำถามกับตนเองอย่างต่อเนื่องพร้อมน้ำตาที่เอ่อล้น โดยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้
สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวนั้นไม่ใช่ความทรงจำในฐานะไอแซค แต่เป็นความทรงจำอันขมขื่นในชีวิตก่อนหน้าในฐานะอาริโต อิซาโอะ
『นายเป็นอะไรน่ะ!? ให้ความร่วมมือมากกว่านี้หน่อยสิ!!』
คำตะโกนด้วยความโกรธจากเด็กชายเพื่อนร่วมชั้นเช่นนั้น น่าจะเป็นสมัยประถม
เป็นตอนที่ซ้อมวิ่งผลัดโดยเข้าร่วมทั้งชั้นเรียน เด็กชายคนนั้นระเบิดความโกรธใส่ตนเองที่ไม่มีใจจะทำ
มีคำพูดลักษณะคล้ายกันในช่วงมัธยมต้นเช่นกัน
ร่วมมือหน่อยสิ มาร่วมแรงร่วมใจกันเถอะ มาพยายามด้วยกันเถอะ……ผลลัพธ์จากการปฏิเสธคำพูดเช่นนั้นและมือที่ยื่นมาหา ทำให้รู้ตัวอีกทีรอบตัวของอิซาโอะก็ไม่มีใครอยู่เลย
สบายๆ คนเดียวมันง่ายๆ ตนเองอยู่โดดเดี่ยวก็ไม่เป็นไร……ถึงอิซาโอะจะพยายามปลอบใจเช่นนั้น แต่เรื่องที่นั่นคือการแสร้งทำเป็นเข้มแข็งตนเองรู้ตัวดีที่สุด
เขาก็แค่กลัว กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าตนเองไร้ความสามารถแล้วเกลียด จึงแค่รักษาระยะห่างกับผู้คนเท่านั้น
ในตอนวิ่งผลัดเองก็ใช่ เพราะคิดว่าแม้ตนเองที่อ่อนด้านกีฬาจะพยายามเต็มที่แต่ก็เป็นได้แค่ตัวตลก เพราะเกลียดการถูกหัวเราะเยาะเรื่องนั้น อิซาโอะจึงไม่จริงจังตั้งแต่แรก แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้เอาจริง
ถ้าตนเองพยายามคงวิ่งได้เร็วกว่านี้ เพราะมันน่ารำคาญเลยแค่ไม่ทำแบบนั้น…….หลอกตนเองเช่นนั้น แค่ทำเป็นแข็งแกร่ง
เพราะเหตุนั้นเขาจึงไม่มีเพื่อนเลย เพราะแม้ว่าใครต่อใครจะยื่นมือมาหาก็ไม่สามารถแสดงความอ่อนแอของตนเองให้อีกฝ่ายนั้นเห็นได้
ในระหว่างที่ทำแบบนั้นความโดดเดี่ยวก็จมลึกขึ้นเรื่อยๆ พอรู้ตัวอีกทีก็ไม่มีใครยื่นมือมาหาแล้ว……แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถเลิกทำเป็นแข็งแกร่งได้
ตนเองคือโซโล่เพลเยอร์ผู้โดดเดี่ยวไงล่ะ แค่เลือกความโดดเดี่ยวด้วยตนเองเท่านั้น สถานการณ์นี้เป็นไปตามความต้องการของตนเอง ตัดสินใจเช่นนั้นและคอยบอกกับตนเองอยู่เรื่อยๆว่าไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวสักหน่อย
แม้แต่ตอนพ่ายแพ้ในเกมที่ชื่นชอบก็โยนความผิดว่าเป็นเพราะพวกพ้อง แล้วเล่นแต่เกมที่สามารถเล่นได้ด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น ทำแบบนั้นแล้วเล่นโซโล่ใน『ลูมินัส ฮิสทรี่』ที่พบเข้าเรื่อยๆ……ใช้ชีวิตน่าเบื่อแบบนั้นต่อไปจนกระทั่งเสียชีวิต
ตอนที่ได้เกิดใหม่ในโลกนี้ มันคงจะเป็นโอกาสสุดท้ายของอิซาโอะ
โอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตของตนเอง……โอกาสสุดท้ายที่จะเลือกเส้นทางจับมือกับใครสักคนแทนที่ชีวิตที่เป็นมาจนถึงตอนนี้
ทว่า……เขาได้ทิ้งสิ่งนั้นไป
ไม่ใช่ว่าอยากท้าทายขีดจำกัดของตนเอง ไม่ใช่ว่ายึดติดกับอุดมการณ์สูงสุดในการเล่นโซโล่
ก็แค่ ก็แค่……กลัว กลัวว่าหากเลือกชีวิตใหม่ตรงนี้ละก็ มันเหมือนกับการยอมรับว่าชีวิตในฐานะอาริโต อิซาโอะเป็นความผิดพลาด
เพราะงั้นแหละ เมื่อได้รับรูปลักษณ์และความสามารถอันยอดเยี่ยมในฐานะสิทธิพิเศษของผู้กลับชาติมาเกิด หลังจากเกิดใหม่ในฐานะไอแซค อาเรียแล้ว เขาก็ยังคงยึดติดกับตนเองจนถึงตอนนี้ ทำได้แค่เรื่องแบบนั้น
ผลลัพธ์นั้นคือสิ่งนี้ ควรจะตั้งเป้าเป็นวีรชนเดียวดายที่กอบกู้โลก แต่กลับร่วงหล่นกลายเป็นอาชญากรที่ขโมยดาบมารพร้อมกับเป็นสัตว์ประหลาดไป
จริงๆแล้วรู้มาโดยตลอด ทั้งความอ่อนแอของตนเอง ทั้งความโง่เขลา ทั้งความผิดพลาด น่าจะรู้อยู่แล้ว
แต่แค่ไม่อาจยอมรับเรื่องนั้นได้ ตนเองมาถึงตรงนี้……โดยที่รู้อยู่แล้วว่าผิดพลาด
(ช่วยด้วย……ใคร จะใครก็ได้ ช่วยผมที……)
จะอ่อนแอก็ช่าง จะน่าสมเพชก็ช่าง เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตนเองทำมาจนถึงตอนนี้ รู้อยู่แล้วว่าการพูดเรื่องแบบนี้มันเกินตัว
ทว่า……ตอนนี้ที่ได้ลิ้มรสความโดดเดี่ยวอย่างแท้จริงเช่นนี้แล้วนั้น เข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าตนเองโง่เขลาแค่ไหน แม้ว่าเขาจะอับอายแบบนั้นแต่ก็ปรารถนาจากใจอย่างแรงกล้าขึ้นมาว่าอยากจะเชื่อมความสัมพันธ์กับใครสักคน
อยากให้ใครสักคนยื่นมือมา ถ้าทำเช่นนั้นละก็ ครั้งนี้แหละตนเองจะจับมือนั้นไว้แล้วเปลี่ยนชีวิตใหม่
ในสายตาของไอแซคที่คิดเช่นนั้นปรากฎร่างคน
เขาที่ยื่นนิ่งอยู่ในสายตาที่พร่ามัว ค่อยๆก้าวเข้ามาหา ร่างนั้นได้ยื่นมือมาหาทางนี้ หลังจากเห็นภาพนั้นแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย――
“……เอ๊ะ?”
――เสียง ฉึก ดังขึ้นภายในร่าง สีหน้านั้นเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ
อะไรบางอย่างสีแดงค่อยๆไหลออกมาจากหน้าอกของตนเอง
เมื่อไอเพื่อระบายบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเอ่อล้นขึ้นมา เลือดสีเดียวกันกับพลังเวทของดาบมาร์ก็ถูกขับออกมาจากปาก
ถูกแทง เมื่อเขาที่เข้าใจได้เช่นนั้นเบิกตากว้าง ชายที่ยื่นอยู่เบื้องหน้าของตนเองก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจอย่างยิ่งพร้อมพูดกับไอแซค
“ไง ไอแซค……! สภาพน่าสมเพชเลยนะ นายน่ะ”
“กะ แกคือ……อั๊ก!”
“อย่าทำชุดนักเรียนของฉันเปื้อนเลือดนายสิ มันสกปรกนะ”
นักเรียนชายที่แทงดาบเข้าที่หน้าอกของตนเองดูคุ้นตา
ผู้กลับชาติมาเกิดที่เข้าประลองเพื่อหยุดตนเองที่ทำตามอำเภอใจในสถาบัน ก่อนหน้านี้เล็กน้อยนั่นเอง
ชื่อถ้าจำไม่ผิดเซียนสินะ เขาที่ก้มมองไอแซคซึ่งกำลังคิดเช่นนั้นได้ยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมพูดขึ้น
“รู้สึกดีชะมัดเลยว่ะ เพราะทำแบบนี้แล้วได้ล้างแค้นความอัปยศที่นายทำลงไปละนะ นายทำเกินไปนะ ไอแซค จนพวกเราทุกคนคิดอยากจะกำจัดนายออกไปให้พ้นทางเลยละ”
“อึก……!?”
รอบตัวเซียนยังมีคนอื่นๆอีกหลายคน
นั่นคือทุกคนเป็นผู้กลับชาติมาเกิดเช่นเดียวกับตนเอง ไอแซคที่รู้สึกตัวเช่นนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าพวกเขาอาศัยโอกาสนี้เพื่อมากำจัดตนเอง แล้วทรุดตัวลงตรงที่แห่งนั้นในเวลาเดียวกัน
เลือดที่ออกจากปากและหน้าอกไม่มีสัญญาณว่าจะหยุด
ในขณะที่ไอแซคซึ่งความตายกำลังมุ่งมาหาอย่างแท้จริงร้องไห้ออกมา เซียนที่ก้มลงข้างๆนั้นก็พ่นคำดูถูกขณะแสดงรอยยิ้มเย้ยหยัน
“วางใจเถอะ ไอแซค วัตถุดิบที่นายรวบรวมมาพวกเราจะรับไปให้เอง แล้วก็จะขอใช้การตายของนายให้เกิดประโยชน์ละ ในฐานะวีรชนที่หยุดนายซึ่งคลุ้มคลั่งจากการใช้ดาบมารมากเกินไป ตั้งใจว่าจะให้ช่วยสร้างชื่อให้กับพวกเรา ดีจังนะ ไอแซค ที่ได้ทำประโยชน์ให้พวกพ้องในตอนสุดท้ายน่ะ”
คิกคักคิกคัก เสียงหัวเราะต่ำทรามของเหล่าผู้กลับชาติมาเกิดดังขึ้น
เลือดสีแดงดำค่อยๆเอ่อออกมาเป็นแอ่งใต้ร่างกาย
ไอแซครู้สึกได้ว่าร่างกายเย็นลง ขณะถูกโจมตีด้วยความเสียใจภายหลังและความสิ้นหวังที่ว่าตนเองคือตัวตนแบบเดียวกันกับพวกคนแบบนี้งั้นหรือ ก็รู้สึกได้ถึงข้อความที่ผุดขึ้นมาในหัวในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตพร้อมกับสิ้นสติไป
『GAME OVER』
――――――――――
―――――――
―――――
―――
―
หลังจากนั้นไม่กี่นาที พวกมาร์กอสที่มายังสถานที่เกิดเหตุ ได้พบเข้ากับศพของไอแซคที่แน่นิ่งไม่ไหวติง นอนจมกองเลือด
ร่างนั้นที่น่าสงสารและมีความสิ้นหวังอันล้ำลึกสถิตอยู่ในดวงตาที่เบิกโพลง พวกเขาที่เห็นได้แต่ไว้อาลัยให้กับการตายของเขาทั้งที่พูดอะไรไม่ออก