(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 156 ฮีโร่มักจะมาในยามวิกฤตเสมอ!
- Home
- (นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 156 ฮีโร่มักจะมาในยามวิกฤตเสมอ!
ฮีโร่มักจะมาในยามวิกฤตเสมอ!
“เนด นาย……!?”
“สุดยอด! พลังของดาบมารที่ควบคุมผู้คนกับพลังที่สามารถบดขยี้ไอ้พวกที่ขวางหูขวางตาได้! หากรวมทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกันไม่ว่าความปรารถนาแบบไหนฉันก็ทำให้เป็นจริงได้! ฉันวิวัฒนาการกลายเป็นตัวตนขั้นสุดยอดแล้ว! ก๊ากฮะฮะฮะฮะฮะ!!”
ทั้งที่กลายร่างเป็นสัตว์เกราะมารไปแล้วแต่เนดกลับหัวเราะด้วยความยินดีต่อเรื่องนั้น จิตใจเองก็คงจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วเป็นแน่
เขาหลงมัวเมาไปกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวและน่ารังเกียจยิ่งกว่าเหล่าผู้คนที่ถูกพลังของดาบมารกลืนกิน จากนั้นเขาคว้าคอของแองเจิลด้วยมือซ้ายทั้งแบบนั้นพลางยิ้มเยาะและเอ่ยกับเธอ
“แองเจิล……! เพราะไอ้เวรไอแซคมันเสียท่าถูกเล่นงาน ฉันจึงอยู่ในเมืองนี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่ว่า คนที่คอยสนับสนุนฉันจะให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี และจะมารับที่ทางเหนือของเมือง เธอเองก็จะมาด้วยกันกับฉันไหม?”
“พูดอะไร……!?”
“เธอเองก็น่าจะรู้ใช่ไหมล่ะ? ทั้งอัศวินวิถีเวท ทั้งทุกคนในสถาบันนั้นที่ตั้งเป้าจะเป็นแบบนั้นมันมีแต่สวะ ไอ้เวรไอแซคมันแค่อยากได้อาวุธที่ทรงพลังเลยขโมยดาบมารที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเก็บรักษาไว้ แล้วขอให้ฉันสร้างของเลียนแบบขึ้นมา ไม่ใช่แค่เจ้านั่น คนอื่นๆ เองก็คอยขัดแข้งขัดขากันและกันเพื่อให้มีแค่ตัวเองดีก็พอ คนที่ถึงขั้นเอาผู้หญิงเป็นเดิมพันในการประลองเองก็มีด้วย จะยังสร้างอุปกรณ์เวทเพื่อไอ้พวกสวะแบบนั้นต่ออยู่อีกงั้นเหรอ? คอยเป็นเบี้ยล่างให้ไอ้พวกคนแบบนั้นไม่นึกเสียใจบ้างเหรอ!?”
เนดพูดเช่นนั้นแล้วปล่อยคอของแองเจิล ก่อนจะยื่นมือเชื้อเชิญเธอ
มาด้วยกันเถอะ……เขาแสดงท่าทางและคำพูดเช่นนั้นแล้วทำการโน้มน้าวใจครั้งสุดท้ายต่อแองเจิล
“มาด้วยกันสิ แองเจิล พลังของเธอมีประโยชน์ ถ้าไม่อยากตายตรงนี้ก็มาด้วยกันกับฉัน”
พลังการพูดที่เต็มไปด้วยความกดดันรุนแรง หากปฏิเสธก็พร้อมช่วงชิงชีวิตอย่างเลือดเย็นและไร้ความปรานี คำพูดของเนดให้ความรู้สึกเช่นนั้น
แองเจิลที่ไร้อาวุธและไม่สามารถขยับตัวได้ หลังจากก้มหน้ารับคำพูดนั้นและเงียบไปพักหนึ่ง……ก็ตัวสั่นและเริ่มหัวเราะออกมา
“หุ หุหุหุ……! อะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ!”
“……มีอะไรน่าขำ?”
“ก็ไม่อะไรหรอก……ก็แบบว่านายเป็นผู้ชายอ่อนไหวยิ่งกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย พอโดนเพื่อนผู้ชายทรยศหน่อยก็ร้องโอดครวญ แค่คิดว่ามันน่าตลกชะมัดเลยละ”
“ว่าไงนะ……!?”
ขณะประหลาดใจกับการตอบสนองของแองเจิลที่หัวเราะเยาะต่อภัยคุกคามของตนเองในสถานการณ์เช่นนี้ เนดครวญครางราวกับกลืนแมลงขมๆ ต่อคำพูดของเธอ
แองเจิลจ้องมองด้วยสายตาท้าทายต่อเขาที่เป็นเช่นนั้น และประกาศออกมาด้วยท่าทีหนักแน่นไม่เกรงกลัว
“เนด มีเรื่องที่อยากจะบอกนายสองเรื่อง ก่อนอื่นก็เรื่องแรกละนะ……จะเล่นบทเป็นเหยื่อไปถึงเมื่อไหร่น่ะ ไอ้เจ้าบ้าหลงตัวเองที่มีแต่ความย้อนแย้งเอ๊ย!”
“หน่ะ……!?”
“บอกว่าใครต่อใครก็มีแต่สวะ? ถ้างั้นทำไมถึงเชื่อใจคนแบบนั้นล่ะ!? ถ้ารู้สึกไม่พอใจในความสัมพันธ์ของวิศวกรกับอัศวินวิถีเวทมาสักพักแล้ว และคิดว่าพวกคนในสาขาทั่วไปมีแต่สวะ แล้วทำไมถึงเชื่อใจไอแซคที่เป็นนักเรียนสาขาทั่วไปล่ะ!?”
เนดที่ถูกชี้ให้เห็นความขัดแย้งในความคิดของตนเองเพราะแองเจิลนิ่งอึ้ง
เขาไม่สามารถหาคำโต้ตอบได้ แองเจิลยังคงพูดต่ออีก
“เนด นายจริงๆแล้วไม่เคยเชื่อใจไอแซคเลย แต่แค่ เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายสะดวกสำหรับตัวเองเท่านั้น……เป็นคนที่เชื่อฟังคำพูดของนายและคอยจัดหาวัตถุดิบมาให้เพราะงั้นจึงเข้ากันได้ดี มันก็แค่นั้นแหละ นายเรียกไอแซคว่าเป็นสวะแต่กลับกลายเป็นว่าตัวนายเองก็ไม่ต่างอะไรกับหมอนั่นเลย! เป็นความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นจากผลประโยชน์และความเห็นแก่ตัวเพราะงั้นมันเลยถูกทำให้สิ้นสุดได้อย่างง่ายดายยังไงล่ะ!”
“หุบปาก! ฉัน ฉันน่ะ――!!”
“เนด นายเคยพูดคุยกับไอแซคนอกโรงงานปฏิบัติการแค่ไหน? นายรู้จักเรื่องของหมอนั่นแค่ไหน? เคยคิดที่จะเป็นเพื่อนกับไอแซคสักครั้งไหม? ก็คงไม่ล่ะมั้ง? นั่นคือคำตอบทั้งหมดละ เนด นายกับไอแซคไม่ใช่เพื่อนกันเลย เป็นความสัมพันธ์ตื้นเขินที่พร้อมจะพังทลายได้ง่ายๆ ความจริงนายเองก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว!”
ถูกไอแซคทรยศเพราะงั้นตนเองจึงร่วงหล่นออกนอกเส้นทาง……แองเจิลตัดคำพูดแก้ตัวเช่นนั้นของเนดทิ้งอย่างไร้ความปรานี
ถึงจริงๆเรื่องที่เนดถูกทรยศอาจจะเป็นความจริง แต่ความไว้วางใจอย่างมั่นคงระหว่างทั้งสองคนมันไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว
เขาก็แค่ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งที่ว่าเป็นผู้เสียหายโดยไม่คาดคิดอย่างเต็มที่ และพยายามหาความถูกต้องให้ตนเองเท่านั้น
ถ้าหากเนดพบกับนักเรียนที่เชื่อฟังคำพูดของตนเองและส่งมอบวัตถุดิบได้มากกว่าไอแซคละก็……คนที่จะอยู่ในจุดที่เป็นฝ่ายทรยศคงจะเป็นทางเขา
ทั้งที่มันเป็นความสัมพันธ์แบบนั้นมาตั้งแต่แรกแท้ๆ แต่เนดกลับเริ่มโกรธมากขึ้นกับคำพูดของแองเจิลที่บอกว่าให้เลิกทำตัวเป็นเหยื่อและโวยวายแค่ตอนที่ตนเองถูกตัดความสัมพันธ์เสียที
แองเจิลจ้องมองโดยไม่หวั่นเกรงต่ออารมณ์โกรธของเขาเช่นนั้น และพูดถึงเรื่องที่สอง
“อีกเรื่องน่ะนะ……คนที่อยู่ในสถาบันนี้ไม่ได้มีแค่สวะสักหน่อย อย่างน้อยคนที่อยู่ข้างฉันก็เป็นคนอัธยาศัยดีไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้นเลยละ”
“ยูโกเหรอ? ฮะฮะ! อย่ามาทำให้ขำหน่อยเลย ไอ้เจ้านั่นแหละสวะในหมู่สวะ! เจ้านั่นมันเคยทำอะไรไว้จนถึงตอนนี้ลืมไปแล้วงั้นเหรอ!?”
“ก็จริงยูโกอาจจะเคยทำเรื่องที่สมควรถูกเรียกว่าสวะ แต่ว่านะ เนด……นายรู้จักหมอนั่นในตอนนี้ดีแค่ไหน? รู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกของสัตว์มารแล้วผูกมิตรด้วย? รู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นเป็นคนที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อคนที่ทอดทิ้งตัวเองไป? รู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นเป็นคนที่เพื่อช่วยเหลือใครสักคนถึงกับยอมต่อสู้ทั้งที่รู้ว่าอันตราย? และรู้หรือเปล่าว่าหมอนั่นเชื่อในตัวฉันแค่ไหน? ถ้าไม่รู้ละก็อย่ามาเรียกหมอนั่นว่าสวะอีกเป็นครั้งที่สอง!!”
“อึก……!?”
เนดสะดุ้งนิ่งอึ้งจากแรงกดดันที่แองเจิลซึ่งอยู่ตรงหน้าปลดปล่อยออกมา
เขาสับสนกับความจริงที่ว่าถูกข่มขู่จากสาวน้อยที่ไม่มีอาวุธ ร่างกายขยับไม่ได้และน่าจะอ่อนแอกว่าตนเองอย่างล้นหลาม แองเจิลยังคงทุ่มเทจิตวิญญาณและความคิดของตนเองต่อ
“ยูโกในตอนนี้น่ะตรงไปตรงมา และยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องผู้คนมากมายเรื่อยไป ฉันอยากทำให้หมอนั่นกลายเป็นอัศวินวิถีเวทที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าศัตรูแบบไหนก็โค่นได้ อยากช่วยให้กลายเป็นฮีโร่ที่คอยปกป้องผู้คนในโลกนี้ ทั้งฉันทั้งหมอนั่นยังอ่อนหัดไม่ถึงขั้นละ แต่ว่า ถ้าต้องทรยศต่อคนอัธยาศัยดีแบบนั้นซึ่งฝากชีวิตและเชื่ออย่างสุดหัวใจต่อฉันที่เป็นแบบนี้แล้วไปทำตามคำสั่งนายละก็……ยอมถูกฆ่าตายตรงนี้ยังดีกว่าพันเท่า!”
“…….งั้นเหรอ ถ้างั้นจะทำให้สมปรารถนาเองแล้วกัน เอาเถอะ ฉันก็แค่อยากเห็นสภาพที่เธอร้องขอชีวิตเท่านั้น ถึงจะตอบอะไรก็ตั้งใจจะฆ่าอยู่แล้วละ! ก๊ากฮะฮะฮะฮะฮะ!!”
“……”
เนดหยิบดาบมารที่ยังสร้างไม่สมบูรณ์จ่อเธอพร้อมกับพูดข่มขู่เพื่อทำให้แองเจิลกลัว
ในชั่วพริบตานั้นที่ปลายดาบนั้นกำลังจะสัมผัสหน้าอกของเธอ……แองเจิลก็เอ่ยปากขึ้น
“……สุดท้ายอีกเรื่อง นึกเรื่องที่อยากจะพูดกับนายได้แล้ว”
“อ๋า? อะไรล่ะ? คำพูดร้องขอชีวิตเหรอ?”
เนดรับฟังเรื่องของเธอขณะหัวเราะเยาะแองเจิลที่จู่ๆก็พูดขึ้นมา
หลังจากที่หายใจเข้าออกช้าๆ แองเจิลก็พูดกับเขาที่เป็นเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงสงบ
“ในยามที่พวกพ้องตกอยู่ในวิกฤตก็จะรีบมาหาอย่างแน่นอน นั่นแหละคือฮีโร่……ยังไงล่ะ”
“หา? พูดอะไรของเธอ――!?”
การตอบสนองของเนดต่อคำพูดที่มีความหมายไม่ชัดเจนนั้น ไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจนจบประโยค
เพราะในขณะที่เขากำลังพูด กำแพงที่อยู่ข้างๆ เขาเกิดเสียงกึกก้องและพังทลายลง
แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องที่มืดสลัว จากนั้นก็มีอะไรบางอย่างสีดำสนิทกระโดดพุ่งเข้ามา
เนดตกใจกับเสียงคำรามและหันไปทางนั้น เมื่อได้ยินเสียงตะโกนที่อะไรบางอย่างสีดำสนิทนั้นปลดปล่อยออกมา เขาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
“บลาสเตอร์ คิกกกกกกก!!”
“เหวอออออออ!?”
ชั่วพริบตาที่ได้ยินเสียงตะโกนนั้น เนดก็รู้สึกได้ถึงแรงกระแทกอันมหาศาลต่อร่างกายแล้วถูกซัดปลิวไปอย่างแรง
เขากระแทกเข้ากับกำแพงอีกฝั่ง ร่างแปลงของสัตว์เกราะมารเองก็คลายออก เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นบุคคลที่เกลียดชังหุ้มด้วยชุดเกราะดำอยู่ตรงนั้น
“โทษทีนะแอง มาช้าไปหน่อย”
“ไม่เลย ต้องขอบคุณที่ทำให้ไม่ต้องติดพันพูดคุยกันนานๆ”
ชายคนนั้นปลดเปลื้องพันธนาการ และพูดเล่นกับแองที่เป็นอิสระ แล้วค่อยๆหันไปหาเนด
เนดโซเซลุกยืนขึ้นอีกครั้ง จ้องมองเขา……พร้อมกับตะโกนชื่อชายคนนั้นที่ปลดเปลื้องชุดเกราะแล้วออกมา
“ยูโก เคลย์……! กล้าดียังไงมาขัดขวางฉัน……!!”