[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 4 ชิซึนะกำลังคิดอะไรอยู่หนอ
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 4 ชิซึนะกำลังคิดอะไรอยู่หนอ
หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่ที่ริวอิจินั้นได้ฟื้นความทรงจำของเขา ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก…แต่ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ชิซึนะถึงได้เข้ามาทักบ่อยๆ ก็ไม่รู้
ริวอิจิแทบจะไม่เคยคุยกับเธอมาก่อนเลย แต่ดูเหมือนว่าชิซุนะอยากจะชดเชยช่องว่างที่ไม่ได้คุยกันนั้นโดยการที่เมื่อเธอเห็นริวอิจิเดินเข้ามาในห้องเรียน ชิซึนะก็จะรีบเดินเข้ามาหาเขาแล้วก็กล่าวทักทาย จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม ริวอิจิก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรมากแต่ก็ถอนหายใจออกมาคิดกับตัวเองว่า การที่มาพัวพันกับผู้ชายอย่างเขามันไม่มีอะไรดีเลยนะ
“…? “
วันหนึ่งขณะที่ริวอิจิกลับมาจากห้องน้ำ เขาก็ได้ยินชิซึนะกำลังคุยกับเพื่อนร่วมห้องที่ระเบียงทางเดิน
“นี่…ชิซึนะ ชิชิโดะเขาได้ทำอะไรเธอหรือเปล่า? “
“ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ? “
“ก็แบบว่าช่วงนี้เธอทำตัวแปลกๆ นี่นา เมื่อก่อนเธอไม่เคยคุยกับเขาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับพยายามเข้าหา…ฉันก็เลยรู้สึกสงสัย? “
ริวอิจิยิ้มเจื่อน แต่เขาก็คิดว่าพวกเธออาจจะพูดในสิ่งที่ไม่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเเถมชิซึนะก็เริ่มพูดในน้ำเสียงจริงจังด้วย เพราะฉะนั้นแอบฟังสักหน่อยก็คงไม่เลวเมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็ได้แอบฟังสาวๆ เม้าท์มอยกันต่อ
“ฉันไม่ได้ถูกเขาหลอกหรืออะไรหรอกนะ ฉันพยายามที่จะเข้าใกล้เขาให้มากขึ้นด้วยความตั้งใจของฉันเอง ถึงจะไม่ปฏิเสธเรื่องที่เขามีข่าวลือมากมายก็เถอะ แต่ฉันคิดว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะปฏิเสธตัวของเขา แถมเขายังเป็นเพื่อนร่วมห้อง…เเละ…เขา….คือว่า…”
ชิซึนะพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกเรื่องเกี่ยวกับริวอิจิ แต่ดูท่าคงจะไม่ง่ายเท่าไหร่ เนื่องจากที่ชิซึนะเป็นคนเดียวที่รู้และคอยอยู่ตอนที่เขาเปลี่ยนน้ำในแจกัน
“แอบฟังแค่นี้ก็พอแล้วละมั้ง? “
ริวอิจิเกาหัวพร้อมเดินออกมาจากมุม
ชิซึนะที่หันหลังอยู่เลยไม่ได้สังเกตเห็น แต่เพื่อนของเธอทุกคนที่หันหน้ามาอีกทางก็ได้เห็นริวอิจิ
“อะ…ชิชิโดะคุง”
“เอ๊ะ? “
ชิซึนะหันกลับมา ดวงตาของเธอนั้นเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นริวอิจิ ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะไม่เข้าใจก็ตามว่าทำไม เพราะปกติมันควรจะเป็นใบหน้าที่แสดงถึงความรังเกียจ
เอาเข้าจริงริวอิจิก็เริ่มคิดมากตั้งแต่ตอนนั้น
มันจะเป็นยังไงถ้าการ NTR มันเป็นเพียงฉากหน้า จริงๆ แล้วชิซึนะอาจจะชอบริวอิจิแบบที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้มาตั้งเเต่เเรกเเล้วก็ได้
ไม่สิเป็นไปไม่ได้หรอก ในเนื้อเรื่องมังงะนั้นมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเธอเกลียดริวอิจิ หรือให้พูดอีกอย่างนึงก็คือ ชิซึนะในโลกนี้เเตกต่างไปจากต้นฉบับเล็กน้อย
“ชิชิโดะคุง ไปเข้าห้องน้ำมาอย่างนั้นเหรอ”
“อาฮะ เพิ่งออกมานี่แหละ เห็นพวกเธอกำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับฉันอยู่ก็เลยเดินเข้ามาดูเฉยๆ “
เมื่อริวอิจิมองไปยันสาวๆ พวกเธอก็เริ่มที่จะก้มหน้าลงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มองพวกเธอก็ตาม ริวอิจิอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจสงสัยว่าจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่น่ากลัว
“ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกน่า มันก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะรู้สึกแบบนั้นกับฉันนั่นแหละ ไม่แน่ถ้าฉันย้อมผมเป็นสีดำ แล้วก็ถอดต่างหูอาจจะดูน่ากลัวน้อยลงก็ได้”
“อะ…เออ…นั่นสินะ”
“แต่ว่าผมดำมันไม่ค่อยเหมาะกับเธอเท่าไหร่หรอก ว่ามะ? “
“นี่ก็ตรงเกิ๊น”
ดูเหมือนว่าสาวๆ ผ่อนคลายลงเล็กน้อยต้องขอบคุณชิซึนะ
ถึงแม้พวกเธอจะกลัวอยู่บ้างแต่ก็เหมือนเริ่มจะเปิดใจให้กับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของริวอิจิ
“ฉันคงกังวลเกินไปสินะ นึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรินโดซะอีก”
“พูดแบบนั้นแล้ว พอได้คุยกับชิชิโดะคุงเข้าจริงๆ มันก็สนุกกว่าที่คิดนะ”
“นี่เธอมีรสนิยมแบบนี้หรอเนี่ย? “
“อย่างนั้นหรอ? “
การหยอกล้อกันไปกันมาของพวกเธอดูท่าจะมีความสุข จนเพื่อนคนอื่นๆ ก็เริ่มยิ้มออกมา เขามักจะรู้สึกเหมือนถูกใครสักคนจ้องมองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว
“มีอะไรอย่างนั้นหรอ? “
ชิซึนะเอียงหัวของเธอขณะถาม คงจะยากถ้าจะบอกว่าเธอคือสาเหตุของมัน
“นายเนี่ยค่อนข้างแตกต่างไปจากข่าวลือที่เขาพูดถึงนะรู้ป่ะ? “
“ใช่แล้ว นอกจากนี้รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งแถมเถื่อนๆ แบบนี้ มันทำให้เขาดูดีมากเลยล่ะ”
“ฮ่าๆ ตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะจีบฉันนะ”
“คิกคักๆ พูดอะไรน่ะเจ้าคนหลงตัวเอง”
“…”
“คิกคักๆ “
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีบรรยากาศกดดันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เมื่อก่อนริวอิจิมักถูกคนอื่นมองด้วยสายตาที่ดูถูก โดยเฉพาะกับผู้หญิง แต่สีหน้าและแววตาในตอนนี้กับเปลี่ยนแปลงไปมากมันดูมีชีวิตชีวามากขึ้น มันเลยแสดงให้เห็นว่าริวอิจินั้นเปลี่ยนไปแล้ว
“ถ้างั้นพวกเรากลับก่อนนะ~”
“เออ”
เพื่อนๆ ของเธอเดินกลับไปที่ห้อง โดยปล่อยให้ชิสึนะยังยืนอยู่ที่เดิม
ริวอิจิมองชิซึนะราวกับจะถามว่า’…นี่ยังอยู่อีกหรอ?’
“เธอไม่จำเป็นต้องมองฉันแบบนั้นสักหน่อย”
“…ทำไมช่วงนี้เธอถึงเข้ามาคุยกับฉันบ่อยจังละ”
นั่นเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา
ดวงตาของชิซึนะเบิกกว้างเล็กน้อยเพราะเธอไม่คิดว่าจะโดนถามตรงๆ จากนั้นเธอก็หันกลับมามองที่ริวอิจิแล้วตอบคำถามนั้น
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉัน…ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองได้รู้เรื่องราวของชิชิโดะคุง ที่ฉันไม่เคยคุยด้วยมาก่อน การที่อยากจะรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้มันแปลกงั้นเหรอ”
“…ไม่เข้าใจเลย”
เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเธอแม้แต่นิดเดียว
ชิซึนะพองแก้มของเธอ แต่ในช่วงเวลานั้นเขาก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสีหน้าของเธอ สีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เขายิ้มออกมา เมื่อชิซึนะเห็นแบบนั้นแล้วเธอก็หัวเราะมาอย่างมีความสุข
“เอาล่ะ รีบกลับห้องเรียนกันเถอะ มันคงไม่ดีถ้าเราไปเข้าเรียนสาย”
“ประโยคแบบนั้นมันไม่เหมาะกับเธอเลย”
“เงียบไปเลยเธอ”
อย่างน้อยริวอิจิก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับการได้พูดคุยกับชิซึนะ
แต่ดูเหมือนว่าหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นหลังเลิกเรียนซึ่งจะทำให้เธอใกล้ชิดกับริวอิจิมากยิ่งขึ้น
“ชิชิโดะคุง? “
“…นี่วันนี้เราเจอกันบ่อยเกินไปไหม”
ริวอิจิหรี่ตาลง ชิซึนะได้หัวเราะออกมาเพราะคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ที่ได้มาเจอกันที่ตลาดแบบนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอมาซื้อของสำหรับมื้อเย็น
ส่วนทางด้านของริวอิจิเขาก็แค่ออกมาซื้อมาม่าคัพเท่านั้น และแน่นอนว่าชิซึนะก็สังเกตสิ่งนั้นเช่นกัน
“ซื้อเเค่มาม่าคัพอย่างนั้นเหรอ? “
“ออกจะอร่อยขนาดนี้ อย่ามาดูถูกมาม่านะ”
“ฉันรู้ว่ามันอร่อย และฉันก็ไม่ได้ดูถูกมาม่าด้วย”
เพียงแค่เติมน้ำร้อนแล้วรอ 3 นาที คุณก็จะได้มื้อเย็นแสนอร่อย ริวอิจินั้นติดหนี้ชีวิตมาม่าจนบางทีก็คิดว่ามนุษยชาตินั้นช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่คิดค้นของแบบนี้ออกมาได้
อย่างไรก็ตามแต่ มาม่าถ้วยนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่อไปนี้
“แล้วมื้อเย็นเธอจะกินอะไรล่ะ ชิชิโกะคุง? “
“ก็มาม่าไง”
“อ๋อ…มาม่านี่เอง…อะไรนะ? “
ปากของชิซึนะอาออกมากว้างด้วยความตกตะลึง ส่วนริวอิจิก็เอียงหัวด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“กินมาม่าเป็นมื้อเย็น…ก็ไม่ได้บอกว่ามันแย่หรอกแต่มันไม่ดีต่อร่างกายเอาไม่ใช่เหรอ? “
“มันจะไปดีได้ยังไงกันเล่า เเต่ฉันก็กินพวกนี้มาตั้งหลายปีแล้วนี่นา”
“หลายปี…? “
“ก็ฉันอยู่คนเดียวนี่นา พ่อแม่ก็ไม่อยู่เเล้วด้วย เเถมทำอาหารไม่ค่อยได้ด้วย คงมีเเต่จะต้องกินพวกนี้แหละ”
“…เอ๊ะ? “
เมื่อนั้นริวอิจิก็ตระหนักได้ เขาก็รู้สึกเสียใจที่ต้องบอกว่าพ่อแม่ของเขาไม่อยู่แล้ว ซึ่งนั่นเป็นหัวข้อที่มีคนพูดกับคนอื่น แต่จากมุมมองของเขาแล้วคนที่ได้ฟังความรู้สึกไม่ดีแน่ๆ
“ฉันขอโทษ ที่ดันพูดอะไรไม่คิดไปก็ได้”
“อ๋อ…ไม่หรอก”
ชิซึนะรู้สึกเสียใจที่ได้รู้ว่าพ่อแม่ของเขาไม่อยู่แล้ว
ริวอิติหัวเราะเบาๆ จะพยายามเอื้อมมือในที่หัวของชิซึนะ…
แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นตบไหล่เธอเเทนดีกว่า
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หน้าแบบนั้นไม่เหมาะกับคนสวยอย่างเธอนะ ยิ้มเข้าไว้เถอะ”
“…ชิชิโดะคุง”
ชิซึนะได้ว่าเป็นนางเอกสาวที่จิตใจดีจริงๆ
การพบกันครั้งนี้มันแค่เรื่องบังเอิญแล้วมันก็ควรจะจบลงแค่ตรงนั้นแต่ว่า ชิซึนะได้จับไปที่มือของริวอิจิตอนที่เขากำลังจะเดินจากไป
“รอเดี๋ยว”
“เออ? “
เธอมองเขาด้วยสายตาที่จริงจังราวกับว่าเธอตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว
“เดี๋ยวฉันทำอาหารให้เธอเอง พาฉันไปที่บ้านของชิชิโดะคุงด้วยสิ”
และแน่นอนริวอิจิก็ได้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องมาเลย”