[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 3 พรสวรรค์ด้านการนอน
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 3 พรสวรรค์ด้านการนอน
“…รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจ้องมองอยู่เลยเเฮะ”
ริวอิจิบ่นพึมพำเงียบๆ พยายามอย่างเต็มที่ในการกลั้นหาว หลังจากที่เรียนคาบที่ 2จบ เมื่อถึงเวลาพัก ริวอิจิกลับสัมผัสได้ถึงใครสักคนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่
“คงมาจากเจ้าพระเอกสินะ…”
ถึงเเม้ว่าจะไม่มีข้อพิสูจน์ แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามาจากพระเอกของเรื่องนี้เเน่ ชื่อของพระเอกในเรื่องนี้คือ โซโนซากิ โชเฮย์ ถ้ามองดูเเค่จากภายนอก อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นตัวประกอบก็ได้….คงเป็นเรื่องธรรมดาของพระเอกแนวนี้เเหละ
“ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า”
ริวอิจิยังคงรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเขาอยู่ เเม้ว่าเขาจะลุกออกจากที่นั่งแล้วก็ตาม แล้วตอนที่กำลังจะออกจากห้องเรียนเขาก็ได้เหลือบตาไปมอง และในตอนนั้นพวกเขาก็ได้สบตากัน ดูเหมือนว่าทั้งหมดนี้จะเกิดจากตอนที่เขาได้คุยกับชิซึนะ
“เฮ้อ”
ขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ ริวอิจิก็ได้คิดถึงเรื่องของโลกใบนี้อีกครั้ง
ไทม์ไลน์ในตอนนี้คือช่วงเดือนเมษายน จำไม่ผิดเรื่องราวน่าจะเกิดขึ้นช่วงก่อนปิดเทอมฤดูร้อน ก่อนที่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจะเริ่มขึ้น ริวอิจิกับชิซึนะ ก็ได้เสียกันเรียบร้อย และในช่วงปิดเทอมนั้นชิซึนะก็จะถูกจับฝึกให้กลายเป็นผู้หญิงแบบที่ริวอิจินั้นชอบ
“คนเรานี่มันเปลี่ยนแปลงกันได้ขนาดนี้เลยสินะ”
รูปลักษณ์ของชิซึนะนั้นช่างเหมือนกับ *ยามาโตะ นาเดชิโกะ ทุกประการ เธอเป็นผู้หญิงที่มีร่างกายลามกซึ่งตรงกันข้ามกับความเรียบร้อยของเธอ และหลังจากปิดเทอมฤดูร้อนนั้นจบลง เธอก็ได้ย้อมผมเป็นสีบรอนซ์ แม้แต่เครื่องแบบของเธอเองก็ถูกเปลี่ยนเป็นแบบเปิดเผย เหมือนกำลังท้าทายกฎระเบียบของโรงเรียน (*ยามาโตะ นาเดชิโกะคือ หญิงสาวในอุดมคติของญี่ปุ่น)
ชิซึนะนั้นเป็นตัวละครที่ถูกวาดออกมาได้อย่างสวยงามซึ่งมาจากฝีมือของนักวาดภาพประกอบ อย่างไรก็ตามแต่ ค่าความรักของริวอิจิที่มีให้กับชิซึนะนั้นมากมายเหลือล้น ในช่วงก่อนที่จะฟื้นความทรงจำ สเปคของเขาจะเป็นแนวสาวแซ่บ แต่หลังจากที่พื้นความทรงจำมา สเปคของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นแนวสาวเรียบร้อยบริสุทธิ์
“ช่างเถอะ เรื่องนี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากขนาดนั้นอยู่แล้ว”
เนื้อเรื่องหลักจะเริ่มต้นขึ้นก่อนช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ซึ่งหมายความว่าเป็นช่วงเวลาที่ ชิโนซากิ กับ ชิซึนะ จะเริ่มออกเดทกันก่อนช่วงปิดเทอมฤดูร้อน นี่คือสาเหตุที่ทำให้ชิซึนะพูดออกมาแบบนั้นก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดอะไรกับชิโนซากิเลย
ริวอิจิเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความผ่อนคลาย แต่ในขณะที่เดินไปตามทางนั้นเหล่านักเรียนก็ได้หลีกทางให้เขาเหมือนอย่างเคย เเต่ริวอิจินั้นก็ได้ชินกับภาพแบบนี้ไปซะแล้ว
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้นเเต่เขาก็ยังมีคนเข้ามาคุยด้วยอยู่
“โย่! เข้าห้องน้ำงี้ไปขี้มาใช่มะ? “
“มั่วละ”
เมื่อริวอิจิกลับมาที่ห้องเรียน ก็ได้มีเด็กหนุ่มแต่งตัวดูฉูดฉาดเข้ามาทัก ชื่อของเขาคือ ฟูชิมิ มาโคโตะ เขาเป็นเพื่อนสนิทกับริวอิจิถึงแม้จะทำตัวกวนส้นตึกขนาดไหน แต่ก็ต้องขอยอมรับเลยว่าหมอนี่มีความสามารถทางด้านวิชาการสูงมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
“หายากนะเนี่ยที่รินโดจะเข้ามาทักนายก่อนแบบนี้ หรือว่านายตอกเธอไปแล้วหรอ? “
“เปล่า ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
ริวอิจิตอบกลับด้วยสีหน้าที่รำคาญ
ริวอิจินั้น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนคนอื่นๆ เลย แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือแม้แต่เพื่อนของริวอิจิเองก็ยังมองว่ามันน่าแปลกที่เห็นเขากับริวโดได้พูดคุยกัน
“แต่ว่าถ้านายเบื่อเมื่อไหร่ ฉันขอของเหลือจากนายหน่อยนะ มันไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหนจะสวยเท่าเธอเเล้วละ”
“นี่สันดานยังไม่เปลี่ยนเลยสินะ…”
ริวอิจิคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ชายที่ใช้หัวล่างคิดแทนหัวบนมากกว่าจนกระทั่งเมื่อวันก่อน นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวหรอกนะ แต่จริงๆ แล้ว มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับชิซึนะเป็นพิเศษหรอก เขาเลยเลือกที่จะไม่พูดออกมา
ดูเหมือนมาโคโตะคนนั้นจะมองออก เขาเลยเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย
“ยังไงก็ตามแต่ริวอิจิ เร็วๆ นี้จะมีปาร์ตี้ที่คลับแห่งหนึ่ง สนใจมะ? “
“….อา~”
คลับแห่งนั้นคือสถานที่ที่เขาได้พบกับจิสะ
ในงานนั้นมีชายหญิงจำนวนมากเข้ามารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย ลองจินตนาการดูว่า…คุณสามารถพาคนที่ถูกใจไปใส่กันต่อในห้องได้ ประมาณนี้
“ไม่อ่ะ ฉันจะเว้นว่างจากเรื่องพวกนี้สักหน่อย”
“จริงจังป่ะเนี่ย? “
มาโคโตะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจกับคำตอบของริวอิจิ มาโคโตะนั้นรู้ดีว่าริวอิจินั้นเป็นคนแบบไหน แต่หลังจากที่เขาได้ความทรงจำคืนมาก็เลยหมดความสนใจที่จะไปสถานที่แบบนั้นแล้ว
“ปีศาจบ้ากามเว้นว่างจากเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ? พรุ่งนี้โลกจะแตกงั้นรึไงเนี่ย? “
“ปากเสียจริงๆ เลยนะนาย”
เขาหัวเราะออกมา ถ้าบอกความจริงไปคงไม่ดีเท่าไหร่มั้ง
“พูดตามตรงฉันว่านายเปลี่ยนไปนะ ตัวนายเมื่อก่อนก็ดี เเต่นายตอนนี้เหมือนจะพัฒนาในหลายๆ ด้านเลยละ”
“จิสะเองก็พูดเเบบนั้นเหมือนกัน”
“กะแล้วว่าต้องพูดแบบเดียว”
“อืม…”
วิธีพูดของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เกี่ยวกับเรื่องบรรยากาศรอบตัวเขาที่เปลี่ยนไปได้เลย แต่ถึงขนาดที่มาโคโตะยังพูดแบบเดียวกันกับจิสะ แสดงว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวของริวอิจินั้นนเปลี่ยนไปมากจริงๆ
“ถ้าอยากร่วมงานก็มาบอกฉันได้เสมอเลยนะ เคปะ”
“เข้าใจละ”
ไม่ไปเเน่นอน ริวอิจิย้ำเตือนกับตัวเอง
จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเลิกเรียน ริวอิจิก็ได้นั่งอยู่คนเดียวในห้อง คงเป็นเพราะว่าเผลองีบหลับคาโตะตอนคาบสุดท้าย
“ทำไมถึงได้แล้งน้ำใจไม่มีใครมาปลุกกันเลยละ…จะเป็นแบบนั้นได้ที่ไหนเล่า”
ถ้าเขาเป็นคนแปลกหน้า เขาก็คงไม่อยากจะไปทักทายเสวนากับคนแบบริวอิจิหรอกเพราะฉะนั้นคนอื่นเขาทำถูกต้องแล้วละ
ริวอิจิยืนขึ้นพร้อมกับกระเป๋าที่ไม่มีอุปกรณ์การเรียนอยู่ในนั้นเลย แต่จู่ๆ เขาก็เหลือบไปสนใจแจกันที่มีดอกไม้สวยงามอยู่ในนั้น แต่น้ำในนั้นมันกลับสกปรก
“ไอ้เวรประจำวันมันมัวไปทำห่าอะไรอยู่วะ”
โดยปกติแล้วการเปลี่ยนน้ำในเเจกันดอกไม้เป็นงานของเวรประจำวัน แต่ดูเหมือนว่าเวรวันนี้จะไม่ได้ทำงานนั้น อาจจะแค่ลืมก็ได้ ริวอิจิถอนหายใจแล้วก็หยิบแจกันขึ้นมา
“หืม? ชิชิโดะคุง? “
“ฮะ? “
ตอนที่เขากำลังจะไปเปลี่ยนน้ำ เขาก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ชิซึนะ ปรากฏตัวพร้อมกับกระเป๋าที่สะพายอยู่ เธอค่อนข้างประหลาดใจในพร้อมกับมองสลับไปสลับมาระหว่างเเจกันที่อยู่ในมือกับริวอิจิ
“นี่เธอยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ? “
“อ๋อใช่ พอดีฉันลืมของน่ะ…แล้วชิชิโดะคุงเธอจะเอาเเจกันไปทำอะไรงั้นเหรอ? “
“ก็ไอ้เวรประจำวันมันลืมเปลี่ยนน้ำน่ะสิ ฉันไม่อยากให้น้ำสกปรก ก็เลยจะจัดการเอง”
“…”
ดวงตาของชิซึนะเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของริวอิจิ ดูเหมือนว่าเธอกำลังสงสัยในสิ่งที่เธอได้ยิน จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เขาก็เลยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เวลาโดนมองแบบนั้น
“หรือว่าฉันทำแบบนี้แล้วมันผิดเหรอ”
“หืม? เปล่านะ ไม่ผิดเลย! ฉันก็แค่รู้สึกว่ามันน่าประหลาดใจเฉยๆ …”
“น่าประหลาดตรงไหนเนี่ย”
“ฉันขอโทษนะ…”
ริวอิจิหัวเราะที่ชิซึนะขอโทษอย่างจริงใจ
จากนั้นเขาก็เดินหน้าไปที่ก๊อกน้ำ แต่ชิซึนะก็ได้ทิ้งกระเป๋าของเธอไว้ข้างหลังแล้วตามมา
“จะตามมาทำไมเนี่ย”
“ก็ฉัน…สงสัยนี่นา”
ริวอิจิมองว่ามันยากที่จะปฏิเสธเธอ ก็เลยยอมให้ตามมา
เมื่อถึงจุดหมายเขาก็วางแจกันลงและพับแขนเสื้อขึ้นทำให้เห็นแขนสีเเทนที่ดูหนาและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อปรากฏขึ้นให้เห็น
“……….”
“……….”
ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรต่อกันในขณะที่เวลานั้นล่วงเลยไปอย่างเงียบๆ น้ำสกปรกก็ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำที่สะอาดและใหม่
“อู้ว ดูเหมือนว่าดอกไม้จะกลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วนะ!”
ริวอิจิพูดด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ เเต่ชิซึนะกลับมองดูเขาด้วยสีหน้าที่มึนงงอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ได้ยินมาจะไม่จริงสินะ”
“ข่าวลืออะไรล่ะ? “
“ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาหลายเรื่องเลยว่าเธอเป็นเด็กเกเรที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติโรงเรียนของเราบ้างละ พฤติกรรมเลวร้ายเกินกว่าจะรับมือไหวบ้างล่ะ”
“เออ…ก็ไม่ได้พูดผิดนักหรอก”
ข่าวลือนั้นไม่ได้ผิดไปซะทั้งหมด ชิซึนะนั้นยังไม่รู้จักตัวของริวอิจิดีพอ เธอไม่รู้ว่าในช่วงเวลาอื่นนั้นเขาทำอะไร
“…แต่ฉันน่ะคิดว่าชิชิโดะคุงเป็นคนที่ใจดีมากเลยนะ”
“พอเลย ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“ฟุฟุ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ฉันแค่รู้ว่าคนนิสัยไม่ดีจริงๆ น่ะเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เธอเพิ่งจะทำเมื่อกี้หรอกนะ”
“ชิ…”
ริวอิจิเกาหัวเเกรกๆ ราวกลับจะเตือนว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันผิดพลาดอยู่
ริวอิจิพลักชิซึนะเข้ากับกำแพงเพื่อเตือนสติเล็กน้อยเเละเพื่อให้เธอได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน
พร้อมเอามือวางที่กำเเพงจนเสียงดังลั่น – และท่านี้ก็คือ คาเบะด้ง นั้นเอง
“ชิชิโดะคุง…? “
“เธอเนี่ยน้า อย่าเชื่อใจฉันให้มันมากนักสิ เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจะโดนจู่โจมตอนไหน”
ริวอิจิยิ้มเเบบชั่วร้าย
แต่ว่าเหมือนจะมีบางอย่างแปลกๆ สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นคือ ชิซึนะที่ไม่ได้วิ่งหนีไปไหน เเต่กลับมองตรงกับมาที่ใบหน้าเเละสบตากับริวอิจิด้วยหน้าที่เเดงกํ่า
“…อะ”
อยู่ดีๆ ริวอิจิก็นึกขึ้นได้
ในเนื้อเรื่องนั้นชิซึนะเป็นผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ด้านความเป็นมาโซคิสม์หลับไหลอยู่ในตัว ตอนที่ถูกริวอิจู่โจมตีพรสวรรค์นี้ก็ได้ถูกปลุกขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นเดี๋ยวได้กลายเป็นเเบบในมังงะเเน่ๆ ริวอิจิส่ายหัวปฏิเสธ
“อืม เออ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะ เพราะฉะนั้นเธอก็รีบกลับบ้านด้วยล่ะ OK? “
“เอ๊ะ…อืม”
‘รู้สึกเหมือนว่าจะไปเผลอศัพท์สวิตช์อันตรายเข้าให้ซะแล้วสิ’
ริวอิจิคิดเรื่องนี้ขณะเดินกลับบ้าน