[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 13 ปลดปล่อยสัญชาตญาณ
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 13 ปลดปล่อยสัญชาตญาณ
ep13 ปลดปล่อยสัญชาตญาณ
หลังจากที่ได้ไปที่บาร์กับชิซึนะและได้พบกับซากิเอะอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเป็นพิเศษ แต่ริวอิจินั้นก็เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นว่าทั้งสองคนนั้นจะพูดอะไรกันหลังจากคืนนั้น เธอคงไม่ได้พูดอะไรเลยที่ไม่ดีเกี่ยวกับแม่ของเธอใช่ไหม เมื่อคิดแบบนั้นเขาจินตนาการออกเลยว่า ตัวเองจะถูกชิซึนะปฏิเสธยังไง
“…โถ่เว้ย เรามัวคิดอะไรอยู่เนี่ย ปกติเราไม่เคยสนใจเรื่องเเบบนี้มาก่อนเลยไม่ใช่หรือไง”
“นี่นายบ่นอะไรอยู่คนเดียวอะ”
“…โอ๊ะ มาโคโตะเองหรอ”
มาโคโตะ คุณเพื่อนที่แสนดีทักมาจากทางด้านหลังโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เมื่อดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าที่แสนจะเจ้าเล่ห์ ดูทรงแล้วคงเป็นเรื่องยากสำหรับริวอิจิที่จะปฏิเสธ
“เกิดอะไรขึ้นหรอเพื่อน? ดูทรงแล้วคงเป็นเรื่องผู้หญิงสิเนอะ”
“….”
ริวอิจิไม่ได้พูดอะไรกลับไป
ริวอิจินั้นเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไปทั่วจนถึงทุกวันนี้ แต่นิสัยของเขาได้เปลี่ยนไปเเล้ว เขารู้สึกว่าการกินตับผู้หญิงไปทั่วไม่ได้สนุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“เอาเถอะ บางทีลองหาสถานที่เด็ดๆ สำหรับลืมเรื่องไร้สาระดีกว่าไหมละ”
“…ก็อาจจะมั้งนะ”
สิ่งที่มาโคโตะกำลังพูดถึงอยู่นั้นคืองานปาร์ตี้ที่ชุกชุมไปด้วยหญิงและชายรวมตัวกันเพื่อตอก เอ๊ย กอดและคุณคิดเรื่องที่ผ่านมาในชีวิต ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม ชิซึนะก็ได้เดินเข้ามาในห้องเรียน
“อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ ชิซึนะ”
“ดีจ้า คุณรินโด”
ตอนนี้มันต่างจากครั้งก่อน สายตาของเขาจ้องมองไปที่เธอเนื่องจากเรื่องเมื่อวาน ชิซึนะทักทายเพื่อนๆ ของเธอ จากนั้นก็วางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะแล้วเธอก็เดินเข้ามาหาคนๆ หนึ่ง แน่นอนว่าคนตรงหน้านั้นคือริวอิจิ
“…ฮืมมม พักหลังๆ มานี้พวกนายดูสนิทสนมขึ้นเยอะเลยเนอะ”
“เฮอ ก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก”
เมื่อสบตากัน ชิซึนก็ส่งรอยยิ้มอันงดงามมาให้ริวอิจิ เพื่อนๆ ของเธอกำลังมองดูด้วยความสนุกสนานราวกับเป็นแม่ยก แต่ในตอนนั้นเองริวอิจิได้เหลือบไปเห็นโซเฮย์จะทางด้านหลัง ตอนนี้อาจจะกังวลเกี่ยวกับชิซึนะอยู่ก็ได้
“อรุณสวัสดิ์ ริวอิจิคุง”
“…ไงรินโด”
สิ่งนี้กลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว
เขาเรียกชื่อเธอด้วยนามสกุลแทนที่จะเป็นชื่อของเธอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นชิซึนะก็ได้พองแก้มของเธอและได้จิ้มไปที่ไหล่ของริวอิจิ
“สัญญาเอาไว้แล้วไม่ใช่หรอคะ ว่าจะเรียกฉันว่าชิซึนะ”
“เธอบังคับฉันเองไม่ใช่หรือไงแต่ก็เอาเถอะ อรุณสวัสดิ์นะชิซึนะ”
“อืม♪”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มกว้างออกมา
แน่นอนว่าทั้งสองไม่เคยเรียกชื่อกันมาก่อนเลย ในตอนนั้นเองห้องเรียนก็ได้เกิดความโกลาหลขึ้นมาเล็กน้อย ริวอิจิกะเอาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะว่าเรียกชื่อกันแค่นั้นเอง
“นี่พวกนายมีซัมติงกันแล้วเหรอ? “
“มึงใช้สมองส่วนไหนคิดเนี้ย”
ถึงแม้ว่าเขาและมาโคโตะจะเป็นเพื่อนกัน แต่เขาก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าไปคุยกับผู้จัดการละก็ คงโดนแฉหมดเปลือกแน่ แต่ก็แค่นั้นแหละ ริวอิจิเกาหัวแกรกๆ ในขณะที่ชิซึนะมีรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า…โซเฮย์ที่กำลังมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าตกตะลึง
“นี่ริวอิจิคุง ขอเวลาตอนพักเที่ยงหน่อยจะได้หรือเปล่า? “
“หืม? ก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วเจอกันนะคะ”
ชิซึนะโบกมือลาแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนๆ ของเธอ ดูทรงคงอยากจะเข้ามาทักทายริวอิจิจริงๆ
“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”
“ไปเลยเพื่อน”
เมื่อพูดเสร็จ ริวอิจิก็ได้ลุกขึ้นจากที่นั่ง
ยังพอมีเวลาสำหรับการไปทำธุระส่วนตัวอยู่ ในขณะที่กำลังเดินออกจากห้องเรียน ริวอิจิก็ได้ถูกหยุดเอาไว้
“ชิชิโดะ”
“…ต้องการอะไร”
โซเฮย์เป็นคนหยุดเขาเอาไว้
เขาเข้าใจว่าในฐานะเพื่อนสมัยเด็กของชิซึนะแล้ว โฮเซย์คงเป็นห่วงที่เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับชิซึนะแบบนี้ แต่ใครสนกัน เขารู้ว่านี่เป็นโลกของโดจินมังงะ แต่ตอนนี้เขาก็เหนื่อยล้ามากพอแล้วที่จะมาต้องมากังวลกับเรื่องนี้
ร่างกายของริวอิจิไม่ได้ถูกใครครอบงำ เพียงแค่ความได้ทรงจำของคนในโลกจริงมาเฉยๆ ดังนั้นร่างกายนี้เป็นของเขา และไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามเขาก็ยังคงเป็น ชิชิโดะ ริวอิจิคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“…”
ถึงแม้ว่าเขาจะถูกหยุดเอาไว้ แต่โซเฮย์ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดูจากนัยตาท่าทางจะไม่กลัวริวอิจิ…ไม่ดิมันกำลังกลัวอยู่นี่หว่า
“…โทษที ไม่มีอะไรหรอก”
หลังจากที่พูดแบบนั้น โซเฮย์ก็ได้เดินกลับเข้าไปที่ห้องเรียน
‘ถ้าไม่มีอะไรจะพูด แล้วจะทักทำมะเขืออะไร’ริวอิจิคิด
แต่ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับการไปเข้าห้องน้ำก่อน ตามปกติแล้วเมื่อเขาเดินไปตามโถงทางเดิน ผู้คนจะหลบหน้าหลบตาไปจากเขา
“…เฮออ”
ถึงแม้เรื่องเครียดๆ จะถาโถม แต่เขาก็ยังทำธุระของตัวเองจนเสร็จ
‘พอถึงพักเที่ยงแล้ว…เธอคงจะคุยเรื่องเกี่ยวกับซากิเอะแน่เลย”
หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จ เขาก็เดินขึ้นไปที่ดาดฟ้าเพื่อพบกับชิซึนะ ที่นั่นยังคงเป็นสถานที่ที่กว้างขวางไร้ซึ่งผู้คน ดังนั้นพวกเขาก็เลยสามารถพูดคุยกันได้ตามใจชอบ
“แล้ว ถ้าอยากจะพูดเรื่องอะไรงั้นหรอ”
“…อืม”
ชิซึนะสุดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดออกมา
“หลังจากตอนนั้นฉันก็ถามแม่ไป แล้วแม่ก็บอกว่าแม่เคยเจอกับนายมาก่อน”
“ตอนที่ฉันก็ไปทัก ตอนเธอกำลังเดินเตร่ๆ ไปรอบเมืองงั้นเหรอ? “
“ใช่…แม่บอกฉันแบบนั้นแหละค่ะ”
อย่างน้อยตอนนี้ก็บอกได้แล้วว่าซากิเอะไม่ได้เล่าเรื่องค่ำคืนแสนหวานระหว่างเขากับเธอ น่าแปลกแต่มันก็ช่วยทำให้เขารู้สึกโล่งใจไปบ้าง มันคงเป็นเรื่องที่ชิซึนะไม่อยากฟังมากนักหรอก นั้นคือสิ่งที่เขาคิด แต่ว่าสัญชาตญาณของชิซึนะก็ได้ทำงานอย่างเต็มกำลังขึ้นมาอีกครั้ง
“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะคะ แต่ฉันก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนเดาไม่ถูกหรอกว่าทั้งสองคนทำอะไรกันในคืนนั้นหรอกนะคะ”
“…นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? “
“ริวอิจิคุงกับแม่ของฉันเคยมีอะไรกัน…แบบนั้นสินะคะ? “
เมื่อเธอมองเข้าไปที่ในตาของริวอิจิเขาก็ได้พยักหน้าออกมา เพราะยังไงคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะหลอกเธอ
“ถั่วต้ม คืนนั้นฉันซั่มแม่ของเธอไปแล้วยังไงละ”
“….อย่างที่คิดเอาไว้เลย ในตอนนั้นพอเห็นคุณแม่แล้วมันก็เลยทำให้ฉันมั่นใจ คุณแม่ดูมีความสุขมากตอนที่ได้คุยกับริวอิจิคุง”
“งั้นหรอ…”
“ขอบคุณนะคะ ริวอิจิคุง”
“ฮะ? “
ริวอิจิได้ร้องมาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำขอบคุณ
ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขากับซากิเอะเคยมีความสัมพันธ์กัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเธอถึงขอบคุณเขา
“เธอคงได้ยินมาก่อนจากคุณแม่แล้วใช่ไหมว่า คุณพ่อฉันเสียชีวิตไปแล้ว”
“อืม”
“บางครั้งฉันก็เห็นคุณแม่เศร้าและเหงามากๆ เลย แต่ริวอิจิคุงทำให้คุณแม่กลับมามีความสุขอีกครั้ง หลังจากที่คุณแม่กลับบ้านมาในคืนนั้นฉันก็ได้เห็นรอยยิ้มของคุณแม่มาโดยตลอด”
“…”
ความคิดของเขาในตอนนั้นมีเพียงแค่ร่างกายของซากิเอะเท่านั้นเองแท้ๆ
หลังจากที่ได้ยินเรื่องนั้น มันก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าเขาทำเพื่อเธอ
“ไม่จริงสักหน่อย ตอนนั้นฉันก็แค่อยากมีอะไรกับแม่ของเธอ…มันก็แค่นั้น”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม แต่สิ่งที่คุณทำก็ทำให้แม่ของฉันยิ้มได้ไม่ใช่หรอคะ นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันอยากจะขอบคุณเธอน่ะ”
ชิซึนะพูดแบบนั้นกับริวอิจิตรงๆ
เขารู้สึกถึงกับแววตาที่แน่วแน่ไม่แสดงอาการลังเลเลยแม้แต่น้อย บางทีการที่ริวอิจิรู้สึกชอบชิซึนะในโดจินมังงะอาจจะเกิดจากซากิเอะก็ได้
“เอาเถอะ จะยอมรับคำขอบคุณนั้นเอาไว้ก็ได้ ถึงแม้ว่าจะเรียกไม่ได้เต็มปากว่าเป็นสิ่งที่ดีละนะ”
ในขณะนั้นเสียงกริ่งก็ได้ดังขึ้น
หลังจากเสียงนี้อีก5 นาทีจะดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณว่าต้องเข้าเรียนแล้ว
“นี่ริวอิจิคุง”
“ว่า”
“…ในสายตาของเธอ ฉันดีพอที่จะเป็นคู่นอนได้หรือเปล่า”
“ฮะ? “
ในขณะที่กำลังจะเข้าเท้าออกไปก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยคำพูดนั้น
เขามองไปที่เธอสงสัยว่ากำลังพูดเรื่องอะไรกัน ใบหน้าของชิซึนะกับแดงกํ่าแล้วกำลังมองตํ่าลงไป
นั่นทำให้ริวอิจิถึงกับยิ้มเจื่อน คิดในหัววนไปว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก แต่…เขาก็ให้คำตอบไป
“ก็อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ เธอน่ะสวยสุดๆ ไปเลย น่าจะตกผู้ชายได้หลายคนเลยล่ะ ถ้าเธอพลาดขึ้นมาฉันอาจจะจู่โจมเธอก็ได้นะ
“หมายความว่า…”
“จากมุมมองของฉัน เธอน่ะเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากเลยละ”
ริวอิจิยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่รอยยิ้มนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดุร้ายของสัตว์ป่าเป็นรอยยิ้มเดียวกันกับที่เขาเคยมองผู้หญิงคนอื่นๆ
“ก็อยู่ในเกณฑ์นั่นแหละ พอใจหรือยัง”
“อะ…อืม♪”
คำพูดนั้นของริวอิจิในกระตุ้นบางสิ่งบางอย่างในตัวของชิซึนะ เเละเธอก็พยายามที่จะกดมันเอาไว้
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว”
“…”
“ซิซึนะ? “
“เอ๊ะ อืม!”
ชิซึนะที่กำลังมึนงงอยู่นั้นก็ได้เดินตามเขาไป
ในขณะที่เธอกำลังเดินกลับห้องเรียน ก็ได้จ้องมองไปที่แผ่นหลังของเขาโดยไม่ละสายตา และเธอก็ยังจ้องมองเขาด้วยแก้มที่ถูกย้อมเป็นสีแดงและแววตาที่เป็นประกาย
—————————————————————————
ในที่สุดก็ฝืนสังขารมาแปลต่อได้แล้วโว้ย เย่~~~~