[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 12 เรียกชื่อฉันหน่อยสิ
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 12 เรียกชื่อฉันหน่อยสิ
สำหรับริวอิจิเเล้วนี่เป็นการพบกันอย่างไม่คาดฝัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสาวสวยผู้แสนจะทรงเสน่ห์ที่เขาเคยใช้เวลายามค่ำคืนอันเร่าร้อนร่วมกันนั้น จะเป็นแม่ของชิซึนะ
ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้
(…อย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะเวลามองหน้าริวโด เรามักจะเห็นภาพของซากิเอะซ้อนทับอยู่)
แต่สุดท้ายแล้วการที่ซากิเอะมายืนอยู่ที่นี่ ณตรงนี้ ดูจากการตอบสนองของชิซึนะ เธอคงจะรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไม่ใช่น้อย
“คุณแม่? “
“ชิซึนะ…ที่ลูกบอกว่ามากินข้าวข้างนอกคือที่นี่งั้นหรอ? “
“เออ…คุณแม่เองก็มาที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรอคะ? “
“…ก็แม่เคยมาที่นี่มาก่อนนี่นา”
ทั้งสองยังมองกันด้วยความสับสน นอกจากเรื่องของซากิเอะ ดูทรงแล้วชิซึนะน่าจะยังไม่รู้ว่าริวอิจิกับแม่ของเธอนั้นเคยสานสัมพันธ์บนเตียงกันมาก่อน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ถ้าเธอรู้เรื่องนี้ขึ้นมาเธอจะทำหน้าแบบไหนกันนะ…
จนถึงเมื่อกี้นี้ริวอิจิไม่เคยกังวลถึงเรื่องนั้น พอได้รู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มันก็กลายเป็นอีกกรณีนึงไปเลย
“…นี่ริวอิจิ ดูทรงนายคงไม่น่ารอดใช่ไหม? “
“…เงียบไปเลย”.
คุณผู้จัดการร้านที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ ตลอดนั้น กำลังกลั้นขำกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้
“ชิชิโดะคุง? เป็นอะไรงั้นหรอ? “
“…ป เปล๊า ไม่มีอะไร”
ริวอิจิส่ายหัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากเขาหันไปทางชิซึนะ เขาเลยไม่เห็นว่าสีหน้าของซากิเอะที่กำลังจ้องมองมาที่เขาเป็นแบบไหน ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของริวอิจิได้อย่างชัดเจน
“ชิซึนะ ลูกช่วยแนะนำเพื่อนของลูกให้แม่รู้จักหน่อยได้หรือเปล่าจ๊ะ”
นั่นคือสิ่งที่ซากิเอะพูดออกมา
มันคือการกระทำโดยคำนึงถึงริวอิจิกับชิซึนะ เธอพยายามพูดให้ดูเหมือนว่านี่เป็นการพบกันครั้งแรก สีหน้าอันสับสนของชิซึนะได้หายไป แล้วเธอก็ได้เริ่มแนะนำตัวของริวอิจิให้กับซากิเอะได้รู้จัก
“เขาชื่อว่า ชิชิโดะ ริวอิจิคุง เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหนูเอง เขาช่วยหนูจากเหตุการณ์แย่ๆเมื่อวันก่อน หลังจากนั้นเราก็เลยสนิทกัน…ก่อนหน้านี้หนูก็ได้ไปทำอาหารเย็นที่บ้านเขาด้วย”
ริวจิแปลกใจที่เธอเล่าถึงขนาดนั้น เเต่ดูเหมือนว่าชิซึนะยังคงอยากเล่าเรื่องของริวอิจิต่อ
“หนูว่าจะไปทำอาหารเย็นที่บ้านเขาอีกครั้ง แล้วหนูก็ได้ยินมาว่าเขาจะมาที่นี่คืนนี้…หนูก็เลยตามเขามาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ดื่มเหล้า เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกนะคะคุณแม่”
ดูเหมือนสิ่งที่ชิซึนะต้องการจะสื่อก็คือ เธอมาที่นี่เพื่อจับตาดูริวอิจิเท่านั้น ทางริวอิจิก็ไม่ได้บังคับเธอมาที่นี่แต่แรก แล้วเธอก็ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ซากิเอะคิดลบต่อเขา
“อย่างนี้นี่เอง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ดูสนิทกันสินะ…แม่ เขา ใจ เเล้ว ละ จ๊ะ ชิซึนะ”
“เอ๋? “
ซากิเอะปิดปากแล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็หันความสนใจไปทางริวอิจิอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าเธอจะคอยช่วยเหลือลูกสาวของฉันมาตลอดเลยสินะ ขอบคุณมากนะจ๊ะชิชิโดะคุง”
“มะ…ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ตอนนั้นผมแค่ผ่านมาก็เลยช่วยเท่าที่ทำได้”
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็เป็นคนดีมากเลยนะจ๊ะ”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ! ชิชิโดะคุงเขาเป็นคนดีมากๆ เลย!”
ทังริวอิจิและซากิเอะก็ต่างประหลาดใจที ชิซึนะแสดงความเห็นมาอีกอย่างกะทันหันเเบบไม่ตั่งตัว เมื่อรู้ว่าตัวเองพูดเสียงดังเกินไปชิซึนะ ก็รีบก้มหน้าลงด้วยความเขินอายและได้รีบขอตัวไปเข้าห้องนํ้า เมื่อชิซึนะจากไปก็เหลือเพียงริวอิจิและซากิเอะเพียงลำพังแล้ว
“เอาหละ…ใครจะไปคิดเราว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในลักษณะนี้”
“เฮ้อ…ผมคิดว่าตัวผมเองน่าจะเผลอไปหว่านเมล็ดพันธุ์แปลกๆ เลยงานงอกออกมาเป็นสถานการณ์นี้ซะแล้วสิ ใครจะไปคิดล่ะว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้”
“นั่นสิ ขนาดฉันเองยังตกใจเลย”
ซากิเอะยืนขึ้นและนั่งลงข้างๆ ริวอิจิ ซึ่งนั่นเป็นที่นั่งของชิซึนะก่อนหน้านี้ เธอได้ขยับตัวเข้ามาใกล้ริวอิจิมากยิ่งขึ้น แล้วโน้มตัวเข้าไปแนบชิดกับหน้าอกของเขา
“ฮะ…เฮ้…”
“เธอคงจะไม่ไล่ฉันไปที่อื่นหรอกใช่ไหม? ฉันช่วยโกหกเรื่องของเธอแล้ว เพราะฉะนั้นฉันเองก็ควรจะได้รับรางวัลสักหน่อยใช่ไหมล่ะ? “
“…ขนาดไม่ได้เจอกันตั้งนาน แต่คุณยังใจกล้าเหมือนเดิมเลยนะ”
สถานการณ์ตอนนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง ร่างกายของริวอิจิก็ตอบสนองต่อเพศตรงข้ามด้วยการกอดกลับไป เมื่อซิกิเอะถูกกอดที่แขนหนาๆ ของเขา เธอก็ปล่อยลมหายใจแบบยั่วยวนแล้วขอร้องให้เขากอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
“คงไม่ใช่ว่าเธอกำลังออกเดทกับลูกสาวของฉันอยู่…ใช่หรือเปล่า? “
“ก็นะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่จู่ๆ เสนอตัวมาบ้านผู้ชายที่เพิ่งจะพบกันไม่นาน แล้วก็ทำอาหารเย็นให้กิน…แล้วตอนนี้ก็ยังขอตามผมมาที่แบบนี้อีก”
“แบบนี้ก็แสดงว่าชิซึนะคงจะชอบเธอน่าดูเลยละ…ไม่ยุติธรรมเอาซะเลยนะแบบนี้”
“ฮ๊ะ? “
“โอ๊ะ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ริว อิ จิ คุง”
เมื่อกอดจนพอใจเธอก็ถอยออกมา
เมื่อริวอิจิมองไปที่ซากิเอะอีกครั้ง ผมสีดำยาวของเธอที่ถูกมัดไว้เหมือนกับของชิซึนะ และริ้วรอยที่มองเห็นได้เล็กน้อยราวกับว่าเธอกำลังแสดงความกล้าออกมา รูปร่างของเธอนั้นช่างน่าดึงดูดซะจริง
ซากิเอะเอื้อมมือไปหยิบแก้วที่เต็มไปด้วยไวน์ขึ้นมาจากบนโต๊ะแล้วดื่มมันลงไปอย่างเซ็กซี่
“…รสชาติยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ คุณผู้จัดการ”
“ขอบคุณมากเลยนะครับ ดีใจมากเลยถ้าคุณกลายเป็นลูกค้าประจำ”
“จะลองเก็บไปคิดดูนะคะ แต่คงมาบ่อยๆ ไม่ได้เพราะฉันมีลูกสาวแล้ว”
“ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ นะครับ”
ในขณะที่ซากิเอะกำลังคุยกับผู้จัดการอย่างเป็นมิตร ริวอิจิคิดถึงเรื่องของชิซึนะที่เป็นนางเอกของมังงะเรื่องนี้ และก็ได้มีความคิดชั่วครู่เกี่ยวกับความทรงจำเรื่องแม่ของเธอ มันทำให้เขาสงสัยว่าเรื่องนี้คงจะมีเบื้องหลังอยู่แน่ๆ เบื้องหลังที่ทำให้เขาใกล้ชิดกับชิซึนะได้ง่ายขนาดนี้
“เอาละ ริวอิจิคุง”
“มีอะไรเหรอ? “
“ฉันรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเธอคงจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราแน่ๆ มาพยายามเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากเธอกันดีกว่า ฮุฮุ ก็รู้หรอกว่าฉันไม่ควรจะแนะนำเรื่องนี้ แต่เธอเองก็คงอยากให้มันเป็นแบบนั้นใช่ไหมล่ะ? “
“ก็จริง…ไม่เป็นไรหรอกถ้าเธอจะรู้เรื่องนี้แล้วเกลียดผมขึ้นมา แต่ถ้าเธอรู้เรื่องของคุณละ เธอคงจะมองคุณแบบเดิมไม่ได้แน่ๆ “
เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเกิดชิซึนะเกลียดตัวของเขาขึ้นมา ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่อยากคิดถึงอนาคตแบบนั้นเธอเป็นคนที่ใสซื่อเเละร่าเริง เธออาจจะรับเรื่องนี้ไม่ได้เขาจะทำทุกๆ อย่างเพื่อปิดเรื่องนี้เป็นความลับ
“เธอคิดอย่างนั้นเหรอ…พูดตามตรงฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก”
“ฮ๊ะ? “
“ฉันก็แค่เดาเล่นๆ น่ะ โอ๊ะนั้นเธอกลับมาแล้ว”
ดูเหมือนว่าชิซึนะจะกลับมาแล้ว
ดูเหมือนว่าเธอจะไปสงบจิตสงบใจอยู่สักพัก เมื่อซากิเอะเห็นแบบนั้นเธอเลยเข้ามากอดริวอิจิ
“คะ คุณแม่กำลังทำอะไรน่ะ!”
“แม่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเมานิดหน่อยละมั้ง? อุ้ยตายกล้ามเนื้อของเขานี่มันน่าทึ่งซะจริง♪”
“ออกไปจากเขาเดี๋ยวนี้นะคะคุณแม่!”
ชิซึนะได้พยายามดึงซากิเอะออกจากริวอิจิ สีหน้าที่บ้าคลั่งและสิ้นหวังมันเป็นสีหน้าที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักจากชิซึนะ ซากิเอะได้หัวเราะอย่างเพลิดเพลินราวกับว่าเป็นเรื่องตลก บางทีตอนนี้ชิซึนะอาจจะกำลังมองซากิเอะเป็นคู่แข่งอยู่ก็ได้ แต่จู่ๆ เธอก็เลิกทำแบบนั้น
“มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าคะ? “
“…ก็แค่หลอกเล่นน่ะ”
หลังจากที่พูดไปได้ 2-3เธอก็ได้ปิดปากลง
ริวอิจิกับชิซึนะนั้นได้บรรลุเป้าหมายในการมากินข้าวเย็นที่นี่จนอิ่มท้องแล้ว พวกเขาก็ได้ลุกจากที่นั่ง
“เดี๋ยวพวกหนูกลับก่อนนะคะ คุณแม่”
“จ้า เดี๋ยวแม่จะรีบกลับก่อนจะค่ำนะจ๊ะ ริวอิจิคุงช่วยดูแลลูกสาวฉันด้วยนะ”
“เข้าใจละ”
“…? “
ชิซึนะเอียงคอด้วยความสงสัยกับคำพูดของซากิเอะ แล้วเธอก็ได้เดินมาข้างๆ เขา แม้ว่านี่จะเป็นการเจอกันแบบไม่ดีนัักแต่เขาก็โล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขากำลังจะก้าวออกไปจากร้าน เขาก็รู้ได้ว่าวิกฤตครั้งนี้มันยังไม่จบ
“…ชิชิโดะคุง เธอเคยรู้จักกับแม่ของฉันมาก่อนหรือเปล่า? “
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นละ? “
“ก็เห็นเรียกกันด้วยชื่อต้นของเธอมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนี่…นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศระหว่างเธอกับเเม่ก็ด้วย”
“…”
ริวอิจิคิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้
สัญชาตญาณของผู้หญิงช่างเฉียบคมและน่ากลัวอะไรอย่างนี้ไม่แน่เธออาจจะเป็นคนที่ช่างสังเกตก็ได้
“คือว่า เมื่อก่อนเราเคยเจอกันที่ร้านนี้ เเต่ซากิเอะ…ฉันไม่รู้ว่านั่นเป็นแม่ของเธอ เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่ายังไง? “
“…เข้าใจแล้วล่ะ ตอนนั้นเธอดูตกใจจริงๆ นั่นแหละ”
ดูเหมือนว่าตอนนี้ชิซึนะจะพึงพอใจกับคำอธิบายนั้น
แต่คำพูดของเธอยังไม่จบ หลังจากที่เห็นซากิเอะเรียกชื่อต้นของริวอิจิก่อนหน้านี้ เธอก็ได้พูดออกไปว่า
“ฉันขอ…เรียกเธอด้วยชื่อต้นด้วย จะได้หรือเปล่า? “
“ชื่อต้นหรอ? “
“ใช่แล้วล่ะ ฉันเองก็อยากจะเรียกเธอด้วยชื่อต้นเหมือนกัน…คงไม่เป็นไรใช่ไหม”
การเรียกชื่อต้นของกันและกัน เรื่องนี้ไม่เห็นจำเป็นต้องคิดให้มากความ
“เข้าใจแล้วชิซึนะ…แบบนี้โอเคใช่ม้า? “
“อะ…อื้ม♪ ริวอิจิคุง”
ชิซึนะยิ้มกว้างเมื่อถูกเรียกชื่อ
หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันไปตามถนนที่สว่างไสว แม้ว่าชิซึนะจะสนิทกับเขามากยิ่งขึ้น แต่ทางด้านริวอิจิรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่ได้ถูกเกลียด
“…เพราะอย่างนี้นี่เองแม่ถึงได้มีความสุขแบบนั้น คงจะเป็นอย่างนั้นสินะ…”
ริวอิจิไม่ได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ ของชิซึนะเลยแม้แต่น้อย
[จากผู้เเปล]
ขอโทษที่ลงช้านะครับ พอดีติดเรียนกับติดเกมไปหน่อย
หลังจากนี้จะลงอาทิตย์ละตอนนะครับ