[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 11 สองแม่ลูกกับชายหนุ่มที่จ้องจะเล่นคุณ
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 11 สองแม่ลูกกับชายหนุ่มที่จ้องจะเล่นคุณ
หลังเลิกเรียนริอิจิได้ตรงกับไปที่บ้านและเมื่อพระอาทิตย์รับขอบฟ้าเขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่บ้านของชิซึนะ
“อ๊ะ ชิชิโดะคุง!”
“นี่เธอรออยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอ? “
“ใช่แล้วล่ะ พอดีฉันรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยน่ะ”
สถานที่ที่พวกเขากำลังจะไปนั้นสำหรับเด็กมัธยมปลายอย่างพวกเขามันคงจะเร็วเกินไปหน่อยและมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเด็กผู้หญิงดีๆ อย่างชิซึนะไป ริวอิจิอยากปฏิเสธใจจะขาดแต่เมื่อชิซึนะมองไปที่ดวงตาของเขา เขาก็เกิดใจอ่อนขึ้นมาและปฏิเสธไม่ได้
“…เฮอๆ “
“ฮุฮุ♪ ยอมแพ้ซะเถอะ ชิชิโดะคุง”
นี่คิดว่าเป็นความผิดของใครกันแน่ ริอิจิมองเธอแบบนั้น เเต่ชิซึนะหาได้สนใจไม่
“…”
ทันใดนั้นชิซึนะก็หยิบมือถือของเธอขึ้นมา
“โซเฮย์คุง? “
“เพื่อนสมัยเด็กของเธอเหรอ? “
“ใช่ แต่เดี๋ยวขากลับค่อยตอบกลับก็ได้ ไปกันเถอะชิชิโดะคุง”
“อะ…โอ้”
ริอิจิรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นชิซึนะไม่แยแสกับข้อความจากเพื่อนสมัยเด็ก ตอนแรกเลยในมังงะมักจะบรรยายเรื่องราวหลังจากที่ทั้งสองคนนั้นเริ่มคบกันเท่านั้น นี่เลยเป็นเศษเสี้ยวของเรื่องราวที่ไม่ได้ถูกเล่า
(…การที่ฉันได้สนิทกับริวโดมากขนาดนี้มันเป็นไปไม่ได้มาตั้งแต่แรกแล้ว)
ntr คือการที่คนหนึ่งขโมยบางสิ่งและอีกคนหนึ่งก็ถูกช่วงชิงไป คือเรื่องราวเดิมของโลกใบนี้
ในตอนแรก ตัวของเขา ณ ปัจจุบันนี้ไม่เคยมีความคิดที่จะไปคุกคามชิซึนะเลย แต่สุดท้ายแล้วโลกใบนี้ก็ดำเนินไปตามตรรกะของโลกแห่งความเป็นจริง นั่นก็แสดงว่าการไปข่มขู่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนรวมถึงการไปข่มขืนใครสักคน อาจจะทำให้ริวอิจิได้ไปนอนกินข้าวแดงในคุกก็เป็นได้
“ให้ตายสิ ไม่อยากเข้าคุกเลย”
“หือ? เธอไปก่อคดีอะไรไว้หรอ? “
ชิซึนะจ้องมองไปที่ริอิจิด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ไม่มีทางที่เขาจะพูดว่า นอกโลกใบนี้มีโลกแห่งความจริงอยู่ หรือสปอยเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลย อย่างที่เขาพูดไปหลายต่อหลายครั้ง ว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างนั้นริวอิจิพนันได้เลยว่าตัวเธอนั้นไม่มีทางเราได้เลยว่าเธอจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้เน่ๆ
“นี่ รินโด”
“มีอะไรหรอ? “
“ถ้าสมมุติว่ามีคนจะเข้ามาทำร้ายเธอ จะทำยังไง”
“หือ? ฉันก็ต้องแจ้งตำรวจก่อนสิ”
“…นั่นสินะ ก็เป็นเรื่องปกติที่ควรทำนี่นา เธอเนี่ยแสนรู้จัง”
“…นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรละเนี่ย? “
ไม่น่าแปลกใจที่ริวอิจิถามไปแบบนั้น เพราะในมังงะประเภทนี้ทั้งพระเอกและนางเอกมักจะสมองตายคิดอะไรไม่ออกไม่ปรึกษาใครจนกระทั่งตอนจบ ริวอิจิพยักหน้าด้วยความภูมิใจกับการตัดสินใจของชิซึนะที่จะโทรหาตำรวจ
“…นี่ ชิชิโดะคุง”
“อาฮะ? “
ในขณะที่ริวอิจิตพยักหน้านั้น ชิซึนะก็ได้จ้องมองมาที่เขาอย่างตั้งใจแล้วพูดว่า
“ถ้าเกิดฉันถูกใครสักคนนึงทำร้าย…เธอจะมาช่วยฉันได้หรือเปล่า? “
“…”
เดิมทีริอิจิคือคนที่จะเข้ามาจู่โจมเธอ…แต่เขาไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ ไม่ว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมา ชิซึนะก็คงหัวเราะและไม่ได้คิดมากกับเรื่องนั้น แต่เมื่อเขามองไปที่แสงแห่งความหวังที่สะท้อนอยู่ในดวงตาเธอ…ริอิจิได้หัวเราะออกมาเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็โทรหาฉันสิ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยเธอเอง”
นี่คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ริอิจิตั้งใจที่จะเดินต่อไปโดยไม่ฟังคำตอบ เเต่ชิซึนะ ที่ได้ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ได้ยิ้มออกมาอย่างงดงามเหมือนกับครั้งก่อนที่เขาเคยเห็น
“ขอบคุณนะ ชิชิโดะคุง♪”
เมื่อเห็นแบบนั้นริวอิจิก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองก็เดินไปรอบๆ เมืองและบาร์ที่พวกเขาตั้งใจจะไปนั้นอยู่ตรงหัวมุมถนน
“…ที่นี่คือ”
“ใช่เเล้วล่ะ อาจจะดูไม่น่าไว้ใจไปสักหน่อย แต่บาร์ทุกที่ก็เป็นแบบนี้นี่แหละ”
ข้างนอกเริ่มจะมืดแล้ว แล้วเขาก็เห็นคนหลายคนที่พยายามชักชวนให้ลูกค้าเข้าไปในร้าน แน่นอนมีคนรู้จักของเขาอยู่ด้วย บางคนก็โบกมือให้เขา ผู้ชายบางคนก็อยู่ในชุดสูทและผู้หญิงบางคนก็อยู่ในชุดที่เปิดเผยนิดหน่อย
“เอาละไปกันเถอะ”
“อะ อืม…”
ชิซึนะดูเหมือนจะกลัวเล็กน้อย เเต่การที่มีริวอิจิอยู่ข้างๆ นั้น ทำให้ความกลัวของเธอหายไป และเดินต่อไปแบบแนบชิดกับตัวของริวอิจิ
ขณะที่เขาลงบันไดไปที่ชั้นใต้ดิน เขาก็ได้พบกับประตูบานใหญ่ที่เหมือนจะพาไปสรวงสวรรค์ยามค่ำคืน สถานที่ที่ริวอิจิคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดีแต่นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของชิซึนะ
“กะแล้วก็ต้องมีคนเยอะ”
“…เป็นสถานที่แบบที่คิดจริงๆ ด้วยละ”
เมื่อทั้งสองได้ก้าวขาเข้ามา ทั้งคู่ก็ได้พบกับบรรยากาศที่คือคักและดูมีชีวิตชีวา คนข้างในส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่และแน่นอนไม่มีเด็ก มปลายเหมือนพวกเขา 2 คนเลย มีมนุษย์ลุงบางส่วนจ้องมองไปที่ชิซึนะ แต่เมื่อริวอิจิจ้องมองไปที่พวกเขาคืน มนุษย์ลุงก็ได้หลบสายตาไป
“มันรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันพาเธอมาที่นี่ในฐานะคู่ขาหรืออะไรเทือกนี้เลย แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะปกป้องเธออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะอยู่ข้างเธอเอง”
“อา…ค่ะ”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้นของริวอิจิ เธอก็ได้ที่ก้มหน้ามองไปที่พื้น
ริวอิจิไม่ได้สังเกตสีหน้าของเธอ เขาเลยไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ตอนนั้น
เธอจับชายเสื้อของริวอิจิไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ทั้งสองมุ่งหน้าไปที่เคาน์เตอร์ จากนั้นชายที่มีท่าทางเข้มขรึมก็หันหน้าไปทางพวกเขา
“โอส คุณผู้จัดการ ไม่ได้เจอกันสักพักเลยนะ”
เขาคือผู้จัดการของบาร์แห่งนี้ เขาทำสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นริวอิจิ แต่ไม่เป็นไรริวอิจิชินเเล้ว เขาได้หันความสนใจไปที่ชิซึนะ เเล้วพูดบางอย่างออกมา
“นี่คุณหนูครับ อย่าหาว่าผมพูดอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ เเต่รีบกลับบ้านไปซะเถอะ คุณคงรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าเจ้าหมอนี่มันเป็นผู้ชายแบบไหน”
“ฉันรู้ แต่ไม่เป็นไรหรอกคะ ฉันน่ะเป็นคนขอตามชิชิโดะคุงมาที่นี่เอง”
“หือ? ตามใจ ห้องข้างหลังว่างอยู่ถ้าจะใช้ก็ไปใช้ได้เลย”
“ไม่อะ ไม่ได้มาที่นี่เพื่อใช้มันสักหน่อย”
ริอิจิพูดแบบนั้นแล้วก็นั่งลง เมื่อผู้จัดการได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ทั้งคู่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำเรื่องอย่างว่าแต่มาที่นี่เพื่อมากินข้าวเย็นด้วยกันเฉยๆ
“…นี่นายมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่าเนี่ย? “
“นี่คุณผู้จัดการก็พูดแบบนั้นกับเขาด้วยงั้นเหรอ? “
“แค่รู้สึกว่าพฤติกรรมแย่ๆ ของนายเหมือนจะหายไปนิดหน่อย…แต่ก็เอาเถอะ เดี๋ยวฉันขอไปเตรียมอาหารก่อน เพราะฉะนั้นคุณหนูเชิญนั่งรอได้เลยครับ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
ถึงแม้ว่าที่นี่มันจะมีบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ โดนพื้นฐานแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากร้านอาหารทั่วไป มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ามีห้องด้านหลังสำหรับสังสรรค์ด้วย
“…จะว่ายังไงดีล่ะ ที่นี่มันให้บรรยากาศแบบผู้ใหญ่ๆ เลยรู้สึกสบายจัง”
“โอ้โห ถ้าเธอเข้าใจเรื่องแบบนั้นแล้ว เธอก็สามารถกลายเป็นเด็กไม่ดีได้แล้วละ รินโด”
“พูดอะไรของเธอนะ? ตั้งแต่ฉันย่างก้าวมาที่นี่ฉันก็กลายเป็นเด็กไม่ดีเหมือนเธอแล้วล่ะ”
ริวอิจิหัวเราะเบาๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารที่ผู้จัดการทำให้พวกเขา ชิซึนะรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นมันดูหรูหรามาก จากนั้นเธอก็เพลิดเพลินไปกับความอร่อยของอาหารอย่างรวดเร็ว
“อร่อยไหมละครับ? โดยเฉพาะเมนูนี้น่ะ”
“อร่อยมากเลยค่ะ เเถมตัวซุปนี้เองก็อร่อยเหมือนกัน”
“ฮ่าๆ สายตาคุณนี่มันเฉียบคมจริงๆ สงสัยจัง เลยว่าริวอิจิทำให้ผู้หญิงดีๆ อย่างคุณกลายเป็นแฟนของเขาได้ยังไง? “
เมื่อได้ยินคุณผู้จัดการพูดแบบนั้น ชิซึนะก็สำลักอาหาร
“นี่ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า”
“จะบ้าหรือไง เราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกันต่างหาก”
เมื่อชิซึนะได้ยินคำว่าเเค่เพื่อนร่วมชั้นเธอก็ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่เธอต้องให้ความสำคัญกับการล้างคอให้สะอาดก่อน เมื่อเธอสงบลงเธอก็แก้ไขความเข้าใจผิดด้วยใบหน้าที่แดงกํ่า
“เขาพูดถูกแล้วล่ะค่ะ เรา…ไม่ได้เป็นฟงเป็นแฟนอะไรเถือกนั้นหรอกค่ะ”
“โอ้? อย่างนี้นี่เอง”
ไม่รู้ว่าคุณผู้จัดการกำลังคิดอะไรอยู่แต่ตอนนี้เขาหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“เป็นอะไรไหมเนี่ย? มีข้าวมาจากจมูกบ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอกนะ!”
มันคงจะไม่ดีถ้ามาเห็นเด็กสาวที่อยู่ในวัยเดียวกันมีสภาพแบบนี้ แต่ว่าการที่เธอมากินข้าวในที่แบบนี้คงจะเรียกว่าเด็กสาวไม่ได้แล้ว
ในขณะที่พวกเขากำลังกินข้าวอยู่นั้นก็ได้มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาทางประตูหน้า
“โอ้ ไม่ได้เห็นคุณมาที่นี่ซะนานเลยนะครับ”
“โอ๊ะ ดีใจที่ได้เจออีกครั้งนะคะคุณผู้จัดการ”
มือของริวอิจิกับชิซึนะได้หยุดลงไม่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น
“เอ๊ะ? “
“ฮ๊ะ…”
เมื่อทั้งสองมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนั้นก็ได้มองมาที่พวกเขา
“…เอ๊ะ? “
ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นเบิกกว้างในขณะที่เธอมองไปที่ริวอิจิกับชิซึนะ
“คะ…คุณแม่…? “
“…ชิซึนะ? …ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ…เเละ”
ผู้หญิงที่ปรากฏตัวมานั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับทั้งสองคน เธอคือคุณเเม่ของชิซึนะเเละยังเป็นคนที่ริวอิจิเคยกินตับมาก่อนด้วย
“…ฮะ เเม่งั้นหรอ?!”
ไม่น่าแปลกที่ริวอิจิจะรู้สึกตกใจ ตอนนี้สมองของเขาได้สรุปสถานการณ์ตรงหน้าแล้วว่า: นี่แหละคือสถานการณ์ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด
พระเจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก