[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 66 ดื่มเหล้าวนไป / ตอนที่ 67 ให้ผมจูบหน่อย
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 66 ดื่มเหล้าวนไป / ตอนที่ 67 ให้ผมจูบหน่อย
ตอนที่ 66 ดื่มเหล้าวนไป
“ฉันว่าแล้วไง นายก็ยังไม่ยอมรับ หนีไปกับคนอื่นแล้ว?” หลูจื้อถาม
“ไม่ได้หนี ก็แค่ผมสอบเข้าเรียนไกลไปหน่อย แล้วเขาไม่อยากรอก็แค่นั้น” ชุยหังพูด
เขาตักอาหารเข้าปากคำหนึ่ง จากนั้นตามด้วยเบียร์อีกอึกใหญ่
ถึงแม้ว่าเขาจะคออ่อน แต่เพราะเรื่องในใจของเขาตอนนี้มันอึดอัดมากจริงๆ ดังนั้นแค่ยกสามทีเบียร์ทั้งขวดก็ถูกดื่มจนเกือบหมดแล้ว
“นายดื่มเร็วเกินไปแล้ว เป็นผีกระหายน้ำมาเกิดหรือไง” หลูจื้อมองท่าทางของชุยหังแล้วก็แอบตกใจไม่น้อย
ชุยหังยิ้มๆ ตอนนี้สติของเขาเริ่มจะล่องลอยแล้วนิดหน่อย
“ไม่เป็นไร ผมชินแล้ว”
พูดจบแล้วยังจะเรอออกมาอีกด้วย ไอของแอลกอฮอล์ในเบียร์ตีกลับขึ้นมาทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
“เถ้าแก่ เบียร์อีกสอง” หลูจื้อพูด
ไม่นานเบียร์ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะชุยหังค่อยๆ ผ่อนคลายลงแล้ว ประโยชน์ของแอลกอฮอล์ทำให้ความตื่นเต้นของเขาก่อนหน้านี้ ความรู้สึกที่ต้องคอยระมัดระวังนั้นถูกความเจ็บปวดภายในใจเข้ามาแทน
“ไม่ว่าวันนี้นายจะดื่มไปเท่าไหร่ พรุ่งนี้ยังต้องฝึกต่อได้ยินหรือเปล่า” หลูจื้อมองอยู่ตรงข้ามเขา พลางพูดย้ำขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ชุยหังพยักหน้าพลางพูด: “ผมรู้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะถูกจัดการเอาง่ายๆ”
หลูจื้อยิ้มออกมาแล้วพูด: “รู้ก็ดีแล้ว”
ชุยหังยกขวดเบียร์ขึ้นพลางพูดกับหลูจื้อ: “ครูฝึก ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณอะไรฉัน ขอบคุณที่ฉันรังแกนายหรอ” แม้ว่าปากของหลูจื้อจะยังพูดจาเยาะเย้ยแต่ก็ยกแก้วเบียร์ในมือขึ้นมา เขาไม่ค่อยชินกับการดื่มเบียร์จากขวดเท่าไหร่
ชุยหังคิดพักหนึ่ง รู้สึกได้ว่าตอนนี้ยังได้สติเพียงแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มช้าลง
เขากำลังคิดว่าเบียร์ทางนี้ส่วนประกอบไม่เหมือนกันหรือเปล่า เพราะดื่มไปแล้วรู้สึกมันตีขึ้นหัว?
“ก็ขอบคุณนั่นแหละครับ ผมหมดขวดนะ ส่วนคุณก็ตามใจ” ชุยหังพูด
เดิมหลังจากที่เขาดื่มลงไปสามอึกใหญ่แล้วภายในขวดมันยังมีเบียร์เหลืออยู่อีกนิดหน่อย
เขาจัดการดื่มเบียร์ที่เหลืออยู่ในขวดภายในอึกเดียว หลูจื้อมองเขาโดยที่ตาแทบไม่กระพริบ เหมือนกับรู้จักเขาคนใหม่ยังไงอย่างนั้น
“เจ็บปวดขนาดนั้นเลยหรอ” หลูจื้อถาม
ชุยหังตอบกลับ: “ก็ไม่ใช่เพราะเจ็บปวดซะทั้งหมด มันหลายเรื่องรวมเข้าด้วยกัน”
พูดจบเขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรหันไปเปิดฝาเบียร์อีกขวดออก
หลูจื้อดูท่าทางของเขาเหมือนว่าตั้งใจจะดื่มให้ตัวเองน็อคไปเลยจริงๆ จึงพูดออกมาตรงๆ : “นายเบาๆ หน่อยก็ดีนะ ดื่มเยอะเกินไปฉันไม่ยุ่งด้วยนะ”
“ไม่มีทาง ผมแรงแค่นั้นดื่มเมาแล้วก็ไม่มีทางโวยวาย” ชุยหังพูด
ตอนนี้เขายังพอมีสติอยู่ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยแต่ก็พอจะรักษาให้ตัวเองตื่นตัวอยู่ตลอด
เพียงแต่ว่าภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นี้ มักจะกล้าพูดในสิ่งที่ปกติไม่กล้า
ถ้าบอกว่าแอลกอฮอล์ทำให้คนใจกล้าเหมือนหมีล่ะก็ เขาก็คือหมีใจกล้าตัวนั้น
แต่เมื่อยิ่งดื่มเบียร์ลงไปมากเท่าไหร่ เขาก็เริ่มจะรู้สึกสูญเสียการควบคุมมากเท่านั้น
เมื่อคุณดื่มเหล้าขณะที่รู้สึกมีความสุข ดื่มยังไงก็จะไม่มีทางเมา แต่เมื่อคุณดื่มเหล้าขณะที่กำลังทุกข์ จะดื่มยังไงก็รู้สึกเจ็บปวดทรมาน
ชุยหังนับเป็นพวกแบบหลังพอดี
“แฟนนายดูดีหรือเปล่า” หลูจื้อถามขึ้น
ชุยหังพยายามกำสายใยนั้นให้ออกห่างๆ และในวินาทีนั้นเองมันก็ถูกดึงกลับมาใหม่อีกครั้ง
เขาใช้สติสัมปชัญญะเฮือกสุดท้ายบอกกับตัวเองว่าอย่าพูดออกไปจนหมดเด็ดขาด
เผื่อว่าทำหลูจื้อตกใจหนีไป แล้วต่อไปจะสู้หน้ากันยังไง
ดังนั้นเขาจึงพูดว่า: “ดูดีไม่ดูดีก็นอกใจไปแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเหลือเยื่อใยแล้ว แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา [1] ” หลูจื้อพูด
พูดจบเขายังถอนหายใจตามอีกด้วย ดูเหมือนว่าจะคิดถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาได้เหมือนกัน
ชุยหังยิ้มออกมาพลางพูดต่อ: “ครูฝึก อย่ามาล้อเล่นกับผมเลย คุณหล่อออกขนาดนี้ ถ้าผมเป็นผู้หญิงก็คงจะจีบคุณ ผู้หญิงที่ไหนจะตาบอดไม่สนใจคุณแล้ววิ่งหนีไปกับคนอื่น?”
ตอนที่ 67 ให้ผมจูบหน่อย
หลูจื้อมองท่าทางของชุยหังก็รู้ว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์น่าจะออกฤทธิ์แล้ว เขาดื่มเหล้าไม่ได้จริงๆ ด้วย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาทรมานแบบนี้ด้วย
“ในกองทัพไม่ค่อยมีเวลาได้ออกมา พวกผู้หญิงมักต้องการให้อยู่ด้วยตลอด แต่นายกลับไม่มีเวลาให้ เขาก็ต้องหนีไปหาคนอื่นเป็นธรรมดา อีกอย่างแฟนคนก่อนก็เป็นคนอื่นแนะนำให้ ไม่ได้มีความรู้สึกพื้นฐานอะไรต่อกันเป็นทุนอยู่แล้วด้วย” หลูจื้อพูด
สายตาของชุยหังเริ่มจะเลือนรางแล้ว เขาพูดขึ้นว่า: “ถ้าอย่างนั้นในกองทัพพวกคุณก็มีผู้หญิงไม่ใช่หรอ”
“คิดอะไรของนายน่ะ นายคิดว่ากองทัพเป็นที่สำหรับพลอดรักหรือไง”
ความกล้าหาญของชุยหังได้ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์กระตุ้นขึ้นมาแล้ว
“ชิ มีอะไรล่ะ ไม่ใช่ว่าจิ้งจอกเยอะเนื้อน้อยหรอ นายลงมือช้าเกินไปแล้วมั้ง…” ชุยหังยิ่งจะปล่อยตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ที่แปลกก็คือขนาดหลูจื้อเห็นท่าทางแบบนี้ของเขาแล้วแต่กลับไม่รู้สึกเกลียดมันเลย แต่กลับรู้สึกน่าสนใจด้วยซ้ำ
“นายไม่กลัวว่าพรุ่งนี้ฉันจะแก้แค้นนายอีกหรอ”
“ไม่ทันทำอะไรก็เอาแต่ขู่ฉัน เก่งนักก็พาฉันกลับไปฝึกในกองทัพของพวกนายเลยสิ” ชุยหังพูด
“ไม่ได้ ตอนนี้กองทัพของเราไม่รับคนเพิ่มแล้ว” หลูจื้อพูด
ชุยหังพูดออกมาอย่างไม่คิด: “ถ้าฉันได้เข้าไป จะทำให้พวกทหารผู้ชายหน้าตาหล่อๆ ของพวกนายวุ่นวายกันให้หมดเลย”
หลูจื้อหัวเราะพลางพูดต่อ: “นายอยากจะวุ่นวายยังไง”
“ไม่ว่าจะวุ่นวายยังไง ทำได้แค่เข้าใจโดยสัญชาตญาณ ไม่สามารถพูดออกมาได้” ชุยหังพูด
“ถ้าอย่างนั้นนายลองวุ่นวายกับฉันดูก่อนสิ ฉันจะดูว่านายมีความสามารถอะไร”
ชุยหังมองหลูจื้อที่ท่าทางเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วส่ายหน้าไปมา: “ไม่ได้ กับนายไม่ได้”
“ทำไมกับฉันถึงไม่ได้? นายกลัวฉันจะเอาคืนหรอ” หลูจื้อถาม
ชุยหังพูดต่อ: “นายเป็นชายแท้ อย่าเอาแต่มายั่วฉันไปยั่วฉันมาอยู่เลยน่า ยั่วจนติดประกายไฟขึ้นมาทีนี้มันจะเป็นปัญหาของใครล่ะ”
หลูจื้อนิ่งไปแล้วเพราะไม่เข้าใจความหมายของชุยหัง
“ใครยั่วนายเล่า? เจ้าเด็กนี่ทำไมพอเหล้าเข้าปากหน่อยก็เริ่มพูดจาเลอะเทอะอีกแล้ว”
ชุยหังยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา ท้ายที่สุดพวกผู้ชายแท้อย่างพวกเขา โดยเฉพาะผู้ชายแท้ที่เป็นทหารก็ไม่มีทางเข้าใจโลกของพวกเขาหรอก
“พูดสิ อย่าเอาแต่ส่ายหัวแบบนี้ สรุปมันหมายความว่ายังไง พูดกับฉันให้เข้าใจ” หลูจื้อเหมือนกับพวกเส้นเอ็นตึงๆ ที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องรู้คำตอบให้ได้
ชุยหังดื่มเบียร์ลงไปอีกอึกแล้วถือโอกาสที่ตัวเองยังมีความกล้าอยู่นั้นพูดมันออกไป: “นายจะให้ฉันพูดอะไร เผื่อว่าฉันตกหลุมรักนายจะทำยังไง”
หลูจื้อตะลึงไปอีกครั้งก่อนจะถามขึ้นอีก: “นายหมายความว่ายังไงกันแน่ นายชอบผู้ชาย?”
ถึงแม้ความกล้าของชุยหังในตอนนี้มันจะมีมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้ดื่มอยู่นิดหน่อย แต่ว่าสติยังคงตื่นตัวอยู่ ดังนั้นภายในใจของเขาถึงกับกระตุกอย่างแรง
เมื่อครู่นี้ตอนที่หลูจื้อถามประโยคนี้ขึ้นมานั้น ท่าทางนั้นของเขาดูเหมือนเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อมัน
แต่ในเมื่อไหนๆ เขาก็ถามขึ้นมาแล้ว ตัวเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปกปิดอีกต่อไป
ถ้าเขารู้สึกว่ามันน่ารังเกียจก็ให้เขาถอยห่างออกไปหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว
“อืม ทำไมหรอ” เขาถามกลับ
“บ้า กำลังล้อฉันเล่นอยู่หรือเปล่า” ปฏิกิริยาตอบสนองของหลูจื้อค่อนข้างแปลก
“เรื่องนี้มีอะไรต้องล้อเล่น ในเมื่อผมไม่ได้เข้าไปเกะกะเรื่องของใคร ถ้าคุณรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมแล้ว นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปก็อย่าสนใจอะไรผมอีกเลย ผมไม่ได้ไปลักเล็กขโมยน้อยใคร แค่ไม่รู้สึกละอายใจตัวเองก็พอแล้ว” ชุยหังพูดจบก็ยกเบียร์ที่เหลืออยู่ในขวดที่สองขึ้นดื่มจนหมด
หลูจื้อมองเขาโดยไม่พูดอะไรได้พักใหญ่
เขาคงจะกำลังทำความเข้าใจอยู่ว่าเมื่อครู่ชุยหังพูดอะไรกับเขา
ชุยหังลุกขึ้นยืนแล้วอยากจะพูดอะไรกับหลูจื้ออีกสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าเท้าของตัวเองจะสะดุดเข้ากับขาโต๊ะจนพุ่งพรวดไปข้างหน้า
หลูจื้อตอบสนองกลับอย่างรวดเร็วรีบพุ่งเข้ามาประคองเขาไว้
ใบหน้าของชุยหังซุกเข้าที่คอของหลูจื้อพอดี กลิ่นลมหายใจแบบผู้ชายมันทำให้เขาใจสั่นรัว
ขณะที่แม้แต่ตัวชุยหังเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปนั้น จู่ๆ เขาก็ค่อยๆ เอียงหัวจากนั้นก็จูบหลูจื้อเบาๆ
——
[1] แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา (天涯何 处无芳草) หมายถึงสิ่งที่ปรารถนาหรือต้องการนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้ แต่ยังมีให้เลือกอีกมากมาย