[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 280 ถ้านายไม่ชอบฉันแล้ว / ตอนที่ 281 บ้านหลังเล็กๆ
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 280 ถ้านายไม่ชอบฉันแล้ว / ตอนที่ 281 บ้านหลังเล็กๆ
ตอนที่ 280 ถ้านายไม่ชอบฉันแล้ว
หลูจื้อออกแรงกอดชุยหังไว้แน่นราวกับว่าจะขยี้ให้เขาเข้ามาอยู่ในร่างกายของตนยังไงอย่างนั้น
ชุยหังมีความรู้สึกหายใจไม่ค่อยออกและคอของเขาก็แห้งเล็กน้อยด้วย
“โอเค ฉันสัญญากับนาย” หลูจื้อที่เป็นแบบนี้จะให้เขาตัดสินใจจากไปอีกครั้งลงคอได้ยังไง
เดิมทีก็เป็นตนที่ดึงเขาเข้ามาในแวดวงนี้ ถ้าหากตัดสินใจยอมแพ้แล้วทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่มันก็เหมือนการเอาเด็กคนหนึ่งไปทิ้งไว้ในสถานที่แปลกหน้าแปลกตา มันจะต้องน่ากลัวมากอย่างแน่นอน
ความกลัวประเภทนี้จะไม่มีทางที่จะหายไปตามกาลเวลาและอาจติดตามเขาไปชั่วชีวิต
“วันนี้รีบนอนเร็วหน่อยเถอะ เมื่อวานที่ทรมานนายมากขนาดนั้นก็เป็นเพราะว่าโกรธมากจริงๆ ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้านายถูกใครสักคนควบคุมตัวจริงๆ ฉันควรจะเอาตัวนายออกมายังไง ฉันได้ยินมาว่าคนที่นั่นล้างสมองกันเก่งมาก เลยกลัวว่านายจะไม่ยอมกลับมากับฉัน” หลูจื้อพูด
ชุยหังก็พึ่งจะรู้ว่าความสับสนวุ่นวายของหลูจื้อในตอนนั้น ตนไม่มีทางเข้าใจมันได้เลย
เป็นเหมือนกับพ่อแม่ที่พึ่งจะตามหาลูกที่หายสาบสูญไปจนเจอ แต่เพราะระยะเวลามันผ่านมานานมากแล้วจึงกังวลว่าลูกจะจำหน้าตัวเองไม่ได้แล้ว
“สองวันมานี้ นายเหนื่อยแย่เลยใช่ไหม” ชุยหังกล่าว
หลูจื้อตอบว่า: “ขอเพียงแค่นายกลับมาสิ่งเหล่านั้นต่างก็ไม่สำคัญ ฉันรู้ว่าช่วงที่ผ่านมาความกดดันของนายไม่ได้น้อยไปกว่าฉันเลย ถ้าฉันเห็นผู้ชายคนอื่นปรากฏอยู่ในโมเมนต์วีแชทของนาย ฉันก็ต้องไม่สบายใจแน่ ยิ่งไปกว่านั้นคือมันปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วย แล้วยังมีเรื่องบนเวยป๋ออีก ฉันไม่รู้อะไรเลยสักนิด ทำให้นายต้องเผชิญหน้ากับอะไรมากมายขนาดนี้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นขนาดความคิดที่อยากจะตายนายก็คงจะมีใช่ไหม”
ชุยหังกลั้นเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้ เขาไม่อยากให้หลูจื้อเห็นด้านที่ตนอ่อนแอจนเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าหากตนเจ็บปวดทรมาน หลูจื้อก็คงจะรู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน
“พรุ่งนี้หลังจากจองบ้านเสร็จพวกเราก็จะมีบ้านแล้วนะ ถึงแม้ว่าจะแค่เช่าก็ตาม…”
ชุยหังไม่ปล่อยให้หลูจื้อพูดจนจบ เขาก็พูดขึ้นมาว่า: “เช่าแล้วมันยังไงล่ะ ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าขอเพียงเป็นที่ที่มีนายอยู่มันก็คือบ้านที่ฉันต้องการ”
“อืม ไม่ต้องกังวล ถ้าฉันมีเวลาจะมาอยู่กับนายทันทีเลย” หลูจื้อว่า
ชุยหังก็พูดต่อว่า: “ยังไงถ้านายไม่กลัวว่าฉันจะทำอาหารไม่อร่อย ฉันก็จะทำให้นายกิน”
“อืม มีความสามารถก็เลี้ยงฉันให้อ้วนเลย” หลูจื้อว่า
“อ้วนแล้วจะฝึกฝนยังไงล่ะ” ชุยหังเอ่ยถาม
หลูจื้อยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไร ในเมื่อนายสามารถขุนฉันให้อ้วนได้ มันก็ย่อมสามารถทำให้ฉันออกกำลังกายลดน้ำหนักได้ด้วย”
ตอนนั้นชุยหังก็คิดไปประเด็นอื่นแล้วพูดขึ้นว่า: “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าอ้วนเลย…”
“งั้นจะปล่อยให้ฉันหิว?” หลูจื้อถาม
“ไม่มีทางอยู่แล้ว ยังไงก็ทำให้นายกินอิ่มแน่”
หลูจื้อเขี่ยจมูกของชุยหังเบาๆ แล้วพูดว่า: “ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายมักจะอ้วนหลังจากที่พวกเขาแต่งงาน คนที่เกษียณราชการทหารก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะอ้วนง่ายขึ้นไปอีก ฉันว่าฉันคงจะวิ่งไม่ไหวแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าฉันอ้วน ไล่ตามนายไม่ทันแล้ว นายคงจะไม่ทิ้งฉันโดยที่ไม่สนใจหรอกใช่ไหม”
ชุยหังพูดตรงๆ ว่า: “ไม่มีทาง อ้วนแล้วฉันก็ชอบ”
“ไม่เป็นไร เมื่อถึงตอนที่นายไม่ชอบฉันแล้วนายบอกฉันตรงๆ ก็พอแล้ว” หลูจื้อพูด
“ไม่ได้ นายสบายใจเถอะ ฉันไม่มีความกล้าขนาดนั้น” ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็ว
หลูจื้อทำให้เขาจะร้องไห้ออกมาแล้ว อีกเดี๋ยวจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
“ฉันแค่สมมุตินายไม่เข้าใจหรอ” หลูจื้อพูดกำชับ
ชุยหังเอียงหัวขึ้นก่อนจะถามว่า: “แล้วไงล่ะ”
หลูจื้อโน้มลงไปแนบข้างหูเขาแล้วพูดว่า: “ฉันก็จะหักขานายซะ จากนั้นทุกวันฉันก็จะเข็นรถเข็นให้นายนั่งพานายไปดูดวงดาว ดูพระจันทร์ พอเจอเนินเขาชันๆ ฉันก็จะผลักนายลงไป ชิ่ว ไปเลย…”
ตอนที่ 281 บ้านหลังเล็กๆ
เส้นสีดำปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชุยหังพร้อมพูดว่า: “ขนาดนี้เลย? ยังจะฆ่าฉันด้วย?”
“ไม่ แค่ทำให้นายเหมือนตายทั้งเป็น” หลูจื้อพูด
ชุยหังรีบพูดขึ้นว่า: “พูดซะน่ากลัวขนาดนี้ แถมวิธีการของนายไม่ซื่อตรงเลยสักนิด ต้องไม่ใช่คนจากกองทัพสอนนายแน่”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ เรื่องบางอย่างก็จำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยปราศจากอาจารย์” หลูจื้อพูดอย่างภาคภูมิใจ
ชุยหังคิดในใจว่า ต่อไปคงจะทำให้หลูจื้อขุ่นเคืองไม่ได้แล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นได้ง่ายๆ
ทว่าในตอนกลางคืนหลูจื้อก็ซื่อสัตย์อย่างที่บอกจริงๆ เขาแค่นอนกอดให้ชุยหังนอนหลับเท่านั้น
ต่อมาชุยหังเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ใจแข็งพอที่จะเอามือของหลูจื้อออก
ตอนนี้หลูจื้อกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์แบบสิ่งที่สูญเสียไปคืนกลับมา แล้วตนไม่ใช่ซะที่ไหนล่ะ?
เช้าวันรุ่งขึ้นหลูจื้อตื่นแต่เช้ามาก หลังจากจัดระเบียบเรียบร้อยแล้วเขาก็พาชุยหังไปทานอาหารเช้า จากนั้นก็ลากเขาไปดูบ้าน
หลังจากที่ดูมาสามสี่หลังแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็เลือกบ้านที่ค่อนข้างเงียบสงบและบุคคลที่อยู่ละแวกใกล้ๆ ดูเหมือนจะไม่ซับซ้อนวุ่นวาย
อันที่จริงชุยหังอยากจะเลือกหลังที่ราคาถูกที่สุดหลังนั้น แต่ว่าด้านในไม่มีอะไรเลย แถมยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอาหารด้วย
ถ้าเป็นแบบนั้นเช่ามาก็คงจะไม่มีความหมายอะไร
ถ้าจะออกไปกินข้าวข้างนอกก็เป็นค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะไม่มีทางช่วยประหยัดเงินได้แน่นอน
หลังจากพวกเขาทำการจองห้องแล้วก็ทำการจ่ายเงินมัดจำและค่าเช่าห้อง แล้วก็ออกไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันจำพวกหม้อ ชาม ทัพพี จานต่างๆ
ชุยหังมองไปที่หลูจื้อที่กำลังวุ่นวายอยู่ รู้สึกว่าด้านหลังของเขามันดูกว้างขวางโอบอ้อมอารีมากจริงๆ สามารถที่จะยืนหยัดประคองสิ่งต่างๆ ได้มากมาย
“ทำความสะอาดบ้านสักหน่อยเถอะ ซื้อชุดเครื่องนอนมากขึ้นอีกสักชุดจะดีที่สุดเก็บเอาไว้เผื่อเปลี่ยนซัก” หลูจื้อกล่าว
ขอเพียงหลูจื้อพูด ชุยหังก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น เขาเหมือนกำลังใช้ชีวิตเป็นคนโง่เง่าคนหนึ่งที่ฟังแต่การจัดเตรียมของหลูจื้อ จากนั้นตนสามารถทำอะไรได้ก็ช่วยทำเล็กๆ น้อยๆ ส่วนที่ทำไม่ได้ก็แค่มองดูเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะมาจากชนบท แต่ว่าตอนอยู่ที่บ้านเขาเหมือนแทบจะไม่ได้ทำงานอะไรเลย
เขาถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าต้องสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เรื่องที่บ้านไม่ต้องให้เขามาคิดมาสนใจ
แต่พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตอนนี้กลับพักการเรียนไปเสียแล้ว
เขาไม่กล้าแม้แต่จะติดต่อกับครอบครัวและบอกข่าวเรื่องนี้กับพวกเขา
ต่อไปในอนาคตตนจะต้องเรียนจบช้าแน่นอน อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องรู้
เวลาช่วงนี้เขาจะคิดหาข้ออ้างสักอย่างแล้วค่อยๆ บอกกับครอบครัว
เมื่อพวกเขาเช่าบ้านแล้วทำการตกแต่งใหม่หมดแบบนี้ ชุยหังถึงรู้สึกว่าที่นี่มันอบอุ่นมากจริงๆ
ต่อไปในอนาคต ในที่สุดตนก็มีสถานที่ที่นับว่าเป็นที่ของตัวเองแล้ว
ซ่งไข่โทรเข้ามากลางคันเพื่อถามพวกเขาว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาเลือกที่ไหน
หลังจากรู้ว่าพวกเขาเลือกบ้านหลังที่ค่อนข้างเงียบสงบหลังนี้ เขาก็พูดว่าอันที่จริงที่นี่นอกจากจะแพงไปหน่อยแต่อย่างอื่นดีหมดเลย อย่างน้อยที่นี่ก็มีทุกอย่าง ทำอะไรหรือไปที่ไหนต่างก็สะดวกสบายมาก
หลูจื้อนอนอยู่บนเตียงนอนที่พึ่งปูใหม่เพราะรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย
ข้าวของตั้งมากมายขนาดนั้น จากชั้นบนพลิกไปชั้นล่าง แล้วยังจัดทำความสะอาดบ้าน ถ้าบอกว่าไม่เหนื่อยมันก็เป็นไปไม่ได้
แต่ว่าเขามีความสุขมาก เช่นเดียวกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ในที่สุดพวกเขาก็มีโลกใบเล็กๆ เป็นของตัวเองแล้ว
“มานี่ มานอนกับฉัน” หลูจื้อพูด
ชุยหังล้างมือที่สกปรกจากการพึ่งขนย้ายข้าวของ ก่อนจะเดินเข้าไปนอนลงข้างๆ หลูจื้อ
ทั้งสองนอนมองเพดานด้วยกัน จากนั้นก็ใฝ่ฝันจินตนาการถึงอนาคต
“นายเหนื่อยไหม” ชุยหังถาม
หลูจื้อพูดขึ้นว่า: “เหนื่อย แต่มีความสุข นายล่ะ?”
ชุยหังพูดว่า: “ฉันก็มีความสุขเหมือนกัน แล้วฉันก็ไม่เหนื่อยเลย งานทั้งหมดเอาให้นายทำจนหมดฉันยังจะกล้าบอกว่าเหนื่อยได้ยังไง”
“งั้นเย็นนี้ทำอาหารให้ฉันหน่อยได้ไหม กินข้าวเสร็จฉันอาจจะต้องกลับไปแล้ว”