นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ - ตอนที่ 3 นั่นคุณปู่ยัดเยียดให้ผม
สีหน้าของฮ่อฉวนสือเฉยเมยและไม่แยแส "นั่นคือคนที่คุณปู่บังคับยัดเยียดให้ผม ผมไม่ต้องการจะแต่ง"
คุณปู่โกรธจนปวดตับก่อนไอสองสามครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว น้ำเสียงของฮ่อฉวนสือก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนลง "คุณปู่ ลืมไปแล้วเหรอว่าใช้อารมณ์ไม่ได้"
คุณปู่เหมือนจะจิบชา ทำให้อารมณ์นิ่งขึ้น
"อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นรอนาน เธอเป็นเด็กดี ผลการเรียนที่โรงเรียนก็ดีมาตลอด สถานการณ์แบบนี้เธอได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนชั้นนำ ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ บ้านตระกูลฮ่อของเราไม่ได้ต้องการอะไรที่คู่ควร ให้เธอเข้ามาก็ต้องทำให้เธอมีสง่าราศีที่สุด!"
"ฉวนสือ หลายก็ไม่เด็กแล้วนะ ปู่ไม่เคยสนใจข่าวลือที่เกี่ยวกับหลานจากโลกภายนอกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเลยนะ แต่ตอนนี้ปู่ก็อายุมากแล้ว อย่างน้อยหลานก็ก็น่าจะคิดถึงปู่แก่ๆคนนี้หน่อยนะ"
คุณปู่ยิ่งพูดยิ่งมีน้ำโห พอโกรธก็หยุดไอไม่ได้
ฮ่อฉวนสือเม้มริมฝีปากและพูดเสียงเรียบ "คืนนี้ผมจะกลับไปครับ"
คุณปู่เหมือนอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่ก็ได้ยินเสียงบี๊บจากอีกทาง
เด็กคนนี้นี่
เขาทำได้เพียงวางโทรศัพท์แล้วหยิบเอกสารข้อมูลหนาๆขึ้นมาดูอีกครั้ง
"ไม่เลว แชมป์สอบเข้ามหาลัยมหาวิทยาลัย ได้ทุนเต็มจำนวนสี่ปี เผยแพร่sci 38ฉบับ ปริญญาโทสองใบ ขยันขันแข็ง ความประพฤติดี คนแบบนี้ได้มาเป็นภรรยาฉวนสือ ฉันก็โล่งใจ"
"นายท่าน ได้เวลาทานยาแล้วครับ"
พ่อบ้านเข้ามาพร้อมกับถาดยาจีน เห็นว่าเขาอ่านข้อมูลส่วนตัวของคุณสือมาทั้งวันก็รู้สึกหมดหนทาง
ไปรับการรักษาที่ต่างประเทศ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงลูกๆหลานๆอีก
"ไม่ว่าคุณสือจะดีแค่ไหน ถ้านายน้อยไม่ชอบ จะไม่ทำให้คนอื่นเขาลำบากเหรอครับ?"
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คุณปู่ก็เหล่มอง และรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล่ห์เหลี่ยม
"ให้เวลาพวกเขาหน่อย หลานชายของฉัน ฉันรู้ดีที่สุดแล้ว ฉวนสือต้องชอบแน่ สือฮว่าแตกต่างจากเด็กผู้หญิงตระกูลใหญ่ทุกคน เธอมีความแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว ถ้าให้เวลากับเธอล่ะก็ จะต้องมีคุณสมบัติอยู่ข้างฉวนสือแน่"
พ่อบ้านไม่ได้ตอบอะไรอีก เขาเชื่อในสายตาผู้ที่ตัดสินคนนี้อยู่แล้ว
ความจริงที่ว่าฮ่อซื่อรอดชีวิตมาได้หลายสิบปี ทั้งยังรุ่งเรืองมากขึ้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ทุกสิ่ง
ในตอนเย็น ห้องครัวก็เริ่มเสิร์ฟอาหารตามเวลา
อาหารมื้อเย็นแสนอร่อยค่อยๆเสิร์ฟทีละอย่าง
สือฮว่าเก็บข้าวของ พอนั่งลงก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากฮ่อฉินฉินดังมา
"เธอรู้วิธีกินอาหารตะวันตกหรือเปล่า เกรงว่าคงจะใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารไม่เป็นด้วยซ้ำ หึ แค่อ่านหนังสือคนที่ตายไปแล้วไม่กี่เล่มก็อย่าหาว่าฉันเล็งเธอเลย รอเจอพี่ฉันก่อนเถอะ จะได้รู้ว่าช่องว่างคืออะไร!"
ว่าแต่คนอื่น ไม่มีเหตุผลที่จะชนะหรือแพ้เลย สือฮว่าหยิบส้อมและมีดขึ้นมาตรงหน้าแล้วหั่นสเต็กออกจากกันอย่างไม่เร่งรีบ
ใบหน้าของฮ่อฉินฉินมืดมนลงทันที ผู้หญิงคนนี้นี้มันอะไรกัน ตลอดบ่ายเธอก็จิกกัดไปตั้งเยอะ จะให้เธอเจียมตัวแล้วถอยไป แต่การโจมตีทั้งหมดเหมือนกับการตีปุยฝ้ายหาจุดโฟกัสไม่ได้
เธอตบมีดและส้อมอย่างดุเดือดและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ไม่กินแล้ว! ไม่อยากทานข้าวห้องเดียวกับเธอ! กินไม่ลง!"
หลังจากพูดเสร็จเธอก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน
สือฮว่าสงสัยเล็กน้อยว่าผู้หญิงบ้านตระกูลฮ่อคนนี้อาจจะอายุไม่ถึงยี่สิบ แต่คงจะสองขวบ
ความยินดีเขียนไว้บนหน้า จะเห็นได้ว่าบุคลิกแบบนี้เกิดขึ้นได้ในตระกูลใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่ซับซ้อน
เช่นเดียวกับน้องสาวของเธอที่เคยเจอเพียงไม่กี่ครั้ง
สีหน้าของถางหรงไม่สู้ดีนัก เห็นลูกสาวเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้ห้ามปราม คืนนี้ทำอาหารไว้ก็ไม่น้อย แต่ผู้ชายในบ้านต่างก็ยุ่งอยู่ข้างนอก ให้เธอมาเผชิญหน้ากับลูกสะใภ้ตัวน้อยคนนี้คนเดียว เธอล่ะไม่อยากอาหารจริงๆ
เพราะอย่างนั้นเธอเลยกินเพียงนิดเดียวแล้วก็ลุกออกไป
สือฮว่าเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องอาหารขนาดใหญ่
สือฮว่าก้มหัวลง กินไปก็นึกแผนต่อไป การอยู่ในบ้านของตระกูลฮ่อ การออกไปข้างนอกนั้นคงไม่เป็นอิสระเหมือนแต่ก่อน แต่พรุ่งนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูคุณยายก่อน
พอตัดสินใจแล้ว เธอก็วางมีดและส้อมลงก่อนลุกขึ้นและกลับไปที่ห้อง
ขณะที่คนรับใช้หลายคนกำลังทำความสะอาดบนโต๊ะอาหาร ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก ร่างสูงใหญ่ของฮ่อฉวนสือก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู
พวกเขามองหน้ากัน ไม่ได้บอกว่าคืนนี้จะไม่กลับมาทานข้าวเย็นเหรอ?