นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ - ตอนที่ 28 สือฮว่า เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?
“ฉันจะให้คนไปตรวจสอบ”
ฮ่อฉวนสือเหลือบมองขาของเธอ ตอนที่รถทับขาเธอ ฝ่าเท้าก็โดนเจาะแล้วผลของยาชาก็หมดไปแล้ว แต่เธอกลับเหมือนคนปกติ ผู้หญิงคนนี้…
“ขาฉันจะฟื้นตัวเป็นเหมือนเดิมไหม?”
สีหน้าของสือฮวาดูมึนงง เสียงเรียบของเธอกลับมีเสียงสั่นอยู่เล็กน้อย
ฮ่อฉวนสือมองออกว่าที่เธอทำเป็นนิ่งคือเธอแกล้งทำ เธอกำลังรอคำตอบและเหมือนว่าเธอจะสบายใจกับคำตอบนี้
“ฉันได้ติดต่อกับแพทย์ศัลยกรรมกระดูกระหว่างประเทศไว้แล้ว พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ถ้าเธอให้ความร่วมมือก็จะฟื้นตัวได้”
สือฮว่าถอนหายใจและมองเขาอย่างขอบคุณ
ขณะนั้นหนานสือก็เปิดประตู เดินเข้ามาพร้อมกับถือโทรศัพท์ในมือ
“ท่านประธานครับ เรื่องได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว คนขับรถไม่ได้เมา มีผู้หญิงจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเขาให้ทำเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนั้นคือฟงเฉียว เธอยังเป็นนักเรียนอยู่ ผมให้คนไปพาตัวเธอมาแล้วครับ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่สือฮว่า “จะให้กำจัดยังไง คุณสือก็บอกได้เลยครับ”
ดวงตาของสือฮว่าเปลี่ยนเป็นคมกริบ เธอเคยเจอฟงเฉียวคนนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ฟงเฉียวก็ถูกผลักเข้ามาในห้องคนไข้ เธอที่เห็นว่ามีคนหล่ออยู่ข้างในก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้ม
“สือฮว่า เธอก็ไม่ใช่น้อยๆเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าตอนเธออยู่มหาลัยก็ไปแย่งแฟนคนอื่นเขา เรื่องนั้นยังผ่านไปไม่นาน เธอก็มีเพิ่มอีกคนแล้วงั้นเหรอ”
สือฮว่าเลิกคิ้ว เรื่องที่เธอเคยทำเธอก็จะยอมรับ แต่เรื่องที่ไม่เคยทำให้ตายไงก็ไม่รับ
“ฟังหนิงหวางชิงมาสินะ ฟงเฉียว เหมือนว่าฉันกับเธอไม่เคยมีเรื่องอะไรต่อกันนะ ที่เธอทำครั้งนี้มันไม่เลวร้ายไปหน่อยงั้นเหรอ?”
คำพูดถากถางเหน็บแนมของเฟิงเฉียว เสยผมตัวเอง “ฉันน่ะอึดอัดกับเธอมาตั้งนานแล้ว ก็แค่คุณหนูตระกูลสือ มีสิทธิ์อะไรกัน”
สือฮว่าคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกจนหัวเราะออกมาจริงๆ “ฉันคิดได้แล้วว่าทำไมหนิงหวางชิงถึงเลือกเธอ เพราะไม่มีสมองนี่เอง”
ใบหน้าของเฟิงเจียวแข็งค้าง ตาของเธอหรี่ลง “เธอหมายความว่ายังไง?”
สือฮว่าหันไปมองหนานสือตรงประตู “หนานสือ นายโทรถามตระกูลฟงดูซิ ว่าพวกเขายังอยากได้ลูกสาวคนนี้อยู่ไหม”
เธอพูดด้วยความมั่นใจ เพราะหนานสือเคยบอกว่าจะให้จัดการกับฟงเฉียวยังไงก็ได้ตามที่เธอสั่ง ซึ่งก็หมายความว่าฮ่อฉวนสืออยู่ข้างเธอ
“สือฮว่า! เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน?!”
ฟงเฉียวได้ยินที่เธอพูดก็รู้สึกไม่สบายใจ เธอคนนี้จะเอาจริงกับตัวเองจริงๆเหรอ?!
“เธอก็รู้ว่าบริษัทของตระกูลเราร่วมมือกับบริษัทของตระกูลสือมานาน เราเป็นหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลสือ ไม่ต้องพูดถึงเธอ แค่พ่อเธอมาอยู่ต่อหน้าฉัน ยังต้องเรียกฉันว่าคุณหนูฟงด้วยซ้ำ!”
สือฮว่าขี้เกียจที่จะฟังคำพูดของเธอและค่อยๆหลับตาลง
ฟงเฉียวกัดฟันและก้าวมาข้างหน้า แต่ทันทีที่เธอขยับเท้าก็โดนหนานสือห้ามไว้
“ออกไปนะ! ก็แค่ผู้จัดการ สุนัขรับใช้เท่านั้น กล้ามายืนขวางทางฉันได้ไง!”
ทันทีที่ฟงเฉียวพูดจบ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นและตระกูลฟวก็ก่นด่าเธอ
“พ่อคะ พูดเรื่องอะไรน่ะ หนูไปยั่วผู้ชายอะไรที่ไหนกันคะ”
คำพูดเธอแฝงไปด้วยความโกรธ จนถึงตอนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิด
“เฉียวเฉียว! รีบยอมรับผิดกับสือฮว่าซะ ไม่อย่างนั้นตระกูลฟงเราจบเห่แน่!”
น้ำเสียงของพ่อฟงเต็มไปด้วยความกลัว แม้กระทั่งมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ยังสั่น
แต่ฟงเฉียวก็ยังไม่เข้าใจ “พ่อคะ พ่อกำลังพูดถึงอะไรคะ หนูแค่จัดการสือฮว่านะ อีกเดี๋ยวพ่อก็ไปขู่บ้านตระกูลสือสิ ดูซิพวกเขาจะกล้าทำอะไรหนู ต่อหน้าหนูสือเฉียงยังต้องเคารพหนูเลย จะมากล้าทำอะไรหนูล่ะ”
ฟงเฉียวมองไปที่โทรศัพท์ที่วางสายและขมวดคิ้ว ตอนนี้เธอรู้สึกสงสัยขึ้นมาเกี่ยวกับชายที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้
ท่าทีของชายคนนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ไม่สนใจเธอตั้งแต่แรก ไม่ใช่แฟนของสือฮว่าเหรอ?
“เฮ้ คุณ ฉันว่าหน้าคุณดูดีมากนะ ไม่ต้องไปตามสือฮว่าหรอก มาตามฉันดีกว่า ฉันมีเงินเยอะกว่าคุณหนูตระกูลสือตั้งเยอะ”
เธอเอียงศีรษะพร้อมกับแสดงท่าทีน่าสงสารราวกับว่าทำการกุศล
ออร่าของฮ่อฉวนสือที่ออกมานั้น แม้แต่คนที่ไม่มีสมองก็น่าจะเดาได้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
แต่สือฮว่าประเมินไอคิวของฟงเฉียวสูงเกินไป
ฮ่อฉวนสือมองฟงเฉียวจากนั้นก็ละสายตาไป ไม่ได้ฟังเธอพูดอะไรทั้งนั้น
อีกอย่าง ในสายตาเขา ฟงเฉียวก็เหมือนกับตัวตลก
หนานสือรู้สึกว่าพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้โง่จนทำให้เขารู้สึกสงสาร
ฟงเฉียวกอดอก มองทั้งสามคนที่ไม่พูดก็นึกว่าพวกเขากลัว
“สือฮว่า เธอใช่ไหมที่ให้คนไปลากฉันมา ถ้าตอนนี้เธอก้มหัวรับผิดล่ะก็ เรื่องนี้ก็จะผ่านไป ฉันก็ขี้เกียจจะจัดการละ”
เธอทำท่าทางเหมือนคนใหญ่คนโตแล้วเหล่มองสามคน
“หนานสือ หักขาเธอ เอาให้เสียงดัง”
ดวงตาของฮ่อฉวนสือเต็มไปด้วยอันตราย เสียงของเขาเย็นราวกับน้ำแข็งจนทำให้อุณหภูมิในห้องลดลง
เมื่อหนานสือได้ยินคำพูเของเขา ก็จับฟงเฉียวและเตะขาของเธออย่างแรง ว่องไวและแม่นยำ
เสียงกระดูกหักที่ได้ยินก็รู้ว่าเจ็บมาก
ฟงเฉียวส่งเสียงร้องเหมือนหมู ขาของเธอมีผิดรูปนอนหมอบอยู่กับพื้น
เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของชายคนนั้น เธอก็กลัว
ฟันกระทบกันจนสั่นและพูดไม่ออกสักคำ
ความตื่นตระหนกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไล่มาตั้งแต่กระดูกสันหลังจนถึงศีรษะ เธอถอยหลังด้วยความตกใจ แต่ขาของเธออ่อนแอ ได้แต่นอนกับพื้นอย่างไร้ศักดิ์ศรี
เธอกลัวแล้วจริงๆ ชายคนนี้มันปีศาจ…
สือฮว่ามองอย่างนิ่งๆ “ฟงเฉียว ถ้าไม่โดนเองก็คงไม่รู้ถึงความเจ็บ ตอนนี้เธอก็เงียบหน่อย เจ็บก็ทน ถ้ามีเสียงล่ะก็ ฉันจะให้หนานสือเอาลิ้นเธอออกมาด้วย”
ฟงเฉียวตีวสั่นไม่กล้าที่จะพูด กลั้นความเจ็บปวดอยู่ในลำคอ ไม่ได้ตะโกนร้องออกมา
ประตูของห้องคนไข้ถูกเปิดออก พ่อฟงก็เข้ามาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้เขาก็อยากจะคุกเข่าลง
ดวงตาของเขามีสีเข้มและเม้มปากแน่น
เมื่อนึกถึงว่าสือฮว่ายังเป็นเด็กน้อย ถ้าเขาคุกเข่าเพื่อยอมรับความผิดพลาดของลูกสาว คนปกติก็จะหยุดแล้วให้อภัยกับสิ่งที่ฟงเฉียวทำ
ยังไงฟงเฉียวก็โดนลงโทษแล้ว ก็น่าจะให้อภัย
เขาคิดอย่างนั้น แต่น่าเสียดายที่สือฮว่าไม่ใช่คนปกติ
เธอเลิกคิ้วและมองไปที่พ่อฟงด้วยรอยยิ้ม “คุณฟง ฉันไม่มีเวลามาดูคุณกับลูกสาวคุณเล่นบทความสัมพันธ์แบบพ่อลูกนะ ถ้าคุณอยากรักษาฟงเฉียว ก็ส่งสร้อยข้อมือที่สือโม่เอาไปให้มา นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณและฉัน”
เธอกำลังยิ้มอยู่ชัดๆ แต่รอยยิ้มนั้นเหมือนมีอะไรแฝงอยู่
มีเหงื่อไหลตามหน้าผากของพ่อฟง กำลังจะคุกเข่าก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน
“เฉียวเฉียว สร้อยข้อมือที่สือโม่ให้ตอนแรก ลูกเอาไปไว้ไหนแล้ว สือฮว่าแต่งกับบ้านตระกูลฮ่อแล้ว ตอนนี้ทำตามที่บอกอย่าเพิ่งไปคิดเรื่องอื่น”
ฟงเฉียวเจ็บจนพูดไม่ออก ใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาฉายแววความกลัว
ที่จิงตู ไม่มีใครไม่รู้จักสถานะของบ้านตระกูลฮ่อ
เธอยึดติดกับหนิงหวางชิง ต้องการเข้าข้างตระกูลหนิงและต้องการเข้าสู่ชนชั้นสูงอย่างแท้จริง แต่ตระกูลฮั่วก็สามารถลบตระกูลหนิงออกจากจิงตูได้ นี่คือพลังของบ้านตระกูลฮ่อ
“กำไลนั่นถูก…ป้าของฉันเอาไปแล้ว”
เธอจับใบหน้าที่ซีดเผือดเหมือนกระดาษหลังจากที่เธอพูดออกไป
สือฮว่าลืมตาขึ้น เธอไม่เข้าใจคนบ้านตระกูลฟง แต่ได้ยินจากคนอื่นว่าตระกูลนี้ไร้วัฒนธรรม มีเพียงพ่อฟงเท่านั้นที่หาเงิน จนตระกูลหลุดพ้นจากความยากจนและพุ่งพรวดขึ้นอย่างสมบูรณ์
“พรุ่งนี้ ให้ป้าเอาสร้อยข้อมือมาให้ฉัน แล้วฉันจะพิจารณาว่าจะปล่อยเธอไปดีไหม”
ฟงเฉียวได้พ่อพยุงขึ้น ก่อนจากไปพ่อฟงก็กวาดสายตามองไปที่ฮ่อฉวยสือ
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? ออร่าแรงขนาดนี้ คนของตระกูลฮ่องั้นเหรอ?
ในห้องคนไข้เงียบลงอีกครั้ง ทั้งสือฮว่าและฮ่อฉวนสือไม่ได้พูดอะไรราวกับว่าเรื่องตลกเมื่อกี้ไม่มีอยู่จริง
ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ได้เวลาเปลี่ยนชุดของฮ่อฉวนสือแล้ว เขาลุกขึ้นและเดินออกไป
สือฮว่าก็ไม่ได้รั้งไว้ เธอต้องการเงียบๆ
ตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้าน ที่เธอได้ยินสือโม่พูดว่าให้สร้อยข้อมือคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไปกตรวจสอบถึงได้รู้ว่าเป็นฟงเฉียวที่อีกฝ่ายส่งไปให้
ก็เหมือนกับที่ฟงเฉียวพูดว่าตระกูลฟงและตระกูลสือร่วมมือกันมาตั้งนานและความสัมพันธ์ระหว่างสือโม่กับฟงเฉียวก็ดี
เธอหลับตาลง ถ้าเอาสร้อยข้อมือกลับมาได้ ยายคงจะดีใจมาก
คืนนั้น ตระกูลฟงอยู่ไม่สุข พ่อฟงคอยบอกให้ทางนั้นส่งสร้อยข้อมือมา แต่เซี่ยงชุนฟางก็ไม่ได้กินหญ้า ของนั่นตกมาอยู่ในมือเธอแล้วจะมาเอาคืน ถึงจะเป็นพ่อฟงก็เถอะ เธอก็ไม่ยอม!
สุดท้ายเธอก็หมดความอดทนและตะโกนใส่โทรศัพท์ “ก็แค่สร้อยข้อมือพังๆ! สือฮว่าใช่ไหมที่จะเอา เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเข้าไปเอง! ฉันจะไปด้วยตัวเอง!!”
เซี่ยงชุนฟางเป็นป้าของฟงเฉียว เพราะจู่ๆพ่อฟงก็ร่ำรวยขึ้นมา ครอบครัวพวกเขาเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ แถมเธอมักจะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยแบบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ เธอคิดว่าตัวเธอก็เป็นผู้หญิงชั้นสูงไปแล้ว
วันรุ่งขึ้น ระหว่างที่พ่อฟงเตือนสติ เซี่ยงชุนฟางกว่าจะมาโรงพยาบาลก็เป็นเวลาเที่ยงวัน
เธอจงใจแต่งตัวให้ดูอ่อนช้อย สวมหมวกสีขาว ม้วนผมและสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่จนดูโดดเด่น
บังเอิญว่าสือฮว่าถูกพยาบาลบังคับให้มาเจอแดด ได้ยินมาว่ามีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาหาและผู้เชี่ยวชาญคุยโทรศัพท์กับเธอในตอนเช้า บอกว่าตราบใดที่เธอให้ความร่วมมือกับการรักษา เธอคงจะหายดีแน่นอน
พอได้ยิน เธอก็ไม่รู้สึกหนักใจและพอมองสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลดีขนาดนี้ ก็ขอให้พยาบาลเข็นตัวเองไป
ตอนนี้พยาบาลออกไปทานอาหาร ส่วนสือฮว่าก็อยู่คนเดียว
เซี่ยงชุนฟางเห็นเธอทันทีที่มาถึง เธอรู้จักสือฮว่า เป็นเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบและอยากได้สร้อยข้อมือคือ ฝันไปเถอะ!
ไม่รู้จริงๆว่าตระกูลฟงเป็นบ้าอะไร ถ้าบอกว่าไม่ ถึงกับบอกว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรง เหอะๆ วันนี้เธอจะให้ยัยนั่นเห็นว่าเธอเก่งแค่ไหน!