นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ - ตอนที่ 27 ฉันแต่งงานกับหมาเหรอ?
“เธอไม่ใช่สมาชิกครอบครัวฉัน ฉันแต่งงานกับหมาเหรอ?!”
ฮ่อฉวนสือยิ้มมุมปาก โกรธจนใจชา
เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เย็นชา แต่เมื่อเจอสือฮว่า เธอทำให้เขาต้องแพ้ได้อย่างง่าย
เมื่อหมอเห็นทั้งคู่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด รีบเอาใบไว้ตรงหน้าสือฮว่า
สือฮว่ากำลังจะโยนเอกสารออกไป แต่เห็นตัวหนังสือบนนั้น
ฮ่อฉวนสือ?
เธอชลอมือ หลังจากดูอย่างละเอียดแล้ว รู้สึกมีคลื่นที่โหมซัดสาดในใจ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอแอบคาดเดา
เธอไม่คิดว่าฮ่อฉวนสือที่มีข่าวลือว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรง เป็นผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังตี้เซิ่ง
เธออ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไรในชั่วขณะ
ฮ่อฉวนสือที่อยู่บนเตียงค่อย ๆ หลับตาลง ใบหน้าเยือกเย็น
จากนั้นไม่นาน ในที่สุดสือฮว่าก็เซ็นชื่อตัวเองลงไป มือสั่นเล็กน้อย
แต่ฮ่อฉวนสือหลับตาอยู่ ไม่ได้เห็น และเขานึกว่าสือหว่ารู้ตัวตนของเขามาตลอด
สีหน้าสือฮว่าอึดอัดเล็กน้อย จู่ ๆ ก็นึกถึงคืนที่ตัวเองถูกสือหยวนวาแผนร้าย เธอพูดอย่างระลอกว่าจะเลี้ยงผู้ชายคนนี้ รู้สึกหนังหัวชา
และนึกขึ้นได้ว่าผู้ชายคนนี้ให้เธอเรียกเขาว่าฉวนสือ และเธอปฏิเสธไปอย่างมีเหตุมีผล หลังจากที่ตอบสนองได้ รู้สึกตัวเองเป็นคนโง่
เธอเซ็นใบเสร็จ ยื่นให้หมอที่อยู่ด้านข้าง หมอออกไปอย่างรวดเร็ว
สือฉฮว่าลังเลไม่รู้จะเอ่ยปากยังไง คนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นสามีของเธอนะ
“เธอไปได้แล้ว”
ฮ่อฉวนสือหมดความอดทน ใบหน้าเย็นชา
สือฮว่าอ้าปาก แต่คำว่า”ประธานฮ่อ”นี่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สสามารถเอ่ยออกมาได้
เรียกฉวนสือ? แต่ก่อนหน้านั้นเธอปฏิเสธเขาไปแล้ว
“สา…สาสา…”
เธอพูดตะกุกตะกักอยากเรียกชื่อนั้นออกมา แต่อ้าปากค้างอยู่นาน สุดท้ายก็พูดไม่ออกมา
“ลิ้นถูกแมวกลืนเหรอ?”
รืมฝีปากที่บางของฮ่อฉวนสือยิ้มเยาะเย้ยมุมปาก น้ำเสียงต่ำลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
สือฮว่าหุบปาก ใบหน้าแดงเล็กน้อย มือที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงก็กำแน่นขึ้นมา
ฮ่อฉวนสือไม่สนใจเธออีก หลับตางีบไป แต่สือฮว่ายังไม่ออกไป
หน้าต่างห้องเปิดอยู่ มีลมพัดเข้ามาจากด้านอกเป็นระยะ ๆ ตอนเที่ยงในเมืองจิงตูอยู่ในแสงแดดที่สดใส
แต่ในความสดใส ยังมีมุมมืดที่แสงแดดส่องไม่ถึง
แผนร้ายกำลังเพิ่มขึ้น
“หวางชิง ที่แกบอกเป็นสือฮว่านั่นใช่ไหม หึ ฉันลำคานเธอมานานแล้ว มักทำตัวสูงส่ง ถึงแม้แกไม่บอก ฉันก็จะหาโอกาสฆ่าเธอ”
คำที่พูดคือลูกน้องของหนิงหวางชิงฟงเฉียว ฟงเฉียวเป็นผู้หญิงที่ไร้สมอง ครอบครัวเป็นเศรษฐีใหม่ ไม่มีวัฒนธรรม แต่ยัยนี่สั่งง่าย และเชื่อฟังเธอที่สุด กลายเป็นผู้รับฟังของเธอโดยไม่รู้ตัว เธอนำเรื่องที่ไม่พอใจทั้งหมดของสือฮว่าบอกกับฟงเฉียว และแปลงปลอมให้สือฮว่าเป็นคนที่นักเรียนนิสัยไม่ดีที่คอยรังแกเพื่อนไปทั่วเพราะแค่ตัวเองเกรดดี
ฟงเฉียวขาดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยที่เรียนก็ใช้เงินเข้า บวกกับตระกูลฟงไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลถัง ดังนั้นเธอไม่รู้ความสัมพันธ์ของสือฮว่าและตระกูลฮ่อ
ตอนนี้ถูกหนิงหวางชิงกระตุ้นแบบนี้ เธอแทบอยากจะไปแก้แค้นสือฮว่าทันที
หนิงหวางชิงยิ้มมุมปาก ความอำมหิตผ่านสายตาไป
ผู้หญิงอย่างฟงเฉียว อยู่ในละครไม่รอดตอนที่สองแน่นอน แต่เธอชอบติดต่อกับฟงเฉียว หากมีเรื่องรบกวนใจ ก็จะชวนออกมาดื่ม กล่าวหาโทษต่างๆของสือฮว่าด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ สือฮ่ามีอาชญากรรมมาก!
“ฟงเฉียว อย่า ฉันรู้จักแก ถ้าสือฮ่าจริงจังขึ้นมา ฉันหนีไม่รอดแน่”
ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความลำบากใจ คว้าแขนฟงเฉียว กล่าวเตือนเบา ๆ
ฟงเฉียวหึเบา ๆ “ก็แค่คุณหนูตระกูลสือไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่กลัว หวางชิงแกไว้ใจ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแก เป็นการตัดสินใจของฉันคนเดียว”
สิ่งที่หนิงหวางชิงต้องการคือประโยคนี้ของเธอ คุณน้าพูดถูก ตอนนี้สถานะสือ
ฮว่าไม่ธรรมดา ที่เธอต้องทำคือยืมดาบฆ่าคน
ผู้หญิงขาดความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างฟงเฉียว หากใช้ดีนั้นก็คือดาบที่อยู่ยงคงกระพัน
ผู้หญิงที่โง่ไร้สมองโหดเหี้ยมขึ้นมา น่ากลัวกว่าระเบิดปรามณู
สือฮว่ายังไม่รู้แผนการของพวกเธอ ออกจากโรงพยาบาลเป็นเวลาบ่ายสามแล้ว เธอไปเยี่ยมคุณยายของเธอ จากนั้นกลับตี้เซิ่ง
ในแผนก เธอเป็นแค่คนดูแลห้องเก็บเอกสาร ไม่มีใครสนใจว่าเธอไปไหน ดังนั้นแม้ว่าเธอออกไปทั้งเช้าก็ไม่มีคนมาสอบถาามสาเหตุ
อีกทั้งครั้งนี้ตี้เซิ่งก้าวเท้าผิด ทุกคนต่างก็อารมณ์ไม่ดี ไม่มีใครมีอารมณ์สนใจเรื่องอื่น
ถึงเวลาเลิกงาน สือฮว่าจัดเก็บโต๊ะทำงาน หลังจากออกจากประตูตี้เซิ่ง โบกมือเรียกรถคันหนึ่ง
ทันทีที่ขึ้นรถ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ
เธอหลับตาลงอยากจะพักผ่อน แต่เห็นรถบรรทุกที่ควบคุมไม่ได้ชนเข้ามา
“ตู๊ม!”
เธอเบิกตากว้าง รู้สึกรถทั้งคันสั่นอย่างรุนแรง มีเสียงดังก้องดังมาในสมอง
โลกดูเงีบยสงบลง และดูเหมือนเสียงดังมาก
เสียงไซเรน เสียงตะโกนดังก้องในหัวสมองของเธอเต็มไปหมด
เธอรู้สึกเจ็บแปลบที่ขา เหมือนมีอะไรทิ่มทงฝาเท้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหวาดกลัว หวาดกลัวจนจะร้องไห้ออกมา
ขาของฉัน เกิดเรื่องไม่ได้……
“เร็ว! รีบมาช่วย! รถจะระเบิดแล้ว!”
“ขาของเธอถูกทับไว้ ขยับตัวไม่ได้!”
สือฮว่าแตกตื่นอยู่ตลอด เธอไม่ได้ยินคนรอบข้างพูดอะไร ร่างกายของเธอราวกับฉีกขาด ปวดจนเหงื่อไหลเต็มตัว
ตอนแรกรู้ว่าชายคนนั้นชอบบัลเล่ต์ เธอจึงขยันเรียนบัลเล่ต์ เพื่อสามารถแสดงในงานปาร์ตี้ของโรงเรียน
คุณหนิงบอกว่าต้นกำเนิดของเธอไม่สมควรเรียนการเต้นที่สง่างาม แต่ในงานปาร์ตี้นั้น เธอได้รับเสียงปรบมือดังก้อง
เธอเป็นแบบนี้มาตลอด ดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้
ดังนั้นขาคู่นี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีต้องไม่เป็นไร!
จุดเกิดอุบัติเหตุน่าเวทนามาก คนขับที่เมาแล้วขับถูกควบคุมตัวแล้ว คนขับแท็กซี่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสือฮว่าที่นั่งอยู่เบาะหลังรอดมาได้ แต่สภาพขาของเธออาการแย่มาก
ตั้งแต่ฟื้นเธอไม่รู้สึกถึงความรู้สึกใด ๆ ราวกับขาคู่นั้นไม่ได้เป็นของเธอ
เธอไม่กล้าแตะ ไม่กล้าถาม มองเบดานย่างเหม่อลอย
หมอและชายชราฮ่อคุยกันอยู่นอกทางเดิน เธอได้ยินคำว่า “วีลแชร์” “พักฟื้น” ใบหน้าทั้งคู่ดูเศร้า
สือฮว่าใจวูลทันที เธอลุกขึ้น ทุบขาตัวเองอย่างแรง ใบหน้าเย็นชา
“เสี่ยวฮว่า เธอทำอะไร?”
ชายชรารีบให้บอดี้การ์ดควบคุมตัวเธอ เดินยันไม้ค้ำเข้ามาด้วยความตกใจ
ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย…จริงๆ….
มนุษย์เมื่อสิ้นหวังถึงที่สุด มักจะเงียบมาก
“คุณปู่ฮ่อ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
ไม่นาน เธอพูดประโยคนี้ออกมาเบา ๆ จ้องมองนอกหน้าต่างไม่พูดจาอีก
ชายชราฮ่อถอนหายใจ รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เธอไม่ดี ค่อยๆพยักหน้า “เธออย่าทำอะไรโง่ ๆ ขาเธอไม่เป็นไรหรอกแค่ร่วมมือกับหมอ ดีขึ้นแน่นอน”
นี่เป็นแค่คำปลอม สือฮว่าเข้าใจ ดังนั้นสายตาเธอจึงไร้ชีสิตชีวา ไม่มีการคลื่นไหวใด ๆ
ชายชราจากไปไม่นาน ประตูห้องของเธอถูกเปิดออก คือฮ่อฉวนสือ
ฮ่อฉวนสือแอดมิทอยู่แล้ว แผลบนหลังยังพันไปด้วยผ้าพันแผล แต่ได้ยินสือฮว่าเกิดเรื่อง เขาก็ลุกจากเตียง
สือฮว่าเหลือบมองเขา ไม่หยุดการเคลื่อนไหวของตัวเอง
เธอจะลงจากเตียง เธออยากทดสอบดูว่าตัวยังสามารถลุกขึ้นได้หรือไม่
“ฉันจะเชิญคุณที่ดีที่สุดในโลกมา ถ้าเธอยังทำต่อ โอกาสในการฟื้นตัวจะลดลงเท่านั้น”
ร่างกายของสือฮว่าแข็งทื่อ ไม่ขยับต่อ ค่อยๆนั่งลง
ฮ่อฉวนสือเดินเข้าใกล้ นั่งข้างเตียงเธอ “หนานสือบอกว่าสาเหตุของอุบัติเหตุคือคนขับเมา เธอคิดยังไง?”
มือของสือฮว่ากำผ้าปูแน่น รอยยิ้มไม่ถึงขอบตา “ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะโชคร้ายขนาดนี้ นอกจากว่ามีคนอยากให้ฉันโชคร้าย”