นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1390 ห้วงนาทีนั้น
ตอนที่ 1390 ห้วงนาทีนั้น
สายลมโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
หิมะถล่มลงมาราวกับฟ้ารั่ว
ชายอ้วนบุกเข้าไปในความมืดแล้วแผดเสียงตะโกนดังลั่น ทว่าเสียงของเขาเมื่อเปรียบเทียบกับเสียงลมและหิมะแล้วนั้น มันแทบจะเทียบกันมิได้เลย
ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ถูกความมืดมิดกลืนกินเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาได้จมดิ่งลงสู่ภวังค์ของลมหิมะ
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ตัวเขาที่เป็นถึงปรมาจารย์ก็มิอาจต้านทานได้
มนุษย์เปรียบดั่งเม็ดทราย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้
บัดนี้เขาทำได้เพียงแค่นอนลงไปเท่านั้น มิเช่นนั้นเขาคงจะถูกพายุลูกนี้พัดปลิวไปเป็นแน่
พวกซูเจวี๋ยที่อยู่ท่ามกลางความมืดต่างก็ตกอยูในสภาวะถูกกระทำ
พวกเขามิอาจใช้วิชาตัวเบาได้ แม้จะคลานเพื่อหลบหนีก็ยังมิอาจทำได้เลยด้วยซ้ำ
ความมืดมิดแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ลมหิมะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่าหุ่นยนต์กลับมิได้รับผลกระทบนี้
มันหนักจนลมพายุมิอาจทำให้มันล้มลงได้
มันมีระบบที่สามารถมองเห็นได้ในยามราตรี ดังนั้นความดำมืดนี้มิอาจทำอันใดทันได้
ภายใต้สภาวะเช่นนี้ มันคือราชาที่มิอาจโค่นล่มได้ !
ความฝันที่สองนั่งอยู่บริเวณทางเข้าของฐาน
แสงสีเขียวปรากฏขึ้นบนดวงตาของนาง และท่ามกลางความมืดมิดนั้น มันยิ่งทำให้นางดูประหลาดมากขึ้น
ทันใดนั้นก็มีแสงปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง แสงนั้นเป็นจุดสีแดง จุดแล้วจุดเล่า จุดสีแดงแทนด้วยหนึ่งชีวิต
และอยู่ ๆ นางก็ร้องเพลงออกมา…
“สะพานใหญ่หน้าประตูมีเป็ดฝูงหนึ่ง รีบ ๆ มานับเถิด สองสี่หกเจ็ดแปด…”
“สิบเอ็ดตัว ! ”
นางทำปากจู๋แล้วกระพริบตาถี่ ๆ “ไอหยา ตายไปแล้วสามตัว”
จุดแสงสีแดงบนใบหน้าของนางหายไปแล้วสามจุด จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงปืนดังระรัว นั่นเป็นการโจมตีโดยการบังคับหุ่นยนต์ของอู๋เทียนซื่อ นางฉีกยิ้มร่า พลางครุ่นคิดในใจว่า…พวกมดเหล่านี้คงจะตายในอีกไม่ช้า
ทว่าเพียงแค่สามลมหายใจ อยู่ ๆ เสียงปืนก็เลือนหายไป
“อู๋เทียนซื่อกำลังทำอันใดอยู่กัน ? ”
นางขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ทันใดนั้นม่านแสงก็เปลี่ยนไปเป็นภาพด้านในของหุ่นยนต์ สายตาของความฝันที่สองเย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด
ด้านในหุ่นยนต์มีคนอยู่สองคน
แน่นอนว่าคนหนึ่งเป็นอู๋เทียนซื่อ ส่วนอีกคนหนึ่งคือหลิวจิ่น
พวกเขาทั้งสองคนต่างก็มีหน้าที่เป็นของตนเอง อู๋เทียนซื่อรับผิดชอบในส่วนของของการยิง ส่วนหลิวจิ่นรับผิดชอบขับหุ่นยนต์ เช่นนี้ถึงจะสะดวกต่อการควบคุมหุ่นยนต์ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด จะเห็นได้ว่าบัดนี้การบังคับหุ่นยนต์เกิดปัญหาขึ้นมาแล้วสิ
หลิวจิ่นกุมมือของอู๋เทียนซื่อเอาไว้แน่น
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท นั่นเป็นศิษย์ของสำนักเต๋านี่ ! ”
“ท่านปู่ของท่านอยู่ที่นั่น ! ”
“ท่านพ่อของท่านก็มาพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“พวกเขามาเพื่อช่วยท่าน กระหม่อมคิดว่า…”
หลิวจิ่นยังมิทันได้เอ่ยจนจบ อู๋เทียนซื่อก็ถีบหลิวจิ่นจนหน้าคะมำทันใด
เขาทำหน้าถมึงทึง แล้วแผดเสียงดังว่า “พวกเขาล้วนต้องตาย ! ”
“ถ้าหากพวกเขามิตาย ข้าจะกลับไปยังต้าเซี่ยได้อย่างไรกัน ? ”
“ข้ามิอยากใช้ชีวิตอยู่อย่างต่ำต้อยภายใต้เงามืดนั้น ข้าเป็นถึงองค์จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย ราษฎรในใต้หล้าล้วนแต่เป็นของข้าทั้งสิ้น ! ”
“ถ้าหาก… ข้าอนุญาตให้พวกเขาอยู่ พวกเขาถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่หากข้าอยากให้พวกเขาตาย…พวกเขาก็ต้องตาย ! ”
“ถ้าหากว่าเจ้ากล้าขัดขวางข้าแล้วล่ะก็…”
อู๋เทียนซื่อดังปืนที่เหน็บเอวออกมา จากนั้นก็เล็งไปที่หลิวจิ่น
“ฝ่าบาท… ! ”
หลิวจิ่นคุกเข่าลงกับพื้น “ฝ่าบาท กว่าต้าเซี่ยจะรุ่งเรืองได้อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พระองค์…พระองค์ทรงทำให้ราษฎรชาวต้าเซี่ยได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเถิดพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“ใต้หล้านี้มีผู้ใดบ้างที่มิตาย ? เด็กหญิงผู้นั้น นาง…นางเป็นอสุรกาย ! ”
“บ่าวคิดมาโดยตลอดว่า…นางอาจจะถูกกักขังเอาไว้ที่นี่ ถ้าหากว่าฝ่าบาทปล่อยนางออกไป เกรงว่า…เกรงว่าต้าเซี่ยคงต้องเผชิญกับมหันตภัยอย่างใหญ่หลวง ! ”
สายตาของอู๋เทียนซื่อทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เมื่อเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของหุ่นยนต์ด้วยตาของตนเองแล้ว ความชั่วร้ายที่เก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจจึงถูกปลดปล่อยออกมา
เขาเชื่อว่าเมื่อเขามีหุ่นยนต์ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว เขาจะสามารถกวาดล้างทหารของต้าเซี่ยและกลับไปกุมอำนาจได้อีกครา
เขาจะสับพวกเยี่ยนซีเหวินให้แหลกละเอียดเป็นชิ้น ๆ !
แล้วยึดเอาอำนาจจักรพรรดิมาไว้กับตน !
อยู่ ๆ สายตาของเขาก็แดงก่ำขึ้นมา เขาถือปืนเอาไว้โดยที่ไม่สั่นไหวอีกต่อไป
“เช่นนั้นหมายความว่า…สุนัขเยี่ยงเจ้าต้องการจะทรยศข้าอย่างนั้นหรือ ? ”
“ฝ่าบาท กระหม่อมมิเคยทรยศต่อพระองค์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแค่คิดว่าการก่อตั้งต้าเซี่ยมิใช่เรื่องง่าย และกว่าต้าเซี่ยจะมีทุกวันนี้ได้มิใช่เรื่องง่ายเลยพ่ะย่ะค่ะ…”
“เจ้าคิดว่าหากไม่มีเจ้า แล้วข้าจะมิอาจบังคับสิ่งนี้ได้อย่างนั้นหรือ ? ”
“เช่นนั้นเจ้าจงไปตายเสียเถิด ! ”
“ปัง… ! ”
เสียงปืนดังลั่น หลิวจิ่นเบิกตาโตแล้วค่อย ๆ ล้มลง
น้ำตาหลั่งไหลออกมาจากหางตาของเขา
เขาตายตามิหลับ
ฟู่เสี่ยวกวนใช้วิชากัศยปแสร้งตายหลบหลีกม่านแสงของความฝันที่สอง จากนั้นก็ทะยานขึ้นไปบนส่วนหัวของหุ่นยนต์
เขามองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านหน้าต่าง
หัวใจของเขาพลันจมดิ่งลงเหว
นาทีนั้นเข้ารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
และในขณะเดียวกันนั้นเอง
ชายอ้วนทะยานฝ่าลมหิมะขึ้นมาส่วนหัวของหุ่นยนต์เช่นกัน
เขาคุกเข่าลงแล้วยกปืนพกขึ้นมา อู๋เทียนซื่อที่อยู่ด้านในหอบังคับการส่งยิ้มเย้ยหยันมาให้พวกเขา
อู๋เทียนซื่อจ้องมองชายอ้วน จากนั้นก็หันหน้าไปมองฟู่เสี่ยวกวนในขณะเดียวกัน
“พวกเจ้ามิทราบถึงพลังของมันเลยสักนิด ! ”
“จงไปตายเสีย ! ”
สายตาของหุ่นยนต์เปลี่ยนทิศอย่างกะทันหัน สายตานั้นจ้องมองไปที่ฟู่เสี่ยวกวน ชายอ้วนผงะตกใจ จนต้องตะโกนออกมาว่า “รีบหลบเร็วเข้า… ! ”
จากนั้นเขาก็ลั่นไกปืนออกไป
หุ่นยนต์ตัวนั้นพ่นไฟออกมาจากดวงตา
กระสุนของชายอ้วนกระทบเข้ากับหน้าต่างในระยะประชิด จนเกิดเปลวไฟสว่างวาบ
หน้าต่างมิได้ถูกยิงจนทะลุ
ในห้วงนาทีนั้นชายอ้วนชนเข้ากับฟู่เสี่ยวกวน…
ฟู่เสี่ยวกวนถูกชนจนกระเด็น เขาปลิวไปตามแรงลมที่กำลังเกรี้ยวกราด
หลังจากนั้นไม่นานเปลวไฟก็ลามไปทั่วทั้งร่างของชายอ้วน
เขาถูกเปลวไฟแผดเผา จนตกลงมาจากส่วนหัวของหุ่นยนต์
“ท่านพ่อ… ! ”
สองตาของฟู่เสี่ยวกวนตาแดงก่ำ เขาทะยานขึ้นไปในอากาศอย่างสุดแรง จากนั้นก็แผดเสียงคำรามใส่อู๋เทียนซื่อที่อยู่ข้างในหอบังคับการ “พวกข้าอุตส่าห์มาช่วยเหลือเจ้า แต่มิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะเกินเยียวยาเช่นนี้ ! ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ”
อู๋เทียนซื่อหัวเราะเสียงดังลั่น ทว่าจากนั้นเขาก็หยุดหัวเราะทันควัน “ข้าเกลียดท่าทางจอมปลอมของท่านยิ่งนัก ! ”
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด ! ”
สายตาของหุ่นยนต์จดจ้องไปที่ฟู่เสี่ยวกวน และทันใดนั้นเอง…
บนยอดภูเขาหิมะลูกนั้น สวีหยุนชิงยืนอยู่บนนั้น พลางเงยหน้ามองท้องนภาอัดมืดมิด
ยามที่หุ่นยนต์พ่นไฟออกมา น้ำตาได้หลั่งรินลงมาจากหางตาของนาง
ดังนั้นนางจึงยกสองมือขึ้นมา ท่ามกลางท้องนภายามราตรี มีดาวเทียมดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมา
นางสะบัดมือ ทันใดนั้นพิกัดของหุ่นยนต์ก็ถูกส่งไปยังดาวเทียมแห่งนั้น
ขีปนาวุธลูกหนึ่งถล่มลงมาจากท้องนภา
นี่ยังไม่พอ
เพราะนางต้องการพิกัดของความฝันที่สองเพื่อการโจมตีที่แม่นยำขึ้น
ฟู่เสี่ยวกวนทะยานขึ้นไปบนอากาศ
หุ่นยนต์ปล่อยลำแสงออกมาอีกครา
แสงนั้น สว่างไปทั่วทั้งฐาน สว่างจ้าจนฟู่เสี่ยวกวนที่กลางอากาศ มองเห็นหญิงสาวนั่งแสยะยิ้มอยู่หน้าประตูฐาน
หลังจากที่เกิดแสงสว่างจ้าเมื่อครู่แล้ว พายุก็โหมกระหน่ำอีกครา ฟู่เสี่ยวกวนทะยานขึ้นไปสูงกว่าเดิม เพื่อหลบหนีจากเปลวไฟ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังประตูของฐานนิวเคลียร์
ความฝันที่สองขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น หลังจากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นมา
นางจ้องมองท้องนภายามราตรี เห็นขีปนาวุธพุ่งโฉบมาอย่างเร็วไว
“หนี่วา… แท้จริงแล้วเจ้าต่างหากถึงจะเป็นผู้พิทักษ์ตัวจริง ! ”
ทันใดนั้นสายตาของนางก็ส่งลำแสงสีน้ำเงินออกมา
สวีหยุนชิงที่ยืนอยู่บนยอดภูเขาหิมะ ส่งคำสั่งไปยังดาวเทียมอีกครา
ร่างของฟู่เสี่ยวกวนปลิวว่อนไปตามแรงลม
ห้วงนาทีที่เขาตั้งตัวได้ เขาเหนี่ยวไกปืนเล็งเป้าไปที่ลำแสงสีน้ำเงิน จากนั้นก็ยิงออกไปทันใด !