นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1160 โจมตีพวกมัน !
ตอนที่ 1160 โจมตีพวกมัน !
คำสั่งถอนทัพอย่างเร่งด่วนที่เพิ่งส่งออกมาจากพระราชวัง ย่อมตามมิทันกองทัพของอัลดูล่าที่กำลังเดินทัพอย่างฮึกเหิมและบ้าคลั่งอยู่บนที่ราบอาลันล่า
เมื่อรายงานถูกส่งมาถึงมือของอัลดูล่า กองทัพของเขาก็ได้แยกออกเป็นสามส่วนเพื่อบุกลงไปในหุบเขาลั่วหลาง
สองในสามส่วนได้ข้ามเทือกเขาไปอีกฝั่งเรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งส่วนใช้เส้นทางตรงกลาง บัดนี้กำลังปะทะกันอย่างดุเดือดที่หุบเขาลั่วหลาง
กองทัพ 30,000 นายของแคว้นซ่างหลัว มิใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของกองทัพอัลดูล่า พวกเขาถูกตีจนแตกพ่ายอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน รายงานขอความช่วยเหลือก็ถูกส่งถึงมือจักรพรรดิแคว้นซ่างหลัวแล้วเช่นกัน
โดฮาจักรพรรดิแคว้นซ่างหลัวพอทราบข่าวก็ตกตะลึงเสียจนนิ่งค้าง จากนั้นก็เรียกให้เสนาบดีทั้งหลายมารวมตัวกันอย่างเร่งด่วน ทว่าหลังจากที่หารือกันอยู่พักใหญ่ พวกเขาก็ยังคงอับจนหนทาง เพราะกองทัพที่มีก็ถูกฝูหล่างจีรุกรานจนมิเหลือแล้ว
แล้วจะเอาอันใดไปสู้กับแคว้นซูเฟิงได้เล่า ?
เหตุใดแคว้นซูเฟิงถึงกล้าฉีกข้อตกลงเล่า ในข้อตกลงระบุไว้ว่าจะมิบุกรุกเข้ามายังที่ราบอาลันล่านี่
“ฝ่าบาท…ประชากรที่อยู่อาศัย ณ ที่ราบอาลันล่าของแคว้นเรามีเพียงแค่สิบกว่าครัวเรือนเท่านั้น ที่นั่นเดิมทีก็อยู่ในปากของแคว้นซูเฟิงที่จ้องจะเขมือบอยู่แล้ว หากแคว้นซูเฟิงปิดปากลงเมื่อใด ที่ราบอาลันล่าก็คงจะถูกเขาบดขยี้จนแหลกเมื่อนั้น”
“กระหม่อมขอเอ่ยบางอย่างที่มิบังควร การอพยพคนไปยังที่ราบอาลันล่า…มิต่างอันใดกับการโยนเนื้อเข้าปากเสือเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“แคว้นซ่างหลัวของเรานั้นอ่อนแอ พวกเรามิมีความสามารถที่จะป้องกันอาณาเขตตรงนั้นได้ กระหม่อมรู้ดีว่าสถานที่แห่งนั้นคือผืนปฐพีที่อุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่ไพศาล ทว่าฝ่าบาททรงดำริดูเถิด ในขณะเดียวกันที่นั่นก็เป็นดั่งหลุมลึกที่มิมีวันหยั่งถึงก้นหลุม ! ”
“หากแคว้นซูเฟิงมิยึดครองที่นั่น แล้วปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป แคว้นซ่างหลัวก็จะล้มลงเข้าสักวัน หากต้องเฉือนเนื้อตนเองเช่นนี้ต่อไป สู้ส่งมอบที่ราบอาลันล่าให้กับแคว้นซูเฟิงมิดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ ! ”
คนที่ออกความเห็นคือเบอร์นีย์เสนาบดีคนหนึ่ง เมื่อสิ้นเสียงของเขาท้องพระโรงก็บังเกิดความเงียบขึ้นมาทันใด
เสนาบดีหลายคนเห็นพ้องต้องกันกับเขา แคว้นซูเฟิงซุ่มมองที่ราบอาลันล่ามาช้านานแล้ว ในอดีตพวกเขาก็เคยบุกมาแล้วคราหนึ่ง บัดนี้แคว้นซูเฟิงได้นำม้ามาเลี้ยงบนที่ราบอาลันล่า ประชากรที่อาศัยอยู่ ณ ที่ราบอาลันล่าต่างก็รู้ดี ทว่าก็จนปัญญาที่จะแย่งชิงพื้นที่กลับมา
“กระหม่อมคิดว่า ช่างเหมาะเจาะที่ราชทูตยังคงพำนักอยู่ที่นี่ หรือว่า…ฝ่าบาทจะทรงเรียกเดสมาเข้าเฝ้าดีหรือไม่พะยะค่ะ สั่งให้แคว้นซูเฟิงถอนทัพ จากนั้นก็แบ่งที่ราบอาลันล่าให้แคว้นซูเฟิงไป เพื่อร้องขอสัมพันธไมตรีที่ดีของทั้งสองแคว้น ! ”
โดฮาสูดหายใจเข้าลึก เฮ้อ…ช่างน่าอดสูเสียเหลือเกิน !
นี่คือความอัปยศอดสูเกินกว่าที่จะแบกรับไหว !
ทว่าเขาจะทำอันใดได้อีกกัน ?
อ้อ…จริงสิ ! ดวงตาของโดฮาส่องประกายออกมาราวกับคิดอันใดบางอย่างออกแล้ว จักรพรรดิต้าเซี่ยยังคงประทับอยู่ในพระราชวังเช่นกัน ซ่างหลัวเป็นอาณานิคมของต้าเซี่ย เมื่อซ่างหลัวต้องเผชิญหน้ากับความลำบาก ถือโอกาสทดสอบกันสักหน่อยว่าจักรพรรดิต้าเซี่ยจะมีน้ำใจช่วยเหลือแคว้นซ่างหลัวหรือไม่ !
“เรื่องนี้ค่อยหารือกันใหม่ เลิกประชุม ! ”
เหล่าเสนาบดีต่างก็ชะงักงัน เพราะหากล่าช้าไปเพียง 1 ชั่วยาม นั่นหมายถึงการที่ทหารของแคว้นซูเฟิงจะลงมือจัดการกับทหารของแคว้นซ่างหลัวมากขึ้น ถ้าหากพวกเขาทำลายกองทัพที่ปักหลักอยู่ที่หุบเขาลั่วหลางจนแตกพ่าย แล้วมุ่งทัพมาทางใต้ต่อล่ะก็…
“ฝ่าบาท ควรจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม มิเช่นนั้นไฟจะลามทุ่งนะพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“ฝ่าบาท ซ่างหลัวอาจจะตกอยู่ในอันตราย ! ”
โดฮามิแยแสคำอ้อนวอนของเหล่าเสนาบดี เขาออกเดินทางจากท้องพระโรงแล้วเร่งรีบไปยังวังหลังทันที
ฟู่เสี่ยวกวนพำนักอยู่ในตำหนักจิ้งฮวาในส่วนของวังหลัง บัดนี้เขากำลังนั่งอยู่ในศาลาริมน้ำและกำลังอ่านรายงานที่เฮ้อซานเตาส่งมาให้
“ภูเขาทองคำสามลูก…เป็นภูเขาทองคำสามลูกจริง ๆ ด้วยพ่ะย่ะค่ะ ! ”
“หลิวจิ่น”
“พ่ะย่ะค่ะ ! ”
“เจ้าจงไปเรียกถังเชียนจวินและหยุนซีเหยียนมาพบข้า”
“น้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ! ”
หลิวจิ่นวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ฟู่เสี่ยวกวนวางรายงานที่อยู่ในมือลง สองมือไขว้หลังพลางเดินวกไปวนมาอยู่บนศาลาริมน้ำ เขาหันไปมองหยุนซีเหยียนแล้วโพล่งถามออกมา “ข้าชักอยากจะกินไก่ย่างที่เมืองกวนหยุนขึ้นมาแล้วล่ะสิ”
หนิงซือเหยียนชะงักงันพลางเบ้ปาก “ข้าก็อยากกินเช่นกัน ! ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ” ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะร่า ทันใดนั้นความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจ
มิรู้ว่าภูเขาทองคำสามลูกนี้จะมีจริงเหมือนที่เฮ้อซานเตาบอกเล่าหรือไม่ หากว่าเป็นเรื่องจริง…ถือเป็นทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว !
ที่ออกทะเลครานี้ก็เพื่อกอบโกยทรัพยากรมิใช่หรอกหรือ ?
ถ้าหากขนย้ายภูเขาทองคำทั้งสามลูกนั้นไปที่ต้าเซี่ย ต้าเซี่ยคงจะร่ำรวยมั่งคั่งจนมิอาจมีแคว้นใดเทียบเคียงได้เป็นแน่
เมื่อมีทุนทรัพย์ หลายสิ่งหลายอย่างก็คงลงมือทำได้เร็วมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการปฏิรูปทางการศึกษา การแบ่งการศึกษาทั้งสามระดับให้ย่อยลงไปอีก เปิดสถานศึกษาระดับประถมและมัธยมกระจายทั่วทั้งต้าเซี่ย เปิดมหาวิทยาลัยประจำเมืองใหญ่ และเปิดศูนย์วิจัยทั่วทุกจังหวัด
แม่น้ำที่ถูกทิ้งร้างในอดีต ณ ว่อเฟิงเต้าหรือจิงซีเป่ยเต้าในปังจจุบันจะได้กลับไปขุดขยายขนานใหญ่อีกครา
เมืองฉางอันที่จิงซีเป่ยเต้า…คาดว่าฉินโม่เหวินคงวางรากฐานไว้อย่างดีแล้ว
ครานี้เมืองหลวงของต้าเซี่ยจะได้ย้ายจากเมืองกวนหยุนไปยังเมืองฉางอันเสียที ฟู่เสี่ยวกวนคิดถึงเรื่องการย้ายเมืองหลวงอยู่เนิ่นนาน ปัญหามิได้อยู่ที่ขาดทุนทรัพย์ แท้ที่จริงการวางเมืองหลวงของต้าเซี่ยเอาไว้ที่เมืองกวนหยุนนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากยิ่งนัก เพราะที่นั่นติดทะเลและยังอยู่ใกล้แม่น้ำแยงซีอีกด้วย มิว่าจะเป็นในด้านของการคมนาคมหรือจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการรบต่างก็ยอดเยี่ยมยิ่ง
แต่ติดตรงที่ว่า !
เขายังมิรู้ว่ามีอันตรายอันใดซ่อนอยู่ในหอเทียนจีชั้นที่สิบแปดกันแน่ !
หลังจากที่ย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองฉางอันแล้ว ประชากรเมืองกวนหยุนย่อมลดน้อยลงอย่างฉับพลัน หากในหอเทียนจีชั้นสิบแปดมีอันตรายใด ๆ ที่ยากเกินกว่าจะคาดเดาได้ มันย่อมมีความสูญเสียตามมาเป็นแน่
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะย้ายเมืองหลวง !
โดยเฉพาะหลังจากที่มีทองคำจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ
อีกอย่าง ถ้าหากมีทองคำเหล่านี้คอยเป็นทุนทรัพย์ โครงข่ายของการคมนาคมก็จะได้รับการปรับปรุงและขยายใหญ่ขึ้น
แต่ละหมู่บ้านจะถูกเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ ทางหลวงท้องถิ่นจะขยายไปถึงทุกครัวเรือน!
รถไฟของต้าเซี่ยก็ต้องรีบขยายให้เชื่อมแต่ละพื้นที่โดยเร็วที่สุด ต้องกำหนดแผนการเดินรถไฟอย่างแน่ชัด ทางรถไฟจะต้องมิกระจุกอยู่ภายในแคว้นเท่านั้น ต้องรังวัดตรวจสอบรางรถไฟไปยังแคว้นข้างเคียงด้วย หลังจากนั้นค่อยลงมือขยายรางรถไฟ !
ในด้านของความเป็นอยู่ของราษฎร ระบบการศึกษา การรักษาพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุจำต้องก้าวข้ามไปอีกขั้น นโยบายให้ราษฎรเข้าถึงการรักษาพยาบาลโดยมิมีค่าใช่จ่ายจะได้ถูกนำไปใช้เสียที การเข้าถึงการศึกษาแบบมิมีค่าใช้จ่ายจะครอบคลุมไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ราษฎรมิจำเป็นต้องเสียค่าเล่าเรียนแม้แต่อีแปะเดียว
เอ่ยโดยสรุปก็คือ หากมีภูเขาทองคำสามลูกนั้นคอยสนับสนุน ด้านการทหาร ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการรักษาพยาบาลและอื่น ๆ ล้วนถูกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
โครงร่างแผนพัฒนาระยะห้าปีฉบับที่สอง…ฉบับที่เคยร่างเอาไว้ บัดนี้ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องหยุมหยิมเสียแล้วสิ จำต้องแก้ไขใหม่ทั้งฉบับเสียแล้ว
ในขณะที่ฟู่เสี่ยวกวนกำลังวางแผนว่าจะใช้ทองคำมูลค่ามหาศาลนั้นอย่างไร โดฮาจักรพรรดิแห่งแคว้นซ่างหลัวก็ได้วิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“ฝ่าบาท ! ” โดฮาโค้งกายคารวะ “ข้าน้อยมีเรื่องจะร้องขอต่อฝ่าบาท แคว้นซูเฟิง…ได้รุกรานเข้ามาถึงอาณาเขตของแคว้นซ่างหลัวแล้ว ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนผงะตกใจ เขาคิดว่า…เมื่อข่าวการกำจัดแคว้นเทียนเย่าด้วยกำลังพล 3,000 นายของเฮ้อซานเตาแพร่กระจายออกไป ถึงตอนนั้นหากแคว้นซูเฟิงจะเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อตนก็ยังมิสาย ทว่าเรื่องกลับผิดคาด เขากล้าที่จะบุกรุกแคว้นซ่างหลัวเยี่ยงนั้นหรือ ?
จักรพรรดิของแคว้นซูเฟิงเพิ่งส่งราชทูตมาสานสัมพันธไมตรีอยู่หยก ๆ มิใช่หรือ ?
หรือว่าพวกเขาจะแสดงละครตบตาข้ากัน ?
แคว้นซ่างหลัวเป็นน้องเล็กของต้าเซี่ย บัดนี้น้องเล็กถูกสหายรังแก เขาในฐานะพี่ใหญ่ก็ต้องหาทางเอาคืนให้จงได้ มิเช่นนั้นก็มิรู้ว่าจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ใด
“พวกเขามาจากทิศทางใด ? ”
“มาจากที่ราบอาลันล่าขอรับ ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเริ่มมิพอใจขึ้นมา ข้าเพิ่งสั่งให้อพยพผู้คนไปอาศัยอยู่บนที่ราบอาลันล่า นี่ยังมิทันได้อพยพคนเข้าไป พวกเจ้าก็กล้ารุกล้ำเข้ามาแล้วเยี่ยงนั้นหรือ… พวกเจ้ารนหาที่ตายเยี่ยงนั้นหรือ !
ตอนนั้นเองที่ถังเชียนจวินและหยุนซีเหยียนเดินเข้ามาพอดิบพอดี
“เชียนจวิน เจ้าจงส่งกองทหารของหวงจินเย่ 3,000 นายไปยังที่ราบอาลันล่า กำจัด ! ข้าขอย้ำว่ากำจัด ! กำจัดผู้บุกรุกจากแคว้นซูเฟิงให้สิ้นซาก จากนั้นค่อยข้ามเทือกเขาพีเรียเข้าไปโจมตีแคว้นซูเฟิง ! ”
“โจมตีจนกระทั่งพวกมันจะประกาศยอมแพ้ ! ”