นางร้ายกับนัยน์ตาทั้งสิบสอง: ชาตินี้เจ้าต้องตายด้วยน้ำมือของข้า - ตอนที่ 1 ตัดสิน
“เซลีน่า โรเซนเบิร์ก บัดนี้ ข้าจะยกเลิกการหมั้นหมายกับเจ้า!”
ในเหตุการณ์ที่น่าจดจำซึ่งเรียกว่างานเลี้ยงจบการศึกษาของสถาบัน ข้าถูกเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดผู้เป็นมกุฎราชกุมารประกาศถอนหมั้น น้ำเสียงนั้นช่างเย็นชา ไม่มีซึ่งความเมตตาต่อข้าเลยแม้แต่น้อย
ข้ารู้สึกถึงใบหน้าที่เริ่มซีดและปลายนิ้วเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ
งานเลี้ยงจบการศึกษาของสถาบันโรสวูดซึ่งเป็นสถานศึกษาของราชวงศ์และขุนนางควรจะเป็นเวทีในการเปิดตัวสู่สังคม แต่บรรยากาศอันครึกครื้นกลับเงียบสงัดลงในขณะนี้
“ทำไม ทำไมหรือเพคะ องค์ชายเอ็ดเวิร์ด หม่อมฉันทำอะไรผิดไปหรือเพคะ”
ข้าเรียกชื่อคู่หมั้นด้วยความสิ้นหวัง แม้จะเป็นการหมั้นหมายที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน แต่ข้าก็ใฝ่ฝันถึงท่านเอ็ดเวิร์ดมาโดยตลอด
“ถามว่าทำอะไรงั้นเหรอ”
แต่สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าอันสง่างามของท่านเอ็ดเวิร์ดกลับเต็มไปด้วยการเหยียดหยามดูแคลน
“เซลีน่า เจ้าทำเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ กับเอเลนอร์มาโดยตลอด คิดว่าเราไม่รู้เหรอ”
เอเลนอร์ หญิงไร้ค่าจากตระกูลขุนนางชั้นต่ำ “นักบุญ” น่ารำคาญที่แค่ใช้เวทแสงได้นิดหน่อย
ข้ามองไปรอบ ๆ เพื่อหาตัวเอเลนอร์ แล้วพบว่าหล่อนอยู่หลังท่านเอ็ดเวิร์ดและมีเพื่อนนักเรียนหลายคนกำลังห้อมล้อมราวกับปกป้องนางอยู่
สีหน้าที่มองเห็นได้เพียงเล็กน้อยนั้น กำลังฉายความเศร้าโศกเสียใจ
“เพราะเอเลนอร์น่ะ! ยัยผู้หญิงคนนั้นน่ะ ทำให้ฝ่าบาทลุ่มหลงยังไงล่ะเพคะ! แม้ฝ่าบาทจะทรงมีหม่อมฉันเป็นคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่นางก็พยายามดึงดูดความสนใจของฝ่าบาท หม่อมฉันก็เลย…”
ใช่ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ในฐานะคู่หมั้นและบุตรสาวตระกูลดยุก ข้าแค่มอบสิ่งที่บุตรสาวตระกูลขุนนางชั้นต่ำที่ทำตัวล้ำเส้นสมควรได้รับก็เท่านั้น ข้าทำอะไรผิดไปตรงไหนหรือ
“เซลีน่า จริงอยู่ที่เอเลนอร์เป็นผู้หญิงยอดเยี่ยม อาจมีบางครั้งที่ข้าหลงใหลนาง แต่ขอสาบานว่าระหว่างข้ากับนางมันไม่มีอะไรเลย นางรู้จักส่วนของตัวเอง และข้าก็ไม่เคยลืมว่ามีเจ้าเป็นคู่หมั้น แต่เจ้ากลับระแวงไปเองแล้วมาทำเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ต่อเอเลนอร์ ต่อ “นักบุญ” ผู้ควรเป็นสมบัติของประเทศ หลักฐานมีอยู่ครบถ้วนแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้อภัยเรื่องนี้เด็ดขาด ทั้งในฐานะเจ้าชายของประเทศนี้และในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง”
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง… มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้จริง ๆ ความรู้สึกของท่านเอ็ดเวิร์ดได้ออกห่างจากข้าและหันไปหาเอเลนอร์แล้ว
“ข้าแค่ทำในสิ่งที่บุตรสาวตระกูลดยุกควรทำ! ทุกท่านก็คิดเช่นนั้นไม่ใช่เหรอ”
ข้ามองไปรอบ ๆ ข้าสร้างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นกับเพื่อนนักเรียนมากมายหลายคนตลอดการศึกษาในฐานะบุตรสาวตระกูลดยุก ต่างจากบุตรสาวตระกูลขุนนางชั้นต่ำที่เพิ่งโผล่มา เพื่อนนักเรียนส่วนใหญ่ในสถาบันควรจะอยู่ข้างข้า
ทว่า……
สายตาของผู้คนรอบข้างนั้นช่างเย็นชา เมื่อข้าพยายามสบตา ทุกคนก็หลบตากันหมด รวมถึงคนที่เคยมาฟ้องข้าว่า ‘เอเลนอร์ตั้งใจจะแย่งท่านเอ็ดเวิร์ดไปจากท่านเซลีน่าค่ะ!’ ด้วย
ไม่มีใครอยู่ข้างข้าเลยแม้แต่คนเดียว เหล่าคนที่เคยสนิทสนมกับข้าจนถึงเมื่อวาน ต่างก็หลบสายตาด้วยท่าทางอึดอัด
แม้แต่เหล่าผู้ติดตามก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด จึงพยายามตีตัวออกหากจากข้าเล็กน้อย
“บรรดาเพื่อนนักเรียนของเจ้าเองก็รู้ซึ้งถึงบาปของเจ้าดี ช่างน่าสมเพชที่ไม่มีผู้ใดปกป้องเจ้าเลยแม้แต่คนเดียว”
ท่านเอ็ดเวิร์ดทรงสั่งการทหารรักษาการณ์แล้วก็ทรงหันหลังกลับไปทั้งอย่างนั้น
“ท่านเอ็ดเวิร์ดเพคะ!”
ต่อให้ข้าจะร้องไห้คร่ำครวญเพียงใด ท่านเอ็ดเวิร์ดก็ทรงไม่เหลียวหลังกลับมามอง
จากนั้นข้าก็ถูกทหารรักษาการณ์ลากออกจากงานเลี้ยง
──
ข้าถูกองค์ราชาตัดสินประหารชีวิต
การล้อเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ข้าทำกับนักบุญถูกกล่าวเกินจริงไปมาก
ข้าเพียงโยนกระถางต้นไม้ลงมาจากชั้น 2 ใส่หัวเอเลนอร์ ผสมยาลงในชาแล้วพยายามให้นางดื่ม จ้างโจรเพื่อลักพาตัว พยายามให้รถม้าวิ่งชนนางโดยจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ และให้นักฆ่าลอบสังหารนางก็เท่านั้น!
แต่ทั้งหมดมันล้มเหลว ดังนั้นข้าควรจะไร้ความผิด ไม่ใช่ถูกตัดสินอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้ พระเจ้าได้ตายไปแล้ว
ข้าถูกสั่งประหารชีวิตด้วยการใช้ยาพิษ ว่ากันว่าเป็นความเมตตาที่ข้าไม่ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเพราะข้ามีฐานะสูง แต่แน่นอนว่าจะด้วยการแขวนคอหรือยาพิษ ข้าก็ไม่อยากตาย
ข้าถูกบังคับให้ดื่มไวน์ที่ผสมยาพิษ แน่นอนว่าข้าขัดขืนเพราะข้าไม่มีความผิดยังไงล่ะ
ทว่าข้าถูกมัดมือมัดเท้าและถูกบีบจมูก ทันทีที่ข้าอ้าปากเพราะหายใจไม่ออก พวกเขาก็กรอกไวน์ลงมาโดยที่ข้าไม่เต็มใจ ไวน์ที่ผ่านลิ้นลงมาในคอโดยตรงไม่ได้รสชาติแย่และไม่ได้อร่อยเช่นกัน จากนั้นสติก็ค่อย ๆ เลือนราง
ระหว่างที่ความทรงจำตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันผุดขึ้นมาในสมอง ข้าก็ได้ทำการทบทวนอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่ข้าขาดไป ก็คือลูกน้องที่มีความสามารถนั่นเอง