นางบำเรอเติมใจ - ตอนที่ 4
หทัยรัตน์ต้องถอนหายใจให้กับเพื่อน ไม่รู้คิดยังไงถึงอยากจะทำงานนี้ มันเป็นความผิดของเธอใช่ไหมที่เอารูปผู้ชายคนนี้ให้เพื่อนดู
“เป็นอะไร” กรวิทย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นหญิงสาวนั่งถอนหายใจมองโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“เพื่อนหวานอยากทำงานนี้” เธอไม่มีอะไรต้องปิดเขา ในเมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องที่เขาวานให้เธอทำ
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
“มันก็ถูกแล้วหนิ เพราะฉันบอกให้เธอหาให้”
“แต่คนนี้เพื่อนสนิทหวานค่ะ ไม่ใช่เด็กเสี่ยที่ไหน”
“เขาเดือดร้อน” กรวิทย์เข้าใจทันทีว่าทำไมเธอถึงทำหน้าคิดมากขนาดนั้น
“ไม่ค่ะ ถ้ามันเดือดร้อนจริงๆ หวานจะไม่ห้ามเลย แต่นี่มันเป็นพวกที่คลั่งไคล้ฝรั่งหล่อ หวานไม่น่าส่งรูปไปอวดมันเลย”
“ฉันลืมบอกเธอไปรึเปล่าว่าเรื่องนี้ให้เก็บเป็นความลับ” หน้าหวานซีดลงทันทีที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“คุณกร หวานขอโทษค่ะ หวานไม่รู้ หวานจะบอกเพื่อนให้ปิดปากเงียบไม่ให้พูดเรื่องนี้เด็ดขาด” มันเป็นเพราะความอยากอวดของเธอแท้ๆ ทำให้ไม่คิดหน้าคิดหลังว่าเรื่องแบบนี้ต้องปิดเป็นความลับ
“ช่างเถอะ ถ้าเพื่อนเธอจะทำก็ให้เขามาพรุ่งนี้เลย จะได้เตรียมตัว”
“แต่หวานไม่อยากให้เพื่อนทำ เพื่อนหวานไม่ใช่คนแบบหวาน” เธอพูดด้วยสีหน้าที่คิดหนักจริงๆ กลัวว่าเพื่อนจะทำจริงๆ
กรวิทย์เลิกคิ้วมองคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่บนเตียง
“ผู้หญิงแบบเธอ”
“ก็เด็กเสี่ยไงคะ” ทำไมเขาต้องให้เธออธิบายขยายความในเมื่อรู้อยู่แก่ใจ
“เธอไม่เห็นเคยเรียกฉันว่าเสี่ยสักครั้ง” กรวิทย์นึกอยากตีรวนคนที่ดูถูกตัวเอง
“คุณกรอยากให้หวานเรียกแบบนั้นเหรอคะ” เธอไม่เคยเรียกเขาว่าเสี่ยสักครั้ง จะมีเรียกก็ตอนที่คุยกับเพื่อนเท่านั้น
“คงแก่น่าดู”
“แล้วตอนนี้เสี่ยกรไม่แก่เหรอคะ” หทัยรัตน์พูดยิ้มๆ กับเขา ในเมื่อเขาอยากรวนเธอ เธอก็รวนเขากลับบ้าง บางครั้งเธอก็กลัวเขา บางครั้งก็ไม่กลัว อยู่ด้วยกันมาหกเดือนเธอก็พยายามเรียนรู้นิสัยของเขา ตอนไหนควรพูดเล่นตอนไหนไม่ควร เหมือนอย่างตอนนี้
“อยากพิสูจน์ไหมล่ะ” ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาแพรวพราว จนหทัยรัตน์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ใกล้ถึงเวลาทำงานของเธอแล้วสินะ
เด็กเสี่ยจะมีอะไรมาก นอกจากนางบำเรอบนเตียง
“อยากจะแย่ค่ะ ขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอเองก็ไม่น้อยหน้าในเมื่อเขายั่วมา เธอก็ยั่วกลับ มันเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว ร่างบางเดินนวยนาดเข้าไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้ออกมาทำหน้าที่ของตน
ทางด้านคนที่กำลังมองดูรูปผู้ชายในฝัน เธอกำลังคิดหนักว่าควรตัดสินใจยังไง เพื่อนเธออาจคิดว่าเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่คิดจะทำอะไรแบบนี้ แต่หัวใจเธอเต้นแรงตั้งแต่เห็นภาพเขาครั้งแรก และยิ่งเต้นแรงขึ้นไปอีกเมื่อเพื่อนบอกว่าเขามาที่ประเทศไทย
มันเป็นโอกาสของเธอที่จะได้ใกล้ชิดชายในฝัน ถึงมันจะชั่วคราว เธอก็อยากลอง แค่คิดว่ามีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างกายเข้าเธอก็กระวนกระวายใจจะแย่ ทั้งที่มีโอกาสแต่เธอก็ไม่คว้าไว้ มันน่าเสียดายนะว่าไหม
ปลายฝน : หวานฉันจะทำ ส่งที่อยู่มาให้ฉันเลยฉันจะไปหาแกพรุ่งนี้
เธอส่งข้อความไปบอกเพื่อนโดยไม่รอให้ถึงพรุ่งนี้
การตัดสินใจครั้งนี้มันอาจเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอด แต่ให้เธอทำไงได้ เธอก็เป็นซะแบบนี้คิดจะชอบคิดจะตัดสินใจยังไงแล้วก็แน่วแน่ ไม่เปลี่ยนความคิดง่ายๆ
เธอยังคิดไม่ออกเลยว่าแฟนในอนาคตของตัวเองจะเป็นยังไงในเมื่อเธอคลั่งไคล้หนุ่มตาน้ำข้าวขนาดนี้ เธอไม่เหลียวแลหนุ่มไทย
ในเมื่อมีของนอกมาให้กินถึงถิ่นเธอก็ไม่อยากพลาด
บางครั้งพิรุณรักก็ตกใจกับความคิดของตัวเอง ถึงกล้าคิดกล้าทำอะไรแบบนี้ได้
แต่ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ แกริค ซีคีเลียโน เธอจะทำไหม เธอก็พูดได้เต็มปากเลยว่าไม่ เป็นเพราะเขาคนนั้นคือ แกริค ซีคีเลียโน เธอถึงอยากทำ อยากลองใกล้ชิดคนที่อยู่เกินเอื้อม แม้เธอฝันถึงเธอก็ไม่กล้า เพราะเขาอยู่สูงกว่าเธอมาก
หวาน : ปลายฉันไม่อยากให้แกทำ
ปลายฝน : แต่ฉันชอบเขา ชอบมาตั้งนานแล้ว ฉันคลั่งเขาที่สุด ฉันไม่เสียใจหรอกน๊า ไม่ต้องเป็นห่วง
เอมมี่ : ให้มันเถอะหวาน ซิงยังไงมันก็ต้องเสีย มันพูดขนาดนี้แล้วแกจะขัดใจเพื่อนเหรอ ถ้ามันเสียใจก็แค่นั่งปลอบ
หวาน : เฮ้อ ตามใจ
หวาน : (ส่งโลเคชั่น)
หวาน : แกมาด้วยไหมเอมมี่ มาเป็นเพื่อนมันหน่อย
เอมมี่ : ฉันไม่ว่าง มีนัดกับแม่ แล้วถ้าฉันไปใครจะจดเลคเชอร์ให้พวกแก
ปลายฝน : ฉันไปได้ไม่ต้องห่วง เจอกันพรุ่งนี้
“ยัยปลาย” หทัยรัตน์ตะโกนเรียกเพื่อนพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้ เมื่อเพื่อนเธอตัดสินใจว่าอยากทำเธอก็บอกกรวิทย์ว่าเธอได้คนแล้วและรับรองกับเขาว่าคนนี้สะอาดชัว
เธอก็เอารูปเพื่อนเธอให้เขาดู เขาก็บอกว่าผ่านตอนเช้ามาเขาก็ส่งรถไปรับพิรุณรักที่สนามบิน
“ไงแก”
“แน่ใจใช่ไหม ฉันล่ะอยากมีเครื่องลบความจำ จะได้ลบความจำความคิดของแกให้เลิกคลั่งฝรั่ง”
“ก็เพื่อนชอบ”
“ชิ เออนี่ลืมไปเลย นี่คุณกร ก็..นั่นแหละ” หทัยรัตน์หันไปแนะหนุ่มชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างตัวเอง คุยกับเพื่อนจนลืมไปเลยว่าเขายืนอยู่
ซึ่งกรวิทย์ก็สำรวจหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินเข้ามา ตัวเล็ก ไม่ผอม ไม่อ้วน หน้าสวย ใช้ได้
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ ไปพักก่อนดีกว่าฉันให้คนจัดห้องไว้ให้แล้ว ตอนเย็นจะให้หวานไปเรียก ถ้าจะสั่งอาหารก็สั่งได้เลยนะหรือไม่ก็ลงมากินที่ห้องอาหารได้เลย”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“คุณกรค่ะ หวานอยากคุยกับเพื่อน” หทัยรัตน์อยากอยู่กับพิรุณรักมากกว่าตอนนี้ อยากเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนยอมเปลี่ยนใจ
“อืม ไปเถอะ ฉันก็จะไปทำงานเหมือนกัน”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าอยากให้หวานไปหาตอนไหนก็โทรเรียกได้นะคะ หวานจะอยู่กับปลายไม่ไปไหน”
เมื่อแยกจากกันสองสาวก็พากันขึ้นห้อง ฝ่ายชายหนุ่มก็ตรงไปยังห้องอาหารที่มีคนรอท่าเขาอยู่ก่อนแล้ว
“มาทานข้าวด้วยกันสิกร”
“ครับ” เมื่อได้รับคำเชิญกรวิทย์ก็ไม่ปฏิเสธ ทั้งสองคนนั่งทานข้าวเงียบๆ จนอิ่ม
“ตอนเย็นเจอกันหน่อยนะ”
“ได้ครับ”
“ฉันไปล่ะ” แกริคเดินออกไปจากห้องอาหารเพื่อไปเจรจาธุรกิจ การมาที่ประเทศไทยครั้งนี้ถือว่าเป็นการมาพักผ่อนในรอบหลายปีของเขา
“คุณต้องการอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทของแกริคเอ่ยถาม