นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 54
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บนภูเขาที่เต็มไปด้วยดวงดาวและไร้ผู้คน
“ดาวตกค่ะนายน้อย…อธิษฐานค่ะ”
เดมอนมองผู้หญิงที่รีบผุดลุกขึ้นนั่งเอามือประสานกันที่หน้าอกและหลับตาขยับปากขมุบขมิบด้วยความรัก รอจนเจ้าหล่อนลืมตาและล้มตัวลงมานอนข้างๆ ใหม่อีกครั้ง จึงเอ่ยถาม
“เธออธิษฐานอะไรเหรอแพตตี้”
“เป็นความลับค่ะ” เจ้าหล่อนฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะหัวเราะคิก เมื่อถูกคนตัวโตพลิกตัวขึ้นทาบทับและบดจูบลงมาหาเนิ่นนาน
“ถ้าไม่บอกจะจูบแบบนี้ทั้งวันทั้งคืน”
เขาข่มขู่ แต่ทำไมหล่อนถึงรู้สึกกระสันซ่านแบบนี้นะ อาจเป็นเพราะเจ้าท่อนชายแข็งชันที่กำลังดุนดันอยู่ที่หน้าท้องก็เป็นได้ แค่คิดว่าจะได้กลืนกินมันเข้ามาในร่างกายอีก ก็เสียวซ่านร้อนฉ่าแล้ว
“งั้นก็ยิ่งไม่บอกหรอกค่ะ อุ๊ย”
หล่อนร้องอุทานเมื่อคนตัวโตก้มหน้าลงมากัดปลายจมูกเล็กอย่างมันเขี้ยว
“กัดแพงทำไมคะ เจ็บนะ”
“หมั่นไส้ผู้หญิงติดเซ็กซ์น่ะสิ”
“บ้า ใครติดเซ็กซ์กันคะ นายน้อยนั่นแหละ” หล่อนพ้ออย่างเอียงอาย แก้มนวลแดงก่ำ
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกที่รัก ห้ามเรียกว่านายน้อยแล้ว เข้าใจไหมเนี่ย ดื้อจังเดี๋ยวนี้” เดมอนบ่น และก็เอามือขยำหน้าอกอวบอัดของภรรยาแรงๆ อย่างลงโทษ แต่เจ้าหล่อนกลับแอ่นหยัดตัวขึ้นหาฝ่ามือเขาและร้องครวญครางให้ขยำต่อซะอย่างนั้น
“เห็นไหมว่าเธอน่ะชอบเซ็กซ์ยิ่งกว่าฉันเสียอีก”
“ก็นาย…เอ่อ ก็ที่รักเป็นคนสอนแพงเองนี่คะ ดังนั้นจะต้องรับผิดชอบ ห้ามทำให้แพงนอนเหงาคนเดียว”
“ผู้หญิงเซี้ยว” เขาก้มหน้าลงมา เอาปลายจมูกโด่งชนกับปลายจมูกของหล่อนไปมา จากนั้นก็เริ่มต้นเปลื้องผ้าของหล่อนอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนแสนจะเต็มใจ
“ถอดกางเกงในด้วยสิคะ เร็วสิคะที่รัก”
เดมอนมองภรรยาสาวที่ร้อนฉ่าราวกับกองไฟด้วยความเหลือเชื่อและพึงพอใจ
“เธอร้อนขึ้นทุกวันนะทูนหัว โอ้ว…อืมมมม”
เขาครวญครางเมื่อฝังความเป็นชายเข้าไปในซอกลับของพะแพงหมดทั้งตัวตน เจ้าหล่อนอ้าขากว้าง ก่อนจะตวัดรัดเรือนกายกำยำเอาไว้แน่นและเด้งขึ้นหาอย่างกระตือรือร้น
“อ๊า…แล้ว…ชอบไหมล่ะคะ อ๊า…อา…”
“ชอบสิ ถ้าไม่ชอบจะใส่บ่อยขนาดนี้เหรอ”
เดมอนก้มลงมาจูบปากอิ่มที่เผยอรอคอยอย่างแสนรัก บดขยี้ด้วยความเสน่หามิรู้ดับ ในขณะที่บั้นท้ายก็ซอยระริกเข้าใส่ราวกับเครื่องจักรกล สองร่างกรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน ก่อนที่ความสุขมากมายจะอาบไล้คนทั้งคู่
หลังจากสุขสม เดมอนก็ยังคงประคองกอดร่างของภรรยาเอาไว้แนบอก พร่ำบอกรักนับครั้งไม่ถ้วน พะแพงน้ำตาไหลริน อิ่มเอมใจยิ่งนัก
“ความจริงฉันตั้งใจจะพาเธอไปฮันนีมูนที่เวนิสนะ แต่ดูท่าทางแล้วคงต้องไว้โอกาสหน้า หรือไม่ก็ตอนที่ฉันทำเธอท้องลูกคนที่สองของเราเสียแล้วล่ะ”
คนตัวเล็กที่นอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนแกร่งฉีกยิ้มกว้าง
“ลูกคนที่สองของเรา…เขาอยู่ในท้องของแพงแล้วล่ะค่ะ”
ดวงตาของเดมอนสดใสยิ่งกว่าดวงดาราใดๆ ในท้องนภา หล่อนเห็นเขาฉีกยิ้มกว้างราวกับเป็นรอยยิ้มสุดท้ายของเขาไม่มีผิด
“เธอท้อง…? เธอท้องแล้วใช่ไหมแพตตี้”
พอหล่อนพยักหน้ารับเท่านั้นแหละ คนตัวโตก็ลุกขึ้นยืน และกระโดดโลดเต้นกู่ร้องอย่างตื่นเต้นดีใจ
“ที่รักคะ…เบาๆ ค่ะ เดี๋ยวใครได้ยินเข้า”
“ก็ฉันดีใจนี่ ฉันกำลังจะได้ลูกคนที่สองแล้ว”
เดมอนตะโกนก้องฟ้า ก่อนจะทรุดตัวลงมานอนกกกอดหล่อนเอาไว้แนบอกอีกครั้ง
“งั้นเราจะไปทำลูกคนที่สามของเราที่เวนิส โอเคไหมแพตตี้”
คนฟังเบิกตากว้าง ก่อนจะหัวเราะออกมา
“แค่สองคนยังไม่พออีกเหรอคะ”
“ไม่…ต้องห้าหรือว่าหก หรือไม่ก็ครบโหลไปเลยถึงจะพอ”
“ไม่เอานะคะ แพงก็กลายเป็นแม่หมูกันพอดี”
“ถึงเธอจะกลายเป็นแม่หมู แต่ฉันก็รักเธอนะแพตตี้ นะ ได้โปรดมีลูกให้ฉันเยอะๆ เถอะ ฉันอยากเห็นในบ้านของเรามีลูกๆ วิ่งเล่น”
“มีลูกเป็นสิบคนจะเลี้ยงไม่ไหวเอานะคะ”
หล่อนยอมตามใจเขาอยู่แล้วล่ะ ก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง
“เธอก็รู้นี่ว่าฉันรวย ต่อให้เธอมีลูกให้ฉันสักร้อยคนฉันก็เลี้ยงไหว จริงไหมทูนหัว”
พะแพงหัวเราะทั้งน้ำตาอย่างมีความสุข
“ก็ได้ค่ะ ถ้าที่รักปั๊มไหวนะคะ”
“ฉันเอวดีจะตาย เธอก็รู้นี่”
“คนลามก”
“ถึงฉันจะลามก แต่ฉันก็รักเธอนะ”
เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมทับเอาไว้ จูบแผ่วเบาและมองภรรยาสาวอย่างรักใคร่
“ทีนี้ตอบมาได้หรือยังคะว่าทำไมเมื่อสี่ปีก่อนถึงขับไล่แพง”
พะแพงนึกขึ้นได้จึงรีบถาม
“นี่ฉันยังไม่ได้บอกเธออีกหรือ”
สีหน้าของเดมอนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ก็ยังน่ะสิคะ พอจะตอบทีไรก็ฟัดแพงก่อนทุกทีเลย”
เดมอนหัวเราะร่วน “ตอนนี้ก็กำลังจะฟัดเธอเหมือนกัน”
“ไม่นะคะ ถ้าไม่ตอบคราวนี้แพงจะไปทำหมันจริงๆ ด้วย แล้วที่รักก็จะมีลูกไม่พอตั้งทีมฟุตบอลนะคะ”
หล่อนหรี่ตาแคบพูดน้ำเสียงจริงจัง และก็ทำให้เดมอนหัวเราะดังขึ้น
“ก็เพราะว่าฉันต้องแต่งงานกับวิคกี้ แล้วฉันก็ไม่ต้องการให้เธอมามีอิทธิพลกับฉันมากกว่าที่เป็นอยู่”
“คนใจร้าย”
“แต่หลังจากที่เธอจากไป ฉันก็ไม่เคยรู้จักกับความสุขอีกเลย ฉันคิดถึงแต่เธอ จนกระทั่งวันหนึ่งฉันทนไม่ไหวอีก ฉันก็เลยเดินเข้าไปสารภาพความจริงกับวิคกี้ แล้วเราสองคนก็หย่าขาดจากกัน”
“แล้วทำไมถึงไม่มาหาแพงเลยล่ะคะ ทำไมปล่อยเวลาผ่านมาตั้งนาน”
“นี่แม่คุณ ไอ้บริษัทที่เธอทำน่ะมันโคตรกระจอกเลย ตลาดหุ้นก็ไม่ได้เข้า ฉันจ้างนักสืบแทบหมดทั้งอเมริกาก็ยังตามหาเธอไม่เจอ จนเปลี่ยนมาใช้นักสืบของประเทศไทยตามคำแนะนำของเชลดอนนั่นแหละ ก็เลยหาเธอพบ นี่ถ้าฉันรู้ว่านักสืบอเมริกันมันกระจอกแบบนี้ ฉันมาจ้างนักสืบไทยตั้งนานแล้ว” คนตัวโตบ่นอย่างหงุดหงิด ในขณะที่พะแพงอมยิ้มมีความสุข และยกมือขึ้นลูบเครางามของสามีร่างยักษ์แผ่วเบา
“แต่เราก็เจอกันในที่สุด แม้มันจะนานสักหน่อยก็ตาม”
“พระเจ้าคงลงโทษฉันนั่นแหละที่ทำร้ายเธอเอาไว้ ปากฉันไม่ค่อยดีตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ ชอบทำให้คนอื่นเสียใจตลอดเวลา แต่ต่อจากนี้ไป ฉันจะพูดหวานๆ ให้เธอฟังทุกวันเลยนะ”
“อย่างเช่นอะไรเหรอคะ” หล่อนถามกลับเสียงสดใส น้ำตาแห่งความสุขไหลรินออกมาอีกครั้ง
“ฉันรักเธอ…ฉันรักเธอ…ฉันรักเธอ…”
“แพงก็รักคุณค่ะ รักมากเหลือเกิน”
หล่อนสวมกอดสามีเอาไว้แน่น
“เราจะอยู่ด้วยกัน ช่วยกันดูแลลูกๆ ของเราไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่นะคะ”
“แน่นอน ฉันสัญญา…”
สองร่างเคลื่อนไหวตามท่วงทำนองแห่งเสน่หา หัวใจสองดวงกอดเกี่ยวรัดแน่น ท่ามกลางอากาศเหน็บหนาวของยามค่ำคืนบนขุนเขา แต่หัวใจทั้งสองดวงกลับอุ่นซ่านและเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
ชั่วนิรันดร์…
อวสาน