“นี่ไงคับพ่อ แม่ยังอยู่…” วินเซนต์หันมาส่งยิ้มสดใสให้กับเขา ในขณะที่เขามึนงงราวกับถูกค้อนตีหัวแรงๆ
“นายน้อยไปบอกลูกว่าแพงไม่อยู่ได้ยังไงกันคะ ใจร้ายจัง” น้ำเสียงหวานสดใสของพะแพงดังออกมา เขามองหล่อนนิ่ง มองด้วยความรู้สึกมากมาย แต่หนึ่งในความรู้สึกมากมายนั้นก็คือความกรุ่นโกรธ เขากัดฟันแน่น ขบกรามกระด้างจนเนื้อข้างแก้มที่อยู่ใต้เครางามกระตุกเป็นริ้วรอย
“หมูวินออกไปหาพี่โอลิเวียก่อนนะครับ พ่อมีธุระสำคัญมากจะคุยกับแม่ของหมูวิน” เดมอนเน้นคำว่าธุระสำคัญมากหนักๆ ดวงตาคมกริบจ้องหน้าพะแพงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ จนหญิงสาวเย็นสันหลังวาบ
“คับพ่อ” เด็กน้อยรับคำอย่างว่าง่าย “แม่คับ ผมไปหาพี่โอลิเวียก่อนนะคับ”
“จ้ะ เดี๋ยวแม่ออกไปหานะครับ”
วินเซนต์ระบายยิ้มให้กับพ่อและแม่ของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหายออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนอยู่กันเพียงลำพัง เดมอนกระชากประตูปิดลง แต่ไม่ได้ล็อกกลอน พะแพงจึงต้องก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปกดล็อกด้วยตัวเอง
“นายน้อย…หายไปไหนมาทั้งคืนคะ” หล่อนระบายยิ้มกว้างให้คนที่หน้าตาบูดบึ้ง
“สนุกมากใช่ไหมแพตตี้” เสียงกระด้างที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากกว้างหยักสวยของเดมอนแผ่วเบา แต่มันกลับกังวานชัดในหูของหล่อนเหลือเกิน
“นายน้อย…หมายความว่าอะไรเหรอคะ”
“ก็ไอ้จดหมายระยำที่เธอเขียนทิ้งเอาไว้ให้ฉันยังไงล่ะ เธอบอกว่าตัวเองจะไป แล้วกลับมาทำไมอีก”
เขาดีใจมากที่เห็นหล่อนอีกครั้ง แต่ก็โกรธมากเช่นกันที่หล่อนเอาความรู้สึกของเขามาล้อเล่น
“แพง…ขอโทษค่ะ แพงคิดจะไปจริงๆ”
เขาตวัดสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมามองหล่อน “จะไป แล้วกลับมาทำไม ยังทำร้ายฉันไม่พอหรือไง!”
คนถูกต่อว่าน้ำตาร่วง กลีบปากสั่นระริก “ก็ตอนนั้นแพงคิดว่านายน้อยไม่ได้รักแพงนี่คะ แพงก็เลย…ตัดสินใจยอมเดินจากไป เพื่อให้นายน้อยกับคุณวิคกี้มีความสุข”
“ประสาท! ฉันกับวิคกี้จะมามีความสุขได้ยังไง ในเมื่อเราสองคนไม่ได้รักกัน” เดมอนตะโกนใส่หน้าหล่อนเสียงดังลั่น
“แพงก็เพิ่งมารู้เมื่อไม่นานนี้แหละค่ะ” หล่อนตอบออกไปทั้งๆ ที่น้ำตาไหลริน
“เธอหมายความว่ายังไง เธอรู้อะไรมา”
พะแพงเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของเดมอน ช้อนตามองเขา ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“แพงเจอคุณวิคกี้กับสามีของเธอที่สนามบินค่ะ”
เดมอนขบกรามแน่น ก่อนจะเมินหน้าหนี “มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่”
“ใช่ค่ะ การเจอคุณวิคกี้กับสามีของเธอไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เรื่องที่คุณวิคกี้บอกให้แพงรับรู้ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากค่ะ”
โหนกแก้มของเดมอนมีสีระเรื่อขึ้นทันที เพราะเขาพอจะเดาออกว่าวิคตอเรียพูดอะไรกับพะแพง คงไม่มีเรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องความรู้สึกของเขา
“ฉันเพลีย ฉันจะพักผ่อน” เขาตัดบท แต่พะแพงคว้าท่อนแขนกำยำเอาไว้
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิคะ”
“ก็ฉันบอกว่าเพลียไง ฉันจะไปนอน”
“นายน้อยไม่เคยหนีปัญหามาก่อนนะคะ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่นายน้อยก็เดินหน้าพุ่งชนเสมอ แล้วทำไมแค่แพงรู้ว่านายน้อยแอบรักแพงแค่นี้ จะต้องหนีด้วยล่ะคะ”
คำพูดที่กระเด็นออกมาจากปากของพะแพงทำให้เดมอนเต็มไปด้วยความประหม่าเป็นครั้งแรกในชีวิต
“ใคร? ใครรักเธอ อย่ามาโมเมเชียว” เขาสะบัดแขนแรงๆ จนหลุด แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ
พะแพงมองตามไปด้วยความโมโหและน้อยใจ “งั้นก็แสดงว่าที่คุณวิคกี้บอกแพงมามันคือเรื่องโกหกทั้งเพ ก็ดีค่ะ แพงจะได้หนีไปอีก และคราวนี้รู้เอาไว้เลยนะคะว่าแพงจะไม่มีวันกลับมาให้นายน้อยเห็นหน้าอีกแล้ว!”
คนตัวโตชะงักเท้ากึก ความประหม่ากับความขัดเขินตีกันยุ่ง แต่ความหวาดกลัวที่จะต้องสูญเสียพะแพงไปอีกครั้งมันทรงอำนาจมากที่สุด เขาหมุนตัวกลับมาในทันที ก่อนจะตะเบ็งเสียงออกมาอย่างโมโห
“ก็การพูดถึงความรู้สึกของตัวเองมันน่าสะอิดสะเอียนนี่!”
“แม้กระทั่งบอกว่ารักแพงอย่างนั้นเหรอคะ”
กรามแกร่งของเดมอนขบกันแน่น ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาหา หยุดห่างจากร่างของหล่อนเพียงสองเท้าเท่านั้น ดวงตาสีฟ้าเข้มที่จ้องมองมานั้นมากไปด้วยความรู้สึก
“ฉันบอกรักไม่เก่ง ไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกด้วย แต่ฉันก็…จะพยายาม…”
แล้วเดมอนก็ทำในสิ่งที่หล่อนไม่คาดคิดว่าผู้ชายหยิ่งทระนงอย่างเขาจะกระทำ
ร่างสูงใหญ่องอาจสง่างามที่ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครมาก่อน ตอนนี้เข่าข้างหนึ่งของเขาแตะลงบนพื้น กล่องกำมะหยี่สีแดงสดยื่นมาตรงหน้าของหล่อน
“นายน้อย…”
เขาคุกเข่าตรงหน้าของหล่อน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรเม็ดงามมาให้ตรงหน้า แสงเพชรสะท้อนกับแสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องทอประกายสวยงามนัก น้ำตาของหล่อนไหลริน กลีบปากอิ่มสั่นระริก ดวงใจสาวพองฟูแน่นอก
“นี่แพง…ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ นายน้อย…”
“อย่าหนีฉันไปไหนอีกเลยนะ อยู่กับฉัน…เป็นเมียและเป็นแม่ของลูกชายเรานะ แพตตี้…”
เขาดึงมือข้างซ้ายของหล่อนไปกุมเอาไว้ ก่อนจะบรรจงสวมแหวนเพชรแสนสวยลงบนนิ้วนางของหล่อน น้ำตาของหล่อนรินไหลเป็นสาย มันคือน้ำตาแห่งความตื้นตันที่ล้นปรี่ไปด้วยความสุข
“นายน้อย…แพง…แพง…” หล่อนพูดไม่ออก ความสุขแทบจะสำลักออกมาจากลำคอ
เดมอนจรดริมฝีปากที่มักจะเอ่ยวาจาร้ายกาจใส่หล่อนลงกับหลังมือของหล่อนอย่างอ่อนโยน
“ฉันรักเธอนะ แพตตี้”
“นายน้อย…นายน้อยลุกขึ้นนะคะ” หล่อนรั้งให้เขาลุกขึ้นและโผเข้ากอดเขาแนบแน่น “แพงก็รักนายน้อยค่ะ รักนายน้อยมาก…แพงขอโทษที่โง่ ที่มองไม่ออกว่าทุกสิ่งที่นายน้อยทำลงไปก็เพราะรักแพง แพงขอโทษ…”
เดมอนระบายยิ้มอย่างผ่อนคลาย หลังจากที่ไม่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกใดๆ จากพะแพงอีกแล้ว
“สัญญานะ…อย่าหนีฉันกับลูกไปอีก”
“แพง…แพงสัญญาค่ะ แพงสัญญา…”
หล่อนเงยหน้าขึ้นจากแผงอกที่เปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำตาของหล่อนเอง สบประสานสายตากับเดมอน ผู้ชายที่เป็นเหมือนปีศาจร้ายในชีวิต แต่เป็นปีศาจที่หล่อนไม่เคยต้องการแยกจากไปไหน
“นายน้อย…รักแพงจริงๆ เหรอคะ” ในที่สุดก็ต้องถามออกมาอีกครั้งเพราะยังรู้สึกเหลือเชื่อ
เดมอนระบายยิ้มออกมา แววตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความห่วงใย และความหิวกระหาย
“อยากให้พิสูจน์ไหมล่ะ”
“พิสูจน์…ยังไงเหรอคะ อุ๊ยยยย…”
ร่างสาวถูกช้อนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนทรงพลัง ก่อนจะถูกนำไปวางบนเตียงกว้างอย่างทะนุถนอม คนตัวโตเอนกายลงนอนเคียงข้าง ประคองกอดร่างอวบอัดของภรรยาเอาไว้แนบอก
“ก็แบบเนื้อแนบเนื้อยังไงล่ะ ทูนหัว”
“แน่ะ บอกแพงมาก่อนไม่ได้เหรอคะว่ารักแพงตั้งแต่เมื่อไหร่”
คนตัวโตที่ตอนนี้เปลื้องผ้ารอคอยแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตาที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยไฟปรารถนา
“เรื่องนั้นรอได้ แต่เรื่องเข้าไปในตัวของเธอ ฉันรอไม่ไหว อยากสอดใส่จะแย่อยู่แล้ว”
พะแพงระบายยิ้มหวาน ดวงตากลมโตเป็นประกาย ก่อนจะพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง สลัดเสื้อผ้าออกจากตัวด้วยความรีบร้อนไม่ต่างกัน จากนั้นก็ทะยานขึ้นไปนั่งทับความเป็นชายที่กำลังชูชัน
“จะทำอะไรคนสวย…โอ้ว…อืมมมม…”
คนที่กำลังสูดปากด้วยความเสียวกระสันเพราะตัวเองกลืนกินความเป็นชายขนาดมหึมาเข้าไปจนมิดแล้วครางแผ่วเบา และขยับสะโพกบดคลึง
“ก็ควบม้าหนุ่มอย่างนายน้อยไงคะ”
“โอ้ว…ทูนหัว…เธอจะทำฉันคลั่งรู้ไหม…”
ยิ่งเขาดิ้นพล่าน พะแพงก็ยิ่งฮึกเหิมลำพองใจในเสน่ห์ของตัวเอง หล่อนบดคลึงบั้นท้ายกับท่อนชายด้วยจังหวะที่รวดเร็วขึ้น นิ้วเรียวแทรกเข้าไปในกลุ่มเส้นขน และขยี้หัวนมเม็ดเล็กทั้งสองข้างแรงๆ จนเขาต้องหยัดตัวขึ้นสูงและครางเสียงกังวาน
“ชอบไหมคะ…”
“ชอบที่สุด โอว…แพตตี้…เธอขย่มเก่งที่สุด โอ้ว…โอ้ว…”
ความเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศไม่อาจหยุดยั้งเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นมาบนร่างของสองหนุ่มสาวได้เลย บั้นท้ายอวบงอนราวกับมีชีวิตเป็นของตัวเอง เพราะมันโยกขยี้บดคลึงลงสมสู่กับท่อนชายยักษ์อย่างไร้ความเหน็ดเหนื่อย เสียงครวญครางด้วยความหฤหรรษ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้าจ๊อกกี้สาวก็ควบตะบึงพาม้าหนุ่มเข้าสู่เส้นชัยแห่งความสุขสมนับครั้งไม่ถ้วน
ในขณะที่ภายในห้องกว้างกำลังก่อสงครามสวาทกันอย่างดุเดือด ที่ประตูหน้าห้องก็มีร่างของวินเซนต์กับโอลิเวียยืนอยู่
“ผมจะเข้าไปหาพ่อกับแม่คับพี่โอลิเวีย”
“ไม่ได้นะคะคุณชายน้อย” ใบหน้าของโอลิเวียแดงก่ำ
“ทำไมล่ะคับ”
“ก็…” โอลิเวียพยายามหาคำอธิบายที่เข้าใจง่ายที่สุดเพื่อตอบเด็กชายวินเซนต์ที่ยืนมองรอคำตอบตาแป๋วอยู่ตรงหน้า “ก็เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณชายน้อยกำลัง…นอนหลับกันอยู่น่ะครับ”
เด็กน้อยทำหน้างงงวย ก่อนจะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “นั่นไงเสียงแม่ มีเสียงพ่อด้วย พวกเขาไม่ได้หลับนะคับ”
นั่นมันเสียงครางต่างหาก โอลิเวียคิดในใจแต่พูดไม่ได้
“คุณพ่อกับคุณแม่น่าจะนอนละเมอน่ะครับ เอ่อ ไปดูผีเสื้อกับพี่โอลิเวียดีกว่านะครับคุณชายน้อย”
“แต่ผมอยากให้พ่อกับแม่ไปดูด้วยนี่คับ” เด็กน้อยยังคงงอแง
“งั้นพี่โอลิเวียจะไปเรียกน้าเบนมาเล่นขี่ม้าส่งเมืองเหมือนเมื่อสองวันก่อน ดีไหมครับ”
“เย้…ดีคับพี่โอลิเวีย”
“ชู่ว์…อย่าเสียงดังไปครับ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ตื่น”
โอลิเวียยกมือขึ้นแตะปากส่งสัญญาณให้เด็กน้อย ก่อนจะจูงมือวินเซนต์ลงบันไดไป ระหว่างทางเจอป้ามิเชลล์
“นายน้อยกับคุณแพตตี้เป็นยังไงกันบ้าง เธอรู้ไหมแม่โอลิเวีย”
โอลิเวียเหลือบตามองขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านเล็กน้อย ก่อนจะเอียงหน้าไปกระซิบกระซาบกับป้ามิเชลล์
“ครางกันลั่นเลยค่ะคุณแม่บ้านใหญ่”
ป้ามิเชลล์ได้ยินก็หน้าแดงระเรื่อเช่นกัน เพราะเข้าใจความหมายของโอลิเวียดี
“ทีหลังห้ามไปยุ่งเรื่องของเจ้านายนะรู้ไหม”
“แหม หนูก็ไม่ได้อยากจะไปยุ่งหรือไปแอบฟังหรอกนะคะคุณแม่บ้านใหญ่ แต่คุณชายน้อยพาไปน่ะสิคะ”
“นั่นแหละ คราวหน้าคราวหลังห้ามทำอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดเงินเดือนเธอแน่”
“ค่ะ คุณแม่บ้านใหญ่” โอลิเวียรับคำหน้าเจื่อน ก่อนจะหันไปพูดกับวินเซนต์ “เราไปหาน้าเบนกันเถอะค่ะคุณชายน้อย”
ป้ามิเชลล์รอจนโอลิเวียพาวินเซนต์ออกไปนอกบ้านแล้ว ตัวเองก็ย่องขึ้นไปยืนเงี่ยหูฟังที่หน้าห้องนอนของเดมอนบ้าง
“ครางกันดังอย่างที่แม่โอลิเวียว่าจริงๆ ด้วย” ป้ามิเชลล์พึมพำหน้าแดงก่ำ แล้วก็รีบหันรีหันขวาง พอเห็นว่าไม่มีใครเดินผ่านมาก็เงี่ยหูฟังอีกรอบ “แบบนี้เราก็หมดห่วงได้แล้วล่ะ” หญิงสูงวัยอมยิ้มหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะเดินจากไปในที่สุด
MANGA DISCUSSION