นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 51
พะแพงนั่งกำตั๋วเครื่องบินจนยับยู่ยี่ในอุ้งมือ หลายต่อหลายครั้งที่หล่อนลุกขึ้นยืนและตัดสินใจจะกลับไปหาวินเซนต์ พร้อมกับก้มหน้ายอมรับสภาพส่วนเกินไปชั่วชีวิต แต่ทุกครั้งภาพของเดมอน วิคตอเรีย และวินเซนต์ที่หัวเราะให้กันอย่างมีความสุขก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย
หล่อนยอมแพ้…และในเมื่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ควรจะไป ใช่…ไปจากที่นี่ เพื่อเปิดทางให้เดมอนกลับมาคืนดีกับวิคตอเรีย และเพื่อให้ลูกชายของตัวเองมีพ่ออย่างที่ใฝ่ฝัน หล่อนมั่นใจว่าต่อให้วิคตอเรียมีลูกใหม่อีกสักกี่คน หญิงสาวก็จะยังรักวินเซนต์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินดังอีกเป็นครั้งที่สอง หล่อนจำต้องลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา มือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“หมูวิน…แม่รักลูกนะ รักมากที่สุด” หล่อนพึมพำถึงลูกชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจของตัวเองด้วยความอาลัย และก็อดจะนึกถึงผู้ชายอีกคนไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะใจร้ายเหี้ยมโหดกับหล่อนยังไง แต่หัวใจก็ยังคงรักและภักดีกับเขาไม่เปลี่ยนแปลง “ลาก่อนค่ะ…นายน้อย…”
การจากชั่วชีวิตมันมีอานุภาพทำลายล้างสูงเหลือเกิน มันทำร้ายหัวใจของหล่อนจนแทบไม่เหลือชิ้นดี สองเท้าก้าวเดินตรงไปยังจุดตรวจตั๋วเครื่องบิน แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกเสียก่อน เมื่อมีเสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง
“คุณแพตตี้…จะไปเมืองไทยเหรอคะ”
หล่อนหยุดเดิน ก่อนจะหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเจ้าของเสียงคือวิคตอเรีย เจ้าหล่อนยืนฉีกยิ้มกว้างทักทาย โดยที่ข้างกายมีหนุ่มฝรั่งหน้าตาดีมากคนหนึ่งอยู่ด้วย
“เอ่อ…สวัสดีค่ะคุณวิคกี้” หล่อนกล่าวทักทายเสียงขึ้นจมูกและยกมือขึ้นป้ายน้ำตาจนแห้ง “คุณวิคกี้จะไปเที่ยวเมืองไทยเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ แดนนี่จองทริปเที่ยวเกาะเสม็ดเอาไว้ ว่าแต่เดมอนไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปเข้าห้องน้ำ”
คำถามของวิคตอเรียทำให้พะแพงส่ายหน้าน้อยๆ “คือแพง…เดินทางคนเดียวค่ะ”
“อ้าว แล้วเดมอนรู้ไหมคะเนี่ย” เมื่อหล่อนส่ายหน้าไปมา วิคตอเรียก็อุทานตกใจ หน้าตาตื่นตระหนกทันที “อย่าบอกนะคะว่าหนีเดมอนมา”
“แพงขอตัวไปขึ้นเครื่องก่อนนะคะ ใกล้เวลาเดินทางแล้วค่ะ”
หล่อนไม่คิดจะตอบคำถามของวิคตอเรียจึงเอ่ยขอตัว แต่แขนถูกคู่สนทนาคว้าเอาไว้
“อย่าเพิ่งไปค่ะ วิคกี้ว่าเรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน”
พะแพงส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลซึมออกมาอีก “แพงไม่สะดวกน่ะค่ะ ขอตัวนะคะคุณวิคกี้”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงเราก็ต้องเคลียร์กันก่อน วิคกี้ขอเวลาไม่เกินสองนาทีค่ะ”
และไม่ว่าพะแพงจะปฏิเสธยังไง วิคตอเรียก็ลากแขนของหล่อนตามออกมาจนได้
“คุณวิคกี้…มีอะไรจะพูดกับแพงก็รีบพูดมาเถอะค่ะ แพงต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้วจริงๆ ค่ะ”
วิคตอเรียจ้องหน้าพะแพง ก่อนจะหันไปสวมกอดผู้ชายที่อยู่ข้างกาย และรีบแนะนำให้คู่สนทนารู้จัก
“นี่แดนนี่ สามีของวิคกี้”
“สามี?” พะแพงเบิกตากว้างตกใจ มองหน้าของวิคตอเรียสลับกับหน้าของแดนนี่ซ้ำหลายครั้ง “แล้ว…นายน้อย…ล่ะคะ”
“ตอนนี้เดมอนกับวิคกี้เราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นแหละค่ะ วิคกี้หวังว่าคุณแพตตี้คงไม่ได้คิดว่าวิคกี้กับเดมอนกลับไปคืนดีกันหรอกนะคะ”
“เอ่อ…” พะแพงรู้สึกว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้าสั่นไหวรุนแรง สมองของหล่อนยังทำงานได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น “แต่แพงเห็น…คุณวิคกี้กับนายน้อย…เอ่อ…เหมือนจะกลับมาคืนดีกันแล้ว”
วิคตอเรียส่ายหน้าดิก และร้องโนๆ ลั่น “จะบ้าหรือไง วิคกี้รักแดนนี่จะตาย พูดแบบนี้แดนนี่ก็เข้าใจวิคกี้ผิดพอดีน่ะสิคะ แดนนี่ ไม่จริงนะคะ วิคกี้รักคุณคนเดียว”
“ผมรู้ครับ”
พะแพงยืนเซ่อคล้ายกับถูกของแข็งตีที่ศีรษะแรงๆ “แพงขอโทษค่ะที่พูดแบบนั้น คือแพง…”
“คุณหึงเดมอนกับวิคกี้ใช่ไหมล่ะ”
“แพง…” สิ่งที่วิคตอเรียพูดมันคือความจริงที่หล่อนไม่อาจจะแก้ตัวได้ “แพง…ขอโทษที่เข้าใจคุณวิคกี้ผิดค่ะ”
“ขอโทษวิคกี้แล้วก็ต้องไปขอโทษเดมอนด้วยนะคะ เพราะเดมอนไม่ได้คิดจะกลับมาคบหากับวิคกี้ในฐานะคนรักอีกแล้ว เราหย่ากันด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย และสาเหตุที่เราแยกกันก็เพราะเดมอนรักคุณ”
“รักแพง…? นายน้อยนี่นะคะรักแพง…”
หล่อนรู้สึกราวกับถูกพายุบ้าหมูพัดลงไปตกอยู่กลางทะเลลึก ดวงตาของหล่อนเบิกกว้าง ศีรษะทุยสวยส่ายไปมาอย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“มะ…ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ นายน้อย…ไม่ได้รักแพงหรอกค่ะคุณวิคกี้”
“คุณแพตตี้เอาอะไรมองล่ะคะ”
“แพง…”
“ถ้าใช้ตามองอาจจะไม่เห็น เพราะเดมอนไม่ใช่ผู้ชายที่จะมาป่าวประกาศความรู้สึกของตัวเองให้คนทั้งโลกรู้ แต่ถ้าใช้ใจมอง คุณก็จะเห็นว่าเดมอนปฏิบัติกับคุณแตกต่างจากผู้หญิงทุกคนของเขา” น้ำเสียงของวิคตอเรียหนักแน่นจนคนฟังอย่างหล่อนสะท้านไปทั้งหัวใจ
“เดมอนเดินเข้ามาขอโทษวิคกี้ เรื่องที่เขาไม่ยอมมีอะไรกับวิคกี้เลยตั้งแต่ที่พวกเราแต่งงานกันมา วิคกี้เค้นถามเขาจนรู้ว่า ที่เขาไม่ยอมนอนกับวิคกี้ก็เพราะหัวใจของเขาเป็นของคุณแพตตี้ไปแล้ว เขาก็เลยไม่สามารถร่วมรักกับวิคกี้หรือกับผู้หญิงคนอื่นๆ ได้อีก”
พะแพงยืนนิ่งตัวชาดิก มือของหล่อนเย็นเฉียบ แต่หัวใจทั้งดวงกลับเย็นยะเยือกยิ่งกว่า ยิ่งวิคตอเรียพูด หล่อนก็ยิ่งมองเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ที่ตัวเองมองข้ามไปหลายครั้งชัดเจนขึ้น น้ำตาของหล่อนไหลรินออกมาเป็นสายอาบแก้ม
“และที่คุณแพตตี้เห็นวิคกี้กับเดมอนอยู่ด้วยกันวันก่อน นั่นเป็นเพราะเดมอนขอร้องให้วิคกี้ไปช่วยเลือกแหวนให้ เพราะเขาไม่เคยซื้อของให้ผู้หญิงมาก่อนก็เลยต้องพึ่งวิคกี้”
แสดงว่าหล่อนเข้าใจผิดไปเองอย่างนั้นสินะ…พะแพงเต็มไปด้วยความเสียใจและละอายใจเป็นที่สุด
“เดมอนต้องการซื้อแหวนให้คุณนะคะ คุณแพตตี้”
จบสิ้นคำพูดของวิคตอเรีย ร่างของพะแพงก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้นโดยที่วิคตอเรียดึงเอาไว้ไม่ทัน หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้โฮด้วยความทุกข์ทรมาน ไม่สนใจสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่นิดเดียว
“นายน้อย…แพงขอโทษ…แพงขอโทษ…” หล่อนร้องไห้ไม่หยุด จนวิคตอเรียต้องก้มลงไปประคองร่างของหล่อนให้ลุกขึ้นยืน และเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวไหมคะคุณแพตตี้”
หล่อนมองหน้าวิคตอเรียและระบายยิ้มให้กับหญิงสาวอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณคุณวิคกี้มากนะคะที่บอกเรื่องนี้ให้แพงรู้ ไม่อย่างนั้นแพงก็คง…จะทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต”
วิคตอเรียระบายยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยแซว “แล้วทีนี้คุณแพตตี้ยังจะไปเมืองไทยอีกไหมคะ”
พะแพงรีบหน้าส่ายไปมาจนเส้นผมกระจาย “ไม่ค่ะ แพงจะไม่ไปไหนอีกแล้ว แพงจะกลับไปหานายน้อย จะกลับไปหาหมูวิน…”
“คุณโชคดีมากรู้ไหมคะที่เดมอนรักคุณ ดังนั้นห้ามหนีเขาไปไหนอีกนะคะ วิคกี้ไม่อยากเห็นเดมอนเจ็บปวดอีกแล้ว”
“แพง…จะไม่ไปไหนอีกแล้วค่ะ แพงสาบานว่าจะอยู่เป็นทาสรับใช้นายน้อยไปชั่วชีวิต”
“รักษาสัญญานะคะว่าจะดูแลเพื่อนของวิคกี้ให้ดีที่สุด”
“ค่ะ คุณวิคกี้ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” หล่อนกล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งใจ น้ำตายังคงไหลรินอาบแก้ม แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดทรมานอีกแล้ว แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข
เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งสุดท้ายดังขึ้น แต่หล่อนไม่สนใจมันอีกแล้ว ตั๋วเครื่องบินในมือถูกปาทิ้งลงในถังขยะที่อยู่ใกล้ตัว
“ขอให้คุณวิคกี้กับสามีมีความสุขกับทริปที่เมืองไทยนะคะ แพงขอตัวก่อนค่ะ”
“โชคดีนะคะ คุณแพตตี้”
วิคตอเรียกับแดนนี่โบกมือลาพะแพง ก่อนที่ทั้งสองจะสบประสานสายตากัน
“คุณเป็นคนดีจังวิคกี้” แดนนี่ก้มลงจูบแก้มของวิคตอเรียด้วยความชื่นชม
หญิงสาวระบายยิ้มกว้าง ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบแก้มสามีตอบบ้าง
“ก็แน่สิคะ ไม่อย่างนั้นวิคกี้จะได้ผู้ชายดีๆ อย่างคุณมาเป็นสามีเหรอคะ”
“ผมรักคุณ”
“วิคกี้ก็รักคุณค่ะ แดนนี่”
สองสามีภรรยาเดินประคองกอดกันไปยังจุดตรวจตั๋วเครื่องบินอย่างมีความสุข