นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 44
“ตายแล้ว นายน้อย…ทำไมเปียกแบบนี้ล่ะคะ”
ป้ามิเชลล์อุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของเดมอน และก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นพะแพงก็เปียกชุ่มไม่ต่างกัน
“ฝนตกน่ะครับ ก็เลยเปียก” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ ก่อนจะหันไปสั่งพะแพง
“เธอรีบขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะ แล้วอย่าลืมสระผมด้วยล่ะ ไม่สบายขึ้นมาแล้วจะลำบากฉันอีก”
“ค่ะ” พะแพงก้มหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะเดินตัวสั่นเทาหายขึ้นบันไดไป
ป้ามิเชลล์มองตามไปจนลับตา ก่อนจะหันมาถามเจ้านายของตัวเองที่ตัวเปียกปอนไม่ต่างจากพะแพง
“นายน้อยก็ต้องรีบไปอาบน้ำสระผมนะคะ”
“ผมแข็งแรง ไม่เป็นอะไรหรอกครับ”
“แต่ตอนเด็กๆ นายน้อยถูกฝนทีไรก็ป่วยทุกที เชื่อป้าเถอะนะคะ ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ” ความเป็นห่วงเป็นใยของป้ามิเชลล์ทำให้เดมอนเกรงใจ
“ครับ”
เดมอนเดินขึ้นชั้นบนไปแล้ว ป้ามิเชลล์ก็อดที่จะบ่นกระปอดกระแปดออกมาไม่ได้
“ก็รู้ว่าตัวเองโดนฝนแล้วป่วยทุกที ก็ยังยอมให้ตัวเองเปียกฝนอีก มันน่าตีนักนะนายน้อย”
คืนนี้ต่างไปจากเดิม เมื่อเดมอนไม่คุกคามร่างกายของหล่อนอย่างที่เคยทำก่อนนอน แต่กลับกล่าวราตรีสวัสดิ์ห้วนๆ และล้มตัวลงนอนทันที
หล่อนควรจะดีใจที่ไม่ถูกรบกวนด้วยร่างกายขนาดมหึมาของเขา แต่กลับรู้สึกน้อยใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น กลีบปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้าง หันหลังให้กับเขา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจข่มตาหลับลงได้
หรือว่าหล่อนเสพติดสัมผัสของเดมอนไปแล้วนะ?
สิ่งที่คิดมันคือเรื่องน่าหวาดกลัวเหลือเกิน เพราะรู้ดีว่าตัวเองกับเดมอนไม่มีทางอยู่ด้วยกันยืดยาวไปชั่วชีวิต ถึงแม้เขาจะจดทะเบียนสมรสกับหล่อนแล้ว แต่นั่นก็เพราะเขามีแผนการที่จะฉกชิงวินเซนต์เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว อีกไม่นานพอหล่อนหมดประโยชน์ เขาก็จะเขี่ยหล่อนทิ้งเหมือนกับที่เคยทำมาในอดีต
หยาดน้ำตาไหลคลอออกมา และมันก็ทำให้หล่อนนอนไม่หลับ ขยับตัวไปมายุกยิกบนเตียง จนท่อนแขนบังเอิญไปชนเข้ากับต้นแขนของคนที่นอนหลับนิ่งอยู่ และนั่นก็ทำให้หล่อนต้องรีบชักแขนออกห่างแทบไม่ทัน เมื่อสิ่งที่หล่อนสัมผัสร้อนจัดไม่ต่างจากไฟ
หล่อนตั้งสติ ยื่นมือไปสัมผัสตัวของเดมอนอีกครั้ง และคราวนี้ก็รู้ว่าสิ่งร้อนๆ ราวกับไฟเมื่อครู่นี้ก็คือผิวเนื้อของชายหนุ่มนั่นเอง ทำไมเขาถึงตัวร้อนแบบนี้นะ
พะแพงผุดลุกขึ้นนั่ง กระตุกเชือกที่โคมไฟหัวเตียงจนมันสว่างสลัวขึ้น จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นอนหลับตานิ่งด้วยความแปลกใจระคนเป็นห่วง
มือเล็กยื่นไปอังที่หน้าผากกว้างอีกครั้ง และความร้อนฉ่าที่หลังมือได้รับก็ทำให้หล่อนมั่นใจแล้วว่าเดมอนไม่สบาย
“นายน้อย…”
ความห่วงใยทำให้สมองของหล่อนวิ่งวนเพื่อหาทางช่วยให้คนตัวโตทุเลาจากอาการไข้สูงที่กำลังได้รับอยู่ เท้าบอบบางก้าวลงจากเตียง แล้วรีบออกไปจากห้องเพื่อไปหยิบยามาให้เขา
“คุณแพตตี้ทำอะไรคะ”
เสียงเรียกจากป้ามิเชลล์ทำให้พะแพงที่กำลังก้มๆ เงยๆ ค้นหายาอยู่ต้องหันไปมอง ก่อนจะถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
“แพงมาหายาน่ะค่ะ ว่าแต่คุณแม่บ้านใหญ่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
“ยังหรอกค่ะ เป็นห่วงนายน้อย นอนไม่หลับ”
ป้ามิเชลล์เดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ และก็มองเห็นยาในมือของหญิงสาว จึงพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“นึกอยู่แล้วเชียวว่าจะต้องเป็นแบบนี้”
คิ้วโก่งสวยตามธรรมชาติของพะแพงเลิกสูง “คุณแม่บ้านใหญ่พูดเหมือนรู้เลยนะคะว่านายน้อยกำลังป่วย”
“ก็ต้องรู้สิคะ ในเมื่อนายน้อยไม่ถูกกับฝนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดนทีไรก็จับไข้ทุกที ป้าก็เตือนตลอด แต่เมื่อตอนเย็นก็เปียกกลับมาจนได้”
สีหน้าของพะแพงเต็มไปด้วยความละอายใจ “เพราะแพงที่ทำให้นายน้อยโกรธ นายน้อยก็เลยตากฝนลงไปต่อว่าแพง…” คนพูดน้ำตาคลอเบ้า
ป้ามิเชลล์ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา “นายน้อยอาจจะโกรธอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่ากับความเป็นห่วงที่มีต่อคุณแพตตี้หรอกค่ะ” ป้ามิเชลล์เปลี่ยนสรรพนามเรียกหล่อนมาหลายครั้งแล้ว และถึงแม้หล่อนจะอยากให้เรียกเหมือนเดิมแต่ก็รู้ดีว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
“นายน้อย…เป็นห่วงแพงเหรอคะ”
“นี่คุณแพตตี้ไม่รู้จริงๆ เหรอคะ”
หล่อนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะระบายยิ้มเศร้าหมอง “แพงว่าคุณแม่บ้านใหญ่เข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ นายน้อยก็แค่โมโหที่แพงกลับบ้านช้า ก็เลยออกไปตามหา แล้วบังเอิญฝนตกลงมาพอดี มันก็แค่นี้เองค่ะ”
คนที่ถอนหายใจไปแล้วคราวนี้ถอนหายใจแรงหนักยิ่งขึ้น “ถ้าคุณแพตตี้ได้เห็นสีหน้าและท่าทางของนายน้อยตอนที่กลับมาบ้านแล้วรู้ว่าคุณยังไม่กลับมา คงจะไม่คิดแบบนี้หรอกค่ะ”
หล่อนรับฟังเงียบๆ แต่ก็ไม่ได้คล้อยตามแม้แต่น้อย เพราะมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมองเห็นมากกว่า
“งั้นแพงขอตัวเอายาขึ้นไปให้นายน้อยกินก่อนนะคะ”
“ค่ะ แล้วอย่าลืมเช็ดตัวให้นายน้อยด้วยนะคะ นายน้อยเคยมีประวัติชักเพราะไข้สูงตอนห้าขวบน่ะค่ะ”
คำเตือนที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของป้ามิเชลล์ทำให้พะแพงสีหน้าซีดเผือด
“ถึงกับชักเลยเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นเราควรจะตามหมอดีไหมคะ”
ป้ามิเชลล์ส่ายหน้าน้อยๆ “นายน้อยกลัวเข็มมากค่ะ และไม่เคยยอมให้หมอเข้าใกล้เลย แต่นี่เป็นความลับนะคะ อย่าไปบอกนายน้อยล่ะว่าป้าพูด”
พะแพงพยักหน้าตอบรับ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ “งั้นแพงขอตัวก่อนนะคะ”
“ฝากดูแลนายน้อยด้วยนะคะ”
“ค่ะ คุณแม่บ้านใหญ่”
หล่อนแทบจะวิ่งขึ้นบันไดมุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนเลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นห่วงเดมอนมาก
มือเล็กข้างที่ว่างอยู่ดันประตูให้เปิดกว้างออก ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปภายใน ดวงตากลมโตมองไปยังเตียงกว้าง ก็ยังเห็นว่าเดมอนนอนนิ่งในท่าเดิมไม่ขยับเขยื้อน แต่ใบหน้าของเขาเริ่มมีสีแดงก่ำขึ้น พอๆ กับริมฝีปากกว้างหยักลึกที่แดงปลั่งราวกับเพิ่งดื่มเลือดมนุษย์มา
หล่อนรีบวางถ้วยใส่ยากับแก้วน้ำลงข้างเตียง และยื่นมือไปแตะหน้าผากของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เพราะผิวของเดมอนยังร้อนราวกับไฟเช่นเดิม
ไม่ได้การแล้ว เขาจะต้องรีบกินยา และก็ต้องรีบเช็ดตัว ไม่อย่างนั้นเดมอนอาจจะชักได้
ถ้าเขาตายไป หล่อนจะทำยังไง…?
“นายน้อยคะ กินยานิดนึงนะคะ”
หล่อนเขย่าแขนกำยำของเขาแผ่วเบา คนตัวโตครางอื้ออ้าในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวหันตะแคงข้างให้ ไม่ยอมแม้แต่จะลืมตามามองหล่อน
“นายน้อยคะ นายน้อยไม่สบายต้องกินยานะคะ” หล่อนเรียกเขาอีกครั้ง และคราวนี้เขย่าแรงกว่าเดิม แต่เดมอนก็ยังไม่ยอมแม้แต่ลืมตาเช่นเดิม
นี่หล่อนจะทำยังไงดี?
“นายน้อยคะ ลุกขึ้นมากินยาก่อนค่ะ”
ไม่ว่าหล่อนจะเรียกดังขึ้นแค่ไหน เขย่าตัวเขาแรงเท่าไหร่ คนตัวโตก็แค่พลิกกลับไปกลับมา จากนั้นก็หลับต่อไป หล่อนทั้งเป็นห่วงและมันเขี้ยวในเวลาเดียวกัน
ผู้ชายอันตรายนี่เวลาป่วยช่างน่าตีดีแท้
หล่อนเข่นเขี้ยวคนที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าในใจ สมองพยายามคิดหาทางที่จะทำให้เขากินยาให้ได้
“หวังว่าวิธีนี้จะได้ผลนะ”
ยาแก้ปวดเม็ดสีขาวถูกหย่อนลงในอุ้งปากของหล่อน ก่อนที่พะแพงจะขยับตัวและก้มหน้าลงไปทาบปากประกบจูบ บังคับให้คนตัวโตที่กำลังหลับกลืนยาลงไปในลำคอ
“อื้อ…”
เขาขัดขืน แต่หล่อนไม่ยอมแพ้ ขยับปากและใช้ลิ้นดุนดันเม็ดยาเข้าไปในปากของเขาได้สำเร็จ ก่อนจะรอจนกว่าเขาจะกลืน จึงขยับปากออกห่าง
หล่อนหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะหน้าแดงก่ำเมื่อคนที่หลับตาอยู่เมื่อครู่นี้ลืมตาขึ้นมามอง
“เธอทำอะไร”
“นายน้อย…”
หล่อนผละออกห่าง และระบายยิ้มแก้มแดงก่ำ “นายน้อยตัวร้อน แพงก็เลย…ให้กินยาน่ะค่ะ”
“ด้วยวิธีจูบปากฉันน่ะเหรอ”
หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะใช้วิธีนี้สักหน่อย แต่วิธีอื่นเขาไม่ให้ความร่วมมือนี่นา
“ก็นายน้อย…ไม่ยอมตื่นมากินยานี่คะ” หล่อนตอบกลับเสียงอ่อย แล้วรีบหันไปคว้าแก้วน้ำมายื่นให้กับเขา
“ดื่มน้ำก่อนค่ะ”
เดมอนขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง โดยมีหมอนใบใหญ่ซ้อนรองเอาไว้ด้านหลัง
“ขอบใจ” เขาดื่มน้ำไปจนหมดแก้ว แล้วจึงยื่นคืนให้กับพะแพง “เธอนอนได้แล้ว ฉันก็จะนอนเหมือนกัน เพลียมาก”
“นายน้อยยังนอนไม่ได้นะคะ”
ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ตอนนี้มีร่องรอยอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดตวัดมองมาที่หล่อน
“มีอะไรอีกล่ะ”
“คือว่า…”
“ถ้าต้องการเรื่องอย่างว่า คืนนี้ฉันไม่ไหว เพลียมาก”
หล่อนแก้มแดงก่ำมากยิ่งขึ้น หน้าร้อนฉ่าแทบไหม้ นี่เขามองหล่อนเป็นผู้หญิงหิวเซ็กซ์หรือไง ถึงได้พูดแบบนี้น่ะ คนบ้า มันน่าปล่อยให้ไข้ขึ้นตายนัก
“นายน้อยต้องเช็ดตัวก่อนค่ะ ยังนอนไม่ได้”
“ไม่ ฉันง่วง จะนอน”
เขาล้มตัวลงนอนอย่างเอาแต่ใจ และจะตะแคงหันหลังให้ แต่หญิงสาวรีบกระชากผ้าห่มออกจากกายใหญ่ และพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังระคนเป็นห่วง
“นายน้อยไม่สบาย ตัวร้อนมาก นายน้อยต้องเช็ดตัวก่อนนอนนะคะ”
“ฉันไม่ยอมตายง่ายๆ หรอกน่ะ” เขามองหล่อนอย่างรำคาญ “นอนได้แล้ว หรือว่าจะออกไปนอนข้างนอกก็ได้ อย่ากวนฉันอีกล่ะ”
“ไม่ได้นะคะ ยังไงนายน้อยก็ต้องเช็ดตัวก่อน นายน้อยมีประวัติชักเพราะไข้สูงตอนห้าขวบนะคะ”
คนที่กำลังจะหลับตาลงชะงักกึก และจ้องหน้าคนพูดเขม็ง “เธอรู้ได้ยังไง”
“เอ่อ…”