หลังจากส่งลูกชายที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว พะแพงก็มานั่งรอคุณลุงลูกโป่งของวินเซนต์ที่ร้านกาแฟใกล้ๆ กับโรงเรียนอนุบาล หล่อนจิบกาแฟรอเขาก่อนเวลา ในสมองก็มโนไปต่างๆ นานาถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
หล่อนภาวนาให้คุณลุงลูกโป่งของวินเซนต์เป็นผู้ชายใจดีมีเมตตาเหมือนคำบอกเล่าของลูกชายด้วยเถอะ
มือเล็กยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายทอดมองออกไปนอกประตูกระจกของร้านกาแฟที่นั่งอยู่ ก่อนที่จะเผยอปากกว้าง อุทานด้วยความตกใจ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับรถสปอร์ตหรูคันหนึ่งที่ขับมาจอดที่หน้าร้านกาแฟ ความคุ้นตาทำให้หล่อนรู้ดีว่าเป็นรถของใคร
“นายน้อย…” ลมหายใจของหล่อนสะดุดกึกอยู่แค่ลำคอ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
ทำไมโลกกลมแบบนี้นะ
ร้านกาแฟคับแคบไปถนัดตาเมื่อเดมอนที่มีเรือนกายสูงสง่าก้าวเข้ามาภายใน หล่อนหน้าซีดเผือด รีบหันหน้าไปด้านข้างของโต๊ะและจับเส้นผมยาวดำขลับมาปิดหน้าปิดตาเอาไว้ ภาวนาให้เขาเดินผ่านไปและจดจำหล่อนไม่ได้
มือเล็กเย็นเฉียบ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาในอุ้งมือจนเปียกชุ่ม และนรกที่ว่าน่ากลัวแล้วก็ยังไม่เท่ากับการที่เดมอนเดินมาหยุดที่ข้างโต๊ะพร้อมกับน้ำเสียงกระด้างของเขาเลย
“ขอนั่งด้วยคนนะแพตตี้”
“ฉัน…ไม่ใช่…คนที่คุณรู้จักหรอกค่ะ”
หล่อนยังเอาเส้นผมปิดหน้า และพยายามดัดเสียงเล็กเพื่อให้เขาจดจำไม่ได้ แต่เดมอนก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน แถมยังทรุดตัวลงนั่งโดยพลการอีกต่างหาก
“ต่อให้เธอเอาปี๊บคลุมหัว ฉันก็จำเธอได้ แพตตี้”
ดวงหน้างามของคนที่พยายามหลบซ่อนซีดยิ่งกว่ากระดาษถ่ายเอกสาร ความหวาดกลัวแล่นพล่านเต็มอก หล่อนจะทำยังไงดี ทำยังไงถึงจะหนีพ้นจากอุ้งมือของผู้ชายคนนี้
ในที่สุดก็กัดฟันหันมาเผชิญหน้ากับเขา และปั้นยิ้มบางๆ แม้ว่าสายตาจะเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
“สวัสดีค่ะ บังเอิญจังนะคะ”
เขาเหยียดยิ้มหยัน สายตาสีฟ้าเข้มที่จ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความดุกระด้างมากกว่าทุกครั้งที่หล่อนเคยเห็น
“ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันคือความตั้งใจของฉัน”
หล่อนไม่เข้าใจว่าเขาจงใจจะหมายถึงอะไร แต่หล่อนจะไม่อยู่คุยกับเขาต่ออีก หล่อนต้องไปจากที่นี่ แล้วค่อยโทรนัดให้คุณลุงลูกโป่งของวินเซนต์ไปเจอที่อื่นแทน
“ขอตัวนะคะ”
ร่างอรชรผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและจะก้าวหนีออกไปจากร้านกาแฟ แต่แขนเรียวถูกกระชากเอาไว้เสียก่อน
“นี่ปล่อยนะคะ”
หล่อนพยายามสลัดแรงๆ แต่ไม่หลุด แถมเขายังลุกขึ้นยืน และรั้งหล่อนให้ถอยหลังกลับมาเผชิญหน้ากับความดุร้ายของเขาอย่างเผด็จการ
“ปล่อยค่ะ ดิฉันจะไปแล้ว”
“จะไปไหนล่ะ เธอมีนัดที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
หน้าตาของหล่อนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นาย…นายน้อยรู้ได้ยังไงคะ”
เขาเหยียดยิ้มหยันอีกแล้ว ก่อนจะหรี่ตาแคบมองหล่อน “แล้วทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ”
“ก็…” หล่อนอึกอัก ก่อนจะสะบัดแขนแรงๆ และคราวนี้ได้รับอิสระอย่างง่ายดาย
“ดิฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่ดิฉันจะไม่อยู่คุยกับคุณอีกแล้ว ขอตัวค่ะ”
ใบหน้าหล่อจัดแต่แข็งกระด้างของเดมอนเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มเลือดเย็น ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และกดโทรออก เขาโทรหาใครหล่อนไม่อาจรู้ได้ แต่ที่น่าตกใจก็คือ ทำไมเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือของหล่อนดังขึ้นพอดี
หล่อนรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองเบอร์ที่หน้าจอ แต่ก็ยังไม่ทันกดรับสาย เดมอนก็พูดขึ้นเสียก่อน
“ทำไมไม่รับล่ะ เบอร์ของคนที่เธอกำลังรอไม่ใช่หรือ”
พะแพงเต็มไปด้วยความหวาดระแวงในคำพูดของเดมอน ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายเรียกเข้าจากคนที่หล่อนเดินทางมานั่งรอ หลังจากลังเลมาเป็นนาที
“สวัสดีค่ะ ดิฉันอยากเปลี่ยนที่นัดหมายของเราน่ะค่ะ”
หล่อนกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนจะต้องช็อกค้าง เมื่อเสียงกระด้างที่ตอบกลับมามันแตกต่างไปจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง หล่อนหันไปมองหน้าเดมอนอย่างตกใจสุดขีด และก็ได้เห็นว่าเขากำลังยิ้มเลือดเย็นเต็มใบหน้า
“คิดหรือว่าจะหนีฉันพ้น แพตตี้”
โทรศัพท์มือถือในอุ้งมือร่วงลงกระแทกกับพื้นโดยที่เจ้าของไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะยึดมันเอาไว้ ดวงหน้านวลซีดเผือดยิ่งกว่ากระดาษเอสี่ ขณะที่กลีบปากอิ่มสั่นระริกเปล่งคำพูดสั่นเทาออกไป
“ทำ…ทำไมเป็น…คุณคะ…”
เขาแสยะยิ้ม และมันก็เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเห็นมาก่อนในชีวิต
“ก็เพราะนรกต้องการลงโทษผู้หญิงแพศยาอย่างเธอไง”
“อุ๊ย…ปล่อยค่ะ”
ข้อมือเล็กถูกอุ้งมือใหญ่คว้าเอาไว้อีกครั้ง และคราวนี้เขาบีบแรงมากจนกระดูกของหล่อนแทบแหลกคามือใหญ่ น้ำตาของหล่อนไหลรินออกมาและพยายามดิ้นรน แต่เขาไม่ยอมปล่อย แถมยังกระชากร่างเล็กของหล่อนเข้าไปปะทะแรงๆ จากนั้นก็คำรามรดใบหน้าของหล่อนด้วยถ้อยคำเลือดเย็น
“เธอกล้ามากนะ ที่บังอาจซ่อนวินเซนต์จากฉันมาถึงสี่ปีเต็ม”
“ไม่…วินเซนต์ไม่ใช่…”
หล่อนส่ายหน้าพยายามปฏิเสธ แต่คนตัวโตเค้นเสียงคำรามราดรดใบหน้าของหล่อนอย่างมั่นใจเป็นที่สุด
“อย่าบังอาจมาพูดว่าวินเซนต์ไม่ใช่ลูกของฉันเด็ดขาด”
หล่อนน้ำตาไหล พยายามดิ้นรน แต่เขาไม่ยอมปล่อย “วินเซนต์ไม่ใช่ลูกของคุณ ไม่มีทางใช่! นี่ปล่อยฉันนะ!”
“ดีเอ็นเอความเป็นพ่อของฉันอยู่บนหน้าของวินเซนต์ขนาดนั้น เธอยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือแพตตี้”
“ไม่…ไม่ใช่…วินเซนต์เป็นลูกของฉัน…เขาเป็นลูกของฉันคนเดียว คุณอย่ามายุ่ง ปล่อยเราสองแม่ลูกไปเถอะ”
หล่อนร้องไห้วิงวอนอย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีความเมตตาใดๆ จากเดมอนส่งมาให้หล่อนเลย
“ฉันปล่อยเธอไปแน่ แต่วินเซนต์จะต้องอยู่กับฉัน”
“ไม่! ฉันไม่ยอม…”
รอยยิ้มเลือดเย็นบนใบหน้าของเดมอนช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน มันบอกให้รู้ว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้วินเซนต์ไปอยู่ข้างกาย
หล่อน…หล่อนพลาดตรงไหนกัน ทำไมเดมอนถึงได้รู้เรื่องนี้ และทำไมคุณลุงลูกโป่งของวินเซนต์ถึงเป็นเขา…เป็นเดมอนผู้ชายใจเหี้ยมคนนี้
“แพงขอร้องล่ะค่ะ ปล่อยเราสองแม่ลูกไปเถอะ แพงสัญญา…ว่าจะไม่มาให้นายน้อยเห็นหน้าพวกเราอีก โอ๊ย…” แรงกดจากฝ่ามือใหญ่เพิ่มมากขึ้นกะทันหันจนหล่อนเจ็บระบม
“เธอไม่มีสิทธิ์ซ่อนลูกชายจากฉันอีก หลังจากที่เธอทำมาสี่ปีเต็ม แพตตี้!”
“แต่เขาเป็นลูกชายของแพง…ได้โปรดเถอะค่ะ อย่ามายุ่งกับพวกเราอีกเลย”
“หึ…ถ้าอยากไปก็ไปคนเดียว ส่วนวินเซนต์จะต้องอยู่กับฉัน เขาจะต้องได้รับการชดเชยทุกอย่างจากฉัน หลังจากที่แม่ของเขาพรากเขาไปจากฉันหลายปี”
“ไม่…ไม่นะ…อย่าทำแบบนี้นะคะ”
หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น และเขาก็ปล่อยมือจากแขนของหล่อน แขนที่แดงช้ำจนน่าตกใจ
“ฉันจะไม่เหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้ อยากไปไหนก็ไปได้เลย แต่ห้ามมาวุ่นวายกับเราสองพ่อลูกอีก”
“นายน้อย…ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ วินเซนต์เป็นลูกชายของแพง และตามกฎหมายไทย แพงมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวของวินเซนต์แต่เพียงผู้เดียว”
แทนที่เขาจะสะทกสะท้านเมื่อหล่อนหยิบยกกฎหมายขึ้นมาข่มขู่ แต่เขากลับหัวเราะร่วน สายตาสีฟ้าเข้มยังคงมีแต่ความเลือดเย็นดุกระด้างเช่นเดิม
“อย่าลืมสิว่าอำนาจของฉันอยู่ที่เงิน หรือว่าเธออยากจะสู้กับฉันล่ะ”
หล่อนส่ายหน้าไปมา มองเขาอย่างสิ้นหวัง และทางออกเดียวที่จะช่วยให้หล่อนกับลูกได้อยู่ด้วยกันก็คือการยอมศิโรราบกับเดมอน หวังให้เขาเห็นใจ
ร่างอรชรค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น เข่าของหล่อนแตะที่พื้นภายในร้านกาแฟ ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาด้วยความเคลือบแคลงสงสัย แต่หล่อนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ตอนนี้สิ่งเดียวที่หล่อนต้องทำก็คือวิงวอนให้เดมอนยอมปล่อยหล่อนกับวินเซนต์ไปเท่านั้น
หล่อนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่ยืนตระหง่านไม่ไหวติงทั้งน้ำตา สองมือยกขึ้นประกบกัน และวิงวอนอย่างน่าสงสาร
“ได้โปรด…อย่าพรากลูกไปจากแพงเลยนะคะ”
เดมอนเมินหน้าหนีอย่างไร้หัวใจ
“นายน้อยสามารถมีลูกใหม่อีกกี่คนก็ได้ อย่ามาสนใจกับลูกที่เกิดจากท้องของผู้หญิงที่นายน้อยเกลียดชังเลยค่ะ ปล่อยพวกเราสองคนไปตามทางเถอะนะคะ อ๊ะ…”
ร่างของหล่อนถูกเขาตะปบที่หัวไหล่และกระชากให้ลุกขึ้นยืน “อย่ามาใช้วิธีน่าสงสารกับฉัน เพราะถึงยังไงซะ ฉันก็จะไม่มีทางให้อภัยผู้หญิงใจดำแบบเธอ”
“แพงไม่ได้ใจดำ แพง…”
“เธอใจดำยิ่งกว่าอีกา เธอกล้าพรากลูกชายไปจากฉัน ซ่อนเขาไม่ให้ฉันรู้มานานตั้งสี่ปี แล้วแบบนี้ เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีกหรือว่าเธอไม่ได้ใจดำ แพตตี้!”
“ที่แพงทำแบบนี้ ก็เพราะรู้ดีว่านายน้อยไม่ต้องการให้เขาเกิดมา”
“ฉันไปบอกเธอตอนไหน ฮึ!”
หล่อนน้ำตาทะลัก เม้มปากอิ่มจนแน่นเป็นเส้นตรง “นายน้อยจะต้องการวินเซนต์ได้ยังไงคะ ในเมื่อนายน้อย…แต่งงานกับคุณวิคกี้แล้ว”
“ก็ถ้าฉันรู้ว่าเธอตั้งท้อง ฉันก็จะไม่แต่งงานกับวิคกี้” เดมอนเค้นเสียงดุกระด้างออกมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แค่เธอบอกฉัน ไม่ใช่ซ่อนเขาจากฉันแบบนี้”
หล่อนเมินหน้าหนี น้ำตาไหลรินไม่หยุด “ปล่อยพวกเราไปเถอะค่ะ แพงขอร้อง”
เดมอนแค่นยิ้มหยัน ถอยหลังออกห่าง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปนอกร้านกาแฟ พะแพงรีบวิ่งตามไป เพราะหล่อนกลัวใจของเดมอน เขาอาจจะทำอะไรบ้าๆ ลงไปก็ได้ และเรื่องบ้าๆ ที่เขาอาจจะทำก็ต้องเกี่ยวกับวินเซนต์แน่นอน
“นายน้อยคะ นายน้อยจะไปไหนคะ”
เขาหยุดเดินที่ข้างรถสปอร์ต พร้อมกับตวัดสายตากระด้างมองมาที่หล่อน
“ฉันมีทางเลือกให้เธอสองทาง”
ผู้ชายตรงหน้าหยุดพูดเล็กน้อย ราวกับให้เวลาหล่อนเตรียมตัวที่จะรับฟังข้อเสนอร้ายกาจที่กำลังจะดังออกมาจากริมฝีปากกว้างหยักสวยของตัวเอง
“หนึ่ง กลับไปอยู่กับฉันในฐานะแม่ของลูกชายฉัน และสอง…” สายตาสีฟ้าเข้มดุกระด้างไร้การผ่อนปรน “ไปให้พ้นหน้าฉันและลูกชายของฉัน ห้ามกลับมาให้เจออีก”
ร่างของหล่อนแทบร่วงลงกองกับพื้น เมื่อได้ยินข้อเสนอเหี้ยมโหดของผู้ชายตรงหน้า
“ไม่…” หล่อนส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
MANGA DISCUSSION