นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 16
และก็ไม่คิดจะรอให้เขาต้องขับไล่ซ้ำอีก หล่อนรีบวิ่งออกไปจากขุมนรกนั้นด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หยาดน้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย
หล่อนเจ็บ หล่อนทรมานเหลือเกิน…
เมื่อพะแพงออกจากห้องไปแล้ว เดมอนก็หันมาถามวิคตอเรียด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“คุณมีอะไรกับผมหรือวิคกี้ ถึงมาหาโดยไม่ได้โทรบอกก่อน”
วิคตอเรียหรี่ตามองหน้าของเดมอน “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอคะ วิคกี้เคยเห็นมาก่อนหรือเปล่า”
“คนใช้ที่บ้านผมน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
“แต่คุณไม่เคยเรียกผู้หญิงคนไหนให้มาหาถึงห้องทำงานเลยนะคะ แต่นี่…” วิคตอเรียยังพูดไม่ทันจบ เดมอนก็แทรกขึ้นเสียก่อนด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผมนอนด้วยหรอกวิคกี้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลไป ยังไงซะ คุณก็คือตัวจริงของผมวันยังค่ำ”
วิคตอเรียระบายยิ้ม มองหน้าเดมอนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณแน่ใจเหรอคะเดมอน”
“ผมแน่ใจ ว่าแต่คุณเถอะ ยังไม่ตอบคำถามของผมเลย ว่าทำไมมาหาผมโดยไม่โทรมาหาก่อน”
“วิคกี้ก็แค่อยากจะเซอร์ไพรส์คุณน่ะค่ะ”
“ใช่ เซอร์ไพรส์มากเลย ดีนะที่ผมกับแม่นั่นเสร็จเรื่องกันแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเป็นตากุ้งยิงได้”
วิคตอเรียหัวเราะอย่างอารมณ์ดี หล่อนไม่หึงหวงเดมอนเลย เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มไม่มีทางจริงจังกับผู้หญิงคนไหนนอกจากตัวเอง ก็เหมือนที่หล่อนไม่เคยจริงจังกับผู้ชายคนไหนเท่ากับเดมอนนั่นแหละ
“วันนี้พาวิคกี้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะคะ ได้ไหม”
“ได้สิครับ” เดมอนรับคำ “พูดเหมือนไม่เคยไปค้างที่บ้านผมอย่างนั้นแหละ”
วิคตอเรียเดินเข้ามาสวมกอดเดมอน “และวิคกี้ก็จะขอค้างกับคุณด้วย โอเคไหมคะ”
เดมอนชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ตอบรับ “ได้สิ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย คุณจะค้างกับผมกี่คืนก็ได้”
“งั้นสามคืนเป็นอย่างต่ำ”
“ตกลงครับ”
ในขณะที่วิคตอเรียระบายยิ้มอย่างดีใจ เดมอนกลับรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงที่เขาคิดมาตลอดว่าเหมาะสมและคู่ควรอย่างวิคตอเรียนะ
พะแพงซมซานกลับมาคฤหาสน์ลินการ์ดด้วยความชอกช้ำใจ ความไม่ไยดีที่เดมอนแสดงออกมาทันทีเมื่อวิคตอเรียปรากฏตัวขึ้นไม่ต่างจากคมมีดที่กรีดลึกลงในเนื้อหัวใจ แม้จะพยายามพร่ำบอกว่าตัวเองก็แค่อีตัวฆ่าเวลา ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะแอบรักเดมอนด้วยซ้ำ แต่หัวใจก็ไม่รักดีเอาเสียเลย มันไม่ชอบเชื่อฟัง และร่ำร้องหาแต่ผู้ชายไม่มีหัวใจอย่างเดมอนทุกเมื่อเชื่อวัน
“หยุดคิด…หยุดคิดเถอะ แพง…”
หล่อนทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงทันทีเมื่อก้าวเข้ามาให้ห้องพัก สภาพในตอนนี้ของหล่อนช่างไม่ต่างจากตุ๊กตาผ้าเก่าๆ ที่ถูกเขี่ยทิ้งลงถังขยะแม้แต่น้อย มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าร่ำไห้อย่างน่าเวทนา หัวใจปวดร้าวเหลือเกิน
เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่หล่อนถึงจะหลุดพ้นจากวังวนแห่งความทรมานนี้เสียที และเมื่อไหร่เดมอนจะปล่อยหล่อนไป…?
ช่วงเย็นของวันเดียวกัน หล่อนก็ถูกเรียกให้ขึ้นมารับใช้ภายในห้องอาหาร ท่ามกลางภาพบาดตาบาดใจของเดมอนกับวิคตอเรียที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกันอยู่ตลอดเวลา น้ำตาของหล่อนตกใน กลีบปากอิ่มสั่นระริก หล่อนต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ภายในความอึดอัดแสนเหี้ยมโหดนั้นอยู่นานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ จนกระทั่งมื้อค่ำของคู่รักที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเสร็จสิ้นลง แต่นรกก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากข้อเท้าของหล่อน
“เธอน่ะ ชื่ออะไรเหรอ”
วิคตอเรียไม่ได้เดินตามเดมอนออกไปจากห้องอาหารในทันที เพราะหยุดยืนมองพะแพง
พะแพงเม้มปากเป็นเส้นตรง พูดไม่ออก หน้าตาเศร้าหมอง “แพตตี้ คุณวิคกี้ถามไม่ได้ยินหรือไง”
คำเตือนไม่พอใจของป้ามิเชลล์ทำให้หล่อนได้สติ รีบเดินเข้าไปหา และก้มหน้ามองพื้น
“ดิฉันชื่อพะแพงค่ะ”
“พะแพงเหรอ” วิคตอเรียทวนคำ ก่อนจะถามต่อ “แต่ฉันได้ยินเดมอนเรียกเธอว่าแพตตี้”
พะแพงเผลอตัวเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับวิคตอเรียโดยบังเอิญ
“เอ่อ ทุกคนที่นี่เรียกดิฉันว่าแพตตี้ค่ะ เพราะพะแพงออกเสียงยากกว่าค่ะ”
วิคตอเรียระบายยิ้มให้ และเอียงคอมองสาวใช้ตรงหน้าอย่างพิจารณา
“หน้าเธอหวานมากนะ ตาก็สวยซึ้งดี เพราะอย่างนี้นี่เองเดมอนถึงเรียกเธอมานอนด้วย”
แก้มนวลของพะแพงร้อนผ่าว ความอับอายแล่นพล่านไปทั้งร่างกายจนตัวสั่นเทา
“เอ่อ…”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ เธอจะมีอะไรกับเดมอนฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก เพราะฉันกับเดมอนเรายังไม่ได้แต่งงานกัน ฉันใจกว้างเสมอ และที่สำคัญ เดมอนก็บอกว่าไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอด้วย”
คำพูดของวิคตอเรียราวกับคมมีดที่ปักฉึกลงกลางหัวใจของหล่อน พะแพงก้มหน้าหลบสายตาของวิคตอเรีย หยดน้ำตาไหลออกมาจากสองดวงตา
“ดิฉัน…ขอตัวไปเก็บโต๊ะก่อนนะคะ”
“ไปช่วยฉันจัดกระเป๋าเสื้อผ้าดีกว่า”
ความต้องการของวิคตอเรียทำให้พะแพงตกใจ “เอ่อ แต่ว่า…”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงคิดหงุมหงิม ฉันไม่หึงเธอกับเดมอนหรอก ไป…ขึ้นไปช่วยฉันจัดของหน่อย”
“ไปสิแพตตี้ คุณวิคกี้สั่งแล้วน่ะ” ป้ามิเชลล์รีบออกคำสั่งเมื่อเห็นพะแพงยังคงยืนนิ่ง
“ค่ะ”
วิคตอเรียฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบรับจากพะแพง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับป้ามิเชลล์
“วิคกี้ขอตัวก่อนนะคะป้ามิเชลล์ ไว้พรุ่งนี้จะมาคุยด้วยใหม่ค่ะ”
“เที่ยวนี้คุณวิคกี้จะมาอยู่กี่วันเหรอคะ”
ใบหน้าของวิคตอเรียยังคงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม “น่าจะสักสามสี่วันน่ะค่ะ แต่ถ้าเดมอนอยากให้วิคกี้อยู่นานกว่านี้ วิคกี้ก็โอเคค่ะ”
“นายน้อยต้องอยากให้คุณวิคกี้อยู่ที่นี่นานๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ” ป้ามิเชลล์อมยิ้ม
“แหม ป้ามิเชลล์พูดแบบนี้วิคกี้ก็เขินแย่สิคะ”
“ป้าพูดเรื่องจริงค่ะ ว่าแต่เมื่อไหร่จะแต่งงานกันสักทีล่ะคะ ป้ารอเลี้ยงคุณชายน้อยไม่ไหวแล้วนะคะเนี่ย”
“เรื่องแต่งงานคงต้องให้ป้ามิเชลล์ไปถามเดมอนเองแล้วล่ะค่ะ วิคกี้ไม่มีความเห็น” วิคตอเรียหน้าแดงระเรื่อด้วยความขัดเขิน “ไม่เอาแล้ว วิคกี้ไปก่อนนะคะ”
“ตามสบายค่ะคุณวิคกี้” ป้ามิเชลล์ยิ้มตอบอย่างมีไมตรีให้กับวิคตอเรีย ก่อนจะหันมากำชับพะแพง “เธอดูแลคุณวิคกี้ให้ดีนะแพตตี้ อย่าให้ขาดตกบกพร่องเด็ดขาด”
“ค่ะ คุณแม่บ้านใหญ่”
พะแพงตอบรับคำสั่งของป้ามิเชลล์ทั้งน้ำตา ก่อนจะย่ำเท้าตามหลังวิคตอเรียไปเงียบๆ แต่ระหว่างทางวิคตอเรียก็ชวนคุยไม่หยุด แต่หล่อนก็มักจะเป็นผู้ฟังที่ดีเสียมากกว่า จนกระทั่งเดินมาถึงห้องนอนของเดมอน วิคตอเรียก็ยกมือขึ้นเคาะประตู
“เดมอนคะ วิคกี้เข้าไปนะคะ”
“เชิญครับ”
คำพูดแสดงความคุ้นเคยของทั้งสองคนทำให้พะแพงยิ่งเจียมตัวเอง หล่อนก้าวตามร่างอรชรของวิคตอเรียเข้าไปภายในห้องนอนของเดมอน และก็ได้เห็นเขายืนเช็ดเส้นผมที่ยังคงเปียกลู่อยู่หน้ากระจก ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขามีเพียงเสื้อคลุมผ้าขนหนูตัวเดียวเท่านั้น บอกให้รู้ว่าเขาเตรียมพร้อมสำหรับวิคตอเรียมากแค่ไหน
หล่อนเจ็บไปทั้งหัวใจ เจ็บปวดจนแทบจะขาดใจ แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้ กลั้นน้ำตาเอาไว้สุดกำลัง
“กระเป๋าเสื้อผ้าของฉันวางอยู่ในห้องเสื้อผ้า เธอเข้าไปจัดให้เรียบร้อยนะแพตตี้” วิคตอเรียหันมาสั่งเสียงเรียบ
“ค่ะ” หล่อนรับคำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะรีบเดินค้อมหลัง เลื่อนบานประตูสไลด์และก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัวที่ถูกแยกออกจากห้องนอนกว้างอย่างเป็นสัดส่วนด้วยความรวดเร็ว พอเข้ามาถึงหยาดน้ำตาก็รินไหลออกมาราวกับธารน้ำ
หล่อนเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บทรมานราวกับหัวใจกำลังถูกทิ่มแทง ร่างเล็กทรุดลงนั่งคุกเข่าตรงหน้ากระเป๋าเดินทางสีชมพูหวานของวิคตอเรีย กำลังจะเปิดมันออกเพื่อจะนำเสื้อผ้าและข้าวของของวิคตอเรียออกมาจัดใส่ตู้เสื้อผ้า แต่เสียงครวญครางของคนสองคนที่อยู่ด้านนอกดังมาเข้าหูเสียก่อน
“อ๊า…เดมอน…แรงๆ ค่ะ อ๊า…ลึกอีก…อา…อา…”
เสียงครวญครางของวิคตอเรียดังขึ้น พร้อมๆ กับเสียงเตียงนอนที่โยกเป็นจังหวะ ทำไมหล่อนจะไม่รู้ล่ะว่าข้างนอกกำลังเกิดอะไรขึ้น หล่อนรีบยกมือขึ้นอุดปากกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองเอาไว้ ซบหน้ากับหัวเข่าของตัวเอง และคร่ำครวญด้วยความทรมานที่สุดในชีวิต
เสียงครวญครางของทั้งสองคนยังดังแว่วมาเข้าหูอย่างต่อเนื่อง และหล่อนก็ไม่อาจจะนั่งอยู่ภายในห้องแต่งตัวทนฟังต่อไปได้อีก หล่อนลุกขึ้นยืน เลื่อนบานประตูไม้ให้เปิดออก และวิ่งผ่านเตียงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว
“ล็อกประตูให้ด้วย” เสียงกระด้างร้องสั่งตามหลังมาก่อนที่หล่อนจะทันได้ก้าวข้ามธรณีประตู หล่อนหันไปมองก็เห็นว่าเดมอนที่นอนหงายให้วิคตอเรียควบขี่อยู่จ้องมองมาที่ตัวเอง
“เข้าใจที่สั่งใช่ไหม”
หล่อนเม้มปากแน่น ยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะรีบดันบานประตูให้ปิดสนิทลง และวิ่งกลับห้องพักของตัวเองไปด้วยหัวใจที่แตกสลายยับเยิน
“เธอรู้ตัวใช่ไหมว่านายน้อยมีตัวจริงอยู่แล้ว นั่นก็คือคุณวิคกี้”
ป้ามิเชลล์ที่นั่งรอหล่อนอยู่หน้าห้องพักลุกขึ้นยืนและเดินมาขวางหน้าเอาไว้
“ดิฉัน…ทราบดีค่ะ และระลึกอยู่เสมอ” หล่อนตอบออกไปเสียงสะอื้น
“ถ้าเธอทำได้อย่างที่พูด เธอก็จะไม่เจ็บเพราะความผิดหวัง”
หล่อนทำได้แค่พยักหน้าตอบรับป้ามิเชลล์
“ไปพักผ่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเข้าไปรับใช้ในตึกใหญ่ เธอจะได้ทำใจได้เร็วขึ้น”
หล่อนเงยหน้าขึ้นมองป้ามิเชลล์อย่างซาบซึ้งใจ แม้หญิงสูงวัยจะดูเป็นคนระเบียบจัดแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วป้ามิเชลล์ก็ใจดีกับหล่อนไม่น้อยเลยทีเดียว
“ขอบคุณมากค่ะคุณแม่บ้านใหญ่”
“ไม่เป็นไร เพราะฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี” ป้ามิเชลล์จ้องหน้าพะแพง “ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ได้ใกล้ชิดกับนายน้อยแล้วจะไม่ตกหลุมรัก โดยเฉพาะผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างเธอ แพตตี้”
หล่อนทำได้แค่ก้มหน้าหลบสายตาของป้ามิเชลล์และร้องไห้ออกมาเงียบๆ
“ไปพักเถอะ ฉันกลับล่ะ”
ป้ามิเชลล์เดินจากไปแล้ว ในขณะที่หล่อนค่อยๆ ก้าวหายเข้าไปภายในห้องพัก สองเท้าไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะก้าวไปจนถึงเตียงนอน ร่างอรชรอ่อนแรงทรุดฮวบลงกับพื้นห้อง และหล่อนก็ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ตรงนั้นยาวนาน