นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 13
“แล้วคนที่ผมเรียกล่ะ ทำไมยังไม่มา”
เดมอนโวยวาย เมื่อเห็นป้ามิเชลล์ปรากฏตัวขึ้นภายในห้องนอนของตัวเองเพียงคนเดียว
“เอ่อ…แพตตี้เป็นไข้น่ะค่ะ ก็เลยมาไม่ไหว”
คนที่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงดีดตัวนั่งตรงทันที ดวงตาสีฟ้าเข้มวาบวับขึ้น
“ไม่สบาย…?”
“ค่ะ”
“ป่วยได้ยังไง เมื่อตอนบ่ายยังเห็นแข็งแรงดีอยู่เลยนี่”
คำพูดของเดมอนทำให้ป้ามิเชลล์อดสวนออกไปไม่ได้ “ก็นายน้อยไม่ให้เธอพักเลยนี่คะ”
“ป้า-มิ-เชลล์”
เจ้าของชื่อก้มหน้าหลบสายตาเมื่อถูกเดมอนเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงดุดัน
“เอ่อ ป้าขอโทษค่ะ”
เดมอนกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ รู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้
“แล้วเป็นอะไรเยอะหรือเปล่า”
“เอ่อ ก็น่าจะเป็นหนักเหมือนกันค่ะ”
“งั้นก็ไปเรียกหมอมาตรวจ อ้อ แล้วตอนที่หมอมาถึง ป้ามาเรียกผมลงไปดูด้วยนะครับ” สายตาของเดมอนจ้องป้ามิเชลล์เขม็ง “เพราะผมอยากรู้ว่าแม่นั่นป่วยจริงหรือว่าแค่ป่วยการเมือง”
ป้ามิเชลล์หน้าซีดเผือดลง แต่ก็จำต้องตอบรับออกไป “ค่ะ นายน้อย”
“ออกไปได้แล้วครับ”
“ค่ะ นายน้อย”
ป้ามิเชลล์รีบลนลานออกไปจากห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม ในขณะที่เจ้าของห้องกำลังนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่
“โดนแค่นี้ป่วยได้ยังไงกัน”
เขาพึมพำด้วยความแคลงใจ แต่ภายในความแคลงใจนั้นก็อดที่จะแฝงไปด้วยความห่วงใยไม่ได้ จนในที่สุดก็ไม่อาจจะทนนั่งนิ่งอยู่บนเตียงต่อไปได้ ร่างสูงใหญ่พุ่งออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว และจุดหมายก็คงไม่ใช่ที่ไหน นอกจากห้องพักของพะแพงนั่นเอง
ปัง ปัง ปัง
เสียงทุบประตูดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนหล่อนต้องรีบถลาลงไปจากเตียง และรีบเปิด
“ได้ข่าวว่าไม่สบาย”
ผู้ชายที่อยู่หลังบานประตูทำให้หล่อนตกใจหน้าตาซีดเผือด พยายามจะหนีเข้าห้อง แต่เขาก็แทรกตัวตามเข้ามาติดๆ และจัดการปิดประตูห้องตามหลังอีกด้วย
“นาย…นายน้อยมีธุระอะไรกับดิฉันเหรอคะ” หล่อนถอยหนีไม่หยุด
“ก็แค่อยากจะรู้ว่าเธอป่วยจริงหรือเปล่า”
“เอ่อ…ดิฉันปวดหัวค่ะ รู้สึกไม่ค่อยดี” หล่อนตอบไปตามความจริง
“ดิฉัน…ขอพักผ่อนก่อนเวลาเลิกงานนะคะ”
ชายหนุ่มสาวเท้าก้าวเข้ามาหา ก่อนจะรวบร่างอรชรเอาไว้ในอ้อมแขน ไอร้อนจากผิวสาวทำให้เขานิ่วหน้าเล็กน้อย
“ตัวร้อนจริงๆ ด้วย”
“ได้โปรด…ปล่อยดิฉันเถอะค่ะ…”
“อย่าดิ้นสิ” เขาออกคำสั่ง เมื่อสาวน้อยในอ้อมแขนดิ้นรนไม่หยุด ดิ้นรนถูไถจนเจ้าท่อนเนื้อภายใต้กางเกงขายาวแข็งชันขึ้นอีกแล้ว “เห็นไหมมันตื่น”
เขาขยับสะโพกเข้าหาเป็นจังหวะ ถูไถความเป็นชายกับหน้าท้องของหล่อนอย่างจงใจ
พะแพงหน้าตาซีดเผือด หยุดดิ้นโดยอัตโนมัติ ร่างกายร้อนจัดมากขึ้นจนแทบไหม้เกรียม
“คราวหน้าคราวหลัง ถ้าฉันกอดห้ามดิ้น เพราะถ้าเธอดิ้น ฉันจะยิ่งปล่อยเธอไปไม่ได้”
แล้วจะให้หล่อนทำยังไงล่ะ ปล่อยให้เขากอดอย่างนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ
พะแพงทำได้แค่เพียงสงสัยอยู่ภายในใจเท่านั้น ไม่มีความกล้าพอที่จะถามออกไป
“กินยาหรือยัง”
“เอ่อ…ยังค่ะ”
“ทำไมไม่กิน หรือคิดว่าจะหายเองได้” น้ำเสียงตำหนิของเขาทำให้หล่อนน้ำตาซึม
“คือ…ดิฉัน…ไม่มีแรงจะออกไปหยิบยาค่ะ”
กรามแกร่งของเดมอนขบกันแน่น ก่อนจะย่อตัวลงช้อนร่างอรชรของพะแพงขึ้นจากพื้น
“อุ๊ย…นายน้อยจะทำอะไรคะ”
“อยู่เฉยๆ เถอะน่า”
เขาดุหล่อนเสียงเฉียบขาด ก่อนจะพาหล่อนไปวางลงบนเตียงแคบๆ ของหล่อนเอง
“เดี๋ยวฉันจะให้คนเอายามาให้ แล้วกินเสียด้วยล่ะ ห้ามดื้อ”
เขาสั่งหล่อนราวกับรู้ว่าหล่อนเกลียดการกินยา
“คือว่า…ไม่ต้องกินยาก็ได้มั้งคะ”
“ถ้าไม่กินยาก็ต้องฉีดยา” คนที่ยืนตระหง่านอยู่โน้มตัวลงมาหา สองแขนเท้าคร่อมร่างเล็กของหล่อนเอาไว้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยเพลิงสวาท “และฉันจะเป็นคนฉีดยาให้เธอเอง” ชายหนุ่มแสยะยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของพะแพงมึนงง “ก็เหมือนเมื่อตอนกลางวันที่ห้องทำงานฉันไง ฉีดแบบนั้นน่ะ รับรองเธอจะหายไข้เป็นปลิดทิ้งแน่นอน”
ใบหน้างามที่เคยมีความมึนงง ตอนนี้แดงก่ำราวกับมะเขือเทศสุก
“นาย…นายน้อย…”
“ฉันพูดจริงทำจริงแค่ไหนเธอก็รู้นี่”
แล้วชายหนุ่มก็ยืดตัวตรง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ หลายครั้ง
“รีบหายล่ะ เพราะเธอต้องทำงาน” เขาหยุดพูดเล็กน้อย นัยน์ตาสีฟ้าเข้มจ้องมองมาตลอดเวลา “บนเตียงของฉัน”
แล้วห้องพักของหล่อนก็กว้างขึ้นถนัดตา เมื่อผู้ชายตัวโตเดินหายออกไป
พะแพงนอนหน้าซีดสลับแดงอยู่บนเตียง กลีบปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง มองเห็นเส้นทางเดินลงไปสู่ขุมนรกที่มีเดมอนเป็นมัจจุราชอย่างชัดเจน
เมื่อไหร่ผู้ชายคนนี้จะหยุดรังแกหล่อนเสียทีนะ
เดมอนรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดงุ่นง่านที่กำลังระเบิดซ่านอยู่ในอกได้อย่างชัดเจน มันเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนงานตรงหน้าไร้ความหมายไปอย่างสิ้นเชิง
เสียงลมถูกเป่าพ่นออกมาจากริมฝีปากกว้างหยักสวยแรงๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกไปเกาะขอบหน้าต่างบานใหญ่ มือหนาเลื่อนบานกระจกให้เปิดกว้างออก สายลมเย็นฉ่ำยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศวิ่งเข้าปะทะกายหนุ่ม ทิ่มแทงจนเขารู้สึกสะท้านไปทั้งจิตวิญญาณ
ทำไมต้องรู้สึกโหยหาพะแพงขนาดนั้นด้วย ทำไมจะต้องรู้สึกต้องการที่จะฝากฝังความเป็นชายเข้าสู่ร่างสาวคับแคบนั่นจนแทบบ้าแบบนี้
เขาเป็นอะไรไป ทำไมสมองเอาแต่คิดถึงเรื่องตัณหาราคะ ทำไมถึงปล่อยให้ความรู้สึกที่อยู่ต่ำกว่าสะดือมามีอำนาจเหนือสมองอันชาญฉลาดของตัวเองแบบนี้
“บ้าชิบ!”
เดมอนสบถอย่างโมโหตัวเอง เพราะไม่ใช่แค่ความโหยหาหิวกระหายเท่านั้นที่เขามีต่อพะแพง แต่ความห่วงใยก็มีให้มากล้นไม่แตกต่างกัน
ป่านนี้หล่อนจะเป็นยังไงบ้างนะ หายป่วยแล้วไข้จะกลับมาอีกหรือเปล่า
หัวใจของเขาขึ้นชื่อเรื่องความแข็งกระด้าง แต่กลับอ่อนไหวง่ายดายกับผู้หญิงคนนี้ นางบำเรอเนื้อหวานที่เขาไม่อาจจะต้านทานรสสวาทของเจ้าหล่อนได้
ในที่สุดก็ไม่อาจจะต้านทานความทรมานแสนคลุ้มคลั่งที่เกิดจากมโนภาพร้อนแรงของเขากับหล่อนได้ ภาพที่สองร่างเปลือยเปล่าเคลื่อนไหวเสียดสีกันไปมา ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นเบิกกว้าง ทั้งตื่นตระหนกและทั้งวิงวอนในเวลาเดียวกันยามที่เขาสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปหา หล่อนกรีดร้องครวญคราง ดิ้นเร่าๆ ยกหยัดร่างสาวขึ้นถูไถ และเพียงไม่นานที่เขาเคลื่อนไหวฝังลึก ละอองแห่งความสุขก็อาบไล้ไปทั่วทั้งกายสาว เขาเฝ้ามองใบหน้านวลที่แดงก่ำยามสุขสม ไม่…ไม่ใช่แค่ที่ใบหน้าที่แดงซ่าน แต่พะแพงแดงอมชมพูไปทั้งเรือนร่าง หล่อนเป็นคู่นอนคนแรกที่ทำให้เขาเฝ้ามองด้วยความหลงใหล ทุกกิริยาอ่อนหวานของหล่อน ช่างทำให้เขาเต็มตื้นในหัวใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขากระแทกกระทั้นสอดใส่ล้ำลึก เคลื่อนไหวด้วยความเร็วระรัว จนในที่สุดเขาก็สุขสมอย่างแรงกล้าในร่างของหล่อน ในกายสาวแสนคับแน่น เขาแตกระเบิดซ้ำๆ หลายครั้งติด
มันน่าอัศจรรย์เหลือเกิน…
ชายหนุ่มสบถครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความสะอิดสะเอียนตัวเอง แต่กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะทนทำงานต่อไปได้อีก เขาคว้าเสื้อสูทมาพาดที่ท่อนแขน และก้าวออกไปจากห้องทำงานด้วยความรีบร้อน
“ผมจะไม่กลับเข้ามาแล้วนะไบโอนี มีอะไรด่วนที่รอถึงวันพรุ่งนี้ไม่ได้ให้โทรหาผม”
“ท่านประธานจะกลับบ้านเหรอคะ”
“ใช่” เดมอนตอบเสียงกระด้าง ก่อนจะก้าวเดินตรงไปที่ลิฟต์ และเมื่อประตูลิฟต์เปิดกว้างออก เขาก็ก้าวหายเข้าไปทันที
ไบโอนีมองตามไปด้วยสายตาแคลงใจ “ท่านประธานหน้าบูดๆ ใครทำให้ไม่พอใจอีกนะ”