นักอัญเชิญแห่งแฟรี่เทล - ตอนที่ 7 : จอมเวทย์ผู้น่าเชื่อถือแห่งแฟรี่เทล
นักอัญเชิญแห่งแฟรี่เทล ตอนที่ 7 : จอมเวทย์ผู้น่าเชื่อถือแห่งแฟรี่เทล
เควินขี่อยู่บนหลังมังกรค้างคาวพร้อมมุ่งหน้าไปยังแมกโนเลีย มังกรค้างคาวเป็นหนึ่งในสัตว์อัญเชิญที่เควินสร้างขึ้นมาโดยมีองค์ประกอบมาจากสัตว์ทั้งหมดสามชนิดซึ่งได้แก่ “มังกร” “ปีศาจ” และ “ค้างคาว” แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของมันจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่ความเร็วในการบินของมันนับได้ว่ายอดเยี่ยม
แต่ถึงอย่างนั้นกว่าเควินจะมาถึงยังแมกโนเลียท้องฟ้าก็มีดสนิท เควินเลือกที่จะไม่กลับไปที่กิลด์ เขาสั่งให้มังกรค้างคาวบินลงสู่พื้นในบริเวณนอกเมืองจากนั้นก็เดินกลับไปที่บ้านของตนเพียงลําพัง
เขาเปิดประตูบ้านเข้าไปและพบกับหญิงสาวในชุดเปิดเผยเนื้อหนังกําลังดื่มไวน์อยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น ขวดเปล่าจํานวนมากกองบนโต๊ะด้านหน้าโซฟา”
“คาน่าเธอแอบดื่มไวน์โดยไม่ขออีกแล้วนะ” เควินทําหน้าหดหูพร้อมเก็บขวดไวน์ ไวน์พวกนี้เป็นไวน์ราคาแพงหูฉีที่เขาพี่งซื้อมาเก็บเอาไว้
คนที่อยู่ในบ้านของเควินตอนนี้ก็คือคาน่าผู้ซึ่งเข้าร่วมแฟรี่เมลพร้อมกับเควิน หลังจากผ่านมาหลายปีจากสาวน้อยแสนน่ารักก็ได้กลายเป็นสาวใหญ่หน้าอกอวบอันอย่างเต็มตัว
“อย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลยน่า ไวน์พวกนี้มันก็ต้องคู่กับสุภาพสตรีอยู่แล้ว” พูดจบคาน่าก็กระดกไวน์ทั้งขวดใส่ปาก
“กล้าพูดว่าตัวเองเป็นสุภาพสตรี แต่วันๆเอาแต่แต่งตัวแบบเกรย์เนี่ยนะ” เควินเหลือบมองหน้าอกที่เด้งไปมาซึ่งมีผ้าผืนบางปิดกั้นเอาไว้เท่านั้น มันสั่นขึ้นสั่นลงตามการกระดกไวน์ของคาน่า
“ยี่สี่ แอบมองอยู่ละสีใช่ไหม?” คาน่าสัมผัสได้ถึงการแอบมองจองเควิน เธอใช้มือของเธอดันหน้าอกขึ้นมาเพื่อหยอกล้อเควินแววตาของเธอหยาดเยิ้ม “อยากลองจับดูก็
ได้”
เควินตัวแข็งค้างไปในทันที เขาเดินเข้าใกล้ตัวคาน่าพร้อมมองเธอที่กําลังเมาและใกล้จะหมดสติพร้อมยืดแขนออกมา
ตุ๊บ!
เควินไม่ลังเลจะสับหลังคอคาน่าที่กําลังเมาหนัก ร่างของคาน่าค่อยๆล้มลง เควินถอนหายใจก่อนจะอุ้มพาเธอไปไว้ในห้องรับแขกก่อนจะปิดประตูและเดินออกไป
“สาวน้อยไร้เดียงสาตอนนั้นหลงทางผิดซะแล้วสิ…หรือจะพูดว่าสมกับที่มีสายเลือดของกิลดาสดีนะ…” เควินเดินเข้าไปในครัวพร้อมทําอาหารเย็น
วันต่อมาเมื่อเควินตื่นนอน เขาก็เดินไปที่ครัวพร้อมดื่มนมก่อนจะนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น “อ้า- เป็นเช้าที่สดชื่นดีจริงๆ”
เควินพึมพํากับตัวเอง ไม่นานนักคาน่าก็เดินออกมาจากห้องน้ําโดยมีผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียวพันรอบตัวเธอเอา
“พรวด!” นมทะลักออกจากปากของเควินไปโดนคาน่า จนทั่วตัว
“นายทําอะไรกันเนี่ย ฉันพึ่งอาบน้ําเสร็จแท้ๆ!” คาน่าพูดอย่างไม่พอใจ พร้อมใช้มือปาดของเหลวสีขาวออกจากหน้า
“คาน่าเธอไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” เควินรีบเบือนหน้าหนีพร้อมพูดเสียงสั่นเล็กน้อย การที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้าเขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน
“ทําตัวไร้เดียงสาไปได้ นายเคยเห็นเรือนร่างฉันหมดแล้วไม่ใช่รึไง” คาน่าพูดขึ้นพร้อมเดินไปที่โซฟาหยิบนมของเควินและกระดกเข้าปากทันที
“นั่นมันกี่ปีมาแล้วล่ะ…แล้วก็หยุดพูดเรื่องพวกนั้นได้แล้วมันน่าอายไม่ใช่รึไง” เควินใช้มือขยี้หัวพลางถอนหายใจก่อนจะลุกเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้า
คาน่าไปเช็ดตัวเอาและเปลี่ยนชุด โดยชุดที่เธอใส่ยังคงเป็นชุดเดิมกับชุดเมื่อวาน ในมือของเธอมีขวดไวน์ที่ไม่รู้เอามาจากที่ไหนอยู่
“อย่างน้อยช่วยอดทนอย่าดื่มตั้งแต่เช้าจะได้ไหม?” เควินสัมผัสได้ว่าบนหน้าผากเขาน่าจะมีรอยตีนกาผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน
ตัวเขาเองก็เป็นคนชอบดื่มไม่ต่างกัน แต่เขาก็ไม่คิดจะดื่มตั้งแต่เช้าขนาดนี้
“ไม่ว่าตอนไหนฉันก็ดื่มได้ทั้งนั้นแหละ จะว่าไปภารกิจเป็นไงบ้าง? ลัคซัสกับนายไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”
“น่ารําคาญสุดๆ หลังจากจบภารกิจก็ต้องมาสู้กันเองต่อ อีก”เควินอดที่รู้สึกปวดหัวไม่ได้เมื่อนึกถึงเจ้าเด็กมีปัญหานั่น
“สุดท้ายก็สู้กันเหมือนที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด แล้วนายชนะ รึเปล่า?” คาน่าถามขึ้น
เควินยิ้ม “ไม่มีใครชนะไม่มีใครแพ้ทั้งนั้น ฉันใช้มังกรค้างคาวบินหนีมาตอนที่พลังเวทย์เกือบจะหมด”
“ฮะลัคซัสคงโกรธน่าดู” คาน่าหัวเหราะอย่างชอบใจ เธอรู้ดีว่าจากนิสัยของเควินที่เป็นคนขี้เล่นไม่มีทางเลยที่เขา จะยอมสู้กับลัคซัสอย่างจริงจัง
หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกมาพ ร้อมๆกันคาน่ากลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุด ส่วน
ทางเควินเขาเดินตรงไปที่กิลด์ ก่อนที่จะเข้าไปเควินก็ได้ยินเสียงดังลั่นจากข้างใน
“พวกนี้โหวกเหวกโวยวายกันตั้งแต่เช้าเลย มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นรึไง?” เควินหัวเราะเบาๆพร้อมผลักประตูเข้าไป
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน ฉันกลับมาแล้ว” เควินทักทายทุกคนด้วยความกระตือรือร้น แน่นอนว่าคนอื่นๆก็ตอบกลับด้วยความกระตือรือร้นเช่นเดียวกันจอมเวทย์ของแฟรี่เทลเป็นพวกที่มีอัธยาศัยดีและมีพลังงานล้นเหลือกันทุกคน
“เควินในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที ภารกิจไม่มีปัญหาใช่ไหม?” หัวหน้ากิลด์อย่างมาคารอฟชื่นชอบเควินเป็นอย่างมากเพราะนอกจากเควินจะแข็งแกร่งแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในไม่เกี่คนที่ไม่สร้างปัญหาอีกด้วย สมาชิกทุกคนภายในกิลด์ต่างมองว่าเขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดคนหนึ่ง
“ไม่มีปัญหา” เควินตอบกลับไปง่ายๆ เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของมาคารอฟเริ่มผ่อนคลายลง ก่อนจะกลับไปทําหน้ากังวลอีกครั้ง
“มิร่า มาสเตอร์เป็นอะไรงั้นเหรอ? ดูเขาหงุดหงิดแปลกๆเกิดอะไรขึ้น?” เควินเดินเข้ามาถามสาวสวยผมยาวสีขาว
“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้มาสเตอร์ต้องไปที่สภาจอมเวทย์ได้ยินมาว่าเมื่อคืนนัตสึทําท่าเรือเสียหายไปครึ่งนึ่ง”
“นัตสีอีกแล้ว? หมอนั่นหยุดสร้างปัญหาเป็นไหมเนี่ย” แม้ว่าเควินจะพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย แต่หญิงสาวผมขาวแอบสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจเล็กๆในน้ําเสียงขอเควิน
“เควินไหนๆเจ้าก็กลับมาแล้ว ตามข้าไปที่สภาจอมเวทย์หน่อย” มาคารอฟหันมาพูดกับเควิน
“จะเอาผมไปเป็นไม้กันหมาอีกแล้วล่ะสิ?” เควินถอนหายใจพร้อมพยักหน้า
“ขอบคุณที่ช่วยนะเควิน” หญิงสาวผมขาวยิ้มให้เขาอย่างสุภาพ นั่นทําให้สภาพจิตใจของเควินที่ดําดิ่งอยู่ได้รับการรักษาทันที
หญิงสาวผมขาวที่เควินเรียกชื่อเธอว่ามิร่าเป็นหนึ่งในสาวงามของแฟรี่เทล ในสายตาของเควินเธอนั้นสวยที่สุดและไม่มีใครในแฟรี่เทลที่สามารถเทียบเคียงเธอได้
นอกจากความงามที่ดูเหมือนกับจะเป็นนางฟ้าแล้ว มิร่าเองก็มีร่างกายที่แสนเร่าร้อน เธอสวมชุดเดรสสีดําสนิททําให้เธอดูเจ้าอารมณ์ ดุร้าย และสง่างามในเวลาเดียวกัน ซึ่งบุคลิกที่ดูขัดแย้งกันเองของมิร่าทําให้ผู้ชายหลายคนต้องการปกป้องดูแลเธอ
“น้องมิร่าจํา! ขอเบียร์หน่อยสามแก้ว!” ตอนนั้นเองก็มีเสียงตะโกนเรียกมิร่า เควินมองตามแผ่นหลังมิร่าด้วยสายตาสับซ้อนเล็กน้อย
ตอนนั้นเองก็มีแขนหนามาพันรอบคอเควินเอาไว้ ก่อนจะมีเสียงทุ่มดังขึ้นจากด้านหลังของเควิน
“ต่อให้เป็นเควินก็เถอะ แต่ถ้านายอยากจะได้ตัวพี่สาวฉันไปนายต้องข้ามศพฉันไปก่อน!”
ชายผมขาวที่มีรอยแผลเป็นอยู่บริเวณมุมขวาของดวงตามี ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม อีกฝ่ายคือน้องชายคนเล็กของมิร่าเอลฟ์แมน
“เอลฟ์แมน! ปล่อยมือได้แล้ว ฉันหายใจไม่ออก!” เควินพยายามดิ้น ทว่าเควินที่มีแรงกายค่อนข้างธรรมดา ไม่สามารถหลุดรอดจากร่างกายอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามของเอลฟ์แมนได้
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เอลฟ์แมนก็ปล่อยมือออกจากคอของเควินพร้อมพูดอย่างอวดเบ่ง “เควิน นาย อ่อนเกินไปแล้วลูกผู้ชายนะควรอึก!”
ขณะที่เอลฟ์แมนกําลังพล่ามอยู่เควินก็ใช้หมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวทย์ชกเข้าไปที่หน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง ทักษะการต่อสู้ของเควินนั้นนับได้ว่ายอดเยี่ยม เพียงแค่ร่างกายของเขาขาดการออกกําลังไปก็เท่านั้นเนื่องจากขลุกตัวศึกษาเวทย์อยู่เป็นเวลานาน
“ฉันรู้น่าว่าลูกผู้ชายควรใช้กําปั้นในการต่อสู้ แต่เอลฟ์แมนนายกล้ามากนะที่โจมตีใส่ฉันคนนี้!” เควินเดือดจัด ยิ่งการที่อีกฝ่ายมารังแกเขาต่อหน้าผู้หญิงที่เขามีใจแล้วยิ่งทําให้เขาโกรธหนักยิ่งกว่าเดิม
หลังจากจัดการอีกฝ่ายจนน่วมแล้ว เควินก็ออกจากกิลด์ไปพร้อมกับมาคารอฟ
คาน่า
มิร่า
นัตสึ
เอลฟ์แมน