นักอัญเชิญแห่งแฟรี่เทล - ตอนที่ 5 : การต่อสู้ระหว่างจอมเวทย์ระดับ S
สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายนกกำลังบินหนีบางสิ่งด้วยความตื่นตระหนก ข้างหลังของมันมีสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมังกรสีม่วงดำกำลังไล่ตามมันอยู่อย่างรวดเร็ว และเมื่อมองไปใกล้ๆจะพบว่ามีเงารูปร่างคล้ายมนุษย์สองเงายืนอยู่บนตัวมัน
“เจ้านกประหลาดปาโลนนี่อ่อนแอกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยแหะ” หนึ่งในเงานั่นพูดขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเบื่อหนายอย่างไม่ปิดบัง ชายคนนี้มีผมสีเหลืองทอง และมีแผลเป็นคล้ายรูปสายฟ้าอยู่บริเวณตาขวาของเขา
เจ้านกประหลาดปาโลนไม่เพียงแต่มีขนาดตัวที่ใหญ่มากเท่านั้น แต่มันยังมีมงกุฎกระโหลกอยู่บนหัวของมัน มันมีปีกขนาดใหญ่และมีนิสัยดุร้าย ผู้ที่อยู่อาศัยในแถบนี้จึงรวมตัวกันแจ้งภารกิจให้แก่กิลด์นักเวทย์เพื่อจัดการเจ้านกปาโลนที่เป็นสัตว์ร้ายระดับ S ตัวนี้
แต่ตอนนี้เจ้านกร้ายนั่นกลับกลายเป็นเหยื่อ มันถูกตามล่าโดยสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมังกร มันไม่กล้าแม้แต่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“เร็วขึ้นอีก ปีศาจมังกรค้างคาว” ชายผมดำอีกคนที่ยืนอยู่หลังของมังกรค้างคาวก้มตัวลงต่ำ พร้อมกับออกคำสั่งแก่มังกรคางคาว มังกรสีม่วงดำเร่งความเร็วในการบินขึ้นอีก ทำให้เกิดหลงเหลือเป็นภาพติดตาทิ้งไว้เบื้องหลัง
“เป็นเวทย์ที่สะดวกดีจริงๆ นายมีสัตว์อัญเชิญทั้งหมดกี่ตัวกันเนี่ยเควิน” ชายผมบลอนด์ถามขึ้นมา
“จอมเวทย์จะเผยไพ่ลับของตัวเองออกไปง่ายๆได้ยังไงกัน ลัคซัส” ชายผมดำยิ้มและตอบอีกฝ่ายกลับไป
“แต่จะว่าไปกะอีแค่ภารกิจระดับนี้นายไม่จำเป็นต้องขอให้ฉันช่วยด้วยซ้ำ นายตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?” ชายผมดำถามอีกฝ่ายด้วยท่าทีนิ่งเงียบ ในขณะเดียวกันเจ้ามังกรสีม่วงดำก็จับตัวเจ้านกประหลาดได้แล้ว
“เดี๋ยวนายก็รู้เอง” ชายผมบลอนด์เหลือบมองอีกฝ่าย ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าก่อนปรากฎตัวอีกทีบนหัวของเจ้านกประหลาด
“ตายซะ!” เขาตะโกนเสียงดังลั่น จากนั้นสายฟ้าก็ผ่าลงมายังตัวเขาและเจ้านกประหลาดทันที
“กรู๊!!!” เจ้านกประหลาดรองออกมาด้วยความเจ็บปวด มันกระพือปีกแรงขึ้นเพื่อหลบหนี
“ยังไม่ตายอีกงั้นเหรอ!” ลัคซัสพูดด้วยความประหลาดใจ ปากของเขาเหยียดรอยยิ้มออกมา “ดูเหมือนแกต้องโดนอีกสักสองสามครั้งสินะ!” จากนั้นก็มีสายฟ้าฟาดลงมาอีกสองสามเส้น ไม่นานนักเจ้านกประหลาดก็หมดสติและหล่นลงกับพื้นในที่สุด
ตึง!
เสียงสายฟ้าดังขึ้นอีกรอบก่อนชายผมบลอนด์จะปรากฎตัวขึ้นบนมังกรค้างคาวอีกครั้ง
เควินหันหน้าไปถามอีกฝ่าย “งานเรียบร้อยแล้วสินะ นายยังไหวอยู่ไหม?”
“นายพอจะรู้แล้วสินะว่าฉันให้นายมาด้วยทำไม ฮ่าฮ่า” ใบหน้าของชายผมบลอนด์เผยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“นายไม่ได้พยายามหาเรื่องสู้กับฉันมาแค่ครั้งสองครั้งนี่ เห็นได้ชัดว่านายลากฉันมาทำภารกิจด้วยเพื่อที่จะได้สู้กับฉัน เจ้านกนั่นมันไม่ได้กินแรงนายแม้แต่น้อยไม่มีทางที่นายต้องขอความช่วยเหลือจากฉันหรอก” เควินเสยผมก็จะโบกมือ มังกรค้างคาวเริ่มบิดเบี้ยวและกลายเป็นการ์ดลอยเข้าสู่มือของเควินทันที
“ก็ตาแก่นั่นเอาแต่พูดมากนี่หว่า แต่ในเมื่อที่นี่ไม่มีคนรบกวนแล้วฉันจะได้อาละวาดได้เต็มที่หน่อย!” สายฟ้าเริ่มก่อตัวขึ้นบนร่างของลัคซัส จิตวิญญาณในการต่อสู้ของเขาพุ่งขึ้นสูง
ทั้งคู่เป็นจอมเวทย์ระดับ S ของแฟรี่เทล
“ดูเหมือนฉันจะปฎิเสธไม่ได้สินะ ลัคซัส” เควินหยิบการ์ดออกมาสองใบใบจากนั้นก็มีแสงประหลาดเปล่งประกายออกมาจากการ์ดทั้งสองใบนั้น เขากำลังจะอัญเชิญสัตว์เวทย์ของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เรามาตัดสินกันดีกว่าว่าใครเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแฟรี่เทล!” ลัคซัสห่อหุ้มร่างกายด้วยสายฟ้าก่อนใช้แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาโจมตีไปที่เควินทันที
“เวทย์อามาเทราสึ วงแหวนเวทย์ป้องกันสี่ชั้น” เควินยกมืออีกข้าขึ้นมาก่อนที่จะปรากฎวงเวทย์ซ้อนทับกันสี่วงป้องกันการโจมตีของลัคซัสเอาไว้ได้ แรงปะทะของทั้งคู่ส่งผลให้เศษฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วอาณาบริเวณ
“นายใจร้อนเกินไปแล้ว ลืมแล้วรึไงว่าในแฟรี่เทลยังมีสัตว์ประหลาดอย่างกิลดาซอยู่” เควินพูดด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เวทย์อัญเชิญของเขาเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว
“ออกมา ราชาสัตว์อสูรกาเซล! และบาโฟเมต!” แสดงสว่างจางลง ก่อนสัตว์เวทย์ที่ทรงพลังทั้งสองตัวจะปรากฎออกมา ตัวแรกเป็นราชาสิงโตขนาดยักษ์ที่ดูน่าหวั่นเกรงโดยมีเขางอกขึ้นอยู่ตรงกลางหน้าผากของมัน และอีกตัวคือปีศาจที่มีเขาแกะอยู่ทั้งสองด้านของใบหน้า มีสี่แขนและมีปีกงอกอยู่ที่กลางหลังหนึ่งคู่
“นายคิดจะใช้การ์ดที่นายสร้างตั้งแต่ตอนเป็นเด็กเพื่อต่อกรกับฉันงั้นเหรอ? นายไม่คิดว่ามันอ่อนแอไปสักหน่อยเหรอ!” ลัคซัสยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง มือของเขากำลังรวบรวมสายฟ้าขึ้นมาอีกรอบ
“นายรีบด่วนตัดสินไปหน่อยแล้วลัคซัค นายไม่เคยได้ยินรึไงว่าสามัคคีคือพลัง” เควินยังคงพูดอย่างใจเย็น เขาไม่ได้หงุดหงิดกับคำพูดดูถูกของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกันเขาใช้การ์ดอัญเชิญอีกใบ
“ตอนนี้ฉันไม่ได้ทำได้แค่อัญเชิญสัตว์เวทย์ออกจากการ์ดอีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้ฉันสามารถใช้เวทย์มนตร์อื่นๆผ่านการ์ดของฉันได้แล้ว! นายจะได้เห็นเองถึงความแข็งแกร่งของราชาสัตว์อสูรกาเซล และบาโฟเมต!” เควินยกการ์ดที่อยู่มือของตนขึ้น ทันใดนั้นแสงจากการ์ดเวทย์ก็ส่องไปที่ตัวของกาเซลและบาโฟเมต สัตว์เวทย์ทั้งสองกลายเป็นแสงและเริ่มรวมตัวกันอย่างช้าๆ ทันทีที่แสงนั้นหายไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือสัตว์ประหลาดที่มีสองหัว
“นี่คือคิเมร่า สัตว์เวทย์ที่เกิดจากการรวมร่างกันของราชาสัตว์อสูรกาเซลและบาโฟเมต!” ดวงตาของลัคซัสเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เขามองไปที่เควินด้วยความกระหายการต่อสู้
“ลองเล่นกับมันหน่อยเป็นไงลัคซัส” เควินยิ้มให้แก่อีกฝ่าย
“หึ สิ่งที่อ่อนแอต่อให้มันรวมตัวกันมันก็ยังคงอ่อนแออยู่ดี!” ลัคซัสเรียกสายฟ้าโจมตีไปยังคิเมร่า
ด้วยความเชี่ยวชาญในเวทย์สายฟ้าและทักษะการต่อสู้ของลัคซัสที่เป็นถึงจอมเวทย์ระดับ S ไม่นานนัก คิเมร่าก็กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ดูเหมือนคิเมร่าจะไม่ใช่คู่มือของลัคซัสสินะ” เมื่อเห็นว่าคิเมร่ากำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เควินก็ไม่รอช้าอัญเชิญสัตว์เวทย์ตัวที่สามออกมา
“ออกมามังกรต้องสาป เข้าไปช่วยสนับสนุนคิเมร่าซะ!” หลังจากที่เควินออกคำสั่ง มังกรต้องสาปก็พ่นไฟไปยังลัคซัสทันที
“อีกหนึ่งตัวงั้นเหรอ แต่แค่มีมันยังไม่คณามือฉันหรอก!” ลัคซัสคำรามออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด และเหมือนสายฟ้าโดยรอบจะตอบสนองอารมณ์ของเขา สายฟ้าของเขามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับสัตว์เวทย์ถึงสองตัว แต่เขาก็ยังคงความได้เปรียบเอาไว้ได้
“เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้เลย ดูเหมือนฉันต้องอัญเชิญสัตว์เวทย์เพิ่มอีกตัวสินะ”
“เอาจริงสักทีสิเควิน แสดงความแข็งแกร่งของนายให้ฉันดูหน่อย!”
ทันใดนั้นเองอัศวินผู้อยู่ภายใต้ชุดเกราะสีฟ้าที่กำลังขี่ม้าสีม่วงอยู่ก็ปรากฎตัวขึ้น ในมือทั้งสองข้างของอัศวินนั้นถือหอกสีแดงยาวเอาไว้
“เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ” หลังจากที่อัศวินดำไกอาถูกอัญเชิญออกมาให้เข้าร่วมการต่อสู้ ลัคซัสก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปในทันที เควินควบคุมสัตว์เวทย์ทั้งสามได้อย่างสมบูรณ์แบบและใกล้ที่จะเอาชนะลัคซัสได้แล้ว
“บัดซบ ดูเหมือนฉันจะไม่สามารถเก็บซ่อนไพ่ตายของตัวเองได้อีกต่อไป! เวทย์สังหารมังกร!” ลัคซัสฉีกกระชากเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง เกล็ดจำนวนมากปรากฎขึ้นบนแขนทั้งสองข้าง ฟันเขี้ยวของเขาเริ่มแหลมคมขึ้น
“มังกรสายฟ้าคำราม!” ลัคซัสอ้าปากกว้างพร้อมพ่นลมหายใจมังกรออกมาก่อให้เกิดเป็นพายุสายฟ้าขนาดใหญ่ ทำให้สัตว์อัญเชิญทั้งสามของเควินต้องรีบถอยห่างจากตัวลัคซัส
“นายบังคับให้ฉันใช้เวทย์สังหารมังกรจนได้สินะ”
“เวทย์ของนายไม่เหมือนกับของนัตสึ นายฝังลาคีม่ามังกรสายฟ้างั้นเหรอ?” เควินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด
“มาต่อยกที่สองกันเถอะ!”
“ก็เอาสิ!”