นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 99 พิธีกรรม ตอนที่ 1
เมื่อกาตอนผ่านไปแล้ว ผู้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับร่างสีดำนั่นต่อไปคือคู่แฝดเคย์เลนและเคย์ดี โดยมีริชาร์ดอยู่ตรงกลางและเคย์เลนอยู่ทางขวามือของเขา ร่างสีดำนั้นยืนอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับนางพอดี อย่างไรก็ตาม ท่าทางของนางเหมือนกับกาตอนที่ดูเหมือนไม่รู้สึกถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่เบื้องหน้า ขณะที่นางขี่ม้าต่อไปด้วยจังหวะสบาย ๆ นั้น ม้าของนางก็ยกกีบเท้าโลหะขึ้นและเตรียมเหยียบลงบนพื้นดิน เปลวไฟวูบวาบผิดปกติปรากฏขึ้นเมื่อกีบเท้าหน้าทั้งสองยกขึ้น ดูเหมือนว่าเคย์เลนมี[รูนสเตร็งค์]ติดไว้ที่กีบเท้าของม้าตัวนั้น หากมันเหยียบไปบนเป้าหมายใด เป้าหมายนั้นก็จะได้รับความเจ็บปวดเทียบเท่ากับการโจมตีจากนางโดยตรง
ไนท์สาวภายใต้บัญชาของกาตอนผู้นี้ไม่เกรงกลัวสิ่งใดที่จะมาขวางทางนางแม้แต่น้อย ! และร่างสีดำนั้นก็ไม่กล้าที่จะทำการอะไรบุ่มบ่ามเช่นกัน เมื่อกีบเท้าม้ากระทืบลง ร่างนั้นก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจหลบไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหายตัวเข้าไปในความมืด สุดท้ายแล้วร่างนั้นก็ไม่กล้าโจมตีและเลือกที่จะล่าถอยไป และทันทีที่ร่างสีดำนั้นหายไป ริชาร์ดก็รู้สึกว่าป่าไม้ที่เรียงรายตามข้างถนนเงียบลงมาก
กลุ่มของเขาเคลื่อนที่ต่อไปได้อีกหลายร้อยเมตร และไม่นานนักได้เกิดเสียงกีบเท้าม้าจังหวะเร็วหลายคู่ดังขึ้น เบื้องหน้าเผยให้เห็นไนท์ราชวงศ์กลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา และเมื่อผู้นำของกลุ่มนั้นเห็นกาตอนจากระยะไกล เขาก็เปล่งเสียงดังออกมาทันทีว่า “มาร์ควิสกาตอน ! พวกเรามานำทางท่านไปสู่วิหารแห่งมังกรนิรันดรเพื่อทำพิธีสังเวยโดยบัญชาขององค์จักรพรรดิ !”
เมื่อไนท์ราชวงศ์ปรากฏตัวขึ้น ริชาร์ดก็รู้ทันทีว่าเขาปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าไม่สามารถเลี่ยงการเดินทางบนถนนเส้นใหญ่ก่อนหน้านี้ได้ หากพวกเขาไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง พวกเขาคงมาได้ไม่ไกลขนาดนี้ และพวกเขาก็อาจจะไม่ได้เจอกับไนท์กลุ่มนี้ด้วย
ทั้ง 2 กลุ่มทักทายกันก่อนลงจากหลังม้า พวกเขาเลือกที่จะเดินเท้าต่อไปในเส้นทางที่เหลือเพื่อแสดงความเคารพต่อมังกรนิรันดรและแสงสว่าง
เด็กสาววัยเยาว์และงดงามจากวิหารยืนเรียงกันเป็น 2 แถวอยู่หน้าประตู เสื้อคลุมคอสูงสีทองอ่อนช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ให้พวกนางดูหรูหรา บริสุทธิ์ และดูน่าหลงใหลมากขึ้น พวกนางเป็นสมาชิกของวิหารแห่งมังกรนิรันดร เมื่อได้รับพรจากมังกรมากขึ้น พวกนางก็จะกลายเป็น ‘เคลริค’ จากนั้นก็เป็น ‘ชาแมน’ ตามด้วยเป็น ‘พรีสเทส’ ก่อนที่จะกลายเป็น ‘ไฮพรีสเทส’ ผู้ซึ่งรับผิดชอบดูแลวิหารได้ในที่สุด เรื่องที่มังกรนิรันดรโปรดปรานหญิงสาวนั้นไม่ใช่ความลับอะไร
ไนท์ราชวงศ์หยุดลงหน้าประตูในขณะที่กลุ่มของอาเครอนยังคงเดินหน้าต่อไป ในกลุ่มของไนท์ชุดเกราะเหล่านี้ ริชาร์ดผู้สวมเสื้อคลุมเมจและถือกล่องขนาดต่างกัน 2 กล่องย่อมดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ประตูของวิหารสูงถึง 20 เมตร เมื่อพวกเขาเข้ามาด้านใน จู่ ๆ วิสัยทัศน์ของริชาร์ดก็พร่ามัวก่อนที่เขาจะพบว่าตัวเองอยู่กลางทะเลทราย มันเป็นที่ราบทะเลทรายอันไร้ขอบเขตราวกับว่าขอบฟ้าไม่มีอยู่จริง ท้องฟ้าดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับโลก ทว่าด้วยพลังลึกลับบางอย่างทำให้ผืนทรายกลายเป็นผงลอยกระจายไปในอากาศ มีเนินทรายหลายเนินอยู่ใกล้ ๆ กันและมีเสาหินแตก ๆ อยู่ทั่ว นั่นเป็นหลักฐานของเวลาที่ผ่านไปเนิ่นนานแล้ว เมื่อมองจากภายนอก วิหารแห่งมังกรนิรันดรแห่งนี้จะมีขนาดเพียง 1 ตารางกิโลเมตร แต่เมื่อเข้ามาอยู่ภายใน เขาก็ไม่สามารถวัดความกว้างของพื้นที่ทะเลทรายกว้างไกลนี้ได้เลยแม้จะใช้พรีซิชั่นของเขาช่วยแล้วก็ตาม
ศูนย์กลางของวิสัยทัศน์ของเขาก็คือร่องรอยของวิหาร ส่วนของวิหารครึ่งหนึ่งพังทลายไป กำแพงหินแกรนิตสูงและเสาหลักที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้นนั้นทำให้ผู้คนต่างคาดเดากันไปถึงความรุ่งโรจน์อันงดงามของวิหารในสมัยที่ยังเฟื่องฟู
ใจกลางของทั้งหมดนี้เป็นแท่นหินแตกหัก มันคือสถานที่ที่จะมีการสังเวยและพิธีบูชาเกิดขึ้น
ด้ายแห่งแสงหลายเส้นไหลมาจากมุมของทะเลทรายมารวมตัวกันก่อตัวเป็นนาฬิกาทรายขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าพวกเขา เมื่อก่อเป็นรูปร่างสมบูรณ์แล้วนาฬิกาทรายก็พังทลายลงก่อนจะเผยให้เห็นหญิงสาวที่เปล่งรัศมีออร่าที่ศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม นางสวมเสื้อคลุมสีขาวและสวมมงกุฏ 3 ชั้นไว้บนศีรษะ ในมือของนางมีคทาสีทองอ่อนถืออยู่ ในขณะที่มีรูนสีทองลึกลับปกคลุมไปทั่วเสื้อคลุมและมงกุฏซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกในแบบเก่าแก่โบราณ
กาตอนก้าวเท้าไปข้างหน้าก่อนจะโค้งคำนับพร้อมกล่าวทักทาย “ท่านไฮพรีสเทสเฟอร์ลิน นี่คือริชาร์ดบุตรชายข้า เขาจะเป็นคนทำพิธีสังเวยในครั้งนี้”
เฟอร์ลินยิ้มและพยักหน้า รอยยิ้มของนางงดงามและอ่อนโยนทว่าก็ดูห่างไกลและเลือนราง เหนือกว่าการดำรงอยู่ของมนุษย์และเมินเฉยต่อทุกชีวิต
ไฮพรีสเทสมองริชาร์ดและยิ้มให้เขา “ช่างเป็นเด็กที่โชคดียิ่งนัก ข้าหวังว่าความจริงใจของเจ้าจะทำให้มังกรนิรันดรพึงพอใจกับข้อเสนอของเจ้า พิธีได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ข้าจะรอเจ้าตรงแท่นบูชา หลังจากที่เจ้าเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้วก็มายืนข้างข้าเพื่อที่เราจะได้เริ่มพิธี” หลังพูดจบ ไฮพรีสเทสก็เดินไปตามทางสีทองจาง ๆ ที่เกิดจากแสงมุ่งหน้าไปยังแท่นบูชา
“เตรียมตัวอะไรรึ ?” ริชาร์ดเอ่ยถาม เขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนของพิธีกรรมนี้ เพราะเขาไม่ได้รู้อะไรเลยนอกเหนือจากสิ่งของต่าง ๆ ที่นำมาเป็นเครื่องสังเวย
กาตอนหัวเราะเบา ๆ และตบไหล่เขาอย่างแรง “ไม่มีอะไรจะต้องเตรียมตัวมากหรอก แม้จะเป็นเครื่องสังเวยเดียวกันแต่ทุกคนย่อมได้รับพรแตกต่างกัน เด็กน้อย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคของเจ้าแล้ว เอาล่ะ ! มีบางอย่างที่ข้าลืมบอกเจ้า เนื่องจากอาเครอนมีเกาะลอยฟ้าเป็นของเราเอง มังกรนิรันดรจะถามว่าเจ้าอยากจะจัดสรรพรที่ได้รับให้กับตระกูลและตัวเจ้ายังไง จำไว้ว่า — จงเก็บไว้เองทั้งหมด — เอาล่ะ ไปได้ ! ขอให้เจ้าโชคดี !”
ริชาร์ดลากกล่อง 2 กล่องนั้นมุ่งหน้าไปยังแท่นบูชาด้วยความยากลำบาก แม้ว่าเขาจะร่ายคาถาลอยตัวไว้แล้วแต่อวัยวะพวกนี้ก็ไม่ได้เบาลงแม้แต่น้อย
ขณะมุ่งหน้าไปเขาก็อดมองไปรอบ ๆ อย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่ยืนอยู่ตรงหน้าแท่นบูชา เขาก็รู้สึกถึงบารมีเก่าแก่โบราณที่อดทนยืนหยัดท่ามกลางการกัดเซาะของเวลาเนิ่นนาน ดูเหมือนจะไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดจบ ไม่ว่าอะไรจะหรูหราแค่ไหนมันก็ย่อยยับไปตามกาลเวลาและกลายเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจะต้องคร่ำครวญหา ‘แต่เหตุใดพวกเขาจึงไม่คิดที่จะสร้างสถานที่นี้ขึ้นมาใหม่ล่ะ ?’
ทันใดนั้นเฟอร์ลินก็ตอบอย่างอ่อนโยนราวกับรับรู้ความสงสัยของเขา “เด็กน้อย วิหารแห่งมังกรนิรันดรที่แท้จริงนั้นคือซากปรักหักพังที่ไม่อาจซ่อมแซมได้ ต่อให้เราสร้างวิหารที่งดงามขึ้นมาด้วยวงเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อพิธีกรรมเริ่มขึ้น ทุกอย่างก็จะเสื่อมลงและกลายเป็นซากปรักหักพังไปตามกาลเวลาอย่างเดิม แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่อาจทนต่อทะเลทรายแห่งกาลเวลาได้ ดังนั้นสิ่งที่เจ้าเห็นอยู่ตรงหน้าในเวลานี้เป็นสิ่งเดียวกับที่มีมาเนิ่นนานแล้ว”
“ขอบคุณสำหรับคำสอนของท่าน” หัวใจของริชาร์ดหยุดเต้นไปราวกับว่าเข้าใจบางอย่างได้จากคำพูดของนาง เขาโค้งคำนับเล็กน้อยเช่นเดียวกับที่เขาปฏิบัติต่ออาจารย์ในดีพบลูก่อนจะถามขึ้นว่า “แล้วตอนนี้ข้าต้องทำอะไรบ้าง ?”
“ก่อนอื่น เตรียมสิ่งของที่เจ้านำมาสังเวย” เฟอร์ลินสั่ง และเมื่อนางได้เห็นริชาร์ดเปิดกล่องทั้ง 2 ออก แม้แต่ท่าทางที่นิ่งเฉยของนางก็ยังมีปฏิกิริยาเล็กน้อย “หัวกะโหลกของเกรทเทอร์เดวิลอย่างนั้นรึ ? เป็นข้อเสนอที่หาได้ยากมาก แล้วนี่… นี่คือหัวใจของเลสเซอร์เดม่อนลอร์ด ! ช่างเป็นเด็กที่โชคดีอะไรเช่นนี้ ! งั้นก็เริ่มพิธีกรรมกันเลย หัวใจดวงนี้อยู่แบบนั้นได้อีกไม่นาน”
เฟอร์ลินประสานมือทั้งสองไว้ตรงหน้าอกขณะก้มศีรษะไปที่แท่นบูชา นางเริ่มร่ายคาถาลึกลับและคลุมเครือมากมายแตกต่างกันไป เมื่อนางพูดแต่ละพยางค์ ท้องฟ้าที่กว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุดก็เริ่มเต็มไปด้วยคัมภีร์ทองคำสายยาวราวกับสายฝนแห่งทองคำ ออร่าลึกลับและโบราณปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ ไม่นานท้องฟ้าก็มืดลงและปราศจากสีใด ๆ ในที่สุดเหนือทะเลทรายที่ว่างเปล่าแห่งกาลเวลา มิติอวกาศก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นและมีชีวิตเป็นของตนเอง ดวงดาวสว่างสุกใสนับไม่ถ้วนเริ่มเดินทางไปตามเส้นทางที่แตกต่างกันและดึงดูดจิตวิญญาณของริชาร์ดเข้าไป เขาพยายามทำความเข้าใจความหมายของอักขระทั้งหมดทว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าสายเลือดของเขาเดือดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่ความรู้สึกร้อนรนและเดือดดาลแบบที่เขาเคยรู้สึกเมื่อตอนกระตุ้นสายเลือดของเขา ทว่ากลับเป็นความกระหายต่อแหล่งกำเนิดของชีวิตและความสัมพันธ์
เสียงของเฟอร์ลินในตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสียงแหลมอย่างมากแล้วเมื่อร่ายคาถามาถึงจุดสูงสุด ปฏิกิริยาของนางเสมือนนางเป็นมังกรที่กำลังร้องเพลงอยู่บนท้องฟ้า
นางแตะแท่นบูชาด้วยคทาในมือทำให้แท่นหินแตกออกจากกันและส่องแสงสีทองก่อนจะก่อตัวเป็นเสาหลักแห่งแสงที่ทะลุไปบนท้องฟ้า เสานั้นเริ่มขยายพื้นที่ครอบคลุมซากปรักหักพังทั้งหมด คัมภีร์ที่ถอดรหัสไม่ได้นั้นส่องแสงและจางหายไปอย่างไร้ร่องรอยบนพื้นผิว ส่วนท้องฟ้ากว้างในตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องของมังกรเช่นเดียวกับเสียงหวิวหวีดของสายลมแห่งทะเลทราย
ออร่าที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่มีใครเทียบได้จางลงขณะที่เฟอร์ลินถอยออกมาจากเสาหลักนั้นและเหลือเพียงริชาร์ดอยู่บนแท่นบูชาเพียงลำพัง และหลังจากนั้นผู้คนภายนอกก็ไม่สามารถมองเข้าไปเห็นอะไรข้างในได้อีก