นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 90 บทลงโทษ ตอนที่ 3
“จะทำอะไรข้า ? เจ้าบ้า เอามือออกไปจากตัวข้าเดี๋ยวนี้นะ ! ข้าเป็นบุตรชายของกาตอน เป็นบุตรของผู้นำตระกูล ! เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำกับข้าแบบนี้ ? เจ้าคิดจะกบฏอย่างนั้นรึ ?” วอร์เรนเปล่งเสียงตะโกนออกมาตลอดทางพร้อมทั้งพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถของเขา ทว่าวอริเออร์ก็สามารถพาเขาเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ตาของวอร์เรนถูกปิดด้วยผ้าสีดำจนทำให้เขามองไม่เห็นสิ่งรอบตัวของเขาในตอนนี้ แม้ว่าภายในห้องโถงแห่งนี้จะมีจำนวนคนที่อยู่ภายในมากมาย ทว่าก็ไม่มีเสียงใดดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
ทันทีที่ถูกพาเข้ามาภายในห้องโถงแห่งนี้ วอร์เรนก็รู้สึกได้ถึงพลังอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะหยุดตะโกนและตัวสั่นขึ้นมาด้วยความกลัวในทันที กาตอนพยักหน้าให้กับวอริเออร์เพื่อให้ถอดผ้าปิดตาของวอร์เรนออก
ทันใดนั้นแสงสว่างที่สาดเข้ามาที่ดวงตาก็ทำให้วอร์เรนรีบหลับตาลงอีกครั้งทันที หลังจากที่เขาจัดการปรับการมองเห็นของเขาได้แล้ว เขาก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สถานที่ที่เขายืนอยู่ในตอนนี้ และเขาก็ตระหนักขึ้นได้ในทันทีว่าที่นี่คือห้องพิจารณาคดีของตระกูล ร่างของเขาสั่นเทิ้มอีกครั้ง ทว่าก็ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้จนทำให้เขาแทบจะไม่มีแรงยืน อย่างไรก็ตาม โชคดีที่วอริเออร์ที่อยู่ด้านหลังของเขาจับเขาไว้จึงทำให้เขาไม่ทรุดตัวลงกับพื้นไปเสียก่อน หลังจากที่เห็นท่าทางของวอร์เรน ชายแก่และชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านซ้ายมือของกาตอนก็ส่ายหน้าขณะแสดงสีหน้าที่เยือกเย็นออกมา
ทันใดนั้นวอร์เรนก็รีบตระโกนออกมาว่า “ท่านพ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? เหตุใดพวกเขาจึงจับกุมข้ามาเช่นนี้ ? ช่วยข้าด้วย !” ทันทีที่เขากำลังจะพูดจบ เสียงของเขาก็เปลี่ยนมาเป็นเสียงครวญครางและเขาก็พยายามจะวิ่งตรงไปหากาตอนในทันที ทว่ามือขนาดใหญ่ที่แข็งราวกับเหล็กของวอร์ริเออร์กลับรั้งตัวเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้
กาตอนยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบอยู่เช่นเดิม สีหน้าของเขาในตอนนี้นั้นเรียบเฉย เขาใช้มือจับเคราของตนเองก่อนจะยิ้มออกมา มีเพียงแค่คนที่คุ้นเคยกับกาตอนเท่านั้นที่จะรู้ว่าในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุด
เขาทำท่าทางเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณให้วอริเออร์ปิดปากวอร์เรนไว้เพื่อไม่ให้เขาพูดอะไร เมื่อความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้ง เขาก็มองไปทางด้านซ้ายและขวาก่อนจะกล่าวว่า “วอร์เรนมาแล้ว พวกเจ้ามีความเห็นกันว่ายังไง ?”
โกลิอัทหัวเราะและเอ่ยขึ้น “แหวนฮาร์ฟเลเจนดารี่วงนั้นก็เป็นตัวพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดแล้วไม่ใช่รึ !? เจ้ายังต้องการจะถามอะไรกับข้าอีก ?”
อลิซพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นเป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้ว”
“มีความผิด” เมจแก่คนหนึ่งกล่าว
“มีความผิด” ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นในเวลาใกล้ ๆ กัน
เมื่อได้ยินดังนั้น วอร์เรนก็รีบดิ้นไปมาอย่างสุดความสามารถของเขาเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่างทว่าเขากลับไม่สามารถสู้แรงของวอริเออร์ที่อยู่ด้านหลังของเขาได้ ในเวลาที่สิ้นหวังเช่นนี้ เขาก็เลือกที่จะกัดเข้าที่ฝ่ามือของวอริเออร์คนนั้นอย่างจัง ทว่าเขากลับพบว่าสิ่งที่เขากัดลงไปแข็งเสียยิ่งกว่าหนังของช้างเสียอีก ไม่เพียงแต่ที่เขาจะไม่สามารถทิ้งบาดแผลให้กับวอริเออร์ได้ แต่การกระทำของเขาเมื่อครู่นั้นก็ทำให้เขาเกือบจะต้องสูญเสียฟันของตนเองไปเช่นกัน
กาตอนส่ายหน้า “งั้นก็ดี เพราะนั่นเป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้วว่าวอร์เรนร่วมมือกับเรย์มอนด์ โจเซฟวางแผนฆ่าริชาร์ด อาเครอน จนทำให้เซนม่าผู้ที่ได้รับผิดชอบในการดูแลและปกป้องริชาร์ดต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากริชาร์ดได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกหลักตระกูลของเราโดยเหล่าผู้อาวุโส ดังนั้น การกระทำของวอร์เรนในครั้งนี้จะได้รับการลงโทษโดยการ —— ประหารชีวิตในทันที”
ร่างที่กำลังดิ้นไปมาของวอร์เรนหยุดลงก่อนที่เขาจะรู้สึกหมดแรงในทันทีที่ได้ยินคำตัดสินจากกาตอนผู้เป็นบิดา หากไม่ใช่เพราะวอริเออร์กำลังจับตัวเขาไว้ เขาคงจะลงไปกองอยู่ที่พื้นนานแล้ว
“ม่ายยยยย !” เสียงร้องตะโกนดังออกมาจากกลุ่มที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงแห่งนี้ ร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งวิ่งออกไปตรงกลางก่อนจะโผเข้ากอดวอร์เรนไว้แน่น นางพยายามผลักวอริเออร์ออกไปเพื่อช่วยเหลือวอร์เรนไว้ทว่าไม่ว่านางจะตบตีอย่างไร วอริเออร์ผู้นั้นก็ยังคงนิ่งเฉยราวกับเป็นก้อนหิน หญิงสาวผู้นี้ดูเหมือนจะอยู่แค่ระดับ 3 หรือ 4 เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าระดับนี้ย่อมไม่สามารถทำอะไรวอริเออร์ผู้นั้นได้
หลังจากที่นางพยายามผลักวอริเออร์ออกไปแต่ไม่เป็นผลนั้น นางก็หันกลับไปหากาตอนก่อนจะตะโกนออกมาว่า “ริชาร์ดเป็นบุตรของท่าน แล้ววอร์เรนไม่ใช่รึไงกัน ? วอร์เรนเติบโตมาข้างท่าน แต่เจ้าเด็กบ้านั่นเป็นเด็กที่ท่านเพิ่งจะไปเจอบนเขาไม่ใช่รึ ? อีกอย่างตอนนี้ เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถูกฆ่าตายสักหน่อย เหตุใดท่านจึงต้องตัดสินวอร์เรนเช่นนี้ ?”
กาตอนขมวดคิ้วขึ้นก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องของตระกูลอาเครอน เจ้าอาจจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงของข้านะเจด แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นหรือพูดอะไรภายในนี้ ถึงข้าจะไม่ได้อยู่ภายในดินแดนของตระกูลสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าเลี้ยงดูเขายังไงบ้าง ! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เขาก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้หรอก !”
ทันทีที่กาตอนพูดจบ เจดก็คำรามกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว “ถ้ามันเป็นเพราะข้าแล้วจะทำไม ? ข้าก็แค่ต้องการให้เขาขึ้นไปยังจุดสูงสุด เขาจะได้ได้รับพลังที่มากที่สุดภายในตระกูลของเขาเพื่อให้สามารถกำจัดคนอื่น ๆ ออกไปให้พ้นทางได้ ! กาตอน อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเหตุผลที่ท่านต้องการข้าก็เพียงเพราะว่าข้าเป็นลูกครึ่งเอลฟ์และข้าก็ดูเหมือนกับเอลฟ์คนนั้นที่อยู่ในใจของท่านตลอดมา ! และข้าก็รู้ด้วยว่าริชาร์ดคือบุตรของนาง ซึ่งนี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านเลือกที่จะฆ่าวอร์เรนของข้าเพียงเพราะเจ้าเด็กคนนี้ !”
กาตอนหัวเราะ “เจด อย่าลืมว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์พูดอะไรภายในนี้”
เมจแก่ที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือของกาตอนโบกมือขึ้นเบา ๆ เพื่อร่ายคาถาไปยังเจด ทันใดนั้นเสียงของนางก็หายไปในทันที และเพียงครู่เดียว วอริเออร์ 2 คนก็รีบเข้ามาลากตัวนางออกไปด้านข้างของห้องโถงอย่างรวดเร็ว
นางยังคงดิ้นไปมาภายใต้การจับกุมของวอริเออร์ราวกับคนเสียสติ ถึงแม้ว่าตอนนี้เสียงของนางจะไม่สามารถออกมาให้คนอื่นได้ยินได้ ทว่าเสียงหัวใจที่รวดร้าวของนางก็ดูเหมือนว่าจะดังออกมาให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
โกลิอัทจ้องไปที่กาตอนก่อนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับสัตว์กินเนื้อ “กาตอน ผู้หญิงคนนี้ของเจ้ากล้าหาญเสียจริงนะ คนที่เข้ามาขัดจังหวะการพิจารณาของตระกูลจะถูกลงโทษยังไงรึ ? ดูเหมือนว่าสมองของข้าช่วงนี้จะไม่ค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ !”
กาตอนหน้าซีดลงเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นเสียงดัง “โบยด้วยแส้ 10 ครั้ง… อลิซ เจ้าไปจัดการ !”
อลิซลุกขึ้นทันที นางหยิบแส้จากวอริเออร์มามัดที่ข้อมือของนางและฟาดลงไปถึง 2 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็ว แส้ที่ฟาดลงไปยังร่างของเจดนั้นให้ความเจ็บปวดแสบร้อนราวกับโดนมังกรที่มีพิษ ความรุนแรงของมันที่ฟาดลงไปที่หลังทำให้เสื้อของเจดฉีกขาดเผยให้เห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาตามแผ่นหลัง
เจดอ้าปากค้างก่อนที่ร่างของนางจะสั่นอย่างรุนแรงเพราะความเจ็บปวด แส้ยังคงฟาดเข้าที่ร่างของนางด้วยความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและทำให้ครึ่งเอลฟ์อย่างเจดสลบไปก่อนที่อลิซจะทำโทษได้ครบ 10 ครั้ง ทันทีที่อลิซฟาดจนครบแล้ว กาตอนก็โบกมือเรียกวอริเออร์เพื่อให้พานางออกไปจากห้องพิจารณาคดีทันที
กาตอนมองวอร์เรนและมองไปรอบ ๆ ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “แม้อาเครอนของพวกเราอาจจะไม่เคยปรองดองหรือสามัคคีกัน แต่อาเครอนที่แท้จริงจะไม่ทำร้ายกันเอง นี่เป็นธรรมเนียมที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้วและไม่มีใครที่จะฝ่าฝืนธรรมเนียมนี้ได้ แม้แต่บุตรชายของข้าเอง ในเฟาสต์ นัวแลนด์ หรือเพลนอื่น ๆ จำนวนมากมาย เราเองก็มีศัตรูที่นับไม่ถ้วน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นในตระกูลของพวกเราเองอีก หากใครคิดจะฝ่าฝืนธรรมเนียมนี้ก็จงดูนี่ไว้เป็นบทเรียน !”
กาตอนยกมือขวาของเขาขึ้นก่อนที่จะฟันลงมา
วอริเออร์ที่อยู่ตรงกลางห้องโถงยกร่างของวอร์เรนขึ้นในจังหวะเดียวกับที่กาตอนฟัน กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาปูดโปนก่อนที่จะซัดเข้าที่กลางหลังของวอร์เรนเบา ๆ ร่างของวอร์เรนแข็งทื่อพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง ลำคอของเขาขยับราวกับต้องการจะเปล่งเสียงร้องทว่ากลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว ร่างของเขากระตุกอยู่สองสามครั้งก่อนที่จะล้มลงกับพื้นขณะที่ดวงตาไร้วิญญาณ
ริชาร์ดยืนมองร่างของวอร์เรนที่จบชีวิตลงไปต่อหน้าต่อตาด้วยความตกตะลึง เขาแทบไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้เลยแต่แน่นอนว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจของเขาในตอนนี้มันไม่ใช่ความเห็นอกเห็นใจหรือความสงสาร ทุกอย่างที่เขาสงสัยก่อนหน้านี้ได้มาปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราวภายในสมองของเขาอีกครั้ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวอร์เรนยังคงไปยั่วยุฟอล์กทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็ขาดความสามารถด้านการต่อสู้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเซนม่าถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าการวิวาทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นการวางแผนฆาตกรรมที่ผ่านการคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว สิ่งที่วอร์เรนทำไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจ หากวอร์เรนไม่ตายในวันนี้ ในภายภาคหน้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง เขาคงจะเป็นคนจบชีวิตของวอร์เรนด้วยมือของเขาเอง
ทว่าตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมากกว่านั้นคือคำพูดของเจดแม่ของวอร์เรน คำพูดที่นางพูดกับกาตอนทำให้เขารู้สึกสับสนและสงสัยอย่างมาก สิ่งที่เจดพูดเป็นเรื่องจริงหรือ ? ในช่วงเวลาที่ผ่านมา กาตอนยังคงเก็บหญิงสาวที่เป็นเอลฟ์คนนั้นไว้ในใจของเขาตลอดเลยอย่างนั้นจริง ๆ หรือ ?