นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 9 ตัวเลข
ในเวลานี้ชารอนกำลังนั่งผ่อนคลายอยู่บนโซฟาภายในห้องตรวจผลการทดสอบพร้อมกับอ่านรายงานการทดสอบของนักเรียนคนใหม่ อันที่จริงนางรู้ผลการทดสอบทุกอย่างเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการจะดูอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันการทำงานของเหล่าเมจและเป็นการตรวจสอบความสามารถของพวกเขาด้วย
“ความสามารถอยู่ในระดับที่ไม่มีจุดแข็งหรือจุดอ่อนที่ชัดเจน พลังมานามีอยู่พอสมควร……อืม สมรรถภาพทางร่างกายก็ไม่เลว โตขึ้นคงจะได้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมากของเขา….. มีแค่นี้รึ ?” ชารอนเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังแกรนด์เมทแล้วกับเอ่ยปากถาม
แกรนด์เมจเกิดอาการประหม่าเล็กน้อยกับสายตาและเสียงทรงอำนาจที่ชารอนส่งมา แต่เขาก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นคง และกิริยาที่แสดงถึงความเคารพว่า “นี่เป็นผลการทดสอบที่เราได้ทำการทดสอบทั้งหมดก่อนหน้านี้ ราคาทั้งหมดคือ 16,000 เหรียญ รายละเอียดของผลการทดสอบทั้งหมดอยู่ในนี้แล้ว ในตอนนี้เรายังไม่สามารถตรวจจับความสามารถอื่นๆนอกเหนือจากนี้ได้”
จากผลที่เห็นทำให้ชารอนอดคิดไม่ได้ว่าคำว่า ‘อัจฉริยะ’ คงไม่เหมาะสมสำหรับใช้ในการนิยามแกรนด์เมจระดับ 18 ของคนตรงหน้านี้ได้ คิ้วของนางขมวดมุ่นด้วยความขุ่นเคือง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระด้างว่า “ถ้าเป็นตามนี้ก็แสดงว่าเขาคงไปได้ถึงแค่เมจระดับ 18 เท่านั้น ?!ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!” คำว่า ‘เมจระดับ 18’ และ ‘ไร้ประโยชน์’ ที่ได้ยินทำให้แกรนด์เมจผู้นั้นได้แต่ยิ้มรับอย่างอ่อนน้อม
“ไม่มีทาง!ก็เห็นอยู่ว่าเลือดอาเครอนในร่างกายของเขาจะต้องบริสุทธิ์อย่างมาก แถมยังดูจะบริสุทธิ์เสียยิ่งกว่ากาตอนด้วยซ้ำ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีพรสวรรค์อื่นๆ เลย หรือเป็นเพราะการผสมระหว่างเลือดของเชื้อสายเอลฟ์ซิลเวอร์มูน? ทำไมเขาถึงไม่มีความสามารถพิเศษด้านอื่นเลยล่ะ? ”
“สายเลือดอาเครอนเป็นสายเลือดระดับสูง เราไม่มีความสามารถในการทดสอบพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับนั้น”
“เหลวไหล!” ชารอนตวาดออกมา “ข้าจำได้ชัดเจนว่ามียังมีอย่างน้อย 6 วิธีในการทดสอบความสามารถของสายเลือดระดับสูง! ถึงจะเป็นเลือดระดับสูงสุดก็สามารถตรวจสอบได้!ต้องให้ข้าเตือนเจ้าไหมว่าสายเลือดบริสุทธิ์ที่ยอดเยี่ยมนั้นมีความสำคัญขนาดไหน!พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ จะให้ข้าขว้างเหรียญใส่หมาโดยไร้ประโยชน์อย่างนั้นรึ!หากเขามีโอกาสได้ครอบครองสายเลือดที่ทรงพลัง เจ้าก็ควรจะตรวจสอบทุกอย่างอย่างสุดความสามารถและละเอียดที่สุด ลืมเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เลย แค่ทดสอบเขา เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่ ?”
“แต่ถ้าจะทำอย่างนั้น วิธีทดสอบที่ง่ายที่สุดก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่า 600,000 เหรียญเลยนะครับ” เมจกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“อ่อ? งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ!”
……
ริชาร์ดผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องราวใดใด หลังจากที่ถูกส่งกลับมายังที่พักของตัวเองเขาก็เข้าสู่ห้วงนิทราในทันทีเพราะฤทธิ์ของเหนื่อยล้าจากการถูกทรมาน
— ในฝันริชาร์ดได้กลับมายังหมู่บ้านรูสแลนด์อีกครั้ง —
เขาแบกตะกร้าหวายที่มีผลสาเกบรรจุอยู่เต็ม และกำลังเดินทางกลับบ้าน ริชาร์ดมองเห็นแม่ของเขายืนรออยู่ที่หน้าประตู กลิ่นพายเนื้อหอมกรุ่นลอยออกมาเตะจมูกของเขา เป็นการบ่งบอกว่าในค่ำคืนนี้เขาไม่ต้องกินขนมปังผลไม้ไร้รสชาติอีกแล้ว ริชาร์ดรีบวิ่งกลับเข้าบ้านด้วยความดีใจ เขาเห็นแม่ส่งยิ้มมาให้แล้วกับหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้าน ทว่าชั่วพริบตาเดียวเปลวเพลิงขนาดใหญ่ก็ปะทุออกมาจากช่องประตูหน้าต่างทุกบานอย่างฉับพลัน!ภาพที่เห็นทำให้ริชาร์ดร้องตะโกนดังลั่นอย่างหัวใจสลาย เขาล้มลงไปกับพื้นและรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อจะวิ่งเข้าไปหามารดา
ทันใดนั้นริชาร์ดก็ลืมตาตื่นขึ้น เขาพบว่าภาพรอบตัวเปลี่ยนไป เขาไม่ได้อยู่ในรูสแลนด์เหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว เหงื่อผุดออกมาจากทุกรูขุมขนจนชุดนอนเปียกชุ่มไปทั้งชุด ริชาร์ดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับเรียกสติตัวเองให้กลับมา เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ในตอนนี้เขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่สวยงามซึ่งกว้างพอสำหรับคน 5-6 คนเลยทีเดียว พื้นที่ส่วนที่เหลือภายในห้องก็กว้างขวางอย่างมาก ริชาร์ดกวาดสายตามองไปรอบๆสำรวจดูสิ่งต่างๆในห้องนี้
ห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ประมาณ 50-60 ฟุตและมีความสูงราวๆ 20 ฟุต ความกว้างใหญ่ของห้องนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเรือที่ลอยอยู่กลางมหามสมุทรกว้างไกล เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและเดินสำรวจทุกอย่างที่อยู่ในห้อง เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เกิดไฟลุกไหม้บ้านของเขาในครั้งนั้น ระยะเวลาหนึ่งเดือนทำให้เขาเริ่มลืมเลือนสิ่งที่เกิดขึ้น ในความคิดของเขาการลืมเลือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วยให้เขามีความหวังว่าจะได้แม่ของเขากลับคืนมา และสิ่งนี้ก็ติดอยู่ในใจของเขาจนกลายเป็นความเชื่อตลอดมาตั้งแต่เกิดเรื่องว่าสักวันจะได้พบแม่อีกครั้ง
ห้องนอนของที่นี่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและฟุ่มเฟือย ลักษณะของประดับตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เป็นรูปแบบที่เป็นที่นิยมในหมู่เมจและพวกตระกูลขุนนางชนชั้นสูง
ริชาร์ดพึ่งค้นพบว่าหากเขาใช้สมาธิเพ่งมองของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาก็จะสามารถรับรู้ถึงข้อมูลซึ่งเป็นตัวเลขได้ นี่เป็นอบิลิตี้ทรูธระดับที่ 2 ที่เขาได้รับจากพิธีเอนไลท์เทนเมนท์มันคือ — พรีซิชั่น(ความแม่นยำ) — เขาปลดล็อคสกิลนี้ได้ในระหว่างการทดสอบที่แสนทรมานที่ผ่านมา และเขายังสัมผัสได้ถึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ของระดับที่ 3 และ 4 แล้วด้วย พรีซิชั่นจะอนุญาตให้เขาวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงประเมินส่วนประกอบของวัสดุต่างๆ ได้ แต่ริชาร์ดก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความสามารถเหล่านี้จะถูกปลุกขึ้นมา
จนถึงตอนนี้ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าอบิลิตี้ทรูธมีประโยชน์อย่างไรบ้าง แต่ในตอนนี้เขารู้สึกว่าในสมองกำลังอัดแน่นไปด้วยข้อมูลตัวเลขอย่างล้นหลาม!เขาเห็นตัวเลขมากมายปรากฎอยู่บนสิ่งของภายในห้อง ตัวเลขหลายพันตัวโผล่ออกมาจากทุกสิ่งที่เขามองราวกับเป็นภาพหลอน ตัวอย่างเช่นเก้าอี้หนึ่งตัวมีจำนวนตัวเลขปรากฎออกมามากถึง 111 ตัว ซึ่งจำนวนตัวเลขที่บ่งบอกถึงความยาว ความกว้าง ขนาดของพื้นที่ ขนาดของพื้นที่ผิว และอื่นๆอีกมากมาย และหากเขาอยากจะรู้เพิ่มเติมเขาก็ยังสามารถตรวจดูเส้นใยของผ้าที่ใช้บุบนตัวเก้าอี้ หรือแม้แต่ขนาดสเกลของหนังที่ถูกนำมาหุ้มเป็นที่วางแขน ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเขาพบว่าทั้งเส้นใยผ้าและหนังที่ใช้กับเก้าอี้ตัวนี้มีความทนทานเทียบเท่ากับผิวหนังของมังกรเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้จะมีความพิเศษมากแบบนั้น แต่ริชาร์ดก็ตระหนักในวินาทีนั้นว่าการมีชีวิตที่เต็มไปด้วยตัวเลขแบบนี้ไม่ได้ทำให้มีความสุขเลย ตรงกันข้ามกลับทำให้เขารู้สึกหัวหมุนจนอยากอาเจียนออกมา แต่โชคยังดีที่ริชาร์ดมี อบิลิตี้วิสดอม(พรแห่งสติปัญญา) ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้จำแนกและเรียงลำดับตัวเลขและข้อมูลมากมายทั้งหมดนี้ให้อยู่เป็นหมวดหมู่ได้ เขากำจัดข้อมูลที่ไร้ประโยชน์ออกไปได้อย่างรวดเร็วทำให้เหลือข้อมูลสำคัญเพียงไม่กี่อย่าง และตลอดทั้งคืนนั้นริชาร์ดพยายามใช้ความสามารถจำแนกส่วนที่ไม่สำคัญแล้วตัดทิ้งไปเหลือเพียงสิ่งที่สำคัญเพื่อจัดการชีวิตของเขาให้ง่ายขึ้น
แสงสว่างของวันใหม่จากดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าวันที่ริชาร์ดจะเข้ารับการฝึกฝนจากชารอนเป็นวันแรกมาถึงแล้ว ในวันแรกนี้จะเน้นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดีพบลูทั้งหมดให้กับริชาร์ดเพื่อให้เขาคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่สาธารณะที่สามารถใช้ได้ เขตหวงห้าม การใช้สิ่งของต่างๆ บุคคลต่างๆที่เขาสามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือได้ ข้อควรระวังต่างๆ รวมถึงพื้นที่ส่วนตัวของเขา
ริชาร์ดพบว่าพื้นที่ส่วนตัวของเขามีขนาดใหญ่มากซึ่งเขาวัดขนาดมันได้จากสกิลพรีซิชั่นของเขา ริชาร์ดมีห้องทดลองเวทมนตร์ของตัวเองพร้อมห้องทดลองทั่วไป ทั่วไป 1 ห้องและห้องพิเศษอีก 6 ห้อง มีห้องนอนขนาดใหญ่และพื้นที่นั่งเล่นซึ่งประกอบด้วยห้องอีก 21 ห้องซึ่งมีไว้สำหรับใช้งานที่แตกต่างกันออกไป จำนวนห้องกว้างที่มากมายขนาดนี้ทำให้เขารู้สึกทึ่งอย่างมาก ห้องหนึ่งในนั้นมีไว้เพื่อใช้เก็บหมวกและเสื้อผ้า แต่สิ่งของต่างๆของทั้งหมดที่ริชาร์ดมีกลับสามารถยัดเก็บในกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กเพียงใบเดียวเท่านั้น!และข้าวของเหล่านั้นก็เป็นของที่มาร์ควิสกาตอนสั่งให้จัดเตรียมไว้ให้กับเขา ในตอนที่เกิดเปลวไฟเผาบ้านและร่างแม่ของริชาร์ดหนังสือเวทมนต์ทั้งหมดและของที่ระลึกในวัยเด็กของเขาก็ถูกเผาจะมอดไหม้ไปด้วย ทำให้เขาไม่มีสมบัติเดิมติดมือมาจากบ้านของเขาที่รูสแลนด์เลยแม้แต่ชิ้นเดียว เมื่อนึกย้อนกลับไปแล้ว ริชาร์ดก็รู้สึกว่าเปลวไฟในวันนั้นมีความรุนแรงและมีพลังมากยิ่งกว่าลมหายใจของมังกรเสียอีก
นอกจากนี้ในพื้นที่ส่วนตัวของริชาร์ดยังแบ่งเป็นพื้นที่เก็บของอีกหลายห้อง ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดของพวกมันรวมกันสามารถเก็บเสบียงที่ตุนไว้ในฤดูหนาวของทั้งหมู่บ้านรูสแลนด์ได้อย่างสบาย
คนแนะนำสถานที่ในวันนี้เป็นอโคไลท์สาวน้อยวัยแรกรุ่นน้ำเสียงของนางหวานละมุน นางกล่าวถึงชื่อตัวเองหลายครั้งระหว่างที่เดินแนะนำสถานที่ต่างๆเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากนางได้ตลอดเวลา นางย้ำคำว่า ‘ตลอดเวลา’ และพยายามทำท่าทางน่ารักและส่งสายตาแพรวพราว ในตอนนี้ริชาร์ดยังไม่เข้าใจคำว่า ‘จะสามารถใช้ได้ในอีกไม่นาน’ และ ‘ศักยภาพโดดเด่น’ ในรายงานผลการทดสอบทางด้านร่างกายของเขา แต่เขาจะเข้าใจในอีกไม่นานนี้
ระหว่างทางที่เดินสำรวจสถานที่ต่างๆ ภายในดีพบลู ริชาร์ดก็ได้พบเจอกับเหล่าเมจที่เดินผ่านไปมาตลอดเวลา บางคนที่เดินผ่านถึงกับโค้งตัวให้กับเขาอย่างมีมารยาท ด้วยอบิลิตี้ของพวกเขาทำให้พวกเขาสามารถเข้าใจในสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะบนเสื้อคลุมของริชาร์ดได้อย่างรวดเร็ว ริชาร์ดคือผู้ที่ชารอนเลือกด้วยตัวของนางเอง สถานะนี้ทำให้ริชาร์ดมีระดับที่สูงกว่าปกติจนน่าเกรงขาม
บทเรียนอย่างเป็นทางการเริ่มต้นในวันต่อมา ริชาร์ดรู้สึกหัวหมุนอีกครั้งหลังจากที่เขาได้รับตารางเวลาเรียนที่กินเวลายาวนานในแต่ละวัน ดีพบลูมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่เป็นทางการซึ่งห่างไกลจากบรรทัดฐานของโลกเวทมนต์มาก หลักสูตรเวทมนตร์ขั้นพื้นฐานถูกแบ่งออกเป็น ปรัชญาเวทมนต์, ระบบของโลก, การศึกษาสิ่งมีชีวิต, ภูมิศาสตร์, คณิตศาสตร์, ทฤษฎีโลก, การศึกษาองค์ประกอบ, วัสดุศาสตร์, เรขาคณิตเชิงระนาบ, เรขาคณิตเชิงพื้นที่, ประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์, การวิเคราะห์สิ่งมีชีวิต และวิชาอื่นๆอีกหลากหลาย และวิชาเหล่านี้ยังถูกแบ่งย่อยและเจาะลึกลงไปอย่างละเอียดอีก ซึ่งริชาร์ดคิดว่าหากอโคไลท์คนหนึ่งจะเรียนรู้ทั้งหมดคงต้องใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตของเขา
แต่หลักสูตรของดีพบลูจะให้ความสำคัญกับ ‘ปรัชญาเวทมนตร์’ มากที่สุด และมันเป็นจุดเริ่มต้นของบทเรียนที่ริชาร์ดต้องเรียนรู้เป็นสิ่งแรก