นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 80 การเชื้อเชิญ ตอนที่ 2
เดมี่มีภาพลักษณ์ที่ทั้งดูดีและมีความสามารถ มันเป็นพรสวรรค์ที่นางได้รับมา และนอกจาก 2 อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นางก็ยังมีความขยันขันแข็งอยู่ภายในตัวเองอีกด้วย และดูเหมือนว่าหญิงสาวผู้นี้จะมีความกล้าได้กล้าเสียอยู่ไม่น้อย หากในอนาคตไม่มีอะไรผิดพลาด นางคงจะกลายมาเป็นไนท์ให้กับกองทัพของกาตอนได้ หญิงสาววัยเยาว์เช่นนางถือว่ามีค่าควรแก่การเคารพและชื่นชมมากทีเดียว
“อบิลิตี้ของข้าคือเออรัพชั่น” ริชาร์ดตอบกลับไป
ทันทีที่เขากล่าวออกมา เด็กหนุ่มสาวที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็หันมาสนใจเขากับเดมี่ที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ หลายคนแสดงสีหน้าอิจฉาเมื่อได้ยินอบิลิตี้ของเขา ทว่าเวนนิงตันและเวนิก้ากลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เพราะดูเหมือนว่าในตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 คนยังไม่ได้มีอบิลิตี้ที่สามารถใช้ได้เป็นของตัวเอง ทว่าในเวลาอันใกล้นี้พวกเขาก็อาจจะสามารถปลดล็อกมันได้แล้ว ด้วยความสามารถของพวกเขาที่เกี่ยวกับไฟ จึงทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้ใช้อบิลิตี้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายโดยการใช้ไฟ ซึ่งในอนาคตพลังของพวกเขาก็จะทรงพลังยิ่งกว่าเออรัพชั่นของริชาร์ดในตอนนี้อย่างแน่นอน
ในเวลานี้ใบหน้าของวอร์เรนเต็มไปด้วยความอิจฉาและเหยียดหยาม เขาทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจก่อนพึมพำ “เหอะ ก็แค่เออรัพชั่น !” แม้ว่าที่เหลือจะไม่ได้สนใจท่าทางของเขาทว่าสำหรับริชาร์ดแล้วเขากลับได้ยินสิ่งที่วอร์เรนสบถออกมาได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็เลือกที่จะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่วอร์เรนพูด เพราะถึงแม้ว่าเออรัพชั่นจะเป็นความสามารถทั่วไป ไม่ได้ถือว่าเก่งกาจอะไร แต่ในตอนนี้วอร์เรนเองก็ยังไม่สามารถปลดล็อกอบิลิตี้ของตัวเองได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ริชาร์ดไม่ได้อยากจะสนใจเขาเท่าไหร่นัก ไม่ใช่ทุกคนในอาเครอนที่จะสามารถทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ที่เหลือได้ ในความเป็นจริงแล้วความขัดแย้งนั้นจะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนในตระกูลเมื่อถึงเวลาที่สมควร
“เออรัพชั่น ?” เดมี่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะขยับคิ้วเล็กน้อย “อบิลิตี้ของเจ้ากับคลาสของเจ้าดูเหมือนจะไม่ได้สอดคล้องกันเท่าไหร่เลยนะ โชคไม่ดีเอาซะเลย… แต่ก็ช่างเถอะ มันไม่ได้สำคัญอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าได้เป็นรูนมาสเตอร์ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ต้องสนใจเลยว่าอบิลิตี้ของเจ้าจะสูญเปล่า เจ้าอาจจะโชคไม่ดีในตอนนี้ แต่ข้าคิดว่ามันคงจะดีกับเจ้าในอนาคต !”
“ขอบใจ !” ริชาร์ดยกแก้วในมือขึ้นมาจิบไวน์ในแก้วเบา ๆ
โดยทั่วไปแล้วอบิลิตี้ของพวกเขาจะถูกปลดล็อกหลังจากที่พวกเขาได้เลือกคลาสของตัวเอง หากมันเข้ากับคลาสที่พวกเขาเลือกไว้ สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้พวกเขามีพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากตัวอย่างคือชารอนและเดมี่ในตอนนี้ มีหลายตระกูลที่สนใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างมาก หากอบิลิตี้ที่เป็นมรดกของตระกูลเป็นสิ่งที่เสริมในการต่อสู้ระยะประชิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับวอริเออร์ เหล่าเด็กหนุ่มสาวที่สืบสกุลส่วนใหญ่ก็จะเลือกคลาสที่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขามี
อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถใช้กับสายเลือดที่ทรงพลังอย่างบางตระกูลได้ เพราะบางตระกูลนั้นมีอบิลิตี้ที่ครอบคลุมทั้งการต่อสู้ระยะประชิดและเวทมนตร์ หรือแม้แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าพวกเขาอาจจะโน้มเอียงไปทางสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเป็นพิเศษ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังต้องพึ่งพาโชคชะตาให้ช่วยเลือกคลาสให้กับพวกเขาอยู่ดี
ในกรณีของอาเครอน เป็นที่รู้จักกันดีในวงกว้างว่าอบิลิตี้ของพวกเขาเป็นอบิลิตี้ที่ส่งเสริมการต่อสู้ระยะประชิดและพลังเวทย์อย่างละพอ ๆ กัน ดังนั้น เมื่อเด็ก ๆ ในตระกูลอาเครอนเลือกคลาสของพวกเขา มันก็เป็นเหมือนกับการสุ่มพลิกเหรียญเพื่อดูอบิลิตี้ของตนเอง
ในอดีตก็เคยมีคนที่เปลี่ยนคลาสของตัวเองเพื่อให้เข้ากับอบิลิตี้หลังจากที่ปลุกอบิลิตี้ขึ้นมาได้ แต่โดยปกติแล้วพวกเขาจะต้องใคร่ครวญให้รอบคอบเสียก่อน ถ้าระดับของคลาสยังต่ำกว่า 4 ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยน
ริชาร์ดเป็นหนึ่งในคนที่โชคไม่ดีเท่าไหร่นักแต่อย่างน้อยก็อาจจะเป็นแค่ช่วงนี้ คำพูดของเดมี่ที่บอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะสามารถปลดปล่อยอบิลิตี้ที่ 2 ของเขาออกมานั้นเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจเขาซึ่งทำให้นางยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นในสายตาของเขา มันสร้างความประทับใจในครั้งแรกให้กับเขาได้ไม่น้อย
ขณะนั้นเอง เวนนิงตันก็เดินเข้ามาพร้อมแก้วในมือก่อนที่จะยิ้มให้เขา “เออรัพชั่น ? ข้าเองก็อยากได้สกิลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้เหมือนกัน ! ข้าได้ก้าวผ่านการเลือกคลาสของข้าไปแล้ว แต่เป็นเพราะอบิลิตี้ที่ยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาของข้า จึงทำให้ข้ายังไม่รู้ว่ามันจะสามารถเข้ากันได้อย่างที่ข้าหวังไว้หรือไม่ หากข้าได้อบิลิตี้เวทมนตร์ระดับ 2 อะไรพวกนั้นล่ะก็ ข้าคงจะปวดหัวอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ! อ้อ อีกอย่างนะเดมี่ เออรัพชั่นไม่ได้ไร้ประโยชน์สำหรับริชาร์ดอย่างที่เจ้าคิดหรอก ในสนามรบมันจะกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ”
“เจ้าพูดถูก” เดมี่พยักหน้าเห็นด้วยหลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเมจคือการรักษาชีวิตของพวกเขาให้รอดจากสนามรบ ซึ่งเออรัพชั่นนี้จะช่วยได้มากในการทำให้สามารถหลบหนีความตายได้เร็วขึ้นในเวลาที่เกิดอันตราย สำหรับรูนมาสเตอร์แล้ว คนเหล่านี้มีความสำคัญเหนือกว่าเหล่าเมจ และรูนมาสเตอร์ที่มีระดับสูงมีสิทธิ์ที่จะถอยออกจากสนามรบเมื่อใดก็ได้ตามดุลยพินิจของพวกเขาเอง
“เอาล่ะริชาร์ด ไหน ๆ เจ้าก็ได้เป็นรูนมาสเตอร์แล้ว ในตอนนี้เจ้าสามารถสร้างรูนที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ได้บ้างหรือยัง ?” เดมี่ถามขึ้น นางรู้ว่ารูนมาสเตอร์ระดับพื้นฐานส่วนใหญ่จะสามารถสร้างรูนมาตรฐานได้เพียง 2–3 รูนเท่านั้น
ริชาร์ดเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าสามารถสร้างรูนที่ช่วยเพิ่มมานาได้รูนหนึ่งแต่มันก็ยังอ่อนกำลังกว่ารูนระดับ 2 อยู่ เจ้าสนใจรึ ?”
เดมี่เบิกตาขึ้นด้วยความสนใจ “เพิ่มมานางั้นเหรอ ? มันเป็นรูนที่สร้างขึ้นเองรึเปล่า ? แล้วประสิทธิภาพของมันมากแค่ไหนกัน ?”
“อืม… ผลลัพธ์ที่ได้ก็อยู่ที่ประมาณ 13–15% อันที่จริงข้าจะรู้เปอร์เซ็นต์ของมันได้อย่างแน่นอนก็หลังจากที่ข้าสร้างรูนนั้นออกมาได้สำเร็จแล้วนั่นแหละ”
สายตาของเดมี่ยังคงเบิกกว้าง นางเปล่งเสียงร้องออกมาก่อนจะถามว่า “ประสิทธิภาพที่มีอัตราสูงขนาดนี้ แต่กลับมีความผันผวนเพียงแค่เล็กน้อยเนี่ยนะ ?” เห็นได้ชัดว่านางมีความเข้าใจเกี่ยวกับรูนที่เพิ่มมานา รูนมาตรฐานที่อยู่ระดับ 2 นั้นปกติจะมีความผันผวนอยู่ที่ประมาณ 15–22% ซึ่งนั่นหมายความว่ารูนพื้นฐานของริชาร์ดสามารถเทียบได้กับรูนระดับ 2 เกรดต่ำ ๆ ได้อย่างสบาย แต่ข้อดีของมันคือมนุษย์จะสามารถรองรับมันได้ง่ายกว่ารูนระดับ 2
การเพิ่มมานาถือเป็นการช่วยเรื่องของการใช้เวทมนตร์ให้มากขึ้น การเพิ่มขึ้นของมานาถึง 15% จะช่วยให้เดมี่เพิ่มพลังมานาได้ถึง 400 พอยท์ นั่นสามารถทำให้นางร่ายคาถาระดับ 4 ออกมาได้ สำหรับนางแล้ว รูนอันนี้จะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับนางได้โดยตรง ซึ่งมันจะช่วยให้นางมีความแข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย
ริชาร์ดพยักหน้ารับ
เดมี่สูดหายใจเข้าลึกจนทำให้หน้าอกของนางขยายขึ้นก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “ข้าต้องการรูนนี้ ! แต่ข้าไม่ได้อยากได้มันเป็นรูนสล็อต ข้าอยากสักมันลงบนร่างกายของข้าโดยตรง ตอนนี้ร่างกายข้าสามารถรองรับรูนพื้นฐานได้”
คำพูดของนางนั้นดูเหมือนว่านางยังต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างที่เป็นพิเศษขึ้นมาอีก ซึ่งนั่นทำให้ริชาร์ดรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาร่ายคาถาตรวจจับบนร่างกายของนาง วิธีนี้เป็นการตรวจสอบขั้นพื้นฐานของเหล่ารูนมาสเตอร์เพื่อศึกษาพื้นที่ที่พวกเขาจะใส่รูนเข้าไปในร่างกาย จริง ๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องใช้คาถาเพื่อตรวจจับสถานที่ที่เขาต้องการจะใส่รูนเลยก็ได้ ทว่าเขาเพียงแค่ต้องการยืนยันข้อสงสัยของเขาเท่านั้น
คาถาการตรวจสอบส่องประกายไปทั่วร่างของเดมี่ก่อนที่จะเกิดแสงบริเวณส่วนอกจนไปถึงหน้าท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่นางสามารถสักรูนไว้ได้ และมันก็เป็นไปอย่างที่เขาคิดไว้
ทันทีที่เขารับรู้ถึงจุดที่สามารถสักรูนได้ เขาก็รับรู้ได้ถึงสายตาของเดมี่ที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เขาเองก็แทบจะไม่เข้าใจจนทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่านี่อาจจะเป็นคำเชื้อเชิญทางอ้อมของนาง
“เวนิก้า แล้วเจ้าล่ะ อยากได้รูนหรือไม่ ?” เดมี่หันไปกลับไปมองเวนิก้า เวนิก้าก้าวมาข้างหน้าก่อนที่จะมองริชาร์ดและพูดขึ้น “ข้าต้องการสักรูนลงบนร่างกายของข้าเช่นเดียวกัน [อจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน] ก็เพียงพอแล้ว เพราะข้าอาจจะต้องเปลี่ยนมันในอนาคต”
คาถาการตรวจสอบถูกร่ายออกมาอีกครั้งก่อนที่จะผ่านไปยังร่างของเวนิก้า ในการตอบสนองครั้งนี้ คลื่นเวทมนตร์ปกคลุมไปทั่วแผ่นหลังจนถึงต้นขาของนาง ผลการตรวจสอบที่ได้ทำให้เขารับรู้ว่ากำลังจะมีเรื่องที่จะสร้างความปวดหัวให้กับเขาแล้ว
ทันใดนั้นเวนนิงตันก็หัวเราะก่อนจะพูดแทรกขึ้น “ฮ่า ๆ น่าอิจฉาเจ้าเสียจริง ริชาร์ด ! นี่… หรือว่าเจ้าจะช่วยมอบรูนให้กับข้าอีกคนดีล่ะ ? ถ้าเจ้าทำเช่นนั้น ข้าจะไม่เคืองเจ้าเรื่องนี้ก็ได้ อีกอย่าง ข้าจะให้วัสดุกับเจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้เรียกเก็บเงินจากข้าในราคาที่น้อยลงด้วย แต่ว่าข้าต้องการเป็นสล็อตนะ อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้เหมือนกับผู้หญิงพวกนี้หรอก”
*รูนแบบสล็อต = รูนที่ทำมาแบบสำเร็จรูปและสามารถติดหรือประทับลงไปในช่องรูนได้เลย
คำพูดของเวนนิงตันรวมถึงคำพูดเชื้อเชิญของหญิงสาวทั้งสองได้เพิ่มเชื้อเพลิงให้กับไฟเป็นอย่างมาก นี่ทำให้ริชาร์ดรู้สึกราวกับว่าสมองของเขากำลังจะระเบิดออกมา
ต้องขอบคุณที่หนุ่มสาวเหล่านี้เริ่มเปลี่ยนบทสนทนาไปพูดคุยเกี่ยวกับสงครามแห่งเพลนหลังจากที่พูดเรื่องรูนของเขาจบ การถกเถียงกันในเรื่องของสงครามเป็นไปด้วยความร้อนระอุจนทำให้เขาแทบจะไม่ได้เอ่ยปากพูดหรือมีส่วนร่วมในบทสนทนาของพวกเขาเลย แม้ว่าเดมี่จะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ ทว่าสำหรับเวนนิงตันและเวนิก้าแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้มีความรู้น้อยไปกว่านางเลย ความกระตือรือร้นในการถกเถียงกันของพวกเขาสร้างความประหลาดใจให้กับริชาร์ดอย่างมาก ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นมาเองอย่างฉับพลันทำให้เขารับรู้ได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเหล่านี้ล้วนเป็นพวกบ้าคลั่งในการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม วอร์เรนไม่ได้เข้าร่วมสนทนาด้วย ในตอนนี้เขาแสดงท่าทีเกลียดชังริชาร์ดมากขึ้นกว่าเดิม เดมี่คนที่อยู่เคยอยู่ข้างเขาก่อนหน้านี้ก็เลือกที่จะเดินไปหาริชาร์ดก่อนด้วยตัวของนางเอง อีกทั้งยังพาเวนิก้าไปด้วยทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกนางแสดงท่าทีสนใจเขาอย่างมาก แต่ทันทีที่ริชาร์ดปรากฏตัวขึ้นพวกนางก็เข้าหาริชาร์ดโดยไม่เหลียวมองกลับมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย ! แต่แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะเข้าหาริชาร์ดอย่างไร ก็ดูเหมือนว่าริชาร์ดจะไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมาเลย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกนางยอมแพ้ เพราะพวกนางคิดว่าอย่างไรเสีย ชายที่มีท่าทางซื่อตรงก็มักจะพ่ายแพ้ให้กับกลลวงของหญิงสาวอยู่ทุกครั้งไป
วอร์เรนรินไวน์ใส่แก้วของตัวเองก่อนดื่มมันอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงรสชาติของมันที่เริ่มจะส่งกลิ่นฉุนมากขึ้นเรื่อย ๆ มีหญิงสาวบางคนเข้าหาเขาและพยายามที่จะพูดคุยกับเขา ทว่าเขากลับไม่สนใจผู้หญิงเหล่านั้นและไม่แม้แต่จะชายตามอง ในตอนนี้เขาส่งสายตาจ้องมองไปที่ริชาร์ด เดมี่ และเวนิก้าด้วยความรู้สึกเกลียดชังที่กำลังแผดเผาอยู่ภายในใจของเขาอย่างไม่วางตา