นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 45.1 งานประมูล [1]
หลังจากเหตุการณ์การเผชิญหน้าระหว่างริชาร์ดและสตีเว่นจบลง ก็เกือบจะถึงเวลาของเทศกาลกลางฤดูร้อนพอดี บรรยากาศทั้งภายในและภายนอกดีพบลูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก ผู้คนมากมายแต่งกายตามเชื้อชาติด้วยเสื้อผ้าสีสดใสไม่ซ้ำใคร บางคนถึงกับสวมวิกที่มีสีสันไว้บนศีรษะ ขณะที่บางคนวาดลวดลายรูปแบบแปลก ๆ ไว้บนใบหน้า สุราชั้นดีถังใหญ่จำนวนมากส่งมาถึงดีพบลูโดยม้า ทว่ามันกลับค่อย ๆ หมดไปด้วยอัตราความเร็วที่น่าแปลกใจ ในช่วงงานเทศกาลเช่นนี้ ดีพบลูที่เดิมสว่างไสวอยู่แล้วก็สว่างไสวมากขึ้นอีกด้วยดวงไฟจำนวนนับไม่ถ้วนที่ประดับท้องฟ้ายามค่ำคืนให้กลายเป็นโลกที่ชวนฝัน บรรยากาศงานในวันนี้มีทั้งกองไฟ เพลง และกลิ่นของอาหารอบอวลไปทั่วราวกับไม่มีความกังวลใจใด ๆ บนโลก
ภายในชั้นบนหอคอยหลักของดีพบลูในตอนนี้เต็มไปด้วยเหล่าคนชั้นสูงที่ล้วนแต่สมองปลอดโปร่ง นี่คือสถานที่ที่การประมูลจะเกิดขึ้น ของสะสมของเลเจนดารี่เมจชารอนถูกจัดแสดงให้เห็นอย่างละเอียดตามจุดสำคัญ ๆ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่โตและน่าประหลาดใจ เพราะของหายากที่ชารอนจัดมานั้นมีจำนวนมากกว่าการประมูลในครั้งก่อนมาก นั่นทำให้เหล่าขุนนางต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของชารอนซะใหม่
ในจำนวนของทั้งหมดนี้มีชิ้นที่โดดเด่นมากที่สุดคือชุดกระดูกมังกรซึ่งวางอยู่บริเวณกลางห้องโถง เมจหลายคนป้วนเปี้ยนอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้นด้วยท่าทางสนอกสนใจ ปากก็พึมพำในสิ่งที่แสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดในการประมูลวันนี้ไม่ใช่ชุดกระดูกมังกร ทว่าเป็นหัวใจของอสูรโบราณที่มาจากเพลนผืนป่า เล็บมือครึ่งหนึ่งของอาร์ชเดวิลจากขุมนรก รวมไปถึงหนังคอนุ่ม ๆ ของมังกรไฟ ทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นของที่มีความล้ำค่าในอันดับสูงสุด เนื่องจากเป็นไอเท็มหายากที่ถูกประเมินมูลค่าไว้หลายล้านเหรียญทอง
กฎของการประมูลนี้ง่ายมาก ไอเท็มประมูลแต่ละชิ้นจะมีบัตร 1 ใบวางอยู่ด้านหน้า ผู้ที่ต้องการร่วมประมูลของชิ้นนั้นจะต้องเขียนราคาที่ยินดีจ่ายพร้อมทั้งลงชื่อกำกับไว้ หากใครให้ราคาที่มากกว่าได้ก็ให้เขียนชื่อลงในแถวถัดไป ซึ่งก็จะดำเนินเช่นนี้ไปจนการประมูลจบลง หากไม่มีใครให้ราคาสูงกว่าอีกก็ยึดชื่อผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุดเป็นผู้ชนะการประมูล และหากว่าใครต้องการไอเท็มชิ้นใดแต่ไม่ต้องการรอจนจบการประมูล ผู้นั้นก็สามารถบอกราคาต่อหน้าผู้ชมทุกคนได้ ซึ่งถ้าไม่มีใครให้ราคาที่สูงกว่า ไอเท็มชิ้นนั้นก็จะตกเป็นของผู้นั้นทันที
แน่นอนว่าโถงที่จัดงานประมูลนี้มีความกว้างใหญ่มากอย่างน่าอัศจรรย์ พื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตรนั้นจัดว่ากว้างขวางมากพอที่จะรองรับแขกเหรื่อทุกคน แต่วอริเออร์ระดับ 10 หนึ่งคนก็สามารถส่งเสียงให้ได้ยินกันทั่วได้ และถึงแม้ว่าขุนนางที่เข้าร่วมประมูลจะไม่มีพลังมากขนาดนี้ ทว่าพวกเขาก็มีวอริเออร์ระดับ 10 อยู่ภายใต้การปกครองนับร้อยนับพันคนที่พามาเพื่อตะโกนราคาประมูลให้ได้อยู่ดี
ผู้ที่มีดินแดนมากมายนั้นไม่สนใจวัตถุเวทมนตร์และหนังอสูร เนื่องจากพวกเขาให้ความสนใจกับแร่เหล็กในวงแหวนก้นหอยบนชั้นที่วางอยู่ทางทิศตะวันตกของห้องโถงมากกว่า สำหรับขุนนางที่หลอมเครื่องมือและอาวุธเองได้นั้น กระดูกและหนังอสูรย่อมมีประโยชน์ไม่เท่าแร่เหล็กจำนวน 10 หรือ 100 กิโลกรัม ในตอนแรก พวกเขาอาจสร้างเครื่องมือล้ำค่าได้ 1–2 ชิ้น ทว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะสามารถสร้างเกราะ อาวุธหนักและลูกธนูเวทมนตร์ได้ ซึ่งหากนำไปใช้กับวอริเออร์ที่เหมาะสม กองทัพของพวกเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้นทันที
ผู้ที่มีอำนาจมากบางคนอาจจะได้อำนาจมาโดยความแข็งแกร่งและพลังของตัวเอง แต่พวกเขาก็หลงใหลในการสร้างกองทัพขนาดใหญ่เป็นธรรมดา
แร่เหล็กเหล่านี้มีจำนวนมากจนไม่สามารถนำมาจัดวางในห้องโถงได้หมด ทำให้มีเพียงตัวอย่างจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่วางอยู่ ดีพบลูมีชื่อเสียงที่ดีเสมอมาในเรื่องการจัดหาสินค้าสำหรับการประมูลหรือแม้แต่การซื้อขายประจำวัน ดังนั้น สินค้าทุกชิ้นจะมีคุณภาพที่ดีเช่นเดียวกับสินค้าตัวอย่างเสมอ มีขุนนางหลายคนรวมตัวกันอยู่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อศึกษาสีและชั้นคุณภาพของแร่เหล็ก และตระกูลที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่างก็กระซิบกระซาบกันโดยที่หางตาก็ยังคอยจับจ้องไปยังตัวแทนจากตระกูลอื่นที่ไม่ใช่พันธมิตรของพวกตน อย่างไรก็ตามก่อนซื้อหาหรือประมูล พวกเขาก็อ่านรายละเอียดของทุกชิ้นอย่างละเอียด นอกเหนือจากคุณภาพแล้ว ปริมาณก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญมากเช่นกัน และหลังจากคำนวณและคิดวิเคราะห์แล้ว พวกเขาก็ทำการเขียนจำนวนเงินลงไปอย่างระมัดระวัง
บรรยากาศในห้องโถงนั้นดุเดือดขึ้นกว่าเดิมทว่ายังควบคุมไว้ได้ เหลือเวลาอีกมากกว่าจะถึงรุ่งสาง ในตอนนี้ผู้ร่วมประมูลต่างก็เต็มไปด้วยความคิดที่แอบแฝงอยู่ไม่ว่าจะเป็น ‘มันยังไม่ถึงเวลาที่จะยอมแพ้’ หรือ ‘ใครสักคนจะต้องพ่ายแพ้’ อย่างไรก็ตาม ปริมาณและคุณภาพของไอเท็มประมูลที่เกินความคาดหมายของทุกคนนั้นเสมือนเป็นการจุดชนวนความต้องการที่ไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ ความหลากหลายและปริมาณของแร่เหล็กที่พวกเขาเห็นก็สูงเกินความคาดหมายจนผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่า ไม่กี่ปีมานี้ชารอนได้ยึดครองเพลนที่เต็มไปด้วยแหล่งแร่ธาตุล้ำค่าทั้งหมดกี่เพลนกันแน่ !
สตีเว่นไม่ได้ตื่นตาไปกับสินค้าประมูลมากมายที่จัดแสดงอยู่ในห้องโถง เขายังคงรักษาท่าทางสง่างาม แลกเปลี่ยนคำทักทายตามธรรมเนียมกับตัวแทนจากตระกูลพันธมิตรต่าง ๆ ก่อนจะเดินผ่านพื้นที่จัดแสดงไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับมังกรด้วยความมั่นใจอย่างสุดขีด นอกเหนือจากวอริเออร์และเคลริคแล้วก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญการประเมินอีก 2 คนที่ดยุกโซแลมส่งมาให้เดินตามหลังของเขา รวมทั้งวอริเออร์ระดับสูงอีก 2 คน ซึ่งมีระดับสูงกว่า 16 ด้วย สำหรับในตอนนี้นั้น ที่นี่แทบจะไม่มีเซนต์อยู่เลยซึ่งพวกนั้นจะอยู่ราว ๆ ระดับ 18
จากบทสนทนาที่น่าพึงพอใจกับผู้ช่วยแบล็คโกลด์ที่พูดคุยกันอยู่เป็นเวลานาน สตีเว่นก็ได้ตั้งจุดมุ่งหมายสิ่งของที่เขาต้องการจะพบมานานแล้ว เขาต้องการเห็นและซื้อหนังของมังกรไฟนั่น !
แน่นอนว่ามันคือมังกรไฟระดับเลเจนดารี่ของแท้ ไม่ใช่แค่มังกรแดงธรรมดา เขาจึงต้องการที่จะได้มันมาครอบครอง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสังหารมังกรสักตัว มังกรแดงนั้นถูกจัดว่าอยู่เหนือกว่าระดับมาตรฐานในกลุ่มมังกรสี เนื่องจากร่างกายที่ทรงพลังที่สุดของพวกมัน ส่วนมังกรไฟจะจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับมังกรแดง แต่จำนวนของพวกมันนั้นมีน้อยมาก ทุกตัวล้วนมีความแข็งแกร่งสูง อย่างไรก็ตาม หากว่ามังกรแดงมีอายุมากกว่าพันปีรวมถึงมีความแข็งแกร่งมหาศาล มันก็สามารถวิวัฒนาการเป็นมังกรไฟได้
หากเทียบในด้านพลังของมนุษย์นั้น เลเจนดารี่คนใหม่อย่างโซแลมจะถือว่าสร้างหายนะให้กับชีวิตของตนเองหากต้องต่อสู้กับมังกรไฟที่โตเต็มวัย รูนไนท์กลุ่มเล็ก ๆ ที่เซนต์เคลาส์ควบคุมอยู่จะถูกกำจัดไปอย่างง่ายดาย ดังนั้น เรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลโซแลมจะได้หนังคอที่สมบูรณ์ของมังกรไฟมาไว้ในครอบครองโดยใช้ความแข็งแกร่งของตนเอง ครั้งหนึ่งเซนต์เคลาส์เคยสร้างรูนที่มีพื้นฐานจากหนังของมังกรขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อสู้กับมังกร ทว่าถึงแม้จะใช้รูนที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดแล้วนั้นก็ยังไม่สามารถจัดการกับมังกรไฟได้
สตีเว่นยืนมองบัตรตรงหน้าอยู่เป็นเวลานาน เขาทำการศึกษาข้อมูลทั้งหมดอย่างเคร่งเครียด ทั้งคำที่ดูเหมือนจะมีความสำคัญเล็กน้อยที่สุดไปจนถึงภาพประกอบสองสามภาพโดยไม่พลาดรายละเอียดใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่มองด้วยสายตาก็เห็นได้แล้วว่าหนังแผ่นนี้คุณภาพดีมากและมีขนาดใหญ่กว่าหนังมังกรไฟธรรมดาถึง 5 เท่า อีกทั้งยังยอดเยี่ยมและไม่บุบสลาย เขารู้ได้ทันทีว่ามังกรไฟตัวนี้มีอายุมากกว่า 1,000 ปี นั่นหมายความว่า หนังแผ่นนี้มีคุณภาพสูงกว่าของมังกรแดงตัวเล็กที่มีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่ศตวรรษมากนัก
คำบรรยายในบัตรใบนี้มีเนื้อความค่อนข้างยาว ย่อหน้าแรกกล่าวถึงความกล้าหาญของชารอนในการต่อสู้กับมังกรไฟ เนื้อหาส่วนนี้มักถูกมองข้ามไป ทว่าการแก้ไขหลายต่อหลายครั้งโดยนักประวัติศาสตร์ ศิลปิน และแบล็คโกลด์ ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าใครก็ตามที่ด่วนสรุปความสามารถของชารอนจากสิ่งนี้จะต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน
ย่อหน้าที่สองสำคัญกว่ามากเพราะมันอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับพลังของตัวมังกร จากชื่อเสียงของดีพบลูทำให้มั่นใจได้เลยว่าคำบรรยายเหล่านี้จะถูกต้องและครบถ้วนเช่นเดียวกันกับย่อหน้าสุดท้ายที่กล่าวถึงถิ่นที่อยู่ของมังกร
มีผู้เขียนราคาที่ต้องการประมูลเอาไว้แล้ว 2 แถว โดยราคาที่เขียนไว้คือ 1,000,000 และ 1,050,000 เหรียญตามลำดับ คำจารึกชื่อทั้งสองนี้บอกเป็นนัยว่าทั้งสองเป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างไม่น่าเชื่อ — แต่ไม่ว่าจะมีพลังอำนาจมากเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบเท่าตระกูลขุนนางอย่างโซแลมได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปราศจากการสนับสนุนขององค์กรในเรื่องอำนาจและความร่ำรวย ทว่าแน่นอนว่าชารอนเป็นข้อยกเว้น
หลังจากฟังผู้เชี่ยวชาญการประเมินอย่างรอบคอบแล้ว สตีเว่นก็พยายามรักษาท่าทางให้สงบไว้ทว่าดวงตาทั้งสองของเขานั้นกระตุกเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ ผิวหนังส่วนคอของมังกรไฟนี้มันสำคัญกับเขามากเกินไป หากเขาได้ครอบครองสิ่งนี้ เซนต์เคลาส์จะสามารถสร้างรูนระดับ 2 ที่ทรงพลังขึ้นมาได้ และจะทำให้การที่กระต่ายหิมะสามารถเอาชนะหมาป่าฤดูหนาวได้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าอีกต่อไป
เมื่อมองหนังแผ่นนี้ซ้ำ ๆ สตีเว่นก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้เห็นประตูนำทางไปสู่การเป็นดราก้อนบลัดรูนมาสเตอร์เลยทีเดียว (รูนมาสเตอร์สายเลือดมังกร) !
เขาพูดพึมพำกับตัวเองก่อนขอปากกาเวทมนตร์จากสมุนของเขา เขาพร้อมที่จะเขียนราคาแรกของเขาลงไปแล้ว หลังจากคิดอย่างรอบคอบที่สุด สตีเว่นก็เลือกที่จะเสนอราคาไว้ที่ 1,300,000 เหรียญ และอาจจะเพิ่มอีก 200,000 เหรียญในภายหลัง นี่เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นโดยไม่เป็นการโอ้อวดมากจนเกินไปในกรณีที่คนอื่นมองเห็นถึงความกังวลของเขาและเสนอราคาที่มากขึ้นไปอีก
จู่ ๆ ห้องโถงที่มีการส่งเสียงเซ็งแซ่อยู่นั้นก็เงียบลงอย่างกะทันหัน เหล่าคนที่มีระดับสูงต่างหันหลังกลับมาพร้อมกันและจ้องมองไปที่ทางเข้าห้องโถง ลมกระโชกแรงที่มองไม่เห็นทว่าร้อนจัดพรั่งพรูเข้ามาในห้องโถงอย่างรวดเร็วและอุณหภูมิภายในก็สูงขึ้นเล็กน้อยอย่างกะทันหันด้วย อากาศที่อุ่นและชื้นก่อนหน้านี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความแห้งและลุกโชนไปด้วยความร้อน ออร่าหมอง ๆ ของความหดหู่กระจายไปทั่วในอากาศ และบางคนถึงขั้นได้ยินเสียงคำรามเบา ๆ ของอสูร
นี่คือการปล่อยออร่าเพื่อแสดงอำนาจอย่างแท้จริง การเปลี่ยนแปลงในห้องโถงนี้ถือว่าเล็กน้อยแต่มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในขอบเขตที่กว้างใหญ่ ใครกันที่มีพลังมากมายเช่นนี้ครอบครองไว้ ? นี่มันน่ากลัวในตัวของมันเอง อย่างไรก็ตาม ขณะที่ออร่านี้กำลังกระจายออกมาอย่างรุนแรง แต่กลับไม่มีจิตสังหารหรือความกดดันใด ๆ แผ่ออกมาด้วยเลยซึ่งนั่นหมายความว่า คนผู้นี้ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยออร่าแบบนี้ออกมาด้วยซ้ำ
นี่เป็นเพียงออร่าที่แผ่ออกมาด้วยตัวของมันเอง !