นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 42 การเตรียมตัว
คนเราทุกคนรู้สึกถึงการเดินของเวลาแตกต่างกัน บางคนรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วราวกับความเร็วของม้าศึก ขณะที่บางคนรู้สึกว่ามันผ่านไปอย่างเชื่องช้าราวกับแร่ธาตุของโลกที่ประกอบขึ้นเป็นเพลน — 1,000 ปีของนัวแลนด์เพียงเพื่อจุมพิตเดียวมันช่างเชื่องช้าจนน่าโมโห ทว่าสำหรับสตีเว่นกับริชาร์ด หลังจากที่พวกเขาได้รับหัวข้อการแข่งขันจากชารอน ทั้งสองต่างก็เริ่มมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
แท้จริงแล้วริชาร์ดทำทุกอย่างเหมือนปกติ เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของเขามากนัก กิจวัตรประจำวันของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม แม้แต่การฝึกฝนเวทมนตร์และการทำสมาธิก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้หยุดไป เขาเพียงแค่ปรับตารางเวลาไปเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งก็คือเวลาที่เขาเคยใช้ไปกับปรัชญาเวทมนตร์ ในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นการศึกษารูน
ไม่นานนักเขาก็พบว่าตนเองกำลังเดินผิดทาง บางวิชาเรียนที่เกี่ยวกับรูปแบบของรูนนั้นเป็นการวิเคราะห์ผลงานที่อมตะของพวกบรรพบุรุษและการทำความเข้าใจรูปแบบของรูนเหล่านั้น เขากลับมาเปิดอ่านทฤษฎีพื้นฐานอีกครั้งและถึงกับสะดุ้งเมื่อพบว่า — ไม่ว่ารูนจะซับซ้อนและน่าอัศจรรย์มากแค่ไหน ใจความสำคัญก็คือความเข้าใจในเวทมนตร์ของผู้สร้าง — นี่ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาขาดไม่ใช่ความรู้เกี่ยวกับวงเวทย์ แต่เป็นปรัชญาเวทมนตร์ที่จะมีประโยชน์กว่ามากในการสร้างรูนของเขาเอง
ในระหว่างนั้นเขาจึงเริ่มฝึกสร้างและยึดช่องของรูน รูนจะแสดงผลออกมาเมื่อตรึงแน่นอยู่กับกระต่ายหิมะแล้วเท่านั้น หากทั้งรูนถูกยึดกับเป้าหมายแล้ว มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเป้าหมายราวกับรอยสัก ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ก็คือการวาดรูนลงบนเป้าหมายโดยตรง
การสร้างรูนขึ้นมาใหม่ทั้งหมดหมายความว่าการศึกษาส่วนผสมเป็นสิ่งจำเป็นมาก ซึ่งการค้นหาว่าส่วนผสมตัวใดสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เหมือนกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่ส่วนผสมเวทมนตร์ตัวเดียวกันก็สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างกันได้แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าถูกใช้กับผิวหนังส่วนใด นอกจากนี้ยังมีวิธีฟอกหนังอีก 100 กว่าวิธี ซึ่งจะสามารถผลิตแผ่นหนังเวทมนตร์ที่มีคุณสมบัติทางเวทมนตร์ที่หลากหลายได้ 30-40 แผ่น วัตถุดิบสำหรับรูน และการตกแต่งรูนนั้นก็มีมากกว่า 1,000 ชนิดเช่นกัน การประมวลผลระหว่างการสร้างและในตอนท้ายของการสร้าง รวมไปถึงวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ที่รูนมาสเตอร์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ใช้นั้น ทำให้มีการผสมผสานจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึง
ริชาร์ดสำรวจเขาวงกตของความรู้ที่กว้างใหญ่นี้ เขาเรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างรูนด้วยความอดทนอย่างมาก เขาไม่วิตกกังวลเลยแม้แต่น้อยกับการพัฒนา การเรียนรู้ไปทีละขั้น ๆ และการทบทวนผลลัพธ์ของการเรียนรู้โดยอาจใช้เวลาประมาณ 2–3 วัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ต้องปรับตารางเวลาบ้างเล็กน้อย
ความจริงแล้ว มีทางลัดมากมายในการจัดหาส่วนผสมเวทมนตร์ เช่น เขาอาจขอความช่วยเหลือจากตระกูลของเขา ตระกูลอาเครอนเป็นตัวอย่างของตระกูลที่ประสบความสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาย่อมสามารถช่วยเหลือเขาได้โดยการจัดหาวัตถุดิบและสิ่งของที่ผ่านกระบวนการแล้ว ซึ่งมันเป็นวัตถุดิบที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาต้องสร้างเองกว่า 10 เท่ามาให้ได้ อย่างเช่นแผ่นหนังมังกรดินเบรลซิ่งที่ซับซ้อนซึ่งสตีเว่นเคยใช้ นั่นก็จัดเป็นวัตถุดิบชั้นหนึ่งทว่ามันก็เป็นสิ่งที่ตระกูลอาเครอนสามารถหามาได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ริชาร์ดยอมใช้แผ่นหนังอสูรเวทมนตร์ธรรมดา ๆ ที่มีมูลค่าถูกกว่าแผ่นหนังมังกรดินเบรลซิ่ง 1,500 เท่า ยังดีซะกว่ารับของจากกาตอน ถึงแม้เขารู้ดีว่าการใช้ส่วนผสมเวทมนตร์คุณภาพสูงนั้นมันสำคัญมากในการที่จะสร้างรูนที่มีคุณภาพขึ้นมาได้สำเร็จ เขาเพิกเฉยต่อความสะดวกสบายนี้และดื้อดึงที่จะหาหนทางด้วยตัวเองต่อไป
……
ในขณะเดียวกัน สตีเว่นยุ่งวุ่นวายอยู่กับสิ่งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาแลกเปลี่ยนจดหมายกับเซนต์เคลาส์เกือบทุกวัน ทั้งสองโต้ตอบกันถึงเรื่องรูนที่ต้องใช้กับกระต่ายหิมะ เขากำลังเริ่มค้นหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจรูนเหล่านี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น หัวข้อของชารอนนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเซนต์เคลาส์เช่นกัน ด้วยเทคนิคการวาดรูนที่มีอยู่อย่างจำกัดของสตีเว่น เซนต์เคลาส์จึงต้องหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้ และเขาก็ต้องมั่นใจให้ได้ด้วยว่าวิธีที่เขาเลือกเป็นวิธีที่สตีเว่นสามารถทำได้ด้วยตัวเขาเอง
ไม่กี่วันหลังจากที่หัวข้อถูกกำหนดขึ้น เซนต์เคลาส์ รูนมาสเตอร์ผู้มีชื่อเสียงมานานหลาย 10 ปีก็สามารถร่างพิมพ์เขียวของรูนได้ประมาณ 10 แบบ ทว่าหลังจากประเมินผลแล้วเขากลับพบว่าแต่ละแบบเหล่านั้นไม่ใช่รูปแบบที่สตีเว่นจะสามารถวาดได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ในขณะที่เซนต์เคลาส์จะต้องคิดหาวิธีใหม่ ๆ เขาก็จะต้องกระตุ้นให้สตีเว่นฝึกฝนในด้านนี้ให้มากขึ้นเช่นกัน เขาให้บทเรียนการวาดชิ้นส่วนวงเวทย์กับสตีเว่นไปกว่า 10 บทเรียน ซึ่งแม้ในตอนนี้เขาจะยังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ แต่เขาก็ยังมีความคิดอย่างกว้าง ๆ อีกประมาณ 10 ชิ้นส่วนวงเวทย์ซึ่งนั่นอาจมีประโยชน์ในอนาคต
ค่าใช้จ่ายในการขนส่งคาถาวงเวทย์ระยะไกลนั้นมีมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทอดข้ามระยะทางที่ไกลเป็นพิเศษกว่า 5,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามหากเทียบกับมูลค่าของส่วนผสมของการสร้างเวทมนตร์พิเศษชุดแรกที่ตระกูลโซแลมจะส่งไปยังดีพบลูนั้น ราคาค่าขนส่งเพียงไม่กี่พันเหรียญก็ถือว่าไม่มากนัก
ดยุกโซแลมให้เงินล่วงหน้าเป็นจำนวน 1,000,000 เหรียญ กับสตีเว่นเพื่อที่เขาจะได้นำไปใช้ซื้อวัตถุดิบในดีพบลู การดัดแปลงและฟูมฟักกระต่ายหิมะจะมีค่าใช้จ่ายมหาศาล และด้วยระยะเวลาจำกัดเพียงครึ่งปีนั้นย่อมทำให้ค่าใช้จ่ายยิ่งสูงยิ่งขึ้นไปอีก รวม ๆ แล้วจะต้องใช้เงินมากกว่า 3,000,000 เหรียญเลยทีเดียวในการพัฒนาสัตว์มายาที่แข็งแกร่ง แม้ในตอนนี้จะยังเป็นแค่กระต่ายหิมะอยู่ก็ตาม
เหตุผลที่ไอเท็มในดีพบลูมีราคาสูงกว่าภายนอก 10 เท่าขึ้นไปนั้น เป็นเพราะไอเท็มเหล่านี้จัดเป็นไอเท็มที่มีคุณภาพสูง ซึ่งในมุมของดยุกโซแลม เขาก็คิดว่าการตั้งราคาในดีพบลูถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว ดีพบลูเองจัดว่ารุ่งเรืองขึ้นทุกปีทว่าสินค้ากลับมีจำนวนจำกัด และจากสัญญาที่ตกลงกัน ดีพบลูจะต้องส่งไอเท็มให้สหพันธ์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และส่วนที่เหลือก็ส่งไปขายตามตลาดมวลชนในโลกภายนอก นอกจากนี้การซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูงของดีพบลูก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้ว่าจะมีเงินทองมากพอก็ตาม การที่มีคนในตระกูลโซแลมรุ่นลูกหลานได้เป็นนักเรียนของเลเจนดารี่เมจนั้น ทำให้พวกเขาได้ติดต่อร่วมกับกลุ่มลูกค้าของดีพบลู ซึ่งดยุกโซแลมและตระกูลพันธมิตรจะได้ผลประโยชน์จากส่วนนี้แต่เพียงผู้เดียว
หลังจากที่เงินถูกส่งมาให้สตีเว่นเป็นเวลาไม่ถึงเดือน ความช่วยเหลือจากตระกูลโซแลมที่มาในรูปของเสบียงก็ได้มาถึงดีพบลูพร้อมกับการมาถึงของวัตถุดิบเวทมนตร์ที่มีมูลค่าถึง 2,000,000 เหรียญ นั่นเพราะเทศกาลกลางฤดูร้อนที่จัดขึ้นทุก 4 ปีก็ได้ใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน
เทศกาลกลางฤดูร้อนไม่ใช่ประเพณีการเฉลิมฉลองในทวีป ทว่าเป็นงานเทศกาลขนาดใหญ่ภายในดีพบลูที่หลัก ๆ จะจัดให้มีการประมูลวัตถุเวทมนตร์ ก่อนหน้านี้งานดังกล่าวเคยจัดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งที่จะถึงนี้เป็นครั้งที่ 4 การประมูลทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมานั้น ในแต่ละครั้งก็จะเพิ่มความน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ การประมูลครั้งที่ 3 ที่เพิ่งผ่านมาดึงดูดความสนใจผู้คนมาก และแม้แต่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ยังมีส่วนร่วมด้วย
ขณะนี้นั้น ในสหพันธ์ศักดิ์สิทธิ์เองก็ได้มีการพูดถึงกันอย่างหนาหูว่าคนสำคัญหลายคนจาก 3 จักรวรรดิจะเข้ามามีส่วนร่วมในงานครั้งที่ 4 นี้
แน่นอนว่าเทศกาลกลางฤดูร้อนไม่ใช่การจัดงานประมูลธรรมดา ๆ แม้รูปแบบส่วนใหญ่ของงานจะดูเหมือนปกติทั่วไปก็ตาม ดีพบลูและผู้จัดหาสินค้าจะเป็นคนจัดเตรียมสินค้าหลัก ๆ มา ขณะที่ผู้เข้าร่วมจะนำสิ่งของของตนเองมาทำการแลกเปลี่ยน
โดยส่วนมากทองคำไม่ใช่วิธีหลักในการชำระเงินประมูล เพราะวัตถุดิบล้ำค่าและหายากมักจะถูกแลกเปลี่ยนโดยไอเท็มด้วยกันเองซึ่งก็ต้องมีคุณภาพดีในระดับหนึ่ง ส่วนเหตุผลหลักที่เทศกาลกลางฤดูร้อนของดีพบลูไม่ใช่งานประมูลธรรมดานั่นก็คือ มันจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวในทุก ๆ 4 ปีเท่านั้น ซึ่งแม้แต่ตัวของเลเจนดารี่เมจเองก็จะเปิดกรุของสะสมส่วนตัวและเลือกวัตถุมาประมูลอย่างลับ ๆ เช่นกัน
สิ่งใดก็ตามที่เลเจนดารี่เมจชารอนสะสมไว้นั้นต้องไม่ใช่ไอเท็มธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากนางมีรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร ของสะสมส่วนตัวจำนวนมากของนางจึงมักเป็นของที่เกี่ยวโยงกับมังกรเสมอ ซึ่งตราบใดที่มันเกี่ยวข้องกับมังกร ไม่ว่าจะวัตถุใดก็จัดเป็นของดีทั้งนั้น สำหรับขุนนางเก่าแก่และผู้ทรงพลังทั้งหลายในทวีปที่เห็นว่าเงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญ พวกเขาย่อมคิดว่าวัตถุชั้นหนึ่งที่ผู้คนปรารถนาแค่เพียงได้เห็นแม้ไม่ได้ครอบครองเหล่านี้ ใครกันล่ะจะยอมพลาดโอกาสใช้เงินทองเพื่อแลกมันมาครอบครอง !?