นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 188 การแลกเปลี่ยน ตอนที่ 1
นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 188 การแลกเปลี่ยนตอนที่ 1
คริสตัลเหล็กเหลืองและเมเปิลอําพันล้วนเป็นวัสดุหายากที่ถูกใช้ในการสร้างรูนระดับ 2 หากอยากพบแร่ทั้งสองนี้จะต้องขุดหาจากซากปรักหักพังโบราณเท่านั้นมันจึงถือเป็นสิ่งที่หายากมากในหัวแลนด์เมื่อมีการขายก็จะขายด้วยการซึ่งเป็นกรัม หากนําคริสตัลเหล็กเหลืองชิ้นนี้กลับไปขายในหัวแลนด์จะสามารถตีราคาออกมาได้มากถึง 100,000 เหรียญส่วนเมเปิลล่าพันที่มีขนาดใหญ่นั้นจะสามารถขายออกไปได้ด้วยราคาที่สูงกว่าถึง 2 เท่า
จากการกลั่นกรองข้อมูลบางส่วนภายในเพลนนี้ทําให้ริชาร์ดเข้าใจถึงระบบเศรษฐกิจในเพลนแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี คริสตัลเวทมนตร์ 20 ชิ้นที่เขาเห็นอยู่นี้สามารถขายออกไปได้ในราคาประมาณเกือบ 10,000 เหรียญทว่าราคาเหล่านี้เป็นราคาที่สามารถขายได้ในอาณาจักรมนุษย์เท่านั้น เพราะบนเพลนนี้เมจนั้นหายากและเป็นผู้เดียวที่สามารถใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ระดับสูงได้จึงทําให้มีคนเพียงไม่กี่คนที่ ต้องการซื้อพวกมัน
ส่วนในดินแดนเปื้อนเลือด เมเปิลอาพันจะมีค่าน้อยลงเพราะความวุ่นวายในการควบคุมสถานที่และค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่โดยปกติจะคิดเป็น 1 ใน 3 ของราคาสินค้าทั้งหมดและถึงแม้ว่าจะมีสินค้าแต่ก็ต้องดูโชคในช่วงนั้นด้วยว่าจะส่งไปได้หรือไม่เพราะไม่ใช่ว่าจะสามารถส่งทุกอย่างออกไปได้อย่างสะดวกดังนั้นราคาของมันจึง อยู่ในช่วง 3,000-4,000 เหรียญแต่ถ้าเขานําเอาสิ่งนี้เดินทางกลับไปยังหัวแลนด์เขาก็สามารถที่จะทําให้ราคาสูงขึ้นถึง 20,000 เหรียญได้อย่างสบาย ๆ
หลังจากที่ขาได้เห็นว่าแหล่งโกดังของสตอร์มแฮมเมอร์วางเหล็กเหลืองและเมเปิลอ่าพันไว้อย่างสะเปะสะปะจึงทําให้เขารู้ในทันทีว่าในเพลนแห่งนี้ไม่ได้ให้ความสําคัญกับสิ่งนี้มากนัก และมันก็มีการใช้งานที่จํากัดจึงทําให้ราคาของมันไม่สูงเท่าใน หัวแลนด์
เขามองดูสิ่งต่าง ๆ ก่อนจะชี้ไปยังวัสดุจํานวนมากกว่า 10 ชิ้นซึ่งรวมไปถึงเหล็กเหลืองและเมเปิลอาพัน เขาสอบถามราคาของสินค้าที่ละชิ้น และก็เป็นไปตามคาด ราคาของพวกมันไม่ได้สูงเท่ากับในหัวแลนด์เพราะราคาของผลึกทั้งสองนี้อยู่ที่ 200300 เหรียญเท่านั้น
วัสดุเวทมนตร์ที่เป็นทรัพยากรของสตอร์มแฮมเมอร์มีมูลค่ารวมกันประมาณหมื่นกว่าเหรียญ ซึ่งหากใช้ช่องทางการค้าที่เปิดกว้างจะสามารถขายคืนในอาณาจักรมนุษย์ได้เกือบ 30,000 เหรียญการปล้นสะดมของวิหารแห่งความกล้าหาญก่อนหน้านี้ทําให้ริชาร์ดได้รับของล้ำค่าน้อยกว่า 100,000 เหรียญเสียอีกทว่าภายในค่ายเล็กๆแห่งนี้ที่อยู่ตรงชานเมืองบลัดสโตนกลับทําให้เขาได้รับของมากมายยิ่งกว่าซึ่งนี้ทําให้เขาเห็นได้ว่าพื้นที่แห่งนี้มีความสมบูรณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อื่นเลย
อย่างไรก็ตาม โอกาสเหล่านี้ต่างก็ต้องแลกมาด้วยการต่อสู้ภายในดินแดนแห่งนี้เช่นกันชนเผ่าครึ่งออร์คไม่ได้มีความสามารถด้านเวทมนตร์มากเท่าไหร่นักทว่าพวกเขากลับมีวัสดุมากมายและดูเหมือนว่าจะสะสมมาเป็นเวลายาวนาน หากเขาไม่ได้เพิ่งแสดงความก้าวร้าวด้วยการลงมือกับมาร์คไปเขาคิดว่าวัสดุของเขาก็คงจะถูกปล้นมากองรวมกันอยู่ที่นี้อย่างแน่นอนในเวลานี้ที่สตอร์มแฮมเมอร์ยอมเจรจากับเขาก็เป็นเพราะไม่สามารถต้านทานพลังเวทมนตร์ที่น่ากลัวของเขาได้
สําหรับในหัวแลนด์นั้น วัสดุทั้งหมดนี้มีมูลค่ามากถึง 500,000 เหรียญ !จากการที่ริชาร์ดได้เห็นของเหล่านี้และเปรียบเทียบราคาแล้วเขาก็ตระหนักได้ถึงผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากการทําสงครามภายในเพลนอีกทั้งยังได้รับสินค้าหายากระหว่างเพลนอีกด้วย
เขาหยิบวัสดุทุกชิ้นที่เขาสามารถใช้ประโยชน์ได้ขึ้นมาจากกล่องซึ่งราคาทั้งหมดของมันอยู่ที่ประมาณ 8,000 เหรียญก่อนจะเอ่ยขึ้น “ข้าต้องการทั้งหมดที่ข้าเลือกไว้รวมไปถึงวอริเออร์อีก 20 คนด้วย”
สตอร์มแฮมเมอร์ลังเลเล็กน้อยทว่าเขาก็โบกมือขึ้นเพื่อเป็นการบอกว่าตกลงก่อนที่วัสดุเหล่านั้นจะถูกแพ็คส่งให้กับริชาร์ดในทันทีหลังจากของได้ถูกส่งไปยังริชาร์ด แล้ว เขาก็ถามขึ้นด้วยน้ําเสียงทุ่มต่ำว่า “แล้วข้าจะได้รับสินค้าของข้าเมื่อไหร่ ?”
“อีก 3 วัน และข้าจะต้องเปิดใช้งานมันให้กับเจ้าด้วยตัวของข้าเอง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 1 วันจึงจะแล้วเสร็จ”
สตอร์มแฮมเมอร์ทุบโต๊ะด้วยกําปั้นของเขาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ข้ารอมา 5 ปีเต็ม ๆ หากจะรอเพิ่มอีกสามสี่วันจะเป็นไรไป ! แต่ข้าเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะไม่ทําให้ข้าผิดหวัง !”
ริชาร์ดไม่ได้สนใจสีหน้าที่น่ากลัวของออร์คที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่าไหร่นักขณะส่งกล่องใหญ่ในมือให้กับแกงดอร์และพูดขึ้น “ข้าเป็นเมจที่ได้รับความนับถือและชื่อเสียงของข้าก็เป็นดั่งสมบัติของข้าโลกแห่งเวทมนตร์มีความลึกลับที่หาที่เปรียบมิได้และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ เช่นกัน ข้าอยากเตือนเจ้าว่าสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่ถือเป็นการสงสัยที่โง่เขลามาก !”
ทันใดนั้นก็เกิดลมพัดจนทําให้เคราของสตอร์มแฮมเมอร์เคลื่อนไหวไปตามแรงลมและกล้ามเนื้อของเขาก็กระตุกจนทําให้เห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาทว่าเขายังคงยับยั้งความโกรธของตนเองไว้ได้โดยไม่ได้โต้ตอบใดๆและเมื่อเขาสงบสติอารมณ์ของตนเองได้แล้วเขาก็จ้องไปที่ริชาร์ดก่อนพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ 3 วันใช่หรือไม่ ! ได้ ข้าจะรอ !”
ริชาร์ดพยักหน้าแล้วนํากองกําาลังของเขารวมไปถึงกําไรที่ได้รับจากที่แห่งนี้ออกจากปราสาทบลัดสโตนในทันที
เมื่อเดินทางกลับถึงที่พัก เขาก็แตะหลังของแกงดอร์ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงปนหัวเราะ “ทําได้ดีมาก !”
แกงดอร์ยิ้มกว้างก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ก็ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ !ข้ามักจะหลอกให้ศัตรูหลงเชื่อเสมอว่าตัวข้านั้นอ่อนแอ ฮ่า ๆ ๆ !”
ในตอนที่แกงดอร์งัดข้อกับสตอร์มแฮมเมอร์ก่อนหน้านี้นั้น เขาเปิดใช้พลังของรูนเพียงแค่ครึ่งเดียวและใช้พลังเพิ่มไปไม่ถึง 30% เท่านั้นทว่าออร์คผู้นั้นกลับคิดว่านั่นเป็นพลังทั้งหมดที่เขามีสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นสีม่วงอีกทั้งเส้นเอ็นที่ปูดขึ้นมา ตรงลาคอรวมไปถึงเหงื่อที่เปียกโชกไปทั้งตัวจนทําให้พื้นที่เขายืนอยู่เปียกช่มเป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น !
“ดี! เอาล่ะ ทําความคุ้นเคยกับรูนใหม่ของเจ้าซะเพราะมันจะมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้” ริชาร์ดบอกแกงดอร์ก่อนที่จะยกวัสดุทั้งหมดของเขาแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องของตนเองเพื่อเรียงลาดับและจัดประเภทสิ่งที่เขาได้รับมาเป็นเพราะแนวคิดของโฟลว์แซนด์ที่เสนอให้กับเขาก่อนหน้านี้จึงทําให้เขาเกิดไอเดียเกี่ยวกับรูนแบบใหม่อีก 2-3 อันขึ้นมา ทรัพยากรที่เขาได้รับในเวลานี้ดูเหมือนว่าจะเพียงพอสําหรับการ สร้างรูนของเขาแล้วและเขาก็สามารถสร้างรูนมาตรฐานได้ถึง 9 อันโดยที่เดิมมีความเป็นไปได้ว่าจะทําได้เพียง 4-6 อันเท่านั้น
ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นบันไดไป เขาก็เห็นร่างของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ เมื่อมองจากด้านหลังของนางทําให้เขารู้สึกราวกับว่านางกําลังมีความรู้สึกว่าตัวเองถูก… ละเลย ?
ความคิดผดขึ้นมาในใจของเขาเพียงครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อจัดวัสดที่เพิ่งได้มาและเขาก็ตั้งค่าเพื่อเตรียมสร้างรูนให้กับสตอร์มแฮมเมอร์
รูนที่เขากําลังสร้างนี้เป็นฟังก์ชันพื้นฐานทว่าก็ยังถือว่าขาดประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ อย่างมากสําหรับพื้นที่ในการสักรูนชิ้นใหญ่นี้เหมาะที่จะสักรูนลงไปตรงส่วนหลังของสตอร์มแฮมเมอร์เนื่องจากแผ่นหลังของเขากว้างพอที่จะลงรูนได้และในส่วนที่จะต้องใช้วัสดราคาแพงนั้นเขาก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงไปใช้อย่างอื่นแทนซึ่งนั่นทําให้เขาสามารถประหยัดทรัพยากรของเขาไปได้มากทีเดียว
รูนอันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เปิดใช้งาน ความต้องการพื้นที่ความจุรูนจึงเกินจากรูนระดับ 2 และพลังงานที่มันต้องใช้ก็มากกว่าของแกงดอร์ถึง 1.5 เท่าแต่มันสามารถเพิ่มพลังได้เพียง 20% เท่านั้นซึ่งจํานวนเปอร์เซ็นต์นี้ก็ยังไม่เสถียรอีกด้วย
จุดเด่นเพียงจุดเดียวของการออกแบบคือการที่มันสามารถดูดซับพลังจากคริสตัลเวทมนตร์ที่ฝังอยู่ได้ ซึ่งมันจะทําให้มานาภายในคริสตัลเวทมนตร์สามารถเปิดใช้งานรูนได้ คริสตัล 1 ชิ้นจะใช้งานได้ราว ๆ 1 ชั่วโมงครึ่งซึ่งนั่นหมายความว่ารูนจะมีการเปิดใช้งานได้อย่างเต็มที่เพียง 9-10 ครั้งเท่านั้นทว่าการดูดซับพลังงานจากผลึกเวทมนตร์จะซับซ้อนน้อยกว่าและใช้วัสดุน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ ที่ต้องขึ้นอยู่กับพลังงานของวอริเออร์มานาพละกําลังรวมไปถึงพลังของวิญญาณด้วย