นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 184 เส้นทางของนักเวทย์
นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 184 เส้นทางของนักเวทย์
“ท่านอยากจะให้ข้ายอมจํานนงั้นรี ?” เซนดรอลล์ถามขึ้นอย่างจริงจัง
ริชาร์ดส่ายหน้าก่อนตอบกลับไปว่า “ตามธรรมเนียมของเมจ เป็นที่แน่นอนว่าชีวิตของเจ้าตกเป็นของข้าตั้งแต่ที่เจ้าพ่ายแพ้ให้กับข้าในการดวลก่อนหน้านี้แล้ว”
ทันที่ที่ริชาร์ดเห็นว่าเซนดรอลล์กําลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็โบกมือและพูดขึ้นเสียก่อน “ข้ารู้ว่าเจ้าจะปลิดชีพตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก่อนที่จะเป็นเช่นนั้นข้าอยากให้เจ้าคิดดี ๆ ซะก่อนว่าถ้าทําลงไปมันจะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ ? เจ้าเลือกที่จะยอมละทิ้งความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมจงั้นรี ? เจ้ายอมที่จะละทิ้งการค้นหาความลึกลับของเวทมนตร์ ยอมละทิ้งความเป็นไปได้ที่จะสามารถติดต่อกับเทพเจ้า ? ไหนจะการออกเดินทางจากเฟเลอร์และสํารวจเพลนที่ไร้ขอบเขตอีกล่ะ ? สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นความภาคภูมิใจของเมจและเป็นเป้าหมายที่พวกเขาต่างก็ต้องการจะสานต่อทั้งนั้น !”
คําพูดของริชาร์ดทําให้เนโครแมนเซอร์ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดทันที ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินหรือเคยพิจารณาเกี่ยวกับสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าของเขาพูดถึงมาก่อน ทว่าทันทีที่เขาคิดตามในสิ่งที่ริชาร์ดพูด เขาก็รับรู้ว่าทุกสิ่งเป็นสิ่งที่เมจทุกคนต้องการจะทํา สัมผัสกับความลึกลับของเหล่าเทพเจ้างั้นรึ ? เนโครแมนเซอร์อย่างเขา ย่อมไม่กล้าที่จะทําเช่นนั้น ยิ่งคําพูดที่กล่าวว่าจะได้ออกไปสํารวจเพลนอื่น ๆ เขายิ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ทว่าเมื่อทุกอย่างออกมาจากปากของริชาร์ด มันกลับทําให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่สามารถจับต้องได้ และไม่ได้ เป็นเพียงแค่สิ่งที่พูดออกมาเพียงลอย ๆ เท่านั้น
ในเวลานี้ริชาร์ดเป็นดั่งภูเขาสําหรับเซนดรอลล์ และยิ่งเขาเงยหน้ามองชายตรงหน้ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเห็นถึงยอดเขาที่เป็นจุดสูงสุดของภูเขามากเท่านั้น
คําพูดของริชาร์ดเป็นเพียงคําพูดธรรมดา ทว่าสิ่งที่เขาพูดมีความสําคัญต่ออนาคตของเมจทุก ๆ คน นี่เป็นเส้นทางที่สามารถเดินไปได้อีกไกลในอนาคต แต่มันไกลมากซะจนคนที่อยู่แค่ระดับ 9 อย่างเขาก็คงไม่สามารถที่จะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ด้วยตัวเอง มันแสดงให้เห็นว่าความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ที่เขามีนั้นไปไกลกว่าจุดสูงสุดของสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเฟเลอร์
แน่นอนว่าการสืบทอดมรดกแห่งเวทมนตร์ของดีพบลเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในหัวแลนด์และดูเหมือนว่าจะสูงกว่าเฟเลอร์เป็นอย่างมากเช่นกัน
“ท่าน… ท่านพูดจริงหรือ ?” เซนดรอลล์ถามด้วยน้ําเสียงสั่นคลอนจนทําให้เขาดูเหมือนคนขี้ขลาดไปชั่วขณะ
ริชาร์ดยิ้มและถามกลับไป “แล้วเจ้าคิดว่ายังไง ?”
เซนดรอลล์หน้าแดงทว่าหลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและจับศีรษะของตนเองพร้อมแสดงท่าทางที่ผิดหวังออกมา “แต่… แต่ข้าเป็นเนโครแมนเซอร์
ริชาร์ดเข้าใจว่าความเศร้าสลดของชายผู้นี้เกิดจากอะไร “เซนดรอลล์ ถ้าข้าไม่เห็นว่าเจ้าเป็นเมจที่แท้จริง ข้าก็คงจะไม่ยอมดวลกับเจ้าหรอก อีกอย่าง ข้าก็คงไม่เลือกใช้หนังสือแห่งการครอบครองตั้งแต่เริ่มดวลกับเจ้าด้วย”
เซนดรอลล์นิ่งไป เขาเงยหน้ามองริชาร์ดก่อนลุกขึ้นอย่างช้า ๆ “ท่านต้องการให้ข้าทําอะไร ?”
ริชาร์ดพึมพํากับตัวเองก่อนพูดขึ้นว่า “ข้ากาลังมองหาความแข็งแกร่งและพลัง พลังที่เกินขอบเขตของโลกใบนี้ ข้าต้องการให้เจ้าทําทุกอย่างให้ข้าโดยปราศจากค่าถาม ข้าเชื่อว่าคําถามและข้อสงสัยในใจของเจ้าจะได้รับคําตอบทั้งหมดหลังจากนี้ ทว่าเจ้าเองก็ต้องใช้เวลาเพื่อที่จะตามหามัน ข้าสามารถปลดปล่อยเจ้าออกจากการคุมขังของเพลนแห่งนี้ได้และข้าก็สามารถทําให้เจ้าได้ค้นพบกับสิ่งที่เหนือกว่าได้อีก ! ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันจะยาวไกลเพียงใด แต่ถึงยังไง มันก็เหมาะสมและคุ้มค่าที่เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อสืบหาความลึกลับแห่งเวทมนตร์เหล่านั้นไม่ใช่หรือ ?”
ดวงตาของเนโครแมนเซอร์ยังคงเปล่งประกายไปกับคําพูดของริชาร์ดราวกับว่าในเวลานี้มีพิมพ์เขียวของโลกเวทมนตร์อันมหึมาและงดงามวางอยู่ตรงหน้าเขา เขาจ้องมองริชาร์ดพร้อมกับยิ้มและพูดด้วยความใจเย็นว่า “มันยังมีอีกสิ่งที่ข้าต้องการจะเตือนท่าน ข้าเป็นเนโครแมนเซอร์ ในสายตาของเทพเจ้าเราเป็นพวกนอกรีตที่จะต้องถูกข็งไว้กับเสาและถูกเผาทั้งเป็น เราทํางานให้กับจิตวิญญาณแห่งความตาย และนั่นคือสิ่งที่เทพเจ้าไม่อนุญาตให้มีการละเมิด หากข้าเข้าร่วมกับกองทัพของท่าน ท่านอาจต้องเจอปัญหากับวิหารขนาดใหญ่เพราะการมีอยู่ของข้า”
ริชาร์ดหัวเราะ “ฮ่า ๆ ไม่ต้องห่วง ! ข้ากล้าหาญพอที่จะร่วมมือกับปีศาจ แล้วมันจะต่างอะไรกับเนโครแมนเซอร์อย่างเจ้า ? ข้าไม่เคยคิดที่จะร่วมมือกับเทพเจ้าในเพลนแห่งนี้อยู่แล้วและที่สําคัญ ข้าไม่เคยเกรงกลัวพวกเขา !”
เซนดรอลล์พยักหน้าก่อนจะทําท่ากึ่งคุกเข่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าเต็มใจเดินทางไปกับท่านเพื่อเสาะหาความแข็งแกร่งอันสูงสุด — ท่านจะได้รับความซื่อสัตย์ พลังเวทมนตร์ และกองกําลังอันเดดทั้งหมดที่ข้ามี –
เมื่อว่าจบ เซนดรอลล์ก็เริ่มเอ่ยคําสาบานเวทมนตร์ออกมาซึ่งเป็นหนึ่งในข้อจํากัดที่มากที่สุดในระดับของเขา แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับสัญญาแห่งทาสของริชาร์ดจนทําให้สามารถควบคุมคนที่อยู่ใต้อํานาจของเขาได้อย่างถาวร แต่ค่าสาบานของเขาในครั้งนี้ก็มีความศักดิ์สิทธิ์มากและยิ่งเมจมีระดับที่สูงมากขึ้นเท่าใด ค่าสาบานก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
ริชาร์ดยิ้มออกมาก่อนที่จะกล่าวว่า “เอาล่ะ ศพนี้เป็นของเจ้าแล้ว ข้าหวังว่าวอริเออร์ผู้ทรงพลังแห่งความมืดจะเข้าร่วมกองทัพของข้าในเร็ว ๆ นี้”
“ท่านจะไม่ผิดหวัง” เซนดรอลล์ตอบกลับ
“เยี่ยม ! เจ้าจดวัสดุเวทมนตร์ที่เจ้าจําเป็นต้องใช้มาให้กับข้า เพราะคนของข้ายังมีวัสดอีกจํานวนมากที่สามารถใช้การได้ เมื่อพูดจบริชาร์ดก็เดินออกจากห้องเซนดรอลล์ไปเพื่อปล่อยให้เนโครแมนเซอร์เริ่มทํางานในการฟื้นคืนชีพให้กับวอริเออร์แห่งความมืด
หลังจากที่ริชาร์ดเดินออกมาจากห้อง เขาก็พบว่าโฟลวแซนด์ยืนรอเขาอยู่ด้านหน้า เขากวักมือเรียกนางให้เดินตามเขามาเพื่อที่จะได้ไปห้องที่อยู่ชั้น 2 ด้วยกัน
หญิงสาวพูดขึ้นหลังจากที่ปิดประตูห้อง “น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่พรีสต์ ไม่ว่าเจ้าจะมีศรัทธาหรือไม่ก็ตาม แต่ความสามารถในการรวบรวมคนของเจ้ารวมถึงคําพูดของเจ้าที่ทําให้คนเชื่อถือและศรัทธา มันมากพอที่จะทําให้งานของเจ้ายอดเยี่ยมยิ่งขึ้นได้
เสมอ”
ริชาร์ดดึงหญิงสาวมาไว้ในอ้อมกอดของเขาก่อนที่จะยิ้มให้นาง “หากเจ้ายังกล้าพูดแซวข้าอีก ข้าจะขึ้นใจเจ้า !”
“เป็นไปไม่ได้หรอก” นางพูดเสียงแหบแห้ง ซึ่งนั่นน่าหลงใหลสําหรับริชาร์ดอีกเช่นเคย เขามองนางครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้างั้นรึ ?”
ร่างกายส่วนบนของโฟลว์แซนด์เอนไปข้างหลังเล็กน้อยเพื่อตอบสนองซึ่งนั่นแสดงให้เห็นสัดส่วนหน้าอกของนางอย่างชัดเจน “แน่นอนว่าข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ครั้งนี้ข้าจะให้ความร่วมมือในการกระทําของเจ้า หากเป็นเช่นนั้นยังจะเรียกว่าขึ้นใจได้อีกหรือ ?”
“เจ้า…” ริชาร์ดรู้สึกแปลกใจหลังจากได้ยินสิ่งที่หญิงสาวโต้ตอบกลับมา
โฟลว์แซนด์ยิ้ม นางเงยหน้าขึ้นมองริมฝีปากของริชาร์ดชา ๆ ก่อนบรรจงจูบเขาเบา ๆ “ไม่ต้องรอให้ถึงคืนก่อนกลับหัวแลนด์แล้ว หากวันนึงเจ้ามั่นใจว่าสามารถพาพวกเรากลับไปได้จริง ๆ เวลานั้น… ข้าจะต่อต้านอย่างสุดกําลัง !”
เลือดในร่างกายของริชาร์ดสูบฉีดอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินค่าพูดของนาง เขาโอบรัดที่รอบเอวของนางแน่นก่อนที่จะถามขึ้นว่า “แล้วถ้ําก่อนวันที่ข้ามั่นใจว่าจะสามารถกลับไปได้ล่ะ ?”
“ก็อย่างที่ข้าบอก… ข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าอย่างดีที่สุด”