นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 183 การแก้แค้น ตอนที่ 2
ริชาร์ดหยุดม้าของเขาและเพ่งมองไปที่เหล่าวอริเออร์ครึ่งออร์คที่ยืนขวางอยู่ด้านหน้า ยิ่งเขาจ้องมองคนที่อยู่ด้านหน้านานเพียงใด เขาก็ยิ่งได้รับข้อมูลของเป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น
ในเวลานี้ครึ่งออร์คเหล่านั้นมีทั้งหมด 8 คน และคนเหล่านั้นก็ล้วนสูงประมาณ 2 เมตรและมีระดับอยู่ที่ประมาณ 6-8 ทว่าความแข็งแกร่งที่ได้รับมาตั้งแต่กําเนิดทําให้พวกเขาดูเหมือนกับเหล่าวอริเออร์ที่มีระดับการต่อสู้ที่สูงกว่านั้น และดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความต่างไปจากคนในกลุ่มของริชาร์ดมากเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะในกลุ่มของเขามีเมจ 2 คน จึงทําให้ออร์คเหล่านั้นรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถต้านทานพลังเวทมนตร์ได้
หัวหน้ากลุ่มก้าวเท้ามาด้านหน้าก่อนที่จะชี้หน้าริชาร์ดพร้อมทั้งกล่าวขึ้นมาว่า “เจ้ามนุษย์ ! เจ้าจะต้องถูกฆ่าตายอยู่ในค่ายบลัดสโตน และหัวหน้าสตอร์มแฮมเมอร์ก็ไม่ชอบที่จะต้องเจอกับปัญหา เจ้าจงมากับพวกข้าแต่โดยดีเพราะนายของข้าต้องการสอบสวนเจ้าในวันพรุ่งนี้”
“ออร์ค ! หากเจ้ายังกล้าที่จะชี้หน้าเมจเช่นนี้ แขนของเจ้าจะถูกตัดออกจากบ่าโดยที่เจ้าไม่รู้ตัว” ริชาร์ดตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
ทันใดนั้นออร์คก็แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาและบางคนก็เผลอถอยหลังกลับ ไปตามสัญชาตญาณ สําหรับออร์คแล้ว เมจถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก ความน่า กลัวของเมจนั้นเป็นรองแค่มังกรเท่านั้น ทว่าถึงแม้จะรู้สึกหวาดกลัวแต่หัวหน้ากลุ่ม ออร์คก็ยังคงคารามออกมาด้วยความโกรธก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เจ้ากาลังดูถูกความกล้าหาญของวอริเออร์ในค่ายบลัดสโตนงั้นรี ?”
แม้ว่าเขาจะคํารามออกมาด้วยน้ําเสียงที่โหดเหี้ยมทว่านิ้วของเขากลับค่อย ๆ เลื่อนลงไปด้านล่างอย่างช้า ๆ เหล่าเมจเป็นเหมือนกับปีศาจและความน่าสะพรึงกลัว สําหรับเหล่าออร์ค ตํานานบอกไว้ว่าพวกเขามีอานาจทุกอย่างเมื่ออยู่ต่อหน้าออร์ค ความแข็งแกร่งของพวกเขาสามารถทําให้วอริเออร์ออร์คที่มีพละกําลังไร้อานาจไปได้ตลอดกาล และพวกเขาก็สามารถที่จะทําโทษคนเหล่านั้นในแบบที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวมากกว่าความตาย
“เจ้าเลือกเองนะ การข่มขู่เมจจะทําให้เจ้าได้รับผลลัพธ์ที่เลวร้าย” ริชาร์ดพูดขึ้น เขาพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อปกปิดเสียงหัวเราะในลําคอของเขา
ทว่าวอริเออร์ครึ่งออร์คกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาพึมพาก่อนที่จะพูดออกมาว่า “เจ้า เผาที่พักอาศัยของมาร์ค อย่างน้อยเจ้าก็ควรบอกพวกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นจึงทําเช่นนั้นใช่หรือไม่ ?
ริชาร์ดโบกมือของเขาก่อนที่ทหารจะยกศีรษะของศพขึ้นเพื่อให้ออร์คเห็นหน้าของศพผู้นั้นได้ชัด ๆ
“เฮ้ยยย… นั่นมัน บลัดไซท์หน !” หนึ่งในนั้นเปล่งเสียงร้องออกมา
ในเวลานี้พวกเขาต่างตระหนักว่าผู้ที่เลื่องชื่อด้านความรุนแรงและทรงพลังในค่ายบลัดสโตนแห่งนี้ได้ตกไปอยู่ในมือของเมจหนุ่มผู้นี้ไปเสียแล้ว และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าในเวลานี้ผู้ที่ทรงพลังผู้นั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ! ตอนนี้เหล่าเมจถือว่ามีความน่ากลัวเกินกว่าที่จะสามารถบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้
ริชาร์ดพูดขึ้นมาอีกโดยไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ “บุคคลผู้นี้เดิมพันกับข้าในสนามแข่งขันแต่เมื่อเขาแพ้กลับไม่ยอมจ่ายค่าพนันให้กับข้า ข้าจึงทําอะไรไม่ได้นอกจากไปเก็บหนี้ที่เขาติดข้าด้วยตัวของข้าเอง และชีวิตของเขาก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสําหรับข้า”
“นี่มัน..” ครึ่งออร์คปาดเหงื่อที่หน้าผากก่อนที่จะเงียบเสียงไป จากมุมมองของการรักษาความสงบเรียบร้อยของพวกเขา มันสมเหตุสมผลแล้วที่จะบังคับใช้หนี้ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันภายในบลัดสโตน โดยปกติแล้วในที่แห่งนี้มีหลายชีวิตที่ต้องมาจบชีวิตลงเพียงเพราะเรื่องการเจรจาที่ไม่ลงตัว ทว่าปัญหาในตอนนี้ คือริชาร์ดได้สร้างปัญหาใหญ่มากกว่าครั้งอื่น ๆ เพราะนอกจากมาร์คแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะฆ่าครอบครัวของมาร์คไปทั้งหมดด้วย
ในขณะที่พวกเขายืนนิ่งอยู่นั้น ชายร่างเล็กที่มีความสูงไม่มากก็วิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะตะโกนออกมาว่า “ลอร์ดริชาร์ด ! รอก่อน ข้ามีบางอย่างอยากจะพูดกับท่าน !”
ชายผู้นั้นคือคนแคระที่เป็นผู้ดําเนินรายการในสนามแข่งขัน เขาวิ่งพลางอ้าปากหอบไปพลางด้วยความเหนื่อยล้าจากระยะทางที่ยาวไกล ทว่ายังไม่ทันที่จะมาถึงจุดที่ริชาร์ดอยู่เขาก็รีบพูดต่อไป “มาร์คไม่ใช่คนที่ท่านจะไปยุ่งด้วยนะท่านริชาร์ด ! ได้โปรดอย่าได้ผลีผลาม… ห้ะ !”
คนแคระถึงกับตกตะลึงทันทีที่เขาเห็นศีรษะและศพของมาร์ค สายตาของเขาหยุดอยู่ตรงหน้ามาร์คเกือบ 1 นาที และเขาก็กลืนน้ําลายอีกใหญ่ลงคอไปก่อนที่จะหันกลับไปมองริชาร์ดอีกครั้ง ในเวลานั้นเอง ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของริชาร์ดก็ทําให้เขารู้สึกว่านั่นไม่ได้ต่างไปจากปีศาจเลย
ริชาร์ดเลื่อนสายตามองไปที่คนแคระผู้นั้นก่อนจะพูดว่า “วอริเออร์ที่กล้าหาญเหล่านี้ไม่อยากให้ข้ากลับไป ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าสัญญาว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้หากข้าไม่ทําให้สนามแข่งขันของเจ้าต้องเกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น”
“แน่นอน !” คนแคระรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งตัวไปด้านหน้าผู้น่าที่ยืนขวางทางอยู่หน้าริชาร์ดพร้อมพูดอะไรบางอย่าง ดูเหมือนว่าคนแคระจะได้รับความนับถือจากเหล่าออร์คอยู่ไม่น้อยเพราะเมื่อคนแคระอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้คนเหล่านั้นฟัง ออร์คผู้นั้นก็พากลุ่มของตนเองเดินออกไปทันที
ริชาร์ดพยักหน้าเล็กน้อยขณะคิดในใจว่า นี่เขาสามารถทําให้ออร์คเหล่านั้นเดินออกไปได้ง่ายขนาดนี้เชียวหรือนี่ ?” ดูเหมือนว่าคนแคระผู้นี้จะมีสถานะที่เหนือกว่าหลาย ๆ คนและมาร์คเองก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่นี่เท่าไหร่นัก เขาใช้มานาของตนเองไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและคนของเขาก็ยังไม่ได้ลงมือทําอะไรด้วยซ้ํา หากออร์คเหล่านั้นยังขัดขึ้นหรือเลือกที่จะต่อต้าน พวกเขาก็มีกาลังมากพอที่จะต่อสู้และเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ริชาร์ดรู้สึกพึงพอใจมาก เขาหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะนํากองทัพของเขาเดินทางกลับที่พักอย่างปลอดภัย และขณะที่พวกเขาเดินทางกลับนั้นก็ถูกสายตาจับจ้องมาอย่างต่อเนื่องทว่าทันที่ที่พวกเขาเห็นศพของมาร์คต่างก็ไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัวหรือทําอะไรกับคนในกองทัพของริชาร์ดแม้แต่คนเดียว
เมื่อกลับมาถึงที่พักแล้ว ริชาร์ดก็ตบไหล่ของแซมพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ทําได้ดีมาก
ตั้งแต่ที่เขาเดินทางมายังเฟเลอร์ เขาก็ค้นพบว่าตนเองชื่นชอบโยเมนและแซมมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุที่ทําให้เขาชื่นชอบทั้งสองมากขึ้นกว่าเดิมคงเป็นเพราะทั้งสองสามารถทําอะไรได้หลายอย่างและถือเป็นผู้นําทางให้กับเขาได้เป็นอย่างดี
ในตอนนี้เขาให้คนยกศพของบลัดไซท์ขึ้นมาก่อนที่จะนําไปไว้ในห้องของเซนดรอล์เป็นการชั่วคราว
เซนดรอลล์ยังคงอยู่ในสถานะนักโทษตลอดการเดินทางและเขาเองก็ไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาอะไร แต่ตลอดระยะเวลาที่เดินทางมาที่แห่งนี้ การกระท่าของเขาก็ได้บอกกับริชาร์ดแล้วว่าเนโครแมนเซอร์ผู้นี้เป็นคนที่สามารถไว้ใจได้และเขาก็รักษาคําสัญญาที่เคยให้ไว้ได้เป็นอย่างดี เซนดรอลล์เป็นคนที่เย่อหยิ่งทว่ากลับยึดติดกับธรรมเนียมของเมจ และเมื่อเขาได้ประลองกับเซนดรอลล์เขายังได้รับความเคารพจากชายผู้นั้นเป็นอย่างดีอีกด้วย
พลังของหนังสือแห่งการครอบครองยังคงถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งในพลังของริชาร์ดบนเฟเลอร์ ในที่แห่งนี้ การใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ช่วยในการดวลคือสิ่งที่ไม่ผิดแต่อย่างใด ภายในเพลนแห่งนี้มีเมจอยู่จํานวนไม่มากนักและคนเหล่านั้นก็อยู่ในตําแหน่งที่สูง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงผูกขาดการผลิตไอเท็มเวทมนตร์แทบจะทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแสดงให้เห็นถึงความสําคัญของไอเท็มเวทมนตร์ในการดวล หากไอ เท็มเวทมนตร์ดูทรงพลังมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้รับความเคารพยําเกรงมากเท่านั้น
เพราะอย่างไรซะพวกเขาก็ยังต้องการมานาเพื่อเปิดใช้อุปกรณ์ของพวกเขาและกลุ่มอโคไลท์เองก็ไม่ได้อยู่ในระดับหรือสถานะที่จะสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้ ดังนั้นศิลปะการต่อสู้โดยใช้เวทมนตร์จึงเป็นการผสมผสานความสมบูรณ์ระหว่างเมจและอุปกรณ์เวทมนตร์ ส่วนหมาป่าที่ริชาร์ดได้อัญเชิญออกมาก่อนหน้านี้นั้นทําให้เซนดรอลล์ตกตะลึงมากเสียยิ่งกว่าการที่เขาเห็นหน้ากระดาษของหนังสือแห่งการครอบครองเสียอีก
หลังจากที่เข้ามาในห้องของเซนดรอลล์แล้ว ริชาร์ดก็นําศพวางไว้ที่พื้น เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เซนดรอลล์ ข้าหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาให้เจ้าแล้ว”
เซนดรอลล์กะพริบตาปริบๆ แล้วก้มหมอบอยู่ด้านข้างมาร์ค เขามองอย่างระมัดระวังและถอนหายใจออกมา “นี่เป็นวอริเออร์ที่แข็งแรงมาก ข้าคิดว่าเขาอาจมีพลังมากขึ้นกว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ !”
ทว่าไฟในดวงตาของเขาหายไปทันทีเมื่อพูดขึ้นอีกว่า “แต่น่าเสียดายที่ข้าเป็นได้เพียงแค่นักโทษ”
“หากเจ้ามีความมุ่งมั่นและจริงใจ เจ้าก็อาจจะไม่ต้องเป็นนักโทษอีกต่อไปแล้วก็ได้” ริชาร์ดตอบกลับไปอย่างเคร่งขรึม
MANGA DISCUSSION