นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 178 อันธพาล ตอนที่ 2
นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 178 อันธพาล ตอนที่ 2
คนเหล่านี้ไม่ต่างจากสุนัขที่บ้าคลั่ง เพราะแม้จะมีมังกรยืนอยู่ต่อหน้าพวก เขาทว่าพวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะกระโจนไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปกัดอย่าง ไม่ยั้งคิด
ชายแก่ก้าวไปข้างหน้า 2 ก้าวและ กระชับไม้กระบองหนามที่อยู่ในมือของเขาก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงที่น่ากลัวว่า “เจ้าพวกเด็กน้อย ที่นี่ไม่มีอะไรน่าดูสําหรับพวกเจ้า ไป… ไปซะ !”
ริชาร์ดหรี่ตาลงก่อนจะชี้ไปด้านหน้า ของเขาและพูดออกมาเบา ๆ “ข้าเกลียดสายตาพวกนั้น และไอ้แก่นี่ก็ดูเหมือนว่าจะอยู่มานานเกินไปแล้ว”
ริชาร์ดพูดยังไม่ทันจบ วอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของชาย แก่และควักลูกตาของเขาออกมาอย่างไร้ความปราณี ในเวลาเดียวกันพื้นดินที่ยืนอยู่ก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นพร้อมกับที่ร่างของมีเดียมแรร์พุ่งตัวมาด้านหน้า เขาควงค้อนในมือของตนเองทําให้เกิดเสียงสะท้อนภายในอากาศ ค้อนอันน่าเกรงขามนั้นซัดเข้าที่ร่างของชายแก่จน เขาแทบจะกลายเป็นเนื้อบด เลือดสาดกระจายออกมาจนแทบจําไม่ได้เลยว่าเขาเคยเป็นมนุษย์
เมื่อเห็นเลือดสด ๆ ความกลัวก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของชายอีก 3 คนในทันที พวกเขาเริ่มคิดหลบหนี ทว่าทันใดนั้นลูกธนูก็ถูกส่งออกมาจากคันธนูของโอล่า หลังจากที่ริชาร์ดสั่งให้เขายิงด้วยการแสดงท่าทาง เมื่อลูกธนูถูกส่งออกไปมันก็ปักเข้าที่หลังของชายเหล่านั้นในทันที่จนทําให้พวกเขาหยุดการเคลื่อนไหวและล้มลง
ไพร่พลที่อยู่ด้านข้างยืดตัวขึ้นอย่างช้า ๆ และจากท่าทางของพวกเขาดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ตรงกระท่อมที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ พวกเขาไม่เคยใส่ใจกับความรุนแรงมาก่อนทว่าความแข็งแรงของคนต่างถิ่นเหล่านี้กลับ ทําให้พวกเขารู้สึกแตกตื่น
ชายแก่ผมขาวจ้องมองริชาร์ดก่อนที่จะพูดออกมาช้า ๆ “เจ้ามีพลังที่น่ากลัวมาก แต่เจ้าก็ไม่ควรกระทําการเช่นนี้”
และชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งคน หนึ่งก็พูดขึ้นบ้างอย่างขุ่นเคือง “ที่นี่คือ อาณาเขตของโบเว่น พวกเราคือคนของท่าน และท่านก็จะไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องพวกนี้ !” ขณะที่พูดเขาก็หักนิ้วของตนเองไปด้วย
สิ้นเสียงคนเหล่านั้น ริชาร์ดเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป เขาเพียงแค่ชี้ไปด้านหลังเท่านั้น แกงดอร์ซัดหมัดหนักของเขาใส่หน้าของชายผู้นั้นทันที ซึ่งกําปั้นของเขาทําให้ฟันและเลือดของชายผู้นั้นกระเด็นออกมาจากปาก และร่างก็กระเด็นลอยไปชนกําแพงชายผู้นั้นทรุดตัวลงตรงกระท่อมที่ทั้งชื้นและมืด และเสียงของเขาก็ขาดห้วงไป
แกงดอร์ยังคงอยู่ในท่าพร้อมสู้ เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนยิ้มยิงฟันจนเผยให้เห็นฟันขาวของเขาและเขาก็ก้าวถอยกลับไปอยู่ในกลุ่มของริชาร์ดตามเดิม
ริชาร์ดจ้องมองไปที่ชายแก่ สายตาที่เขามองไปนั้นมันดูดุร้ายเพียงพอที่จะทําให้ชายแก่รู้สึกเจ็บปวดจนทําให้ต้องก้าวถอยหลังออกไป 2 ก้าวซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ริชาร์ดพูดออกมาด้วยน้ําเสียงแข็งกร้าว “พลังของพวกข้ามาก
พอที่จะควักลูกตาดั่งหมาบ้าของพวกเจ้าที่กล้าจ้องมองมาได้ หากมีหมาบ้าตัวไหนยังกล้าจ้องจะกัดพวกข้าอีก ข้าก็จะฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด !”
ริชาร์ดจองไปที่ชายผู้นั้นอีกครั้ง “หึ ! สําหรับข้า เจ้าน่ะไม่ต่างอะไรกับหมาบ าหรอก ในเวลานี้พวกที่หลบอยู่ในกระท่อมโดยไม่กล้าออกมาเท่านั้นถึงจะเรีย กว่ามนุษย์”
“สําหรับโบเว่นเดอะเลม…” ริชาร์ดจอง ไปที่ชายวัยกลางคนที่หลบอยู่ใน กระท่อม “เขาก็คงจะไม่ได้อยากมายุ่งกับพวกข้า และแน่นอนว่าข้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขาเช่นเดียวกัน… เอาล่ะ มีใครอยากจะพูดอะไรอีกไหม ?” สายตาของริชาร์ดกวาดไปรอบ ๆ สลัมซึ่งในเวลานี้คนเหล่านั้นต่างพากันหลบสายตาของเขา และไม่มีใครกล้า แสดงความเห็นใด ๆ ออกมาอีก
เมื่อพวกเขาเข้ามายังค่ายบลัดสโตน ริชาร์ดก็เลือกโรงแรมที่เหมาะสมสําหรับเข้าพักอยู่ภายใต้การปกครองของสตอร์มแฮมเมอร์ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความป ลอดภัยมากกว่าที่อื่น ๆ เหล่าคนครึ่งออร์คเป็นผู้สร้างค่ายนี้ซึ่งนั่นหมายความว่าภายใต้สถานการณ์ส่วนใหญ่ พวกเขาสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ได้ ดังนั้นราคาที่ถูกตั้งขึ้นจึงถือว่าสูงมากเพราะ 20 เหรียญทองนั้นเพียงพอที่จะให้ริ ชาร์ดและคนในกองทัพของเขาอาศัยอยู่ ที่นี่ได้เพียงแค่ 20 วันเท่านั้น
ค่ายบลัดสโตนมีโรงแรม ค่ายทหาร คาสิโน ร้านเหล้า และสิ่งอํานวยความสะ ดวกอื่น ๆ มากมายอีกทั้งยังมีค่าย สําหรับทาสมากกว่า 10 แห่งและเวทีที่ สามารถรองรับผู้ชมได้หลายร้อยคน เวที แห่งนี้ถือเป็นที่ที่มีการสร้างความบันเทิง ชั้นยอดในค่ายบลัดสโตนและเป็นแหล่ง ทํารายได้ที่ยอดเยี่ยมของสตอร์มแฮมเม อร์ด้วย
เสียงระฆังดังขึ้นเมื่อพวกเขามาถึง หลังจากที่มื้อเย็นผ่านไป ริชาร์ดก็ได้พาทุกคนไปดูการแข่งขันระหว่างเหล่าทาส และนักสู้ที่มีพื้นฐานความสามารถแตกต่างกันเพื่อเป็นการแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การที่ริชาร์ดเข้ามาดูการแข่งขัน ในเวลานี้เป็นเพราะเขาต้องการดูและประเมินพลังของนักสู้ที่อยู่ในบลัดสโตนแห่งนี้เท่านั้น
สําหรับราคาเข้าชมคือ 2 เหรียญทอง เขาจองที่นั่งชั้น 2 ซึ่งถูกห้อมล้อมไว้ ด้วยเวทีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ทันทีที่เขานั่งลง ทั้งสนามก็ถูกจับจองที่นั่งจนเกือบ จะเต็มทุกพื้นที่แล้ว ทุกคนในสนามต่างพากันลุกขึ้นยืนเพื่อดูการแข่งขัน จนทําให้ร่างกายของพวกเขาเบียดเสียดกันอย่างแออัด เสียงโห่ร้องทําให้ภายในสนามเต็มไปด้วยเสียงที่นึกก้อง บรรยากาศที่อยู่ภายในนี้เต็มไปด้วยความมืด เพราะถูกควันและฝุ่นจากการต่อสู้ปกคลุมไว้อย่างหนาแน่น การผสมผสานของฮอร์โมนและอะดรีนาลีนที่สูบฉีดอยู่ในเลือดต่างคละคลุ้งอยู่ในอากาศอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะเพิ่มความร้อนระอุในเลือดของผู้เข้าชมอย่างต่อเนื่อง
*เครั้ง ! เครั้ง !* เสียงสะท้อนดังขึ้น จากแพลตฟอร์มที่อยู่ทางด้านซ้ายของริ ชาร์ดจนทําให้เขาต้องหันไปมองตามเสียงชายร่างเล็กแต่แข็งแกร่งโยนไม้เท้าของเขาลงบนราวบันได ก่อนที่จะเอื้อมไปคว้าเหล็กและนั่งลงบนเก้าอี้ที่กว้างและสะดวกสบาย เขาถอนหายใจออกมาด้วยความพึงพอใจ ไม้เท้าของเขาดูแข็งแรงและทนทานราวกับว่าถูกสร้างมาจากเหล็กเลยทีเดียว
ชายร่างเล็กผู้นี้ไม่ได้มาเพียงลําพังเพราะด้านหลังของเขามีกลุ่มผู้คุ้มกันที่มีความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้อย่างชัดมาด้วย โดยทําหน้าที่ยืนรักษาความปลอดภัยให้เขา
ชายผู้นั้นหันไปรอบ ๆ ก่อนที่จะยิ้มให้ ชาร์ดและนําตัว “ข้าคือโบเว่น แต่คนที่นี่ เรียกข้าว่าโบเว่นเดอะเลม”
“ริชาร์ด อาเครอน
โบเว่นยิ้มแล้วถามขึ้น “โอ้! มิสเตอร์ริชาร์ด ข้าสงสัยเสียจริงว่าเจ้ามาจากที่ใด ? หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าจะต้องเป็นเหล่าชนชั้นสูงอย่างแน่นอนใช่ไหม ?”
ริชาร์ดตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่ไม่ แยแส “ตระกูลของข้ามีเหล่าขุนนางชน ชั้นสูง ทว่าข้ารู้ว่ายศถาของข้าไม่มีประโยชน์ที่นี่ แต่ข้าเองไม่สนใจที่จะใช้มัน เพราะดาบของข้าสามารถมอบทุกสิ่งที่ข้าต้องการได้
“ยอดเยี่ยม !” โบเว่นชื่นชมก่อนพูดต่อ ไป “ภายในดินแดนสีแดงที่เต็มไปด้วย คําสาปแช่งเช่นนี้ แน่นอนว่าหากเจ้าต้องการมีสิทธิ์มีเสียง เจ้าย่อมสามารถที่จะใช้ดาบและหมัดของเจ้าได้ ซึ่งนั่นทําให้ขุนนางชั้นสูงหลายเหล่าที่เดินทางมาถึงที่แห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายของพวกโจร รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่างแดน ทว่าข้าเห็นว่าผู้คุ้มกันของเจ้าดูเหมือนจะมีพละกําลังมากกันทุกคน”
“ไม่ใช่เพียงแค่ดูเหมือน บ่ายที่ผ่านมา พวกเขาได้ทดสอบความสามารถแล้ว และก็ได้จัดการกับหมาบ้าไปแล้วหลายคน” ริชาร์ดยิ้ม
“เช่นนั้นรี ? ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง ! เพราะข้าเองก็เพิ่งสูญเสียหมาของข้าไปเหมือนกัน !” พูดจบโบเว่นก็หัวเราะแต่แววตาที่ดุร้ายเริ่มครอบงําในดวงตาของเขาแล้ว เขาเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยน้ําเสียงจริงจัง “มิสเตอร์ริชาร์ด ช่วยชี้แจงความบังเอิญ ครั้งนี้ให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ?”
“ชี้แจงอะไรล่ะ ?” ในที่สุดริชาร์ดก็หันหน้ากลับไปมองโบเว่นโดยที่ไม่สะทกสะท้าน “เจ้าส่งหมาบ้าพวกนั้นมาทดสอบความสามารถและกําลังของพวกข้าเอง ซึ่งก็ไม่แปลกที่พวกข้าจะทําให้พวกมันต้องตาย ข้าคิดว่ามันก็น่าจะเพียงพอที่จะทําให้เจ้าได้เห็นว่าข้ามีพลังที่มากกว่าเจ้า เพราะงั้นยังจําเป็นอยู่อีกหรือที่ข้าจะต้องชี้แจงหรืออธิบาย เรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ ? อย่าบอกนะว่าเจ้าอยากจะแสดงความโง่เขลาของตัวเอง ด้วยการมาต่อสู้กับข้า ? แต่ก็ลองดูได้ อืม… ถึงยังไงข้าก็ขอเตือนไว้ก่อนว่ามันจะไม่ได้เพียงแค่ทําให้ฟันของเจ้าหลุดออกจากปากจนหมดเท่านั้น แต่มันจะร้ายแรงถึงขั้นที่แม้แต่ไฮยีน่าก็ไม่มีโอกาสได้แทะกระดูกของเจ้า”
ท่าทางของโบเว่นเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มิสเตอร์ริชาร์ด เจ้านี่ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย ! นี่มันไม่ใช่ความประพฤติของเหล่าชนชั้นสูงเลยนะ”
ริชาร์ดโต้กลับไปทันที “เจ้าจะพูดว่า เจ้ารู้ความหมายของคําว่ากาลเทศะ หลังจากที่เจ้าอาศัยอยู่ในดินแดนเปื้อนเลือดมาเป็นเวลานานงั้นรึ ?”
โบเว่นจ้องมองริชาร์ดด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า “อืม… ดูเหมือนว่ามิสเตอร์ริชาร์ดจะ มีความสุขกับการเข้าพักที่นี่ แต่ขากลับไม่ได้คิดเช่นนั้น คนจนที่อยู่ในสลัมต่างก็พึ่งพาข้าเพื่อหาเลี้ยงชีพ ตอนนี้ข้าก็แค่เสียหมาไปไม่กี่ตัว ข้าได้ยินมาว่า บลัดไซท์สูญเสียสัตว์เลี้ยงของเขาไป เช่นเดียวกันและดูเหมือนว่าหนึ่งในนั้น จะถูกพาตัวออกไปด้วย ข้าว่าตอนนี้เขาคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปแล้ว เจ้าเป็นคนต่างถิ่นยังไงเจ้าก็ควรระวังตัวไว้
หน่อย”
ริชาร์ดพยักหน้าก่อนตอบกลับไปด้วย น้ําเสียงไม่แยแส “ถ้าเขาฉลาดพอ เขาก็จะรู้ว่าสิ่งใดควรทําสิ่งใดไม่ควรทํา”
“อืมม ดูเหมือนว่ามาร์คจะไม่ได้ฉลาดเท่าไหร่” โบเว่นเอ่ย
ริชาร์ดยึดตัวและเอนหลังไปพิงพนักพิง หลังจากที่เขานั่งอยู่ในท่าที่สบายแล้ว เขาก็หัวเราะและพูดขึ้นช้า ๆ “หึ ๆ มีคนกล่าวไว้ว่าคนโง่เขลามักจะตายเร็ว”