นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 177 อันธพาล ตอนที่ 1
ดินแดนเปื้อนเลือดมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ค่อนข้างแปลกประหลาด พวกเขาจะทิ้งซากศพของผู้คนหรือม้าที่ตายในสนามรบเอาไว้ให้เป็นอาหารของฝูงแร้ง ไฮยีน่า หรือแม้แต่หนูที่กินซากสัตว์ ซึ่งสัตว์กินซากเหล่านี้ก็จะกัดกินศพทุกร่าง จนเหลือแต่กระดูก ผู้คนในดินแดนเปื้อนเลือดมีความเชื่อว่าการทิ้งศพไว้ให้สัตว์กินซากเหล่านี้กัดแทะจนเหลือเพียงกระดูก เป็นวิธีการเดียวที่จะทําให้จิตวิญญาณของคนตายหลุดพ้นจากคําสาปของดินแดนแห่งนี้และเข้าสู่ชีวิตหลังความตายที่สงบสุขอย่างแท้จริงได้
ฝูงหมาป่าสายลมถูกทิ้งไว้ข้างหลังเช่ นกัน พวกมันจําเป็นต้องหาอาหาร และซากศพม้าก็ถือว่าเป็นอาหารชั้นดี อย่างไรก็ตาม หมาป่าสายลมแตกต่างจากฝูงสัตว์กินซากของดินแดนเปื้อนเลือดตรงที่พวกมันกินกระดูกเข้าไปด้วย แต่ริชาร์ดจะไม่อนุญาตให้พวกมันกินซากศพของมนุษย์นอกเสียจากว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีอาหารที่ไม่เพียงพอจริง ๆ
เมื่อเวลาล่วงเข้าสู่ช่วงเย็นของวันนั้น ในที่สุด ค่ายบลัดสโตนก็ปรากฏสู่สายตา แม้ว่าจะยังอยู่ไกลออกไปมากก็ตาม สถานที่แห่งนั้นอยู่ตรงกลางยอดภูเขาหินขนาดใหญ่ และถูกล้อมรอบด้วยกําแพงหินหยาบ ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีหอสังเกตการณ์ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของค่ายซึ่งมันช่วยให้พวกเขาได้รับคําเตือนล่วงหน้าถึงทุกสิ่งที่กําลังเดินทางเข้าไปใกล้ และจากตําแหน่งนั้น อาเชอร์ฝีมือดีจะสามารถยิงอะไรก็ตามที่กําลังพยายามบุกเข้าไปในค่ายได้
เมื่อภาพของค่ายปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลมากมายที่ริชาร์ดเคยได้รับรู้มา เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ก็ไหลพรั่งพรูเข้ามาในความคิดของเขา ค่ายบลัดสโตนอยู่ใกล้กับดินแดนเปื้อนเลือดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาณาจักรเซควายาและแบล็ควอเตอร์ดัชชี่มากนัก มันเป็นป้อมปราการ ที่สําคัญสําหรับทั้งนักผจญภัยและกองคาราวานที่เสมือนเป็นจุดแวะพักสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากดินแดนมนุษย์ ทว่าในสถานที่แห่งนี้มีผู้ที่อาศัยอยู่อย่างถาวรมากสุดแค่ราว ๆ 2,000 คนเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินทางเข้าออกจํานวนมาก สถานที่แห่งนี้ก็สามารถรอง รับคนได้มากถึง 5,000 คน โดยข้อจํากัดของสถานที่แห่งนี้คือจานวนแหล่งน้ําพุใต้ดินที่มีอยู่อย่างจํากัด ซึ่งมีเพียง 8 แห่งเท่านั้นที่สามารถส่งน้ํามารองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้
จากบ่อน้ําพุทั้งหมด 8 แห่งของค่าย บลัดสโตนนี้ มี 4 แห่งอยู่ภายใต้การควบคุมของชนเผ่าครึ่งออร์คที่ถูกเรียกว่า บลัดสโตนออร์ค ส่วนที่เหลือกระจายตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วพื้นที่ แต่มันกลับมีคุณภาพที่ด้อยกว่า 4 จุดแรกโดยหนึ่งในนั้นอยู่ในการครอบครองของ “มาร์คบลัดไซท์
หัวหน้าของบลัดสโตนออร์คมีชื่อว่า “สตอร์มแฮมเมอร์” ผู้เป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในค่ายนี้ เขาเป็นวอริเออร์ระ ดับ 14 ดังนั้นจึงไม่อาจมองข้ามพลังอํานาจของเขาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของตัวเขาเองหรือการมีลูกครึ่ง ออร์คกว่า 100 ตนอยู่ภายใต้การบัญชาของเขา ด้วยอิทธิพลของเขาทําให้เขา มีสิทธิ์มีเสียงและมีอํานาจในค่ายนี้อย่างมาก แม้แต่ในอาณาจักรมนุษย์เอง เหล่านักรบจากชนเผ่าครึ่งออร์คก็สามารถเป็น ไนท์ได้ไม่ยากนัก ดังนั้นภายในดินแดนเล็ก ๆ เช่นค่ายบลัดสโตนแห่งนี้ การที่เขาจะได้รับสถานะเช่นนี้มาจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ศูนย์กลางของอํานาจอีก 4 แห่งที่เหลืออยู่คือมาร์คเดอะบลัดไซต์, ไครอน เดอะไซคลอปส์, โบเวนเดอะเลม และ โฮวี่เดอะเรเซอร์ พวกเขาล้วนมีทหารกว่า 100 คนโดยที่พวกเขาแต่ละคนอยู่ที่ระดับ 12-14 โดยเฉพาะโฮรี่ที่เป็นถึงวอริเออร์ระดับ 14 แต่ก็มีข่าวลือหนาหูว่าเขาไม่กล้าท้าทายสตอร์มแฮมเมอร์
ในตอนนี้มาร์คกลายเป็นเป้าหมายแรก ของริชาร์ด เขาเป็นเป็นวอริเออร์ระดับ 13 ที่มีนิสัยดุร้ายและโหดเหี้ยม อาวุธประจําตัวของเขาคือเคียวด้ามสั้นลงอาคม 2 เล่ม ทว่านอกเหนือจากความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติแล้ว เขาก็ไม่มีความสามารถพิเศษใดเลยซึ่งนั่นทําให้เขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายต่อการจัดการด้วยศักยภาพของกองกําลังของเขาใน ตอนนี้ริชาร์ดมีหลายยุทธวิธีในการจัดการกับมาร์คเดอะบลัดไซต์ผู้ที่มีดีแค่ระดับที่สูงเท่านั้น
ในขณะที่ริชาร์ดกําลังจมดิ่งอยู่ในห้วง ความคิดของตนเองบนหลังม้า เขาก็เริ่มเช็ดมือที่ไร้จุดด่างพร้อยของเขาอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้น เขาก็หยุดการ วาดฝันเหล่านั้นลงทันทีเมื่อรู้สึกถึงสายตาของโฟลว์แซนด์ที่มองมาและท่าทางที่พยายามกลั้นหัวเราะอยู่เงียบ ๆ ของนาง หลังจากช่วงเวลาแห่งความอับอายผ่านพ้นไป เขาก็ค้นพบเหตุผลของการกระทํานั้นของนางก่อนเก็บผ้าเช็ดหน้าอย่างสงบนิ่ง
ชนเผ่าครึ่งออร์คไม่กี่คนยืนคุ้มกันอยู่บริเวณประตูค่ายและการเดินทางมาถึงของกองกําลังของริชาร์ดทําให้พวกเขาเกิดอาการแตกตื่นเล็กน้อย เพราะเพียงแค่โอเกอร์ร่างสูงใหญ่สะดุดตา 2 ตน และฝูงหมาป่าสายลมมากกว่า 10 ตัวก็ทําให้กลุ่มผู้มาเยือนดูน่าเกรงขามโดยที่ยังไม่ทันได้ทําอะไร แต่ที่สําคัญที่สุดคือ ใบหน้าของทุกคนในกลุ่มก็ล้วนแล้วแต่ ไม่เป็นที่คุ้นเคยสําหรับพวกเขา อีกทั้งลักษณะท่าทางที่แสดงออกมาก็ดูไม่ เหมือนกองคาราวานใด ๆ เห็นได้ชัดจากการจัดรูปแบบขบวนในขณะที่เดินทางว่าคนพวกนี้ ไม่ใช่นักผจญภัยธรรมดา” และนักผจญภัยหน้าใหม่กลุ่มนี้ก็กระตุ้นประสบการณ์และสัญชาตญาณที่มีอยู่ของเหล่าทหารครึ่งออร์คให้ร้องเตือนพวกเขาว่าสถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย
“พวกเจ้ามาที่นี่ต้องการอะไร ?” หัวหน้าถาม
โอล่ายื่นบัตรผ่านบลัดไซท์ให้กับชายคนนั้นพร้อมทั้งชี้ไปยังริชาร์ดขณะเอ่ย ขึ้น “มาสเตอร์ของข้าต้องการสินค้าดี ๆ จากที่ราบบาร์บาเรียนและพวกเรามาที่นี่ เพื่อลองเสี่ยงโชค พวกเราได้จ่ายค่าผ่านทางไปแล้ว” นี่เป็นบทพูดที่พวกเขาเตรียมการกันไว้ก่อนหน้านี้
หัวหน้าเผ่าครึ่งออร์คมองบัตรผ่านนั้น และหันกลับไปมองที่กลุ่มผู้มาเยือน เขา มองไปยังริชาร์ดที่มีสีหน้าเย่อหยิ่งและ เยือกเย็นก่อนถอนหายใจออกมา 2 ครั้ง “มาร์ค ไอสารเลวนั่น ! การเข้ามาในค่ายบลัดสโตนไม่มีการเก็บค่าผ่านทางอะไร ทั้งนั้นและบัตรผ่านนี้ก็ไม่มีค่าถ้าไม่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนใด ๆ คนผู้นั้นน่ารังเกียจนัก ข้าขอแนะนําให้เจ้าโยนบัตรผ่านบ้า ๆ นี่ทิ้งไปซะ ถึงเจ้าจ่ายเงินให้มันไปแล้วแต่เจ้าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมันอีกหรอก นอกจากเจ้าจะจ่ายเพิ่ม”
“ขอบใจมากสหายข้า” โอล่าพูดอย่าง จริงใจก่อนยื่นเหรียญจํานวนหนึ่งให้เขา
ลูกครึ่งออร์คมีท่าทางผ่อนคลายมาก ขึ้นหลังจากได้รับเหรียญจํานวนนั้น ทว่า เขาก็พูดขึ้นว่า “ขอบใจ แต่ออร์คและเอลฟ์ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ข้าก็ขอให้เจ้าโชคดีแล้วกันเข้าไปได้
ประตูเปิดออกหลังจากที่ชายผู้เป็น หัวหน้าโบกมือ
กลิ่นฉุนรุนแรงปะทะจมูกของริชาร์ด และพรรคพวกทันทีที่เข้าไปในค่าย มันเป็นกลิ่นที่ผสมปนเปกันของอุจจาระ อาหารเน่า ขยะ และกลิ่นตัวของทาสที่ไม่เคยอาบน้ํา กลิ่นของมันรุนแรงมาก พอ ๆ กับหมอกพิษระดับ 6 ของบรู้ดมาเธอร์ ทุกคนแสดงสีหน้ารังเกีย ออกมาครู่หนึ่ง แต่แน่นอนว่าโอเกอร์ทั้งสองเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด พวกเขารักอาหารเป็นอย่างยิ่งดังนั้นจมูกของพวกเขาจึงไวต่อกลิ่นและบอบบางมากเป็นพิเศษ
มีอาคารที่มีความสูงแตกต่างกันมากมายตั้งอยู่ภายในค่าย ผนังของอาคารเหล่านั้นเหมือนทํามาจากหินสีแดงที่มีรูพรุน เห็นได้ชัดว่าการก่อสร้างอาคารพวกนี้ไม่ได้ใช้ความคิดหรือเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องมากนัก โครงสร้างพื้นฐานน่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงระยะเวลายาวนานของการเติบโตที่ไม่เป็นระเบียบของดินแดนและสงครามแย่ง ชิงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การจะบอกถึงการกระจายอํานาจในแหล่งน้ําพุทั้ง 8 แห่งนั้นค่อนข้างง่าย เพราะเมื่อใดก็ตามที่แหล่งน้ําพุในจุดใดจุดหนึ่งอยู่ใกล้กัน กําแพงสูงก็จะถูกสร้างขึ้นเพื่อแบ่งแยกแหล่งน้ําเหล่านั้นออกจากกันอย่างชัดเจน
บริเวณตรงกลางค่ายเป็นอาคาร 5 ชั้น ขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายปราสาท กําแพงปราสาทมีเสาไม้จํานวนมากถูกปักเอาไว้ และปลายของเสาไม้เหล่านั้นก็แหลมคม ในทรงที่ชี้พุ่งขึ้นไปบนฟ้า ธงจํานวนมากกําลังปลิวไสวซึ่งพวกมันถูกแขวนประดับเอาไว้ที่ตัวปราสาท ธงเหล่านั้นมีรูปของค้อนขนาดใหญ่ที่ตัวค้อนชะโลมไปด้วยเลือดอยู่บนพื้นหลังสีแดงเข้ม นั่นคือธงของชนเผ่าบลัดสโตนออร์ค
นอกเหนือจากปราสาทนั้นแล้ว อาคาร อื่น ๆ ในค่ายก็ล้วนไม่มีสไตล์ที่เป็นเอก ลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนแออัดขนาดใหญ่ บ้านในพื้นที่บริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างหยาบ ๆ โดยผนังทํามาจากก้อนหินซ้อนกัน และส่วนของหลังคาทํามาจากวัสดุแปลก ๆ ที่ริชาร์ดไม่เคยรู้จักมาก่อน บ้านเหล่านั้นเตี้ยมากจนมนุษย์ผู้ใหญ่ยังต้องก้มตัวลงจึงจะเดินเข้าไปได้ และดูเหมือนว่าหลังคาจะไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้หากถูกลมพัดแรง ๆ หรือให้แกงดอร์ ไม่ก็โอเกอร์ทั้งสองเดินเข้าไป สถานที่นี้ เกลื่อนกลาดไปด้วยขยะและน้ําเสียส่งกลิ่นเหม็น แมลงวันเป็นฝูงบินวนอยู่ดูราวกับเมฆสีดําลอยปกคลุม
ขณะที่ริชาร์ดก้าวผ่านตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาก็มองเห็นชายสองสามคน แต่งตัวมอมแมมทว่าท่าทางดุร้ายกําลัง ยืนล้อมรอบกระสอบตุง ๆ ใบหนึ่งที่วาง อยู่บนพื้น ชายเหล่านั้นรุมเตะต่อย กระสอบใบนั้นไม่หยุดและหนึ่งในนั้นก็ ใช้ไม้ปลายแหลมฟาดเข้าใส่กระสอบอีก หลายครั้ง และการโจมตีทุกครั้งก็ทําให้ เกิดรอยด่างสีเข้มปรากฏบนพื้นผิวของ กระสอบนั้น
กระสอบบิดเบี้ยวก่อนจะกลับสู่สภาพ เดิมในทุก ๆ ครั้งของการโจมตี ในระหว่างนั้นก็เกิดเสียงเบาแว่วออกมาจากข้างใน หากมองจากขนาดของมันและเสียงที่ดังออกมาแล้ว ในกระสอบใบนั้นน่าจะมีน่าจะมี “มนุษย์” หรือสิ่งมีชีวิตจากเผ่าใดเผ่าหนึ่งถูกยัดไว้ และไม่ว่าเสียงนั้นจะดังอย่างไร แต่กลุ่มชายมอมแมมที่รุมล้อมนั้นก็ยังคงทุบตีอย่างต่อเนื่องไม่ยั้งมือ พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์อาฆาตแค้น
ริชาร์ดหยุดม้าของเขาก่อนกวาดสาย ตาไปยังกลุ่มคนที่กําลังรุมเตะกระสอบ นั้น เขาขมวดคิ้วมองแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา คนเหล่านี้เป็นเพียงแค่คนธรรม ดาแต่ว่าพวกเขาใช้ความรุนแรงในที่สาธารณะอย่างไร้สํานึก ความกระหาย เลือดที่บ้าคลั่งของพวกนี้ทําให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หากดินแดนเปื้อนเลือดเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งเช่นนี้เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการที่จะใช้พิชิตดินแดนนี้เสียใหม่ให้เหมาะสม ซึ่งอาจจะต้องทําตามวิธีการที่โฟลว์แซนด์คิดเอาไว้
เมื่อรู้ตัวว่ากําลังถูกจับตามอง ชายเห ล่านั้นก็หยุดก่อนหันมามองริชาร์ด คนก ลุ่มนั้นทุกคนล้วนผอมแห้งและสกปรก อีกทั้งยังไม่ได้ดูเหมือนมีร่างกายที่แข็งแกร่งเลย แต่ดวงตาแดงก่ํานั้นทําให้พวกเขาดูดุร้ายอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของริชาร์ดมีจํานวนมากกว่าพวกเขา และโอเกอร์ทั้งสองก็ดูน่าเกรงขามซึ่งทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวได้ตั้งแต่แรกเห็น ทว่านั้นกลับไม่สามารถขัดขวางพวกชายเหล่านั้นได้ ชายคนหนึ่งในนั้นเงยหน้าขึ้น เขามองริชาร์ดด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและจงใจยั่วโมโหอย่างชัดเจน
MANGA DISCUSSION