นิยาย นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 171 เนโครแมนเซอร์ตอนที่ 2
คําตอบที่ริชาร์ดได้รับเป็นกลุ่มของโครงกระดูกและซอมบี้จํานวนมากที่พุ่งตัวออกมาเขายกดาบในมือของเขาขึ้น แล้วตวัดชี้ไปด้านหน้าอย่างช้าๆทันใดนั้นเสียงคํารามราวกับสัตว์ดุร้ายก็ดังขึ้น จากด้านหลังของเขาก่อนที่กองกําลังของเขาจะพุ่งตัวออกไปและตรงเข้าปะทะกับเหล่าศัตรู
คนที่เร็วที่สุดในกลุ่มคือวอเตอร์ฟลาวเวอร์ นางพุ่งตัวขึ้นจากพื้นดินอย่างรวดเร็วและข้ามผ่านตัวเขาไปเพื่อตรงเข้าหากลุ่มของอันเดด การเคลื่อนไหวร่างกายของแอสซาซินสาวนั้นทําให้ทั่วบริเวณดูสดใสขึ้นราวกับมีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดเส้นทางที่นางพุ่งผ่านดูคล้า ยกับมีดอกบัวมากมายที่กําลังผลิบานในขณะเดียวกันแสงของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชนออยู่บนดาบของนางก็กําลังแผดเผาเหล่าอันเดดให้มอดไหม้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย ของทุกคนมากในเวลานี้เพียงแค่เปลวเพลิงจากดาบของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็ทําให้ศัตรูกว่าพันตัวถูกเผาจนละลาย ราวกับเนยที่เจอความร้อน
ฝ่ายตรงข้ามถูกกําจัดออกไปอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับที่กองกําลังของริชาร์ดเคลื่อนตัวเข้าใกล้บึงมากขึ้นเรื่อย ๆ และในตอนนั้นเองที่เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงปลายดาบของริชาร์ดหายไป 369
ภาพของเกาะโดดเดี่ยวที่ตั้งอยู่กลางบึงปรากฏต่อสายตาของริชาร์ดบนเกาะแห่งนั้นมีอาคารสองชั้นตั้งตะหง่านอยู่หลังหนึ่งซึ่งมันดึงดูดทุกสายตาให้จ้องมองสภาพของอาคารหลังนั้นดูเก่าและ ทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามันตั้งอยู่อย่างนั้นมาเนิ่นนานแล้ว
ในเวลานั้นมีชายรูปร่างผอมบางผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงประตูอาคาร จากรูปลักษณ์ที่เห็นเขาน่าจะมีอายุราว ๆ 30 ปี เส้นผมรกรุงรังอีกทั้งขอบตาหมองคล้ําและผิวที่ซีดเซียวของเขาทําให้เป็นที่สนใจของคนที่พบเห็นเสื้อคลุมที่เขาใส่สกปรกเป็นอย่างมากจนทําให้ไม่สามารถระบุตัวตนของเขาได้ ริมฝีปากที่แห้งกร้านนั้นทําให้สีปากของเขากลายเป็นสีคล้ายขี้เถ้า หากไม่ใช่เพราะช่วงอกที่เคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเขาแล้วล่ะก็สภาพของเขาก็ดูไม่ต่างอะไรกับกลุ่มซอมบี้เหล่านั้นเลย
ริชาร์ดเหยียบขึ้นไปบนเกาะเล็ก ๆ นั้นเขาทิ้งปลายดาบในมือลงและลากมันให้ครูดไปกับพื้นขณะที่เดินเข้าหาฝ่ายตรงข้าม สายตาเด็ดเดี่ยวของเขาจับจ้องอยู่ที่ชายผู้นั้นและพูดออกมาด้วยน้ําเสียง แข็งที่อ “พยายามควบคุมสัตว์ที่ทําสัญญาวิญญาณไว้กับข้าเจ้ากล้ามาก ! ไม่คิดหรือว่าสิ่งที่เจ้าทํามันเป็นการปล้นของของคนอื่น ?”
ชายผู้นั้นขมวดคิ้ว สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่โฟลว์แซนด์ และเพียงครู่เดียวน้ําเสียงแหบห้าวที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจก็ดังออกมาจากปากของเขา “เป็น เคลริคที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ !”
หลังจากพูดจบเขาก็กวาดสายตามองคนที่เหลือก่อนที่จะหยุดสายตาลงที่วอเตอร์ฟลาวเวอร์การโต้ตอบทางจิตของนางทําให้เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แข็งแกร่งจนสามารถสร้างความเจ็บปวดให้เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขาได้
เขากวาดสายตาไปทั่วอีกครั้งก่อนจะกลับมาหยุดลงที่ริชาร์ด “เจ้าคือเมจสินะ ?” แน่นอนว่าคําถามนั้นไม่ได้ต้องการคําตอบเพราะมันเป็นเพียงคําถามเพื่อความมั่นใจเท่านั้น เขาได้เห็นทักษะดาบของริ ชาร์ดในตอนที่ต่อสู้กันก่อนหน้านี้แล้วทว่าในเวลานี้เขากลับรับรู้ได้ถึงพลังมานาที่ออกมาจากร่างกายของริชาร์ดจึงทําให้เขาคาดเดาว่าริชาร์ดต้องเป็นเมจอย่างแน่นอน
“ใช่ ข้าเป็นเมจระดับ 9” ริชาร์ดตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเรียบนิ่ง
ในขณะที่ชายเนื้อตัวสกปรกกําลังกวาดตามองคนอื่น ๆ ที่เหลือริชาร์ดก็ใช้ “คาถาตรวจสอบกับเขาซึ่งก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวเลยหรืออาจจะไม่ได้ระวังตัวในเรื่องนี้จึงทําให้ลืมใช้พลังมานา ของตนเองป้องกันการตรวจสอบจากรชาร์ดและผลลัพธ์จากการตรวจสอบนั้นก็สร้างความประหลาดใจให้กับริชาร์ดอยู่ไม่น้อยเพราะเขาพบว่าชายผู้นี้เป็นเนโครแมนเซอร์ระดับ12ซึ่งมีช่องรูน 6 ช่องและมีความจรูนถึง 90 พอยท์ !
เนโครแมนเซอร์มองริชาร์ดใกล้ ๆ ก่อนพูดขึ้น “เมจที่เคารพ ข้าต้องการต่อสู้โดยใช้ธรรมเนียมของนักเวทย์กับเจ้าแม้ว่าข้าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าแต่ข้าเองก็สูญเสียเหล่าทาสไปแล้วและมีมานาเหลือน้อยกว่า 1 ใน 4 คําขอของข้าก็คงจะไม่ได้เอาเปรียบเจ้าเกินไปหรอกนะ”
“ธรรมเนียมของนักเวทย์ ? เนโครแมนเซอร์อย่างเจ้าถูกเมจคนอื่น ๆ นับรวมเป็นนักเวทย์ด้วยหรือ”ริชาร์ดถามขึ้น
ภายนอกของอบิส นรก และเพลนที่เป็นที่อยู่อาศัยของพวกปีศาจหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของเทพเจ้าแห่งความมืดมิดต่างก็ไม่มีใครยอมรับการมีอยู่ของเนโครแมนเซอร์ที่ล้อเล่นกับจิตวิญญาณและรบกวนความสงบสุขในโลกแห่งความตาย” เช่นนี้
ท่าทางของชายผู้นั้นเปลี่ยนไปทันทีลักษณะของเขาในตอนนี้ทําให้รู้สึกถึงความน่าหวาดกลัวที่เพิ่มมากขึ้น “ตั้งแต่ผู้คนปักใจเชื่อว่าพวกเราเป็นปีศาจผู้กระหายเลือดคนอย่างข้าก็ไม่ได้รับการย อมรับอีกเลยข้าซ่อนตัวอยู่ที่นี้ก็เพราะไม่อยากจะฆ่าใครแต่เจ้าก็ยังเดินทางมาเคาะประตูบ้านข้าถึงที่หากเจ้าไม่เต็มใจยอมรับข้าในฐานะเมจงั้นก็มาสู้กัน ! ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ !”
ริชาร์ดจับตามองมองเนโครแมนเซอร์พร้อมทั้งมองดูตัวเลขทั้งหลายที่ปรากฎขึ้นรอบ ๆ ตัวเขาไปด้วยมันเป็นเรื่องจริงที่เนโครแมนเซอร์ผู้นี้มีมานาหลงเหลืออยู่ไม่มากและสมุนของเขาก็ถูกฆ่าตาย ไปจนหมดแล้ว การที่เนโครแมนเซอร์ไม่มีเหล่าอันเดดอยู่เคียงข้างก็เหมือนกับไนท์ที่ไร้ม้าคู่ใจ
ริชาร์ดตัดสินใจอย่างรวดเร็วก่อนพูดออกไป “แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากเมจคนอื่น ๆ แต่ข้าก็ยังเต็มใจที่จะดวลกับเจ้าตามธรรมเนียมที่มี
“มาสเตอร์ ! ท่านไม่จําเป็นจะต้องทําแบบนั้น เราเพียงแค่ล้อมเขาไว้แล้วจัดการเหมือนกับที่ท่านเคยทํากับเมนต้าก็ได้ไม่ใช่หรือ ?” โอล่าที่ยืนอยู่ด้านข้างถามขึ้นเขาเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากโฟลวแซนด์จึงทําให้คันธนูของเขาในเวลานี้ยังคงมีเปลวไฟลุกโชนและมันก็เป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งที่มีความรุนแรงมากพอที่จะทําลายเนโครแมนเซอร์ผู้นี้ได้ในทันที
ริชาร์ดโบกมือครั้งหนึ่งเพื่อหยุดบาร์ดข้างตัว“ไม่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนเขาเป็นเมจ”
เมจ ?’ ถึงแม่ริชาร์ดจะนับว่าเนโครแมนเซอร์เป็นเมจประเภทหนึ่ง แต่โอล่าก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดวิธีการจัดการกับเมจจึงมีความแตกต่างกับการจัดการกับไฟเตอร์อย่างเมนต้า
ในเวลานั้นใบหน้าของเนโครแมนเซอร์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเขาจัดเสื้อคลุมของตนเองแล้วก้าวมาข้างหน้า 2 ก้าวก่อนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าคือเซ นดรอลล์เนโครแมนเซอร์ระดับ 12”
ริชาร์ดกดปลายดาบในมือให้จมลงในโคลนทําให้ดาบไร้ชื่อของเขาถูกปักไว้บนพื้นจากนั้นเขาก็เดินไปด้านหน้าและพูดขึ้น“ริชาร์ดเมจระดับ 9 และรูนมาสเตอร์
คําว่า “รูนมาสเตอร์ สร้างร่องรอยความสงสัยขึ้นบนใบหน้าของเซนดรอลล์เป็นเพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่อเรียกของคลาสเช่นนี้มาก่อน ทว่าแม้จะยังมีข้อสงสัยและเต็มไปด้วยความประหลาดใจแต่ทั้งเซนดรอลล์และริชาร์ดก็ยังคงก้าวมาข้างหน้าเพื่อดวลกันตามที่ตกลงไว้โดยในเวลานี้ระยะห่างของพวกเขาอยู่ที่ราว ๆ 20 เมตรเท่านั้น
ด้วยความแตกต่างทางภาษาทําให้ชาร์ดไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเซนดรอลล์เริ่มร่ายคาถาอะไรออกมาเป็นคาถาแรกแต่วงเวทย์สีเทาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเนโครแมนเซอร์ในทันทีทันใดนั้นพลังแห่งความตายที่หนาแน่นก็ปรากฏขึ้นซึ่งส่งผลให้อากาศเกิดความแปรปรวน และเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นในบริเวณนั้นภาพที่เห็นตรงหน้าและความรู้สึกของริชาร์ดบอกเขาว่าคาถานี้คือคาถาอัญเชิญ อันเดดและด้วยระดับของเซนดรอลล์ก็ทําให้เหล่าอันเดดที่ทรงพลังปรากฏขึ้นบนเพลนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว
วงเวทย์ก่อพลังงานเชิงลบขึ้นก่อนที่มันจะส่งความน่าหวาดกลัวและความมีดมิดพุ่งแทรกเข้าสู่จิตใจของคนที่อยู่โดยรอบสิ่งมีชีวิตที่ถูกปลุกขึ้นมามีพลังจิตที่แข็งแกร่งซึ่งนั่นก็ชี้ชัดว่านี่เป็นรูปแบบการอัญเชิญที่ทรงพลังทว่าข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือระยะเวลาของการร่ายคาถาที่ยาวนาน
ทางด้านของริชาร์ดนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเขาไม่ได้สนใจที่จะร่ายคาถาและยังดูมีท่าทีเรียบนิ่งทว่าในความเป็นจริงแล้วเขากําลังลอบใช้งานหน้าหนังสือแห่งการครอบครองอยู่อย่างเงียบ ๆ เขาแอบนํากระดาษหน้านั้นออกมาและใช้งานมันด้วยการขยับมือของตน เองเพียงเล็กน้อยทันใดนั้นหมาป่าที่น่ากลัวจํานวน 5 ตัวก็ปรากฏขึ้นทันที พวกมันส่งเสียงคํารามออกมาก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าหาเนโครแมนเซอร์อย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันนั้นเองแสงสีฟ้าปนเขียวก็วาบขึ้นและเข้าปกคลุมร่างกายของเขาทว่าหลังจากนั้นเพียงครู่เดียวก็เกิดเสียงคล้ายกระจกร้าวและแตกออกคาถาในการป้องกันตนเองของเนโครแมนเซอร์ถูกทําลายลงแล้ว ! และแม้ว่าหมาป่า 2 ตัวจะถูกพลังนั้นซัดให้กระเด็นลอยออกไปแต่ในตอนนี้คาถาอัญเชิญของเนโครแมนเซอร์เนื้อตัวสกปรกผู้นั้นก็ถูกขัดให้หยุดชะงักลงอย่างฉับพลันและมันก็ล้มเหลวไปในที่สุด
ริชาร์ดอดทนรอจนเซนดรอลล์ไม่สามารถรับมือกับหมาป่าที่เหลือทั้ง 3 ตัวได้อีกต่อไปก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นเพื่อปัดเป่าคาถาและทําลายเหล่าหมาป่าจนมันกลายเป็นเพียงมานาที่บริสุทธิ์คาถาโล่ป้องกันของเซนดรอลล์ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ด้วยการโจมตีของพวกหมาป่าซึ่งนั่นทําให้เสื้อผ้าที่ซอมซ่ออยู่แล้วของเขากลายเป็นเพียงเศษผ้าหลุดรุ่ยไปร่างกายที่แสนสกปรกนั้นก็เกิดรอยฟกช้ําและบาดแผลขึ้นทั่วตัวทว่าจุดสําคัญบนร่างกายที่อาจส่งผลกระทบ ร้ายแรงถึงชีวิตยังคงได้รับการปกป้องอยู่แม้ว่าการป้องกันจะถูกทําลายลงไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้ยังไม่มีบาดแผล ใดที่ร้ายแรงมากพอจะพาเขาไปพบกับความตาย
เซนดรอลล์พยายามลุกขึ้นยืนในตอนที่ริชาร์ดก้าวเข้ามาหา เขาใช้มือรวบเสื้อคลุมที่หลุดรุ่ยของตนเองก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “การตายในการดวลที่ยุติธรรมสําหรับข้าแล้วนั่นถือเป็นเกียรติสูงสุดเจ้าลงมือเถอะ !”
ริชาร์ดจ้องมองเซนดรอลล์อยู่ชั่วครู่ก่อนจะถามขึ้น “เจ้าอยากตายขนาดนั้นเลยรึ ?”
“แน่นอนว่าไม่ ! ข้ายังมีเวทมนตร์อีกมากมายที่ข้าอยากทดลอง… แต่ข้าเป็น ปีศาจเนโครแมนเซอร์ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากมนุษย์ ถ้าถูกใครเจอเข้า พวกเขาคงจะจับข้ามัดไว้กับเสาและจุดไฟเผาทั้งเป็น” เซนดรอลล์หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
ในความเป็นจริงแล้วแม้แต่ในหัวแลนด์เองก็มีจํานวนของเนโครแมนเซอร์อยู่ เพียงน้อยนิดเท่านั้นและคนเหล่านั้นก็ถูกตัดสินว่าเป็นศัตรูของสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณทั้งหมด
MANGA DISCUSSION