นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 15 รูนมาสเตอร์
ริชาร์ดค้นพบว่าตนเองถนัดและโดดเด่นทางด้านคณิตศาตร์ รูน และการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เขาสามารถเข้าใจสูตรที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเขาเรียนรู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเห็นถึงความลึกลับของโลกแห่งเวทมนตร์มากเท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ มากกว่าก่อนหน้านี้ และริชาร์ดเองก็ให้ความสนใจอย่างมากจนตอนนี้เวทมนตร์ก็ถือเป็นทุกอย่างสำหรับเขาไปเสียแล้ว
ฤดูหนาวมาเยือนอย่างรวดเร็วราวกับแสง ทว่าริชาร์ดกลับไม่ได้สนใจหิมะที่ตกลงสู่พื้นดินในฤดูหนาวครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งภายในดีพบลูยังคงกักเก็บความอบอุ่นไว้ราวกับฤดูใบไม้ผลิ และด้วยระยะเวลาหลายเดือนที่อยู่ที่นี่ ริชาร์ดย่อมคุ้นเคยกับแสงเวทมนตร์ซึ่งช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของเขา
ดาวตกปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ มันพุ่งเข้าใกล้กับโลก ผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะพร้อมกับตกลงบนดาดฟ้าของตึกดีพบลู เมจ 20 คนพร้อมกับแกรนด์เมจอีก 3 คน ปรากฏตัวอยู่ที่นั่นเพื่อรอคอยการมาถึงของใครบางคนแม้อากาศจะเต็มไปด้วยหิมะที่หนาวเหน็บก็ตาม
ดาวตกนั้นเปิดออกเผยให้เห็นร่างเล็ก ๆ ของชารอนที่อยู่ข้างใน เมจสาว 2 คนรีบนำผ้าเช็ดตัวตรงไปห่อหุ้มร่างของชารอน ในขณะที่อีก 4 คนต่างพากันปูพรมแดงเป็นทางเดินให้กับนางตลอดทาง เมจอีกหลายคนเดินตามเก็บพรมที่ชารอนเดินผ่าน และคอยตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเท้าของนางจะไม่สัมผัสกับพื้น
แกรนด์เมจ 3 คนเดินประกบอยู่ข้างชารอนพร้อมกับรีบรายงานเกี่ยวกับดีพบลูในช่วงเวลาที่นางไม่อยู่ นางไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งได้ยินการรายงานเกี่ยวกับคลาสเรียนและความสามารถพิเศษจากปากของเมจคนที่สาม “เจ้าบอกว่าเจ้าหนูน้อยริชาร์ดมีความสามารถพิเศษในการวาดวงเวทย์งั้นรึ ? ”
สายตาของชารอนทำให้แกรนด์เมจชราหนวดขาวเกิดอาการสั่นเทาด้วยความประหม่าพร้อมด้วยเม็ดเหงื่อเย็น ๆ ที่ซึมตามร่างกาย สายตาที่จ้องมองมาของเลเจนดารี่เมจคล้ายกับงูที่กำลังจ้องมองกบ ความแตกต่างของพลังจิตทำให้เกิดความกดดันอย่างมากสำหรับเมจที่มีระดับต่ำกว่าจนทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับมังกรที่ยิ่งใหญ่
ชายผู้นี้ไม่ได้คิดมาก่อนว่าชารอนจะสนใจประเด็นเล็กน้อยเหล่านี้ แต่โชคดีที่เขาเตรียมรายงานเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทันใดนั้น เขาจึงส่งวงเวทย์เล็ก ๆ ที่ริชาร์ดวาดไว้ 2 ชิ้นให้กับนาง นางมองภาพวาดนั้นอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเดินอย่างช้า ๆ เพื่อดูรายละเอียดภายในภาพนั้นอย่างตั้งใจ
เหงื่อที่เย็นเฉียบยังคงไหลอย่างต่อเนื่องบนร่างกายของชายชราผู้นั้น ภาพวาด 2 ชิ้นนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาเพราะมันเป็นเพียงการสร้างวงเวทย์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น มันมีอยู่ในรูปแบบมาตรฐานและไม่มีอะไรแปลกใหม่ รูนที่อยู่ด้านในนั้นก็เป็นเพียงขั้นพื้นฐาน แม้รูปแบบของวงเวทย์นี้มีความชัดเจน แต่ดู ๆ แล้วก็ไม่ได้ถือว่ามีความคิดสร้างสรรค์เท่าใดนัก มันเป็นเพียงการสร้างพื้นฐานที่ริชาร์ดได้เรียนในชั้นเรียนเท่านั้น เหตุผลเดียวที่แกรนด์เมจกล่าวถึงริชาร์ดในรายงานนี้ ก็เพราะรู้ว่าชารอนสนใจในตัวเด็กคนนี้ถึงขนาดที่นางติดตามการทดสอบของริชาร์ดในวันที่มีการทดสอบร่างกายของเขาอย่างใกล้ชิดด้วยตัวนางเอง
เพราะนั่นมันเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเพลนหลัก ! เป็นที่รู้กันดีว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับเลเจนดารี่เมจ การที่เลเจนดารี่เมจยอมสละเวลาของตนเองเพื่อสังเกตริชาร์ดทำให้ชายชรารู้ได้ทันทีว่าชารอนสนใจริชาร์ดเป็นอย่างมาก เขาจึงได้จับตาดูริชาร์ดพร้อมกับรายงานสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับริชาร์ดให้นางรู้อยู่เสมอ
นี่ถือเป็นโอกาสสำคัญ แกรนด์เมจผู้นี้จึงพยายามเอาอกเอาใจในสิ่งที่ชารอนสนใจเพื่อที่ตนจะได้เป็นที่ชื่นชมของนาง เนื่องจากความสุขของชารอนเป็นส่วนสำคัญสำหรับเงินเดือนในแต่ละเดือนของพวกเขา
ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเพียงเล็กน้อยของริชาร์ดเท่านั้น แม้ว่าภาพวาดวงเวทย์ที่ปรากฏออกมาจะไม่มีข้อผิดพลาด ทว่านี่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไร ทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมที่เหมาะสมต่างก็สามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั้งหมดในการวาดขั้นพื้นฐานได้ ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการวาดวงเวทย์ไม่ใช่หรือ ?
ความสำเร็จของริชาร์ดในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของชายชราเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าภาพวาดนั้นมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับวงเวทย์ในตำราเรียน และข้อผิดพลาดก็น้อยมากจนน่าแปลกใจ ทว่าการวาดรูนก็ไม่ใช่การเล่นแร่แปรธาตุซึ่งไม่ได้เข้มงวดกับข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอยู่แล้ว เมื่อมีคนใดคนหนึ่งผ่านเกณฑ์แล้ว ความสมบูรณ์แบบอื่น ๆ ก็ถือว่าไม่มีประโยชน์อะไร หากข้อผิดพลาดเพียง 1 มิลลิเมตรไม่มีผลอะไร แล้วเหตุใดยังต้องดูความผิดพลาดขนาด 10 ไมโครเมตร*อีก ?
*1 ไมโครเมตร = 1 ใน 1,000,000 เมตร
หากริชาร์ดสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เกี่ยวกับการวาดวงเวทย์ขั้นพื้นฐานเหล่านี้ได้ แกรนด์เมจก็คงจะมองเขาต่างออกไป แต่อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 10 ก็ยังไม่มีความสามารถพอที่จะสร้างวงเวทย์ของตัวเองได้อยู่ดี
แม้เขาจะคิดเช่นนี้ ทว่าชารอนกลับใช้เวลามองดูภาพวาดอยู่นาน จนทำให้เขาตระหนักได้ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดเสียแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่เห็นถึงความพิเศษของภาพวาดเหล่านั้นอยู่ดี
“วิเศษจริง ๆ !” ชารอนเปล่งเสียงออกมาด้วยความดีใจ พร้อมกับยื่นมือออกมาตบเข้าที่บ่าของชายชราผู้นั้นที่ก้มตัวเพื่อรับมือของนางอย่างรวดเร็ว ทันทีที่มือขาวผุดผ่องราวกับหิมะสัมผัสเข้ากับบ่าของเขา แกรนด์เมจผู้นั้นรู้สึกราวกับถูกกรงเล็บมังกรตะปบเข้าอย่างจัง พลังที่แข็งแรงนั้นทำให้เขาไม่สามารถทรงตัวได้จนเซล้มลงที่พื้น
“โอ๊ะ !” ชารอนเปล่งเสียงออกมา นางโบกมือเพื่อสร้างม่านพลังป้องกันไม่ให้แกรนด์เมจล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นพร้อมกับยกเขาขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว “ข้าคงจะตื่นเต้นเกินไปจนลืมควบคุมพลังของตัวเอง”
“ไม่ได้หนักหนาอะไร ข้าไม่เป็นอะไรเลย!” แกรนด์เมจชราผู้นั้นรีบกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน
ชารอนโบกภาพวาดในมือทั้งสองพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจ้าจะสามารถมองเห็นความผิดปกติในภาพวาดทั้งสองนี้ได้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะฉลาดขึ้นตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ข้าเจอเจ้า! ช่วงนี้เจ้าไปกินอะไรมา ? ”
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านสอนข้าทั้งสิ้น” แกรนด์เมจยิ้มออกมา เขาทำเหมือนกำลังปฏิเสธเครดิตที่ได้รับ ทว่าก็ยังแสร้งทำเป็นว่าตัวเองรู้ถึงความพิเศษของภาพวาดทั้งสองนี้ การที่เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้จนถึงทุกวันนี้บ่งบอกให้เห็นว่าเขาไม่ใช่บุคคลธรรมดา ทว่าหัวใจของเขาในตอนนี้เต้นเร็วอย่างมาก เพราะเสียงหัวเราะของชารอนเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เลยว่ารายได้ของเขาในเดือนนี้จะต้องเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน !
ชารอนเปรียบเสมือนเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มีความใจร้อนและกระตือรือร้นอยากจะแบ่งปันความสุขของนาง นางอวดภาพวาดทั้งสองให้แกรนด์เมจดูพร้อมกับกล่าวว่า “ดูสิ ! ภาพวาดนี้มันแทบจะเหมือนกับตำราเรียนเลย” ซึ่งหลังจากที่นางเปล่งเสียงออกมา แกรนด์เมจทั้ง 3 คนก็มองไปที่ภาพวาดนั้นอีกครั้งด้วยสายตาเปล่งประกาย
“ความแตกต่างระหว่างสองภาพนี้และภาพมาตรฐานในตำราเรียนมีเพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นค่าที่แม่นยำอย่างมาก ความแม่นยำนี้!… มีเพียงแค่เมจระดับ 10 ขึ้นไปที่มีการฝึกฝนอย่างจริงจังเท่านั้นจึงจะสามารถมีความแม่นยำเช่นนี้ได้ แต่ริชาร์ดกลับทำมันได้ในขณะที่เขาอยู่เพียงแค่ระดับ 1 เท่านั้น !” ชารอนกล่าวต่อ
หนึ่งในแกรนด์เมจกล่าวขึ้นว่า “นี่เป็นความสามารถที่หากยากมาก เขามีพลังจิตที่โดดเด่น”
“มือของเขามีความคงที่อย่างมาก ไร้ข้อบกพร่องจริงๆ” อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมขึ้น
แกรนด์เมจคนที่สามนำภาพวาดส่งคืนให้ชารอนพร้อมกับหายใจเข้าลึก ๆ และเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงมหัศจรรย์ใจว่า “เราจะมีรูนมาสเตอร์**ในการวาดรูนแล้วหรือนี่ ?”
**รูนมาสเตอร์ = คลาสผู้จารึกหรือสร้างรูน เป็นคลาสที่มีความสำคัญมากในการสร้างรูนไนท์
“แน่นอน!” ชารอนยิ้มกว้าง
รูนไนท์เป็นการรวมพลังขั้นสูงสุดในหมู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าอาเชอร์ ทหารแนวหลัง ทหารแนวหน้า หรือแม้แต่เมจต่างก็มีความสามารถในการรองรับรูนบนร่างกายของพวกเขาทั้งนั้น รูนระดับกลางจะยกระดับศักยภาพของนักสู้ระยะประชิดได้เพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้รูนไนท์ระดับ 13 หรือ 14 มีความสามารถเทียบเท่ากับไนท์ธรรมดาในระดับ 17 ได้เลย
ระดับของพลังเป็นเสมือนดั่งพีรามิดในโลก ยิ่งมีระดับสูงขึ้นก็จะอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ผู้ที่มีระดับ 18 บนโลกนี้มีอยู่ไม่มาก พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือที่หลายกลุ่มต้องการตัว แต่ในความเป็นจริงบุคคลที่มีระดับสูงเช่นนั้นไม่มีใครเลือกที่จะเข้าร่วมกับกองทัพเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นเป้ากระสุน ในขณะที่รูนไนท์ไม่ได้ด้อยกว่าพวกบุคคลระดับสูงหรือที่เรียกว่าเชนต์*เหล่านั้นเลย อีกทั้งยังมีจำนวนที่มากกว่า พวกเขามีจำนวนมากพอที่จะพลิกสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างง่ายดาย
*เซนต์ = เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ที่มีระดับสูง ในนัวแลนด์จะใช้เรียกคนที่มีระดับ 18 ขึ้นไป
นับตั้งแต่รูนไนท์ได้ปรากฎตัวในสงคราม เหล่าแม่ทัพต่างก็กล่าวคติพจน์ไว้จนติดหูว่า มีเพียงรูนไนท์ที่จะต้านทานรูนไนท์ได้ และคนที่จะทำให้สิ่งมหัศจรรย์นี้ให้เกิดขึ้นได้คือ — รูนมาสเตอร์ —
วอริเออร์ระดับ 13 หรือ 14 มีจำนวนมากกว่าพวกเซนต์มาก ทว่าภายในสหพันธ์ศักดิ์สิทธิ์มีรูนไนท์เพียงพันกว่าคนเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด จักรวรรดิก็มีรูนไนท์ไม่เกิน 3000 คน
— อุปสรรค์สำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนี้ก็คือ รูนมาสเตอร์ —
รูนไนท์ถือเป็นกองกำลังเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ และเลเจนดารี่เมจคือตัวยับยั้งเชิงกลยุทธ์เหล่านั้น ส่วนรูนมาสเตอร์คือข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ อย่างไรก็ตามการจะเป็นรูนมาสเตอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจำเป็นต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ที่เก่งกาจ มีสามารถในการควบคุมมานาที่เหนือชั้น มีความนิ่งของมือในระดับที่เหนือมนุษย์ และมีความอดทนที่สูงมาก รูนไนท์จะถูกจำกัดจำนวนของรูนที่พวกเขาสามารถแบกรับไว้ได้ ดังนั้น รูนมาสเตอร์จำเป็นที่จะต้องลดขนาดวงเวทย์ลงให้เท่ากับขนาดฝ่ามือก่อนที่จะจารึกลงบนร่างกายของพวกเขา ภาพวาดของรูนมาสเตอร์ที่เก่งกาจจะมีขนาดเล็กเกินกว่าที่สายตาปกติจะมองเห็นได้ ซึ่งการจารึกลงไปนั้นมักจะใช้เวลาเป็นเดือน ๆ จึงจะประสบความสำเร็จ
แม้จะเป็น 1 ใน 3 ของจักรวรรดิของมนุษย์ แต่สหพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมีจำนวนรูนมาสเตอร์แค่หลักสิบคนเท่านั้น จำนวนนี้ได้รวมเหล่าผู้ฝึกหัดเข้าไปแล้วด้วย เหล่าขุนนางต่างพากันแย่งกันดูแลและบริการคนเหล่านั้นเป็นอย่างดี แม้แต่รูนมาสเตอร์ฝึกหัดเองก็สามารถเพิ่มกองรูนไนท์ขนาดเล็กให้กับตระกูลหรือกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มได้
ในทศวรรษนี้ รูนมาสเตอร์เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดจนไม่มีใครสามารถต้านทานได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่รู้กันคือ รูนมาสเตอร์ไม่ได้มีสถานะที่ต่ำไปกว่าเลเจนดารี่เมจเลย
ภาพวาดทั้งสองนี้ได้เผยคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของรูนมาสเตอร์ออกมานั่นคือ — ความแม่นยำ — ชารอนมีความสุขกับการที่ได้เห็นผลงานชิ้นนี้มาก หล่อนยิ้มกว้างพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะออกมาจนลั่นไปทั่วฟ้า
‘หญิงผู้นี้…’ แกรนด์เมจทั้ง 3 คนต่างก็คิดวิจารณ์นางอยู่ในใจ ทว่าภายนอกพวกเขาเหล่านั้นยังคงยิ้มให้นางต่อไป รอยยิ้มของพวกเขาเต็มไปด้วยอ่อนโยนราวกับว่า ว่าที่รูนมาสเตอร์ริชาร์ดผู้นี้เป็นลูกรักของตัวเอง
“ข้าหยุดหัวเราะไม่ได้เลยจริง ๆ !” ชารอนถอนหายใจก่อนที่จะกลับมาหัวเราะอีกครั้ง
ชารอนไม่ได้มีความปรารถนาที่จะมีกองทัพบนโลก และรูนไนท์ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางสนใจ แต่เป็นเพราะพวกเขาอยู่กับนางเป็นเวลานานจึงทำให้พวกเขารู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้หล่อนมีความสุขเช่นนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
เป็นเพียงเพราะในที่สุดนางก็มีโอกาสที่จะได้สอนรูนมาสเตอร์แล้วนั่นเอง ! ซึ่งนั่นหมายความว่านางสามารถเหยียบย่ำรูนมาสเตอร์คนอื่น ๆ ในโลกให้อยู่ภายใต้เท้าของนางได้ ในขณะที่ชารอนมีเมจที่มีความสามารถเป็นศิษย์ของนางจำนวนมากมาย แต่ก็ยังไม่มีใครที่ก้าวถึงคลาสรูนมาสเตอร์ได้จนถึงตอนนี้ นางเคยมีเรื่องขัดแย้งกับรูนมาสเตอร์คนหนึ่งก่อนหน้านี้ และตอนนี้เขากลายเป็นสมบัติประจำจักรวรรดิเซเคร็ดทรีในฐานะเกรทรูนมาสเตอร์ไปแล้ว ซึ่งสถานะของเขาทำให้แม้แต่เลเจนดารี่เมจอย่างนางก็แตะต้องเขาไม่ได้ บัดนี้ความขุ่นเคืองอันยาวนานของนางจะได้รับการเติมเต็มแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อเป้าหมายแห่งความสุขของนางซึ่งก็คือริชาร์ดอย่างไรดี เพราะความปรารถนาของนางถือว่าสูงมาก ทว่าก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงถึงสิ่งนั้น นั่นอาจจะเป็นการสร้างความสูญเสียทางความสุขของชารอนได้
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เลเจนดารี่เมจอย่างนางจะหยุดหัวเราะได้ ทว่าในที่สุดนางก็หยุดหัวเราะและหันมาด้วยท่าทางเคร่งขรึมพร้อมกับกล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สนับสนุนริชาร์ดอย่างเต็มที่ ทำให้เขากลายเป็นรูนมาสเตอร์ให้ได้ และข้าอยากให้เก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับ นอกจากพวกเจ้าแล้ว อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด” ชารอนกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
แกรนด์เมจและคนอื่น ๆ ต่างก็ยังคงพากันวิจารณ์นางอยู่ในใจ เพราะเสียงหัวเราะอันดังของชารอนก็เปล่งออกมาดั่งสนั่นไปทั่วหอคอยอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็ระงับอารมณ์ของตัวเอง แล้วจึงประกาศให้คนทั้งโลกรู้ด้วยท่าทางเคร่งขรึม ท่าทางของนางในตอนนี้ช่างยากเกินกว่าที่ผู้อื่นจะปรับตามได้ทัน ถึงแม้ว่าภายในใจของพวกเขาจะคิดเช่นนั้น ทว่าภายนอกของพวกเขาต่างก็มองไปที่หล่อนพร้อมกับรับฟังคำสั่งด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมและตั้งใจ
…
วันนี้เป็นวันที่ใกล้จะถึงสิ้นเดือนแล้ว ริชาร์ดเดินทางกลับไปยังพื้นที่ของตัวเองในตอนเย็น ทันใดนั้น เขาก็พบว่าหญิงสาวคนเดิมมายืนรอเขาที่ประตูอย่างเงียบ ๆ นางยื่นใบเรียกเก็บเงินให้เขาอย่างทุกครั้ง และแน่นอนว่าริชาร์ดยังคงไม่ถามชื่อนางอีกเช่นเคย
ริชาร์ดนำเหรียญตราใส่ลงไปในอุปกรณ์แปรธาตุแล้วอ่านรายละเอียดภายในใบเรียกเก็บเงิน และก็เป็นไปอย่างที่เขาคิด การเรียนรู้เวทมนตร์ของเขาแผ่ขยายออกไปมากขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินลิมิตของเขา นั่นหมายความว่าเงินที่เขาเก็บไว้ในเดือนก่อนไม่หลงเหลือแล้ว บัดนี้ ถึงเวลาที่เขาต้องเลือกแล้วว่าจะชะลอการพัฒนาเวทมนตร์ของตัวเองไว้หรือจะหาเงินเพิ่ม อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากทุนการศึกษาที่คงที่ เขาก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการหาเงินเพิ่มเลยและเมจระดับ 1 เช่นริชาร์ด เป็นเมจอย่างเป็นทางการในโลกภายนอก แต่ทว่าภายในดีพบลูผู้ที่อยู่ระดับ 3 หรือต่ำกว่าก็ยังถือว่าเป็นเพียงผู้ฝึกหัดเท่านั้น
ขณะที่ริชาร์ดกำลังรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้น สายตาของเขาก็ไปสะดุดกับช่องรายรับอีกช่องหนึ่งเข้า
— ความสุขของชารอน 500,000 เหรียญ
ความสุขของเลเจนดารี่เมจช่างมีมูลค่าสูงจริง ๆ ! ในเวลานั้นเอง ความคิดของริชาร์ดก็ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นความว่างเปล่าขึ้นอย่างฉับพลัน…