นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 129 การต่อสู้ ตอนที่ 2
หลังจากที่ง้างคันธนูไปด้านหลังอย่างสุดแรง โอล่าก็ปล่อยออกไปอย่างเต็มกำลัง โอเกอร์ทั้ง 2 ตนเดินออกมาด้วยน้ำเสียงของฝีเท้าที่หนักแน่นพร้อมด้วยหินก้อนใหญ่ในมือที่มีน้ำหนักหลายตัน มันได้ทำการกลิ้งหินก้อนใหญ่นั้นด้วยพลังทั้งหมดของมันเพื่อให้หินก้อนนั้นกลิ้งไปทับเหล่ากองทัพที่กำลังใกล้เข้ามา
พรีสต์ทั้ง 2 คนหันกลับมามองก่อนที่ใบหน้าของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความตกใจ ในเวลานี้ก้อนหินก้อนใหญ่ได้พุ่งตรงมาที่พวกเขาแล้ว ! เสียงของมันดังราวกับเสียงฟ้าร้องและลมที่ถูกส่งออกมาจากแรงของหินได้ปะทะเข้ามาที่พวกเขาเต็มแรง
ในเวลานี้สำหรับคนที่แข็งแกร่งอย่างเซอร์เมนต้าสามารถที่จะทนรับหินก้อนนั้นได้ ทว่าหากเหล่าไนท์ฝึกหัดถูกหินก้อนนี้ชนเข้า พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนและดูเหมือนว่าหินก้อนนี้จะพุ่งเป้าไปที่พรีสต์และเหล่าไนท์ฝึกหัดเสียด้วย ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า หินก้อนใหญ่ก็ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับเหล่ากองทัพจนกระเจิดกระเจิงกันไป โดยต่างก็พากันวิ่งหนีกระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่จนเกิดความวุ่นวายอย่างหนักขึ้น บางคนถูกกระแทกจากคนอื่น ๆ จนล้มลงและทำให้พวกเขาต้องกลับมาอยู่ในเส้นทางที่หินก้อนนั้นกลิ้งมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
โอเกอร์ทั้ง 2 ตนเปล่งเสียงคำรามออกมาด้วยความดุร้าย พวกมันกระทืบเท้าลงกับพื้นอย่างสุดแรงเท่าที่จะสามารถทำได้ซึ่งดูเหมือนว่านั่นจะทำให้ความลาดชันของพื้นเกิดแรงสั่นสะเทือนมากขึ้นจนทำให้ก้อนหินเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิมเล็กน้อยและดูเหมือนว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มเลวร้ายลงมากกว่าเดิม
โอล่าใช้เวลานั้นหรี่ตาให้แคบลงเพื่อเล็งขณะที่ง้างคันธนูในมือของเขาอีกครั้งก่อนส่งลูกธนูออกไป มานาสีเขียวอ่อนที่เคลือบเข้ากับลูกธนูนั้นทำให้เกิดการล็อกเป้าหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น
เซอร์เมนต้าไม่ได้สนใจห้ามลูกน้องของเขาให้หยุดตื่นตระหนกทว่าเขาเลือกที่จะพุ่งตัวออกไปข้างหน้าเพื่อหยุดหินก้อนนั้นไว้ในทันที ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นแสงสีแดงปรากฏขึ้น นั่นเป็นไฟร์บอลที่ถูกส่งออกมาจากป่าลึก และมันก็กำลังพุ่งเป้าไปยังกลุ่มทหารที่โหวกเหวกเสียงดังอยู่ในตอนนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาทีไฟร์บอลลูกนั้นก็พุ่งเข้าหาเหยื่อพร้อมด้วยเปลวเพลิงเผาไหม้ที่กลืนกินพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เขาเปล่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความโมโหและพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อหยุดยั้งไฟร์บอลที่ถูกปล่อยออกมากลางอากาศ ! คาถาระเบิดออกทันทีที่มันชนเข้ากับโล่ของเขาและส่งคลื่นเพลิงเวทมนตร์กระจายออกไปทั่วทุกที่ เมนต้าจับโล่แน่นโดยที่ไม่ถอยหลังให้กับพลังที่ถูกระเบิดออกมาแม้แต่ก้าวเดียวก่อนที่จะใช้พลังของเขาผลักเพลิงที่ถูกส่งมาให้เด้งกลับไปอย่างสุดแรง
โชคร้ายที่ขอบโล่ในมือของเขาถูกหลอมจนเปลี่ยนรูปไปเล็กน้อยหลังจากที่ถูกคลื่นแห่งความร้อนกระแทกเข้าอย่างแรง ทว่าถึงแม้เมนต้าจะต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงของไฟร์บอลแต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้น หูของเขาก็ได้ยินเสียงลูกธนูที่กำลังพุ่งเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว
ไนท์วิ่งออกมาจากด้านหลังโล่เพื่อมองดูลูกธนูยาวที่ถูกส่งออกมาและผ่านร่างของเขาไปก่อนที่มันจะปักเข้าที่หลังของพรีสต์อาวุโสเข้าอย่างจัง ! ปลายแหลมของลูกธนูเจาะเข้าที่ด้านหลังของพรีสต์ก่อนที่จะทะลุออกมาทางด้านหน้าอย่างโหดเหี้ยม นั่นทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในเวลานี้อวัยวะภายในร่างกายของพรีสต์ได้รับความเสียหายอย่างมาก และทันทีที่ลูกธนูผ่านทะลุร่างไปนั้น พรีสต์ก็ล้มตัวลงกับพื้นและแน่นิ่งไป
— พรีสต์ผู้นั้นถูกสังหารแล้ว ! —
“บัดซบ !” เซอร์เมนต้าสบถออกมาขณะที่มีเพลิงลุกขึ้นมาในดวงตาของเขาอย่างโกรธแค้น เขาดึงดาบของตัวเองก่อนจะเปล่งเสียงร้องจนเกือบเป็นการตะโกนและวิ่งตรงไปที่ทางลาดชันทันที เหล่าไนท์ฝึกหัดต่างพากันดึงอาวุธของตัวเองออกมาก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะเปล่งแสงแห่งพลังที่หลากหลายอย่างรวดเร็ว พวกเขาพุ่งตัวเข้าหาผู้ซุ่มโจมตีด้วยความเร็วโดยมีไนท์ฝึกหัดปรมาณ 3 คนสามารถเร่งความเร็วจนตีคู่มากับเมนต้าที่พุ่งตัวออกมาก่อนหน้านี้ได้
ทว่าทันทีที่พวกเขาพุ่งตัวเข้ามาและได้เห็นริชาร์ดอยู่ในป่า มือทั้ง 2 ข้างของพวกเขาก็เกิดอาการอ่อนแรงลงอย่างฉับพลันเพราะในเวลานั้นริชาร์ดได้ร่ายคาถาของเขาจบแล้ว
ลมหนาวเย็นถูกส่งออกมาจากมือของริชาร์ดและในเวลาเดียวกันน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนก็เริ่มก่อตัวขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเมนต้าก็ตระหนักขึ้นมาได้ทันทีว่านี่คือคาถาระดับ 4 เขาจึงรีบตะโกนบอกทุกคนให้ระวังก่อนที่จะหยุดก้าวเท้าในทันที เมนต้าดึงโล่ขนาดใหญ่ออกมาเพื่อป้องกันไว้ตรงหน้าเขาก่อนที่จะหลบอยู่ด้านหลังของมัน ซึ่งจากการป้องกันในครั้งนี้นั้น มันสามารถที่จะทำให้เขาหลบหนีจากคาถาได้โดยที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหล่าไนท์ฝึกหัดต่างพากันเคลื่อนตัวมาอยู่ด้านหลังการป้องกันอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเอง ทว่ามีหนึ่งในนั้นที่ไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งของเมนต้าได้ทันเวลาโดยยังคงวิ่งตรงไปด้านหน้าท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ริชาร์ดร่ายออกมาอย่างรวดเร็ว
ลมพัดผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่น้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งเข้าใส่โล่ขนาดใหญ่ของเมนต้าอย่างแรง แรงกระแทกนั้นได้สร้างเสียงสะท้อนดังไปทั่วก่อนที่เกล็ดน้ำแข็งบางส่วนจะแทรกผ่านโล่ของเขาเข้ามาแล้วพุ่งเข้าใส่เหล่าไนท์ฝึกหัดที่อยู่รอบตัวของเขา แน่นอนว่าในตอนนี้ได้เกิดเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังโหยหวนไปทั่ว
เมื่อลมหยุดลง ร่างของเมนต้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะขนาดใหญ่ เขาสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อให้มันหลุดออกไปทว่าถึงแม้เขาจะสามารถสะบัดมันให้หลุดออกไปจากตัวได้แต่บนหน้าของเขาก็ยังคงมีความเย็นปกคลุมอยู่ดี เขารีบหันกลับไปมองคนรอบตัวก่อนที่จะพบว่าเหล่าไนท์ฝึกหัดทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและมีบางส่วนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ในเวลานี้เกราะของพวกเขาที่ถูกเลือกมาเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวง่ายได้สร้างบทเรียนราคาแพงให้กับพวกเขาแล้ว และเมื่อพวกเขาพยายามมองรอบ ๆ หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ก็พบว่าร่างของเมจที่ซุ่มโจมตีก่อนหน้านี้นั้นหายไปแล้ว !
“เหลือไว้ที่นี่ 10 คน พาคนที่ได้รับบาดเจ็บลงไปโดยปกป้องพรีสต์ไปด้วย ส่วนคนที่เหลือตามข้ามา เมจผู้นั้นร่ายคาถาไป 2 คาถาแล้ว เพราะงั้นน่าจะยังเหลือคาถาไฟร์บอลอีกแค่ 2 ครั้ง พวกเจ้าอย่าได้กลัว จงจัดการกับพวกมัน !” เมนต้าคำรามออกมาก่อนที่เหล่าไนท์ฝึกหัดจะนำทหารคนอื่น ๆ พุ่งตรงเข้าไปในป่าและตามรอยที่ริชาร์ดทิ้งไว้เพื่อกำจัดเขา
จากการเคลื่อนไหวเห็นได้ชัดว่าทหารราบประเภทชุดเกราะหนักไม่สามารถที่จะเคลื่อนตัวได้เร็วมากพอที่จะจับศัตรูของพวกเขาได้ ทว่าหน่วยลาดตระเวนเกราะเบามีความเร็วมากพอที่จะตามหาตัวริชาร์ดได้ และหลังจากที่ติดตามร่องรอยมาหลายกิโลเมตร ไนท์ฝึกหัดคนหนึ่งที่มีความชำนาญและคล่องแคล่วเกี่ยวกับการต่อสู้บนภูเขาก็ได้วิ่งกลับมารายงานเมนต้าว่าพวกเขาค้นพบฐานทัพแล้ว และในตอนนี้ผู้บุกรุกก็ได้หนีเข้าไปในพื้นที่ที่มีกำแพงสูงแห่งนั้น
เมนต้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงพอใจว่า “ไอ้พวกบ้านั่นหนีกลับเข้าไปที่รังของตัวเองงั้นรึ ? เยี่ยม ! พวกเจ้าตามข้ามา ถึงเวลาที่พวกเราจะกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก !”
เพียงครู่เดียวกองกำลังของเมนต้าก็เดินทางมาถึงก่อนจะล้อมฐานทัพเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ไนท์ไม่ได้เกรงกลัวกับการโจมตีที่จะเกิดขึ้นเลยโดยเดินสำรวจไปรอบ ๆ ฐานก่อนที่จะเดินกลับมาทางประตูทางเข้าอีกครั้ง เขาหันหน้าไปทางพรีสต์ที่มีอายุน้อยกว่าก่อนจะถามขึ้นว่า “นี่คือฐานของผู้บุกรุกใช่ไหม ?”
พรีสต์ผู้นั้นมองดูแผนที่ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ “ใช่ นี่คือสถานที่ตามคำพยากรณ์ !”
เมนต้าพยักหน้า “ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังและอย่าใช้พลังของเจ้าเด็ดขาด ทหารของข้ายังต้องการเจ้าเพื่อช่วยชีวิตของพวกเขา ข้าจะสั่งคนให้ดูแลเจ้าไว้”
หลังจากนั้นกลุ่มทหารขนาดเล็กก็พาพรีสต์ถอยกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง ในเวลานี้เมนต้าไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับพรีสต์ผู้นี้เพราะพรีสต์มีสถานะสูงและการสูญเสียผู้ที่มีสถานะสูงเช่นนี้เป็นเรื่องยากที่จะกลับไปอธิบายกับทางวิหารได้ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถจับผู้บุกรุกเหล่านี้กลับไปยังวิหารเพื่อให้ได้ได้รับการตัดสินจากเทพเจ้า ทว่านั่นก็เป็นการชดเชยบาปของพวกเขาเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรในเวลานี้เขาก็ไม่คิดว่าพรีสต์ที่มีระดับแค่ 3 จะมีคาถามากมายที่จะมีประโยชน์สำหรับพวกเขาเท่าไหร่นัก
กองทัพของเขารวมตัวกันด้วยความพร้อม เมนต้ากำลังจับจ้องไปยังฐานที่อยู่ไกลออกไป 10 กว่าเมตร กำแพงสูงนั้นถูกสร้างมาจากหินซึ่งมีความสูงราว ๆ 4 เมตร ทางเข้ามีประตูไม้หนา ๆ 2 บานซึ่งปิดไว้อย่างแน่นหนา มีหอคอยยิงธนูอยู่ด้านข้างประตูทางเข้าโดยมีอาเชอร์คอยประจำการอยู่ด้านบน นักธนูเหล่านั้นแสดงสีหน้าที่น่าเกรงขามออกมาซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันโดดเด่นที่พวกเขามี
“บ้าเอ้ย ! พวกมันมีไนท์อยู่ด้วย” เมนต้าสบถขณะใช้สายตาจ้องมองไปที่ริชาร์ดที่อยู่ด้านบนและตระหนักขึ้นมาได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับเมจที่ซุ่มโจมตีพวกเขาในป่า
ในเวลานี้ริชาร์ดอยู่ในตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก การปรากฏตัวของเขาทำให้เมนต้าแทบอยากจะพุ่งลูกธนูไปที่ริชาร์ดซะเดี๋ยวนั้น ทว่าเมจผู้นี้เป็นผู้ที่สามารถหลบหนีออกจากป่าได้อย่างรวดเร็ว นั่นจึงทำให้เขาไม่มั่นใจว่าความสามารถทางด้านธนูที่เขามีจะแม่นยำมากพอที่จะกำจัดเขาได้ในครั้งเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นที่ด้านบนหอคอยข้าง ๆ เมจผู้นั้นยังมีวอริเออร์อยู่ด้วย ความสูงของหอคอยเมื่อวัดจากระดับสายตาแล้วน่าจะสูงมากกว่า 150 เมตร ซึ่งนั่นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถจัดการเมจผู้นั้นได้ด้วยลูกธนูดอกเดียว
เซอร์เมนต้าลูบเคราของตัวเองพลางใช้ความคิดก่อนที่จะปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาบนใบหน้า เขาโบกมือใหญ่ ๆ ไปด้านหน้าและเอ่ยขึ้นว่า “กระจายออกเป็น 3 กลุ่ม ลงมือโจมตีได้ !”