นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 119 เคราะห์ร้าย ตอนที่ 2
ทหารในชุดเกราะสีเงินระยิบระยับโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ตามเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นนั้น เขาก้าวยาว ๆ ออกมา ตามด้วยคนอื่น ๆ อีกหลายสิบคนที่กรูกันออกมาตามลำดับ พวกเขาแบ่งออกเป็นแถวเท่า ๆ กันเพื่อขนาบข้างโฟลว์แซนด์และไนท์ของนางเป็นแนวโค้ง
อย่างไรก็ตาม ไฟร์บอลที่ลุกโชนถูกยิงออกมาจากในป่าทันที มันพุ่งตรงไปยังทหารที่อยู่ไกลที่สุด ‘เซอร์โคโจ’ คนนี้ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที “แย่แล้ว พวกมันมีเมจมาด้วย ! เข้าตั้งแนวป้องกันเดี๋ยวนี้ !”
ด้วยคาถาที่ปล่อยออกมาในระยะใกล้ทำให้การปรับเปลี่ยนรูปขบวนของพวกเขานั้นไม่ทันการ หากพวกเขาวิ่งอย่างดุเดือดจะทำให้ตกเป็นเป้าหมายเคลื่อนที่สำหรับฝ่ายตรงข้าม พวกเขาจึงทำได้แค่ใช้เวลาระหว่างการร่ายคาถาต่อไปของเมจเพื่อปรับตำแหน่งของพวกเขาและตัดสินใจว่าจะล่าถอยหรือเดินหน้า
การหมอบต่ำอยู่ข้างหลังโล่ของใครสักคนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับไฟร์บอล ส่วนผู้ที่ไม่สามารถหลบได้นั้นทำได้เพียงสวดมนต์ขอพรจากพระเจ้าเท่านั้น โคโจคุกเข่าลงทันที ร่างกายของเขาโค้งลงขณะที่ฝังดาบลงบนพื้นด้านหน้า คมดาบกว้างและแขนของเขาทำหน้าที่ปกปิดอวัยวะส่วนใหญ่ที่สำคัญของเขาในขณะที่เขารวบรวมพลังป้องกันไปรอบ ๆ ตัว
อย่างไรก็ตาม ไฟร์บอลลูกที่ 2 ยิงออกมาจากป่าลึกก่อนที่ลูกแรกจะถึงเป้าหมายด้วยซ้ำ ! มือของไนท์สั่นในทันที ‘ฝั่งผู้บุกรุกยังมีเมจอีกคน !’ เขาคิดในใจ ช่วงเวลาระหว่างไฟร์บอล 2 ลูกนั้นห่างกันเพียงเสี้ยววินาที นั่นหมายความว่าเมจ 2 คนร่ายคาถาขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
เขาไม่มีเวลาสำหรับคิดไตร่ตรองมากนัก เมื่อไฟร์บอลลูกแรกได้ระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นแล้ว คลื่นความร้อนที่ลุกโชนก็กระจายไปทั่วพื้นที่ปกคลุมตัวเขาและเกือบครึ่งหนึ่งของกองทัพเขา โคโจได้ยินน้ำเสียงเยือกเย็นดังอยู่ท่ามกลางเสียงระเบิด “เซอร์โคโจ ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ หากข้าไม่ทราบตำแหน่งของเจ้า ข้าก็คงไม่รู้ถึงพลังของเจ้าได้” ฝ่ายตรงข้ามกำลังพูดด้วยภาษาท้องถิ่นซึ่งเป็นภาษาเดียวกับพวกเขา ทว่าการเว้นจังหวะนั้นน่าเบื่อและน้ำเสียงของเขาก็ราบเรียบไม่มีชีวิตชีวา นี่คือคาถาแปลภาษาของอีกฝ่าย นั่นทำให้ฝ่ายโคโจมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บุกรุกจากเพลนอื่น !
โคโจคำรามด้วยความโกรธขณะที่ไฟร์บอลอีก 2 ลูกได้ถูกยิงเพิ่มออกมาจากป่าในเวลาเดียวกัน ไฟร์บอลทั้ง 4 ถูกวางตำแหน่งไว้เป็นสี่เหลี่ยมรอบตัวโคโจโดยมีเขาเป็นศูนย์กลางของการระเบิดที่จะบรรจบกัน การควบคุมแบบนั้นเป็นสิ่งที่เหนือชั้นมาก ไฟร์บอลลูกแรกอยู่ในตำแหน่งไกลที่สุดในขณะที่ลูกสุดท้ายอยู่ใกล้เข้ามามากกว่า
ในเวลาเพียงสองเฮือกของลมหายใจ พื้นที่ทั้งหมดก็ลุกเป็นไฟ เหล่าทหารที่อยู่ไกลและรวดเร็วที่สุดรีบวิ่งออกจากระยะเปลวไฟที่ลุกโชน ทว่าพวกเขาก็ยังถูกเผาไหม้โดยเปลวไฟเวทมนตร์อยู่ดี ในตอนนี้พวกเขาต่างก็กลิ้งลงไปตามพื้นและส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา
และสำหรับกลุ่มที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางของการระเบิดนั้นไม่มีสัญญาณการดิ้นรนจากพวกเขา
ตรงศูนย์กลางของทั้งหมด โคโจทนทุกข์ทรมานจากคลื่นความร้อนมหาศาลที่พุ่งเข้าใส่เขาทีละลูกอย่างสาหัส ความร้อนระอุจากไฟร์บอลทั้ง 4 ลูกโจมตีเขาในเวลาห่างกันน้อยกว่า 1 วินาที ทำให้พลังงานของเขาลดไปเกือบหมด
เมื่อการระเบิดครั้งสุดท้ายผ่านไป ไนท์ผู้นี้พยายามเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสจากการเผาไหม้ที่เขาโดน เขาพยายามดิ้นรนเพื่อยืนขึ้นให้ได้ขณะที่ใบหน้าก็เงยขึ้นจนมองเห็นริชาร์ดกำลังก้าวเท้ามาตรงหน้าเขาโดยมีไฟร์บอลอีกลูกที่ถูกร่ายอยู่ในมือ ริชาร์ดขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 20 เมตร
“เจ้าบ้า ! ข้อขอสาปแช่งเจ้า !” โคโจตกใจมากจนขนลุกไปทั้งตัวแล้วในตอนนี้ เขาไม่มีเวลาพิจารณาอีกต่อไปว่าในป่ามีเมจอยู่กี่คนกันแน่ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพุ่งเข้าหาเขาโดยตรงในสนามรบ และคนผู้นี้ก็มีคาถาที่รุนแรงถึงความตายอยู่ในมือด้วย !
ริชาร์ดดันมือของเขาไปข้างหน้าเล็กน้อยทำให้ไฟร์บอลพุ่งเข้าหาร่างของไนท์อย่างรวดเร็ว โคโจคำรามอย่างเดือดดาลและดึงเอาพลังงานของเขาออกมาอีกครั้งขณะที่ยกดาบเล่มใหญ่ขึ้นสูงและฟาดมันลงในพริบตาเพื่อปะทะกับคาถาที่กำลังพุ่งเข้ามา
ไฟร์บอลระเบิดและแรงของการปะทะทำให้เขากระเด็นขึ้นไปกลางอากาศ พลังงานแผ่ออกมาจากเกราะของเขาซึ่งมันกะพริบอยู่สองสามครั้งก่อนที่จะดับไปอย่างสมบูรณ์ การโจมตีไฟร์บอลโดยตรงนั้นทำได้เพียงแค่ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากว่าจะมีอาคมหรือใช้พลังงานมากพอจึงจะลดพลังของเวทมนตร์ลงได้ ด้วยเหตุนั้นทำให้วอริเออร์ต้องพึ่งพาชุดเกราะและโล่กำบังในการต้านทานต่อคลื่นความร้อนนั้น
โคโจล้มลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง หมวกของเขาหลุดออกมาเผยให้เห็นใบหน้าที่ไหม้เป็นสีดำแดง ส่วนเส้นผมและเคราดก ๆ ของเขานั้นก็ได้กลายเป็นเถ้าถ่านเนื่องจากอุณหภูมิสูงอย่างสมบูรณ์
แม้จะมีทักษะหรือสกิลการต่อสู้มากมาย แต่ไนท์ก็ไม่สามารถต้านทานไฟร์บอล 5 ลูกที่โจมตีมาอย่างต่อเนื่องของริชาร์ดได้ เหตุผลเดียวที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้เป็นเพราะพลังงานสำรองอันยอดเยี่ยมที่เขามี และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะชุดเกราะเหนือชั้นที่เขาสวมใส่อยู่นั่นเอง
เขาพยายามดิ้นรนยืนขึ้นอีกครั้งและจ้องมองริชาร์ดราวกับสิงโตที่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงดวงตาข้างซ้ายของเขาเท่านั้นที่ยังคงลืมอยู่ขณะที่เลือดไหลพรากอยู่เต็มดวงตาข้างขวา เขาแทบไม่สามารถทำให้ตัวเองยืนได้อย่างมั่นคงขณะพยายามพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เหน็บแนม “ไอ้คนสารเลวจากเพลนต่างถิ่น อย่าเพิ่งคิดว่าเอาชนะข้าได้ ! เจ้าจะต้องตายในเร็ว ๆ นี้ เข้าใจไหม !”
ริชาร์ดยกมือขึ้นและฟาดกลางอากาศขณะที่พูดขึ้นอย่างเย็นชา “งั้นเจ้าล่วงหน้าไปก่อนก็แล้วกัน”
โคโจดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างทว่าในพริบตาเดียวนั้นร่างที่งดงามของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็ปรากฏขึ้นจากในป่า การเคลื่อนไหวของนางรวดเร็วและเงียบเชียบ ร่างกายที่ทำมุม 45 องศากับพื้นดินทำให้นางดูเหมือนสายฟ้าฟาดที่น่ากลัว นางเคลื่อนตัวไปด้านหลังโคโจโดยมีเชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์ส่องแสงวาบอยู่ในมือ
ทันใดนั้น หัวของโคโจกระเด็นขึ้นสูงก่อให้เกิดเลือดเป็นแนวโค้งบนท้องฟ้า อย่างไรก็ตามร่างกายของเขายังยืนตรงอยู่เหมือนเดิม มันปฏิเสธที่จะล้มลงกับพื้นแม้เลือดจะไหลทะลักออกมาจากคอก็ตาม
ตัวของวอเตอร์ฟลาวเวอร์เองก็เดินโซเซอยู่ครู่หนึ่งจากการโจมตีก่อนหน้า การเคลื่อนไหวอันน่าทึ่งก่อนหน้านี้นั้นใช้พลังของนางไปมากกว่าครึ่ง ซึ่งเมื่อนางเริ่มฟื้นตัวได้เล็กน้อยก็ได้ยินเสียงตะโกนของริชาร์ดที่ดังขึ้นในทันที “หาที่กำบัง !”
หลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตรายทำให้นางมีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าตัวเองควรกระโดดหนีทันที นางพลิกตัวไปมาสองสามครั้งและไปอยู่หลังต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว หอกสั้น 2 เล่มถูกขว้างมาและปักลงในพื้นดินบริเวณที่นางเพิ่งยืนอยู่ก่อนหน้านี้ไม่นาน
“ยังมีศัตรูอยู่ที่นี่อีก ! ฆ่าพวกมันให้หมด !” ริชาร์ดคำรามเสียงดังและเลือกที่จะไปต่อแทนที่จะล่าถอย เขาก้าวไปข้างหน้าโดยก้าวยาวตรงไปทางเหล่าทหารที่โผล่ออกมาจากป่า ขณะก้าวไปข้างหน้านั้นเขาก็เริ่มร่ายคาถาของเขาแล้ว และเมื่อเขาเดินผ่านโฟลว์แซนด์ เขาก็ชี้มือข้างขวาไปข้างหน้า พลังเวทมนตร์อันแรงกล้ากระจายไปทั่วทุกพื้นที่ก่อนที่หมูป่าดุร้าย 4 ตัวที่ถูกเรียกออกมาในป่าจะพุ่งเข้าหาเหล่าทหารของโคโจอย่างโหดร้าย
สิ่งมีชีวิตทั้ง 4 มีน้ำหนักต่อตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม ทว่าพวกมันวิ่งอย่างดุเดือดด้วยพลังที่น่ากลัวราวกับมีน้ำหนักตัวเท่าสายไหม พวกมันมีเขี้ยวยาวและกระดูกแหลมคมอยู่ที่หลังซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาวุธที่อันตรายทั้งสิ้น กีบเท้าที่แข็งยิ่งกว่าหินของพวกมันนั้นทำให้โลกเกิดเสียงดังก้องราวกับฟ้าร้องขณะที่พวกมันพุ่งตัวข้ามป่าไป
แม้แต่ตัวโคโจเอง หากว่าเขายังอยู่ก็คงจะต้องรับมือกับหมูป่าเหล่านี้อย่างเอาจริงเอาจัง แน่นอนว่าทหารระดับ 5 หรือ 6 ที่ยังเหลืออยู่นั้นไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้แม้จะเป็นแบบตัวต่อตัวก็ตาม เมื่อพวกเขาต้องปะทะกับหมูป่าพวกนี้ พวกเขาก็ค้นพบได้ในทันทีว่าสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์เหล่านี้จัดการได้ยากกว่าที่คาดไว้ หมูป่าที่เหี้ยมโหดทุกตัวเปล่งประกายแวววาวและปกคลุมไปด้วยรังสีอันศักดิ์สิทธิ์ พวกมันกลายเป็นภัยคุกคามระดับใหม่หลังจากได้รับพรเพื่อเสริมพลัง
โฟลว์แซนด์ยังคงนิ่งเงียบขณะร่ายพรด้วยเพียงแค่การโบกมือของนาง นางไม่ได้ร่ายคาถาออกมาเสียงดังเลยตั้งแต่ในตอนแรก ดูเหมือนว่านางสามารถร่ายคาถาต่าง ๆ ได้อย่างเงียบเชียบ พลังสำรองของนางก็ยังคงดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่ริชาร์ดมองหมูป่าทั้ง 4 ของเขาพุ่งเข้ารบกวนการต่อสู้ของศัตรูนั้น เขาก็ผ่อนลมหายใจออกมาได้ในที่สุด ทว่าทุกอย่างตรงหน้าเขากำลังกลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็วจนร่างกายที่อบอุ่นและนุ่มนวลของเขาเกือบจะล้มลง โชคดีที่ขาของเขาแข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของเขาไว้ได้ หลังจากนั้นไม่นาน ความเย็นยะเยือกของพลังจิตวิญญาณก็ค่อย ๆ ซึมอยู่ในร่างกายของเขา และมานาที่เสียไปก็เริ่มฟื้นตัวเร็วขึ้นแล้วเช่นกัน
คาถาระดับ 3 — ไวทัลลิตี้ มันมาได้ทันเวลาพอดิบพอดี