นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 113 สัญญา
ลีน่าขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาล้อเล่น ชิลเลอร์คงไม่ได้พูดโกหก
ชิลเลอร์มองไปที่ริชาร์ดและถอนหายใจออกมา “ข้าคือคนที่รับเลี้ยงวอเตอร์ฟลาวเวอร์ นางจึงเปรียบเสมือนลูกสาวของข้า แน่นอนอยู่แล้วว่าข้าอยากให้นางถูกเลือกและออกไปจากที่นี่ แต่ข้าก็จำเป็นต้องบอกท่านว่านอกจากความบริสุทธิ์และร่างกายของนางที่จะเป็นประโยชน์ต่อท่านนั้น อย่างอื่นนางไม่คู่ควรกับสัญญาวิญญาณหรอก”
อย่างไรก็ตามริชาร์ดได้เตรียมสัญญาออกมาแล้ว “ข้าตรวจสอบนางแล้ว นางสามารถจารึกรูนระดับ 4 ได้และบางทีอาจได้ถึงระดับ 5 ด้วยซ้ำ นี่ถือเป็นอะไรที่น่าทึ่ง ข้าก็เลยคิดว่าไม่ว่านางจะมีอบิลิตี้ทางสายเลือดหรือไม่นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป”
“รูนระดับ 5 อย่างนั้นรึ ?” ทั้งลีน่าและชิลเลอร์ต่างก็ตกใจ เพียงแค่รูนระดับ 4 ก็ทำให้นางเป็นรูนไนท์ระดับ 3 ได้เลย ! นี่คือระดับพลังที่เทียบเท่าได้กับอัศวินของกาตอน แม้ว่าจะเป็นอัศวินที่ด้อยที่สุดก็ตาม ! ในความเป็นจริงแล้วความสามารถในการรองรับรูนแบบนี้ได้นั้นสามารถชดเชยการขาดอบิลิตี้ทางสายเลือดได้ ซึ่งนั่นจะทำให้วอเตอร์ฟลาวเวอร์มีค่ามากกว่าแกงดอร์ รวมทั้งคู่ควรกับการทำสัญญาวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม ริชาร์ดไม่ได้พูดถึงข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้รับ วอเตอร์ฟลาวเวอร์มีความจุรูนมากถึง 153 พอยท์! ซึ่งสูงกว่าปริมาณ 80–120 พอยท์ที่จำเป็นสำหรับการจารึกรูนระดับ 4 ไปมาก ในเรื่องนี้แม้แต่โฟลว์แซนด์ที่มีความจุ 180 ก็ไม่ได้เหนือกว่าวอร์เตอร์ฟลาวเวอร์มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นเวทมนตร์ที่กระจายอยู่ทั่วร่างของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ยังทำให้เห็นว่านางมีช่องรูนที่เป็นไปได้อยู่บนร่างกายมากถึง 8 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าโฟลว์แซนด์ที่มีเพียง 7 ตำแหน่ง !
‘รุ่งอรุณ’ หรือโฟลว์แซนด์ เป็นเคลริคของวิหารแห่งมังกรนิรันดรในเมืองเฟาสต์ ซึ่งอาจจะเป็นคนที่เข้ามาแทนที่ตำแหน่งปัจจุบันของไฮพรีสเทสเฟอร์ลินได้ในอนาคต นางเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่ควรคำนึงถึง ทว่าวอเตอร์ฟลาวเวอร์กลับเป็นเสมือนปีศาจที่มีช่องรูนมากกว่านาง !
“วอเตอร์ฟลาวเวอร์ มานี่ซิ” ชิลเลอร์ยกมือเรียกให้หญิงสาวมาใกล้ ในตอนนี้ทั้งเขาและลีน่าต่างก็ไม่คัดค้านอะไรอีกแล้ว
หญิงสาวมองทั้ง 3 คนตรงหน้าอย่างหวาดระแวงทว่าจากบทสนทนาเมื่อครู่นางก็พอจะรู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น นางเดินเข้ามาใกล้อย่างลังเลและป้องกันตัวเองเต็มที่เพราะนางให้ความสำคัญกับสิ่งที่นางเรียนรู้มาจากสัตว์อสูรนั่นก็คือ ‘ต้องระมัดระวังและตื่นตัว’ เป็นอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับใครหรืออะไรที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม
ชิลเลอร์มองวอเตอร์ฟลาวเวอร์ด้วยแววตาที่อธิบายไม่ได้ “เจ้าจะเป็นผู้พิทักษ์วิญญาณของมาสเตอร์ริชาร์ดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกแล้ว เจ้าจะเป็นเหมือนชีวิตที่ 2 ของเขาและเป็นคนที่ร่วมแบ่งปันชะตากรรมกับเขา แต่ถึงยังไง จงปฏิบัติตัวเหมือนตอนที่เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อพัฒนาพลังของเจ้าต่อไป”
“อ้อ และรับดาบเล่มนี้ไปด้วย ! มันอยู่กับข้ามาหลายปีแล้ว ข้าคิดว่ามันเหมาะกับเจ้า” ชิลเลอร์ปลดดาบเล่มยาวออกจากเอวของเขาและโยนมันให้กับวอเตอร์ฟลาวเวอร์ นางรับมันในทันทีและเคลื่อนที่กลับไปด้วยความเร็วราวสายฟ้าแลบขณะที่ดวงตาก็จ้องมองไปที่สมาชิกคนอื่น ๆ ที่เหลือในค่าย นางดึงดาบออกจากปลอกเล็กน้อยหลังจากมั่นใจแล้วว่าจะไม่มีใครซุ่มโจมตีนาง
ใบมีดนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 3 เซนติเมตรโดยแทบจะไม่มีภาพสะท้อนออกจากคมดาบสีดำสนิท มันดูสง่างามอย่างอธิบายไม่ได้และให้ความรู้สึกที่น่าตกใจเมื่อคมดาบนั้นเผยออกมาจากปลอกของมัน
ลีน่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการประเมินสิ่งของ เมื่อเห็นใบมีดที่ถูกดึงออกมานั้นนางก็ร้องอุทาน “มิสทิเคิลโกลด์แซนด์ ! นี่คือ — เชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์ !”
ริชาร์ดก็ตกใจเช่นกัน มิสทิเคิลโกลด์แซนด์มีคุณสมบัติเหนือกว่าแบล็คสตีลแปรธาตุ ซึ่งเป็นหนึ่งในโลหะคุณภาพสูงที่สุดที่ใช้สร้างอาวุธ อาวุธที่สร้างจากวัสดุนี้จะแข็งแกร่งกว่าอาวุธจากเหล็กกล้าคาร์บอนธรรมดาถึง 2 เท่าและยังสามารถรับพลังอาคมได้อีก 2 ชนิดด้วย ดาบที่อยู่ในมือวอเตอร์ฟลาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นโดยเกรทมาสเตอร์ซึ่งสร้างโดยลงอาคมของบลีด (เลือดออก) เทียร์ (การฉีกกระชาก) ชาร์ปเพน (ความคม) และอาเมอร์เบรค (เจาะเกราะ) เพิ่มเข้าไป พลังของมันจึงชัดเจนมาก
ในที่สุดเมื่อจบคำพูดของชิลเลอร์ วอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็เดินตรงเข้ามาหาริชาร์ดและคุกเข่าลงตามคำสั่งของลีน่า ดูจากสีหน้าท่าทางและการการขยับนิ้วมือของนางแล้วเห็นได้ชัดว่าระยะประชิดเท่านี้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก นางอาจจะทำร้ายใครสักคนตอนไหนก็ได้ด้วยเชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์ในมือของนาง และระยะห่างเพียงน้อยนิดนี้ แม้แต่ลีน่าเองก็ยังรู้สึกกังวล
ลีน่าลงเอยด้วยการร่ายคาถาสงบนิ่ง 2 คาถาไปที่วอเตอร์ฟลาวเวอร์ซึ่งทำให้เด็กสาวที่เหมือนหมาป่านิ่งลงเล็กน้อยในที่สุด ริชาร์ดค่อย ๆ คลี่สัญญาวิญญาณในมือของเขาออกและสวดคาถาที่เขียนอยู่บนนั้น “ในนามแห่งนิรันดร ข้าขอเชื่อมวิญญาณของข้ากับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า…”
เมื่อคาถาถูกอ่านออกมา สัญญาก็เริ่มเปล่งแสงสีทองที่สว่างขึ้นและสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่มันจะสลายตัวเป็นชิ้น ๆ และสลายเป็นเม็ดทรายกระจายอยู่ในอากาศจนเกิดเป็นฝุ่นละอองสีทองขณะที่วอเตอร์ฟลาวเวอร์เองก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองไปที่ทรายเวทมนตร์ที่จับตัวเป็นก้อนซึ่งดูเหมือนจะดึงส่วนหนึ่งของชีวิตนางออกไป นางไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้นางถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม สัญชาติญาณที่แหลมคมบอกกับนางว่าช่วงเวลานี้ชะตากรรมของนางได้เปลี่ยนไปแล้ว
คาถานั้นซับซ้อนและน่าเบื่อ แต่ในที่สุดเม็ดทรายสีทองทั้งหมดก็รวมตัวกันเป็นลำแสงที่ส่องไปยังหน้าผากของวอเตอร์ฟลาวเวอร์และรวมตัวเป็นนาฬิกาทรายสีทองอยู่ตรงระหว่างคิ้วของนาง มันพลิกคว่ำอย่างรวดเร็วและร่องรอยของมันก็ค่อย ๆ หายไปในร่างกายของนาง วอเตอร์ฟลาวเวอร์เริ่มเฉื่อยชาลงไปและส่งเสียงในลำคอเหมือนจะเป็นลม ขณะที่ริชาร์ดรู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณส่วนหนึ่งถูกสกัดออกจากร่างกายของเขาภายในเสี้ยววินาทีและหายไปในความลึกของห้วงอวกาศ ความอ่อนแออย่างรุนแรงเกิดขึ้นในหัวใจของริชาร์ดแต่เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าวและเอนตัวพิงอ้อมกอดอันอบอุ่นที่ลีน่าได้เตรียมพร้อมไว้ให้แล้ว นางรับตัวเขาไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะล้มลง ดราก้อนเมจตระหนักถึงผลกระทบของสัญญาวิญญาณได้อย่างดี นางจึงนำโพชั่น 2 ขวดที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาก่อนจะยื่นขวดหนึ่งให้กับริชาร์ดและอีกขวดหนึ่งสำหรับป้อนให้กับวอเตอร์ฟลาวเวอร์
ริชาร์ดรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขาค่อย ๆ กลับมาช้า ๆ เมื่อเขาดื่มโพชั่น มันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และในตอนนี้เขาตระหนักได้ว่าเขาสามารถบอกพิกัดของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ได้อย่างชัดเจนแค่จากความคิดของเขาเท่านั้น และเขาก็ยังรับรู้ถึงความคิดของนางเช่นกัน
หญิงสาวลุกขึ้นอย่างช้า ๆ อีกครั้ง นางลุกออกจากอ้อมแขนของลีน่าเมื่อฟื้นขึ้น นางถึงกับดึงดาบออกจากปลอกและสังเกตสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวอย่างระมัดระวัง ริชาร์ดรู้สึกได้ทันทีว่านางไม่รู้ถึงสาเหตุที่นางหมดสติไปและพยายามระบุตัวของศัตรูที่ไม่รู้จักตามสัญชาตญาณ
เด็กสาววัยเยาว์มองริชาร์ดด้วยความประหลาดใจราวกับว่านางรู้สึกถึงผลกระทบจากสัญญาวิญญาณเช่นกัน ริชาร์ดส่งคลื่นความผ่อนคลายไปถึงนางผ่านสายใยที่เชื่อมต่อกันของพวกเขา นั่นทำให้นางสงบลงมากพอที่จะเก็บดาบกลับไปอีกครั้งก่อนเคลื่อนไหวตัวอย่างช้า ๆ อยู่ตรงหน้าเขา ด้วยพลังของสัญญาที่เกิดขึ้นกับนาง ทำให้นางรู้สึกว่าลมหายใจของริชาร์ดเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยและสงบสุขที่สุดในโลกนี้แล้ว
ชิลเลอร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ท่านได้เลือกผู้พิทักษ์วิญญาณเรียบร้อยแล้ว และก็ถึงเวลาที่ท่านจะออกไปจากที่นี่ได้ ได้ยินมาว่าท่านมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะใช่หรือไม่”
ริชาร์ดพยักหน้าและหันหลังเพื่อกลับออกไป แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าทั้งโลกกำลังสั่นสะเทือนเพราะเสียงคำรามกึกก้องที่ดังขึ้นข้างหลังเขา “เฮ้ นายน้อย ! แม่สาววอเตอร์ฟลาวเวอร์นั่นน่ะยอดเยี่ยมนะ แต่แกงดอร์ผู้นี้ก็ไม่เลวเลยเช่นกัน ! อย่างน้อยตอนนี้นางก็สู้ข้าไม่ได้ ดูสิ ขวานของข้าไม่สามารถรับมือกับความหิวโหยได้อีกต่อไป ดูสิว่ามันหนักแน่นและบึกบึนแค่ไหน ! มันจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน !”
ริชาร์ดหยุดเดินและมองไปที่ชายหนุ่มแข็งแกร่งที่พุ่งตัวมาถึงตรงนี้ วอเตอร์ฟลาวเวอร์ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังและจับเชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์ในมือไว้แน่น ด้วยดาบเล่มนี้ที่อยู่ในมือ นางไม่มีความเกรงกลัวเขาเลย
ริชาร์ดลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนพูดกับชิลเลอร์ “ข้าต้องการพาคนนี้ไปด้วย”
ชิลเลอร์พูดพึมพำอยู่กับตัวเองเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบ “แม้ว่าคำสั่งที่ได้มาจะบอกไว้ว่าให้มีผู้พิทักษ์เพียงคนเดียว แต่หากต้องการคนที่ 2 นั้นก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม ตราบที่มาร์ควิสกาตอนให้ค่าชดเชยเพิ่มเติมข้าก็ไม่อาจขัดอะไรได้ ยังไงก็ตาม ข้าต้องเตือนท่านก่อนว่าไม่มีความจงรักภักดีจากคนที่ออกไปจากค่ายแห่งความตายนี้ มีเพียงพลังอันแข็งแกร่งเท่านั้นที่บังคับให้พวกเขายอมจำนนได้ ข้อเสนอแนะของข้าคือการทำสัญญาทาสกับแกงดอร์อีกคนโดยอาจจะเป็นตอนนี้หรือในภายหลังในตอนที่ท่านสะดวกแล้ว แล้วท่านจะเห็นว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่า”
ริชาร์ดพยักหน้าและหันไปยังชายป่าเถื่อนร่างใหญ่คนนั้น แกงดอร์ยืนอยู่ห่างจากเขา 15 เมตรอย่างมีสติ และหลีกเลี่ยงที่จะก้าวเข้าสู่เขตที่ทำให้ริชาร์ดรู้สึกมีอันตราย ริชาร์ดเอ่ยถามเขา “ถ้าอย่างนั้น เจ้าเต็มใจจะทำสัญญาทาสหรือไม่ ?”
แกงดอร์หัวเราะ “หากท่านต้องการให้ข้าพิสูจน์ความจงรักภักดี ข้าก็ยินดียอมรับ ! ตราบใดที่ข้าจะได้ออกจากสถานที่ที่เหมือนนรกนี้ ตราบใดที่จะได้หาทางไปสู่สนามรบที่แท้จริง ให้ข้าทำอะไรข้าก็ทำ ! ดูขวานที่หนักแน่นและบึกบึนนี่สิ มันไม่สามารถรับมือกับ —”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว !” ริชาร์ดรีบตัดบทและหันไปหาดราก้อนเมจ “ลีน่า ?”
“การเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว” ลีน่าหยิบม้วนกระดาษสีแดงเข้มออกมาและโยนไปให้แกงดอร์ ชายหนุ่มแข็งแกร่งรีบเปิดม้วนกระดาษอย่างไม่ลังเล พลังของมันเริ่มต้นขึ้นโดยมีลำแสงสีเข้มพุ่งทะลุหน้าอกของเขาในทันที แต่ถึงแม้เผชิญกับความเจ็บปวดมหาศาลนั้น เขาก็ทำเพียงแค่กัดริมฝีปากเพียงเล็กน้อย และลำแสงสีดำอีกเส้นก็พุ่งเข้าใส่ร่างของริชาร์ด
สัญญาเวทมนตร์แห่งการเป็นทาสนั้นหายากและล้ำค่ามาก ด้วยสัญญานี้ริชาร์ดสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดรุนแรงหรือแม้แต่ความเสียหายร้ายแรงเมื่อใดก็ได้ที่เขาต้องการ หากเขาตาย ชีวิตของคนที่ทำสัญญาไว้กับเขาจะเผชิญกับพลังที่ลดลงอย่างถาวร ในทวีปนัวแลนด์ที่อำนาจหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างนั้น การถูกกระทำเช่นนี้เป็นเหมือนการลงโทษที่ไม่อาจยอมรับได้
สัญญาทาสนั้นมีอำนาจน้อยกว่าสัญญาวิญญาณ ทว่าก็ยังมีข้อจำกัดที่มีประสิทธิภาพมาก ในตอนนี้ทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับริชาร์ดจะมีความผูกพันเชื่อมกับตัวเขาในลักษณะเดียวกัน แต่โฟลว์แซนด์เป็นข้อยกเว้น
ลีน่ายังคงป้องกันอยู่ เมื่อสัญญาเสร็จสมบูรณ์นางก็ใช้เวทมนตร์อีกครั้งเพื่อตรวจสอบจิตวิญญาณของแกงดอร์อย่างรอบคอบและยืนยันว่าสัญญาส่งผลแล้ว จากนั้นริชาร์ดก็พยักหน้าเป็นการรับทราบ
แกงดอร์โบกขวานยักษ์ของเขาไปมาอย่างตื่นเต้นและตะโกนใส่สมาชิกคนอื่น ๆ ในค่ายแห่งความตาย “เจ้าพวกบ้า ! วันที่ดีของพวกเจ้ามาถึงแล้ว ในที่สุดแกงดอร์ก็ออกจากสถานที่บ้า ๆ นี้ได้ซักที ! พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ขวานยักษ์ของข้าอีกต่อไป ข้ายินดีด้วย ! ฮ่า ๆ ๆ !”
เมื่อมองแกงดอร์ที่คึกคักเป็นพิเศษ ริชาร์ดก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาก่อนจะหันไปพูดกับชิลเลอร์ “นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหม ?”
“หากเรากำลังพิจารณาในเรื่องพลังการต่อสู้ล่ะก็ ใช่แล้ว แน่นอนว่านั่นไม่รวมถึงวอเตอร์ฟลาวเวอร์” ชิลเลอร์ตอบกลับด้วยสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
ริชาร์ดร่ายเวทมนตร์ตรวจสอบแกงดอร์อีกครั้งรวมไปถึงชื่อของขวานที่สะดุดตาของเขาซึ่งก็คือ ‘ไม่สามารถรับมือกับความหิวโหย’ และเขาก็ถอนหายใจออกมา “เอาล่ะ ไปกันเถอะ วันพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันอีกยาว”