นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 111 ผู้พิทักษ์วิญญาณ ตอนที่ 1
ชิลเลอร์พูดห้วน ๆ “ไม่ เรามาที่นี่ก็เพื่อเลือก ในคืนนี้จะมี 1 คนเป็นผู้โชคดีที่ถูกเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์วิญญาณ และพวกเจ้าจะได้แสดงพลังแห่งการฆ่าสังหารที่เพลนอื่น !”
สายตาของชายผู้หนึ่งเปล่งประกายออกมาก่อนที่จะกวาดตามองไปยังลีน่าและหยุดสายตาลงที่ริชาร์ด ทันใดนั้นเขาก็หยิบขวานสองมือที่มีสภาพค่อนข้างแย่ของเขาขึ้นมาโบกไปมาสองสามครั้ง “เฮ้ !” เขาเปล่งเสียงคำรามออกมา “นายน้อย เลือกข้าสิ ! ขวานของข้าไม่สามารถอดทนกับความหิวโหยได้อีกต่อไปแล้ว !”
เมื่อได้ยินคำขอที่เต็มไปด้วยความต้องการอันแรงกล้า ริชาร์ดก็ทำได้เพียงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว ชิลเลอร์ชี้ไปที่ชายผู้นั้นก่อนจะกล่าวว่า “นี่คือแกงดอร์ อายุ 21 ปี เป็นวอริเออร์ระดับ 10 มีสายเลือดของยักษ์ เขาปลุกพลังสายเลือดที่มีชื่อว่า — ไกอา ขึ้นมาได้ และทันทีที่มันถูกใช้งาน มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งและการป้องกันของเขาให้สูงขึ้น เขาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด”
ในเวลานี้มีหลายคนออกมาจากถ้ำที่อยู่บนภูเขา ชิลเลอร์ชี้ไปยังชายหนุ่มร่างผอมบางก่อนจะกล่าวว่า “นี่คือเคริฟ เป็นแอสซาซินระดับ 10 อายุ 19 ปี เขามีสายเลือดผสมระหว่างมนุษย์และดาร์กเอลฟ์ อบิลิตี้ของเขาคือ — สเตลท์ เขาถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นกัน”
ในที่สุดชิลเลอร์ก็ชี้ไปยังหญิงสาวที่มีท่าทางเยือกเย็นและสันโดษพร้อมกับกล่าวว่า “นั่นคือดิฟายแห่งคามิเรส เป็นทายาทของไฮแลนด์วิซาร์ด มีความสามารถด้านเวทมนตร์ติดตัวมาแต่กำเนิด นางเป็นวอร์ล็อคโดยธรรมชาติที่สามารถใช้พลังแห่งเพลิงที่ยอดเยี่ยมได้ทุกเวลา อบิลิตี้ในสายเลือดของนางคือ — เมจิกบูส นางเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ข้าอยากจะแนะนำให้กับท่าน”
ค่ายแห่งความตายของอาเครอนฝึกฝนผู้ที่มีระดับไม่เกิน 10 เท่านั้น ซึ่งพรสรรค์และอบิลิตี้ของพวกเขาจะเกิดขึ้นเองหลังจากนั้น ดังนั้น การเติบโตในอนาคตของพวกเขาจึงต้องพึ่งพาจากผลลัพธ์ในการต่อสู้ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้ง 3 คนของชิลเลอร์นั้นได้ถูกเลือกมาจากคนที่แข็งแกร่งที่สุดภายในผู้เข้าร่วมฝึกฝนในที่แห่งนี้ และดูเหมือนว่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของริชาร์ด เพลนที่ริชาร์ดกำลังจะเดินทางไปนั้นยังไม่มีสถานที่เทเลพอร์ตถาวร ดังนั้นระดับ 10 จึงเป็นข้อจำกัดของการเทเลพอร์ต ผู้ใดก็ตามที่อยู่เหนือจากระดับที่กล่าวมา พลังที่พวกเขามีก็อาจจะส่งผลกระทบกับอุโมงค์แห่งมิติได้ ซึ่งนั่นอาจสร้างความวุ่นวายและแปรผันให้กับเวลาภายในนั้น เรื่องเช่นนี้แม้แต่เลเจนดารี่เองก็ไม่มีใครอยากที่จะเข้าไปพบกับความวุ่นวายดังกล่าว
ริชาร์ดยกมือขึ้นก่อนที่จะเริ่มสวดบางอย่างออกมา และลีน่าก็ได้ก้าวเท้ามา 1 ก้าวอย่างรวดเร็วก่อนที่นางจะร่ายคาถาตรวจสอบแบบกลุ่มเพื่อที่ริชาร์ดจะได้ไม่ต้องตรวจสอบทีละคนให้เสียเวลา
ริชาร์ดตรวจสอบการตอบสนองเวทมนตร์จากพวกเขาทีละคนเพื่อให้มั่นใจเกี่ยวกับความจุรูนที่พวกเขามี รูนขั้นพื้นฐานต้องการความจุที่ 10 พอยท์ ซึ่งเคริฟมีความจุทั้งหมด 43 พอยท์ ดิฟายมีอยู่ 41 พอยท์ ในขณะที่แกงดอร์มีมากถึง 72 พอยท์ ! คนผู้นี้ที่มาพร้อมกับขวานแห่งความกระหายเลือดสามารถรองรับรูนได้ถึง 4 รูน ซึ่งหนึ่งในนั้นสามารถที่จะรองรับรูนระดับ 3 ที่มีความต้องการต่ำ ๆ ได้อีกด้วย หากเขาเต็มใจที่จะเสียเงินหลายล้านให้แกงดอร์ผู้นี้ เขาก็สามารถที่จะกลายเป็นรูนไนท์ได้ในทันที !
แกงดอร์สังเกตเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของริชาร์ด เขาจึงตะโกนดังขึ้นอีกครั้งทว่าในครั้งนี้เขากลับเดินไปที่ด้านหน้าของผู้เข้าร่วมคนอื่นก่อนกล่าวว่า “นี่ เจ้าพวกหนอนไร้ประโยชน์ เห็นไหม ? ว่านายน้อยต้องการข้า ! ข้าคือแกงดอร์ ใครก็ตามที่ไม่พอใจก็ออกมาเลย ! ให้ข้าได้แสดงการต่อสู้ของข้าเสียหน่อย ! มาสิ ! ขวานของข้าไม่สามารถทนต่อความกระหายได้อีกต่อไปแล้ว !”
ไม่มีใครขยับแม้แต่คนเดียว เคริฟและดิฟายเองก็เช่นกัน เสียงคำรามของแกงดอร์ดูเหมือนว่าจะสามารถข่มขู่ทุกคนได้ และท่าทางของเขาก็แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้จะต้องเคยพ่ายแพ้การต่อสู้กับเขามาก่อน ริชาร์ดค่อนข้างพึงพอใจกับคนป่าผู้นี้ที่อยู่ในระดับ 10 กับอายุ 21 ปีของเขา ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาเลยที่จะก้าวไปถึงระดับ 14 หรือ 15 ในอนาคต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาไปถึงจุดนั้นได้ ทว่าด้วยความจุรูนในระดับสูงของเขาก็สามารถที่จะกลายเป็นรูนไนท์ระดับสูงได้อย่างง่ายดายและเขาจะกลายเป็นตำแหน่งที่สำคัญในทีมของริชาร์ดในอนาคต
ทว่าริชาร์ดยังคงอยู่ในห้วงแห่งความคิดอยู่นาน ในตอนนี้เขายังไม่สามารถตัดสินใจได้ แกงดอร์เป็นผู้เข้าสมัครที่ตรงตามที่ต้องการ ทว่าเขากลับรู้สึกว่ายังไม่เหมาะสมที่จะใช้สัญญาวิญญาณกับเขา วอริเออร์ที่ดีแตกต่างจากผู้คุ้มกันที่ดี และความสามารถของแกงดอร์ก็ไม่ได้ทำให้ริชาร์ดยำเกรงเท่าไหร่นัก การที่ได้อยู่ภายในดีพบลูเป็นเวลานานทำให้รสนิยมของเขาเติบโตขึ้นตามไปด้วย
ริชาร์ดสังเกตเห็นว่ากระท่อมจำนวนมากยังคงว่างเปล่า เขาจึงถามชิลเลอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วจึงได้รู้ว่าผู้เข้าร่วมบางคนยังอยู่นอกป่าเพื่อทำการล่าเหยื่อ พวกเขาไม่สามารถที่จะกลับมาได้ทันเพราะระยะทางที่ออกเดินทางไปนั้นค่อนข้างไกล ทว่าชิลเลอร์ก็กล่าวออกมาว่านี่ไม่ใช่ปัญหา เพราะคนที่เหมาะสมกับทีมของริชาร์ดนั้นได้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และริชาร์ดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรอคนอื่น ๆ ที่เหลือ
ในเวลานั้นเอง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นเหนือป่าแห่งนี้ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกิ่งก้านของต้นไม้ที่หักลงมา ชายผู้กระหายเลือดพุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วก่อนกระโดดลงไปในลำธารและว่ายน้ำเพื่อหนีอะไรบางอย่างอย่างไม่คิดชีวิต ลำธารแห่งนี้ค่อนข้างลึกและมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวรวมถึงมีแนวพื้นหินขรุขระที่อยู่ด้านล่าง นอกจากความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไม่นานนักเลือดสด ๆ ของเขาก็กระจายออกมาทั่วลำธารจนทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพูจาง ๆ
“วอริเออร์ระดับ 11 ไม่มีอบิลิตี้พิเศษอะไร คนผู้นี้เป็นเพียงแค่เหยื่อของผู้เข้าร่วมค่ายแห่งความตายแห่งนี้เท่านั้น” ลีน่ากระซิบบอกข้างหูริชาร์ดเบา ๆ
ภายในค่ายแห่งความตายไม่ได้มีแค่สัตว์มายาเท่านั้นที่เป็นเหยื่อให้กับผู้เข้าร่วม ทว่ายังมีมนุษย์จำนวนไม่น้อยที่อยู่ภายในนี้ด้วย วอริเออร์จำนวนมากที่มีความแตกต่างทั้งเผ่าพันธุ์และระดับชั้นต่างรวมตัวกันอยู่ในป่า และผู้เข้าร่วมต่างก็ได้รับหน้าที่ให้จัดการฆ่าคนเหล่านั้นให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะหนีออกไป โดยปกติแล้ว ‘เหยื่อ’ ของพวกเขาจะมีระดับที่สูงกว่าผู้เข้าร่วมค่าย โดยผู้ที่มีระดับมากที่สุดคือระดับ 14 หรือ 15 การล่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมากและหลายครั้งที่ผู้ล่ากลับกลายเป็นเหยื่อที่ถูกล่าเสียเอง
ริชาร์ดมองไปที่มุมป่าแห่งนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ เขามีความรู้สึกว่าหลังจากนี้นักล่าคนนี้จะสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับเขา
ร่างขาว ๆ ของเด็กสาวที่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งจนเกือบจะกลายเป็นผ้าขี้ริ้วเดินออกมาจากป่าอย่างเงียบ ๆ จากภายนอกนั้นเห็นได้ชัดว่านางไม่มีเครื่องป้องกันใด ๆ ที่จะช่วยป้องกันร่างให้นางได้แม้แต่ชิ้นเดียว หากไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าที่พันอยู่รอบหน้าอกและเอวของนางในเวลานี้ นางคงจะเปลือยเปล่าต่อหน้าทุกคนไปแล้ว
นางยืนอยู่ด้านบนกิ่งไม้ด้วยขาเรียวยาว เท้าเปล่าของนางค่อนข้างสะดุดตา นางมีผมหนา ๆ ที่เมื่อดูจากสภาพแล้วทำให้ผู้ที่พบเห็นสามารถบอกได้ทันทีว่านางคงตัดด้วยตัวของนางเอง เงาสะท้อนบนใบหน้าของนางค่อนข้างที่จะสวยงาม และในเวลานี้ดวงตาสีเขียวเข้มคู่นั้นกำลังจ้องมองไปที่เหยื่อด้วยสายตาที่เปล่งประกาย