ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2211 องค์รัชทายาท
“พอแล้ว เลิกเล่นลิ้นได้แล้ว! คิดว่าองค์รัชทายาทเป่ยกงเป็นคนแบบไหนกัน? เขาจะมาถูกคนควบคุมง่าย ๆ ได้อย่างไร ข้ากับมู่เฉินซีต่อสู้กันมาหลายครั้งหลายคราเช่นนี้ หากนางมีกลอุบายที่ชักจูงผู้คนอันยอดเยี่ยมขนาดนั้นก็คงจะใช้ไปแล้วล่ะ เห็นอยู่ว่าพวกเขาทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว!” มู่หลินหลางโกรธจนแทบที่จะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว
เมื่อครู่นี้นางเชื่อใจเป่ยกงจั๋วมาก แต่ผลสุดท้ายกลับถูกเขาแทงข้างหลัง นอกจากนี้เป่ยกงจั๋วยังเป็นคู่หมั้นของนางอีกด้วย
ถึงมู่หลินหลางจะกำลังเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซียังคงบังคับให้กู้ไป๋อีกินยาอย่างไม่หยุดหย่อนอยู่ดี
เมื่อเขาเห็นว่าคนของราชวงศ์เป่ยกงเหล่านั้นไม่ยอมลงมือ จึงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หากพวกเจ้าไม่ลงมือ เช่นนั้นข้าจะลงมือทำมันเอง!”
ท่าทางของกู้ไป๋อีที่จ้องมองไปยังมู่หลินหลางอย่างเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งที่แช่แข็งมานับหมื่นปี ทำให้มู่เฉียนซีต้องกล่าวออกมาว่า “หากต้องการจัดการคนของราชวงศ์ตงหวง แล้วจะขาดข้าไปได้อย่างไรเล่า ลงมือด้วยกันเถอะ”
ก่อนหน้านี้มู่หลินหลางยังต้องการร่วมมือกับเป่ยกงจั๋วเพื่อสังหารมู่เฉียนซีอยู่เลย แต่ผลสุดท้ายกลับคิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เป่ยกงจั๋วและมู่เฉินซีจะร่วมมือกันเพื่อโจมตีนาง
ไป๋อีไม่คุ้นเคยที่จะใช้พลังวิญญาณธาตุน้ำแข็งและธาตุอัสนี ฉะนั้นจึงได้ชักกระบี่ที่อยู่ในมิติของเป่ยกงจั๋วออกมาจนหมด
เขาควบคุมกระบี่ และมีเสียงดังกึกก้องทุกครั้งที่กวาดกระบี่ออกไป
พลังกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดออกมา และจิตสังหารนั้นก็ทำให้คนลึกลับของตระกูลเฟิงผู้นั้นต้องชะงักงันไปในทันที
นะ…นี่ยังคิดว่าเป็นองค์รัชทายาทเป่ยกงผู้นั้นอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?
องค์รัชทายาทเป่ยกงมีความเชี่ยวชาญในกลอุบายทุกประเภท แต่กระบี่ของคนผู้นี้กลับให้ความรู้สึกที่ดูตรงไปตรงมากเป็นอย่างมาก
และในสถานการณ์ที่มีศัตรูอย่างเป่ยกงจั๋วเพิ่มเข้ามา มันอันตรายเกินไป
“ฝ่าบาท ถอยก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
มู่หลินหลางล่าถอยอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่พลังของกระบี่ที่เย็นยะเยือกนั้นก็ทำให้นางกลัวมากจริง ๆ
นางกลัวว่าหากไม่ทันระวัง หรือลูกน้องปกป้องนางได้ไม่ดีพอ นางอาจจะกลายเป็นผีเฝ้ากระบี่ของเป่ยกงจั๋วไปก็เป็นได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็คาดว่านางจะต้องกลายเป็นองค์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ตงหวงที่ถูกคู่หมั้นฆ่าตายเป็นแน่
นางกัดฟันกล่าวว่า “ถอยก่อน! ข้าจะนำสิ่งที่เป่ยกงจั๋วทำทั้งหมดไปบอกเสด็จพ่อแน่นอน และจะไม่ยอมปล่อยชายหญิงสารเลาคู่นี้ไปแน่!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ถึงพวกเขาต้องการที่จะล่าถอย แต่ว่าไป๋อีและมู่เฉียนซีไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาล่าถอยไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ร่างเงาของกู้ไป๋อีและมู่เฉียนซีบุกทะลวงเข้าไปในกลุ่มของราชวงศ์ตงหวงราวกับภูตผีอย่างไรอย่างนั้น และคนลึกลับของตระกูลเฟิงผู้นั้นก็ออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าคุ้มครองฝ่าบาทออกไป ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณทั้งหมดคุ้มกันไปพร้อมกับข้า เร็วเข้า!”
พวกเขาได้สกัดกั้นชิงอิ่งและมังกรวารีเอาไว้ แต่มู่เฉียนซีกลับเร่งบุกตรงไปเข้าไปภายในกลุ่มของมู่หลินหลาง และทุกครั้งที่กระบี่ฟาดฟันลงมา ก็ไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
มู่หลินหลางกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ฆ่าพวกมันให้หมด! ฆ่าทั้งเป่ยกงจั๋วและมู่เฉินซีนั่นแหละ!”
พวกเขามีจำนวนคนมากกว่า และอีกฝ่ายหนึ่งก็มีแค่สัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียวเท่านั้น แล้วนางจะต้องกลัวพวกเขาไปทำไมกัน?
เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทหลินหลางโกรธมากจนอยากที่จะลงมือสังหารองค์รัชทายาทเป่ยกงขนาดนั้นแล้ว แม้ว่าองค์รัชทายาทจะแข็งแกร่งมาก แต่การต่อสู้กับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงเหล่านี้ก็ยังถือว่ารับมือได้ยากอยู่ดี ซึ่งมันก็ทำให้คนของราชวงศ์เป่ยกงเหล่านี้กังวลใจเป็นอย่างมาก
“เช่นนั้น…พวกเราควรจะทำอย่างไรดี? สู้หรือไม่ขอรับ?”
“องค์รัชทายาทผิดปกติ แต่อย่างไรเสียก็คือองค์รัชทายาทของพวกเรา ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ไม่อาจปล่อยให้เกิดเรื่องกับองค์รัชทายาทได้ เช่นนั้นก็ลงมือกันเถอะ!”
“ขอรับ!”
เดิมทีแล้วมันไม่ง่ายเลยหากมู่เฉียนซีและไป๋อีต้องการจะจัดการมู่หลินหลาง แต่หลังจากที่คนของราชวงศ์เป่ยกงเหล่านั้นเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยแล้ว พวกเขาก็ผ่อนคลายขึ้นมากเลยทีเดียว
เงากระบี่มีความรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็โจมตีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นอย่างรุนแรง จึงทำให้สุดท้ายแล้วพวกเขาต้องตายอยู่ภายใต้คมของกระบี่
“ไปเถอะ!” มู่หลินหลางกำลังจะหนี เพราะสถานการณ์ในตอนนี้มันทำให้นางไม่มีความปรารถนาที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้วจริง ๆ
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา เพื่อเข้าไปใกล้มู่หลินหลาง จากนั้นก็ออกกระบวนท่าอย่างกะทันหันพร้อมตะโกนก้องว่า “พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
เมื่อรู้ว่าบนร่างกายของมู่หลินหลางมีพลังในการรักษาชีวิต ดังนั้นนางจึงควบคุมพลังให้เหมาะสมที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายถึงชีวิต เหมือนอย่างเสี่ยวไป๋ก่อนหน้านี้
ตึงงง!
ร่างของมู่หลินหลางถูกพลังธาตุวายุกระแทกจนลอยกระเด็นออกไป
กระบวนท่านี้ทำให้มู่หลินหลางได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นมันจึงทำให้พลังนั้นของจักรพรรดิตงหวงไม่มีความเคลื่อนไหวอย่างที่คาดไว้
พรวด พรวด พรวด!
มู่หลินหลางกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งหลังจากที่ถูกแทงข้างหลังแล้วยังมาถูกมู่เฉียนซีทำให้บาดเจ็บสาหัสอีก ฉะนั้นมันจึงทำให้สีหน้าของนางในตอนนี้ขาวซีดจนไม่มีเลือดอยู่เลย
“ฝ่าบาท!”
เมื่อคนเหล่านั้นค้นพบว่าสถานการณ์ของฝ่าบาทอันตรายเกินไป จึงรีบพุ่งทะยานเข้าไปจัดการกับมู่เฉียนซีทันที
ตูมมม โครมมม!
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง การต่อสู้ทางด้านชิงอิ่งและมังกรวารีก็ดุเดือดมากขึ้นไปอีกเช่นกัน
“เคลื่อนเงา บุปผาสะพรั่ง!”
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณของราชวงศ์ตงหวงได้ตายจากการต่อสู้กับชิงอิ่งและมังกรวารีไปมากมาย และพวกเขาก็รู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดมนลง และเงาที่ทรงพลังก็ได้ตรึงชิงอิ่งและมังกรวารีเอาไว้
ชิงอิ่งและมังกรวารีต่างก็เมินเฉยต่อกระบวนท่าที่แปลกประหลาดนี้ และยังคงจู่โจมเข้าไปโดยตรงอย่างเช่นเคย
จู่โจม…
ด้วยความที่ชายทั้งสองคนนี้แข็งแกร่งจนผิดปกติ จึงทำให้ชายชราคนหนึ่งก้าวออกมา ซึ่งเขาคนนั้นก็คือชายชราที่ร่วมมือกับเอ๋าหวางต่อสู้กับชิงอิ่งและมังกรวารีก่อนหน้านี้นั่นเอง
“นายท่านเฟิง ฝ่าบาทบาดเจ็บสาหัสจนใกล้ที่จะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าจะทุ่มสุดตัวเอง ท่านรีบพาฝ่าบาทออกไปจากที่นี่ก่อนเถิด เร็วเข้า!”
“ตกลง! สิ่งที่เจ้าได้เสียสละไปในวันนี้ ฝ่าบาทจะต้องจดจำเอาไว้อย่างแน่นอน”
ทันใดนั้น เขาก็ได้หลอมรวมเข้ากับร่างเงาของเขา จากนั้นเขาพุ่งทะยานไปทางมู่หลินหลางด้วยรูปร่างที่กลายเป็นภาพมายาจำนวนนับไม่ถ้วน
กลุ่มคนที่กำลังคุ้มกันมู่หลินหลางอยู่ในตอนนี้ต่างก็บาดเจ็บสาหัสกันไปหมด อีกทั้งยังมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังพอจะสู้ต่อไปได้อีกด้วย
ตูมมม!
พลังของชายชราคนนั้นได้ตรึงมังกรวารีและชิงอิ่งเอาไว้ จากนั้นเขาก็ได้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมาอย่างกะทันหัน และทำให้บริเวณโดยรอบถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
“ซีเอ๋อร์ ระวัง!”
“องค์รัชทายาท! ระวังพ่ะย่ะค่ะ!”
มันบ้าไปแล้ว ความสามารถของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณขั้นสูงสุดนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งพลังที่ใช้ในการระเบิดตนเองตอนนี้ก็เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมากจริง ๆ
ถึงพวกเขาต้องการที่จะปกป้องฝ่าบาทของพวกเขา แต่ผลสุดท้ายในสายตาของฝ่าบาทก็มีเพียงมู่เฉินซีคนเดียวเท่านั้น
หลังจากนั้นร่างเงาสีดำได้ห่อหุ้มมู่หลินหลางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติเอาไว้ และได้หายไปจากเบื้องหน้าของพวกเขาทันที
ตึง ตึง ตึง!
หลังจากการระเบิดตนเองแล้ว บริเวณโดยรอบก็เริ่มพังทลายลง กู้ไป๋อีกล่าวขึ้นมาว่า “ซีเอ๋อร์ พวกเราไปกันเถอะ!”
ในตอนที่เขาต้องการที่จะดึงมือของมู่เฉียนซีไปนั้น ก็ได้ถูกขวางทางเอาไว้เสียก่อน “นายท่านมีมังกรวารีคอยคุ้มครองอยู่แล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องและเฝ้ามองเขาอยู่เช่นกัน
กู้ไป๋อียิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาทำถูกต้องแล้ว เพราะเขาเองก็ไม่มีทางที่จะควบคุมได้ว่าเป่ยกงจั๋วจะออกมาตอนไหน?
ตูมมม โครมมม!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นมาติดต่อกัน และในที่สุดเสียงระเบิดนั้นก็ได้สงบลง
ในที่สุดพวกของมู่เฉียนซีก็พบสถานที่พักผ่อนที่ปลอดภัยแล้ว!
เดิมทีคนของราชวงศ์ตงหวงและองค์รัชทายาทเป่ยกงร่วมมือกันไล่ล่ามู่เฉินซี แต่สุดท้ายคนของราชวงศ์ตงหวงนอกจากมู่หลินหลางและคนของตระกูลเฟิงลึกลับผู้นั้นแล้ว ต่างก็ตายไปจนหมดสิ้น!
และงานศพของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งสอง แม้ว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชวงศ์ตงหวงก็คาดว่าน่าจะต้องปวดใจมากเช่นกัน
ส่วนทางด้านของเป่ยกงจั๋ว ตอนนี้ก็เหลือคนที่อยู่ตรงหน้าเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น
มู่เฉียนซีกวาดตามองไปที่พวกเขาแล้วกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้พวกเราคือศัตรู อีกทั้งยังเป็นศัตรูที่จะต้องสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งอีกด้วย ดังนั้นข้าก็ไม่คิดที่จะปล่อยพวกเจ้าไปเช่นกัน ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือพวกเจ้าฆ่าตัวตายไปเสียดีกว่า”
คนเหล่านี้คือคนของเป่ยกงจั๋ว เป็นพลังของเป่ยกงจั๋ว ฉะนั้นควรจะฉวยโอกาสเช่นนี้จัดการให้ได้มากที่สุดจะดีกว่า
“องค์รัชทายาท!” พวกเขาเหล่านี้รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
องค์รัชทายาทคงไม่มีทางฟังคำพูดบ้า ๆ ของผู้หญิงคนนี้ และปล่อยให้คนที่จงรักภักดีอย่างพวกเขาต้องตายหรอกใช่หรือไม่!