ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2208 ซากศพของเขา
นี่คือทักษะวิญญาณที่ผสานกันของพลังธาตุคู่ที่พวกเขาราชวงศ์เป่ยกงคิดค้นขึ้นมา ซึ งนี่คือทักษะวิญญาณที่เอาไว้สังหารโดยเฉพาะ
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งพอจะต้านทานการโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ แต่ก็คงไม่อาจสกัดกั้นการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่า นี่เป็นหลักฐานว่านางไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วจริง ๆ
แต่เป่ยกงจั๋วรู้ดีว่า มู่เฉียนซียังมีวิธีการอื่นอยู่อีก อีกทั้งมันยังเป็นวิธีการ รป้องกันที่พิเศษอีกด้วย
และภายใต้การป้องกันนั้น ก็ไม่มีการโจมตีแบบใดที่สามารถทะลวงผ่านเข้าไปได้
และในขณะที่พลังโจมตีกำลังพุ่งเข้ามาใกล้นั้น สุ่ยจิงอิ๋งก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้เรียบ บร้อยแล้ว
แต่ทว่าในเวลานี้ร่างเงาสีเขียวก็ได้กระโจนออกมา และได้เข้ามาขวางหน้าของมู่เฉียนซีอย่ างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ชิงอิ่ง!”
ตูมมม!
การโจมตีนี้ได้กระแทกเข้าที่ร่างของชิงอิ่ง ซึ่งพลังสายฟ้าสำหรับชิงอิ่งนั้นไม่ทำให้ รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด และน้ำแข็งที่ได้ก่อตัวขึ้นบนร่างกายก็ได้แตกสลายไปอย่างสมบู รณ์
ชิงอิ่งกล่าวว่า “เฉียน โชคดีที่ข้าไม่ได้มาสายเกินไป!”
ทันใดนั้น ชิงอิ่งก็ได้พุ่งไปยังทิศทางของเป่ยกงจั๋ว
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ!”
สีหน้าที่ดูหวาดผวาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเป่ยกงจั๋ว คิดไม่ถึงว่าหุ่นเชิดตัวนี้จะจัดก การยอดฝีมือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ช่างรวดเร็วอะ ะไรเช่นนี้!
แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณยังต้องพ่ายแพ้ให้ชิงอิ่ง แล้วเป่ยกงจั๋วจะสาม มารถรับมือเขาได้อย่างไร?
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ชิงอิ่งเหลือบมองไปที่มู่เฉียนซี จากนั้นก็จดจำเอาไว้ว่ามีรอยแผลอยู่บนร่างกายของมู่เ เฉียนซีมากน้อยแค่ไหน และจากนนั้นก็เริ่มลงมือส่งมันคืนให้เป่ยกงจั๋วรอยแล้วรอยเล่า า
“นายท่าน หากไม่อยากมองก็อย่ามองขอรับ เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับโทษทัณฑ์เหล่าน นี้!”
ตอนนี้มังกรวารีได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของมู่เฉียนซี และจากนั้นก็เข้ามาบดบังดวงตา าคู่นั้นของมู่เฉียนซีเอาไว้
เมื่อมู่เฉียนซีมองเห็นรอยแผลบนร่างกายของเป่ยกงจั๋ว มันก็ทำให้นางปวดใจยิ่งนัก!
แน่นอนว่านางไม่ได้ปวดใจเพราะเป่ยกงจั๋ว แต่นางปวดใจเพราะมันคือร่างกายของเสี่ยวไป๋ ก็เท่านั้นเอง
มุมปากของเป่ยกงจั๋วมีเลือดไหลออกมา เขาไม่มีแรงมากพอที่จะต้านทานการโจมตีของชิงอิ่ง ได้เลยแม้แต่น้อย และทำได้เพียงรับการโจมตีต่อเนื่องนี้เอาไว้
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างภูมิใ ใจ พลางกล่าวว่า “เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า และทนที่จะฆ่าข้าไม่ได้ และข้าก็ไม่สนใจการลงโทษเ เช่นนี้เลยแม้แต่น้อย มู่เฉียนซีหากเจ้าไม่อยากที่จะทำลายร่างกายนี้แล้วละก็ ทางที่ดี เจ้าปล่อยข้าเสียจะดีกว่า”
“การยึดร่างกายของเสี่ยวไป๋ เจ้ารู้สึกว่าน่าสนใจอย่างนั้น? เป่ยกงจั๋ว ข้าจะแสดงบางอย่ างให้เจ้าได้ดู”
มู่เฉียนซีได้หยิบเอาสิ่งของที่ถูกทิ้งอยู่ในมิติเป็นเวลานานมากแล้วออกมา และนั่น ก็คือซากศพที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ร่างหนึ่ง
เมื่อเป่ยกงจั๋วได้เห็นก็ผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าซีเอ๋อร์จะช ชื่นชอบข้ามากจริง ๆ สินะ! เพราะแม้แต่ซากศพของข้าเจ้ายังเก็นรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี เช่นนี้เลย”
และทันทีที่ปลายนิ้วของมู่เฉียนซีขยับ น้ำแข็งที่เย็นยะเยือกตรงหน้าก็ถูกทำให้ละลายทั นที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เป่ยกงจั๋ว ข้าสามารถปล่อยเจ้าไปได้ และยังสามารถคืนร่างให้เจ้าได ด้ด้วย แต่เจ้าจะต้องไสหัวออกมาจากร่างของเสี่ยวไป๋เสีย”
เป่ยกงจั๋วกล่าวตอบว่า “แม้ว่าร่างกายของข้ากับหานจะมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก ซึ่งก ก็รวมไปถึงใบหน้านี้ด้วย แต่ข้าก็ชอบร่างกายของตนเองอยู่ดี! ทว่าข้าก็ไม่กล้ารับประ ะกันว่าเจ้าจะไม่ได้เล่นตุกติกอะไรกับร่างกายของข้า”
“ไม่ตกลงหรือ?” แววตาของมู่เฉียนซีมืดมนลง จากนั้นนางก็หยิบกริชเล่มหนึ่งออกมา
ฉึก! และมันก็ได้แทงตรงเข้าไปที่หัวใจของร่างกายเป่ยกงจั๋วร่างนั้นอย่างคล่องแคล่ว
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เป่ยกงจั๋ว เจ้าพูดถูกแล้ว เพราะว่าเจ้าใช้ร่างของ เสี่ยวไป๋ มันจึงทำให้ข้าไม่อาจทำร้ายเจ้าให้บาดเจ็บสาหัสได้! ข้าเองก็ทั้งเป็นทุกข์แ และโมโหมากเช่นกัน ไม่มีทางเลือก ข้าคงต้องทำเรื่องโรคจิต อย่างการเอาร่างเดิมของเจ จ้ามาระบายความโกรธเกรี้ยวนี้แล้วล่ะ!”
“ก่อนอื่น ข้าจะควักหัวใจของเจ้าออกมา! สำหรับซากศพของเจ้า ข้าไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลย แม้แต่น้อย และก็จะไม่ทนด้วย”
มู่เฉียนซีได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเก็บรักษาร่างกายนี้เอาไว้ ฉะนั้นหัวใจจึงไม่บ บุบสลายเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของเป่ยกงจั๋วมืดมนลง และจ้องมองไปยังรูที่ถูกเปิดออกบนหน้าอกของตนเอง
แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ใช้ร่างนั้นแล้ว แต่เขาก็รู้สึกปวดที่หัวใจอยู่ดี
เขาได้ประเมินระดับความโหดเหี้ยมของผู้หญิงอย่างมู่เฉียนซีต่ำเกินไปแล้ว
เป่ยกงจั๋วสามารถข่มอารมณ์ไว้ได้ และสุดท้ายมู่เฉียนซีก็ไม่ได้ควักเอาหัวใจของเขาออก กมา แต่หลังจากนั้นนางก็กล่าวขึ้นมาว่า “หัวใจของเจ้า เจ้ายังไม่สนใจ เช่นนั้นหากทำให้ เจ้ากลายเป็นขันทีล่ะ ดีหรือไม่?”
ร่างกายนี้ของเป่ยกงจั๋วเป็นเหมือนกับซากศพในห้องทดลองของนางอย่างไรอย่างนั้น และนาง ก็สามารถผ่าไปทุกที่โดยที่ไม่กดดันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็ทำให้มุมปากของเป่ยกงจั๋วกร ระตุกอย่างรุนแรง
และเรื่องเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เข้าต้องใช้ไปทั้งชีวิต
เดิมทีคิดว่าร่างกายของเขาถูกทำลายไปนานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ามันยังคงอยู่ดีมากจนถึ งตอนนี้ บางทีอาจจะยังใช้การได้อยู่ และเป่ยกงจั๋วก็ไม่อยากที่จะเสียโอกาสเช่นนี้ไป
แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่แทนที่หาน แต่อย่างไรเสียร่างนี้ก็ไม่ใช่ของเขาอยู่ดี เขาชอ อบที่จะใช้ร่างกายที่เคยใช้มาสิบกว่าปีนั้นมากกว่า
เป่ยกงจั๋วสูดหายใจเข้าลึก พลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้านี่ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ข้าต้ องยอมรับว่าเจ้านั้นชนะแล้ว ตกลง ข้ารับข้อเสนอของเจ้า ข้าจะกลับไปอยู่ในร่างของตนเ เอง ส่วนหานจะสามารถฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตอีกครั้งได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ข้าไม่อาจที่ จะควบคุมมันได้”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ขอเพียงแค่เจ้าไสหัวออกมา เสี่ยวไป๋ก็จะต้อง งฟื้นขึ้นมาได้แน่นอน! ดังนั้นเจ้าก็รีบออกมา เดี๋ยวนี้ ไสหัวของเจ้าออกมาซะ!”
เป่ยกงจั๋วกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ อย่ารีบร้อนไป! การเอาจิตวิญญาณของข้าออกมาไม่ได้ง่ายเหม มือนการชักดาบหรอกนะ เจ้าจะต้องให้เวลาข้าสักหน่อยไม่ใช่หรือ?”
“อีกอย่าง ให้เขาออกไปให้ไกลข้าหน่อย มิเช่นนั้นมันจะมีผลต่อการใช้พลังจิตวิญญาณของ ข้า” เป่ยกงจั๋วเหลือบมองไปที่ชิงอิ่ง
ชิงอิ่งยังคงยืนอยู่ตรงนั้นราวกับท่อนไม้ท่อนหนึ่งก็มิปาน ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงเอ่ยปาก ขึ้นมาว่า “ชิงอิ่ง เจ้าถอยออกมาหน่อย แต่ก็ต้องจับตาดูเขาเอาไว้ด้วย”
ชิงอิ่งถอยหลังออกไปสิบก้าว และจ้องมองไปทางเป่ยกงจั๋วด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก หลังจาก กนั้นมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนทางพลังจิตวิญญาณของเป่ยกงจั๋ว
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแพร่กระจายออกไป เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบอยู่ตลอดเวลา
เป่ยกงจั๋วเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายมากสำหรับนางคนหนึ่ง ซึ่งนางไม่เคยกล้าที่จะชะล่าใจ จเลยแม้แต่น้อย
และหากสามารถยืนยันได้ว่าเป่ยกงจั๋วกลับไปที่ร่างของตนเองแล้ว นางจะต้องรีบจัดการเ เขาในทันที
ทันใดนั้น ดวงตาที่ปิดอยู่คู่นั้นของเป่ยกงจั๋วลืมขึ้น
เขาหันหน้ามาอย่างแข็งทื่อเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ร่างกายของตนเองดีกว่าจริง ๆ!”
“ชิ! เพียงแต่รูใหญ่ตรงหน้าอกนี้ มันเจ็บมากจริงๆ!” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลังจากที่เป่ยกงจั๋วตื่นขึ้นมาแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้เห็นร่างกายของเสี่ยวไป๋หมดลติล้ม ลงไปบนพื้น
นางเหวี่ยงกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณผ่านไป “เป่ยกงจั๋ว ภารกิจของเจ้าเสร็จสิ้นแล้ว ข้าสามารถส่งเจ้าออกไปได้แล้ว”
“ซีเอ๋อร์ เจ้านี่ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!” เป่ยกงจั๋วหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เจ้านี่ช่างดีจริง ๆ! ดีมาก คิดไม่ถึงว่าจะบีบให้ข้าทำลายร่างกายของตนเองด้วยมือตนเอ องเช่นนี้!”
ทันใดนั้น ร่างกายของเป่ยกงจั๋วก็ระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวมากออกมา จากนั้นก็พุ่งเข ข้าใส่มู่เฉียนซี และเขาก็กำลังจะพลีชีพตนเองอีกด้วย!
“นายท่าน!”
“เฉียน!”
มังกรวารีและชิงอิ่งรีบพุ่งทะยานเข้าไปอย่างรีบร้อน โดยที่ไม่สนใจถึงสิ่งอื่นอีกต่อไป !
ตูมมมม!
มีเสียงสนั่นหวั่นไหวดังขึ้นมา และท่ามกลางเสียงเหล่านั้น เป่ยกงจั๋วก็กล่าวขึ้นมาว่า “น่าเสียดายน้ำใจของซีเอ๋อร์จริง ๆ เจ้ารักษาร่างกายของข้าไว้เป็นอย่างนี้ขนาดนั้น แต ต่ตอนนี้กลับถูกทำลายลงเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน”
“คราวนี้ ถึงแม้ว่าทักษะทางการแพทย์ของเจ้าจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ก็คงไม่มีทางฟื้นฟูร่า างเดิมของข้าได้อีกแล้วล่ะ”
ในวินาทีที่เป่ยกงจั๋วระเบิดตนเอง ทันใดนั้นก็มีร่างกายที่เหมือนกับภูตผีพาคนที่อยู่ บนพื้นหายตัวไปอย่างกะทันหัน!
พลังในการระเบิดตนเองคราวนี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และไม่ง่ายเลยที่จะระเบิดร่างกาย ยของตนเองเช่นนั้น
และการระเบิดตนเองในครั้งนี้ยังตามมาด้วยการระเบิดทางจิตวิญญาณของตนเอง ซึ่งมันเป็นกา ารช่วยยกระดับพลังของตนเองอีกด้วย
“เสี่ยวไป๋!” มู่เฉียนซีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรีบพุ่งทะยานออกไปทันที และนางก็ได้ค้นพบว่ าร่างที่หมดสติอยู่บนพื้นนั้นได้หายสาบสูญไปแล้ว