ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2204 ต้องมีสัมพันธ์ส่วนตัวแน่นอน
มู่หลินหลางดูมีท่าทางโกรธเคืองเป็นอย่างมาก! จนทำให้มู่เฉียนซีคิดว่าพวกเขาทั้งสองอาจจะสู้กันขึ้นมาเสียแล้ว
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับต้องผิดหวัง เพราะที่จริงแล้วทั้งสองไม่ได้ต่อสู้กันเอง
อย่างไรเสียภารกิจที่สำคัญที่สุดของพวกเขาในตอนนี้ก็คือการสมคบคิดกันจัดการนางให้ได้เสียก่อน!
กำลังพลของราชวงศ์ตงหวงและราชวงศ์เป่ยกงมีจำนวนมากเกินไป และคนส่วนใหญ่ของหอหมอปีศาจต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และมีคนบาดเจ็บสาหัสแล้วด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นห่วงมู่เฉียนซี แต่พวกเขากลับเลือกที่จะทำตามแผนการที่มู่เฉียนซีได้เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น
พวกเขาล่าถอยอย่างรวดเร็วภายใต้การคุ้มครองของเหล่าหุ่นเชิด และเพียงไม่นานบริเวณโดยรอบหอหมอปีศาจก็เหลือมู่เฉียนซีและมังกรวารีเพียงสองคนเท่านั้น
คนอื่น ๆ พากันบ่นพึมพำว่า “คนของหอหมอปีศาจเหล่านี้ทรยศหอหมอปีศาจแล้วหลบหนีไปอย่างนั้นหรือ?”
“อย่างไรเสียคนที่หอหมอปีศาจต้องต่อสู้ด้วยก็เป็นถึงราชวงศ์ตงหวงและราชวงศ์เป่ยกง คนที่ฉลาดหน่อยก็คงไม่อยากให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้หรอก!”
“ดูเหมือนว่า หอหมอปีศาจที่เคยรุ่งโรจน์คงจะต้องสิ้นสุดลงวันนี้เสียแล้ว”
คนของราชวงศ์ตงหวงและราชวงศ์เป่ยกงก็คิดว่าคนเหล่านั้นหนีการต่อสู้ไปแล้ว แม้ว่าจะหนีทัพ แต่ก็มีหลายคนที่เป็นถึงปรมาจารย์นักปรุงยาผู้มีความสามารถอันยอดเยี่ยม นอกจากนี้พวกเขายังไม่ต้องการสิ้นเปลืองกำลังคน เพื่อไปไล่ฆ่าคนเหล่านั้นให้สิ้นซากอีกด้วย
ส่วนสองคนนั้นก็ไม่อาจโค่นมังกรวารีลงได้ ซึ่งพวกเขาก็เตรียมที่จะช่วยใช้กำลังปิดล้อมโจมตีมังกรวารีเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งแอบไปลอบโจมตีเสี่ยวโม่โม่อีกด้วย
ส่วนทางด้านของมู่เฉียนซี หากไม่มีคำสั่งขององค์รัชทายาทเป่ยกงและองค์หญิงหลินหลาง พวกเขาก็ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปยุ่งด้วยอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเชื่ออีกว่าอัจฉริยะที่อยู่บนยอดปิรามิดของกองกำลังระดับห้าทั้งสอง จะต้องสามารถหาทางจัดการมู่เฉินซีได้แน่นอนอยู่แล้ว
มู่หลินหลางยิ้มและกล่าวอย่างภูมิใจว่า “มู่เฉินซี คนของหอหมอปีศาจละทิ้งเจ้าไปหมดแล้ว ดูเหมือนว่าในสายตาคนของหอหมอปีศาจในตอนนี้เจ้าจะไม่ได้มีความสำคัญใด ๆ อีกแล้ว ตอนนี้ไม่มีคนสนใจว่าเจ้าจะอยู่หรือตาย ฉะนั้นข้าขอแนะนำให้เจ้ายอมแพ้เสียจะดีกว่า! คิดว่ามีพลังเช่นนี้คอยหนุนหลัง แล้วเจ้าจะสามารถต่อสู้กับราชวงศ์ตงหวงได้อย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มู่หลินหลาง เจ้าจะพูดจาไร้สาระให้มากมายไปทำไมกัน? หากว่าไม่มีเป่ยกงจั๋ว ก็บอกไม่ได้หรอกว่าผู้ใดคือคนที่ต้องตายกันแน่!”
ร่างเงาสีม่วงได้กลายเป็นเงามายาจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่บนท้องฟ้า สถานการณ์ในตอนนี้ดูเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่นางมีมังกรวารีอยู่ด้วย ฉะนั้นจึงน่าจะสามารถหนีออกไปได้อยู่แล้ว
“มังกรเพลิงช่วยเสริมพลังวิญญาณธาตุอัคคีให้ข้าด้วย!”
“ขอรับ นายท่าน!”
เป่ยกงจั๋วออมมือไว้ ซึ่งมู่เฉียนซีก็ทำได้เพียงหลบหลีกการโจมตีของเขาเท่านั้น และไม่เคยที่จะเริ่มโจมตีเป่ยกงจั๋วก่อนเลย
นางตรงเข้าไปต่อสู้กับมู่หลินหลาง อย่างไรเสียก็ต้องเลือกบดขยี้คนที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว เพราะเมื่อเทียบกับเป่ยกงจั๋ว แน่นอนว่ามู่หลินหลางก็เป็นเพียงแค่ลูกพลับที่อ่อนนุ่มเท่านั้น
ใบพัดของพัดวิหคเฟิงหลิงถูกกางออก และพลังธาตุวายุก็ได้ไหลทะลักเข้าจู่โจมมู่หลินหลางอย่างกะทันหัน
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ก่อนที่การโจมตีของเป่ยกงจั๋วจะมาถึง มู่เฉียนซีก็ได้ลงมือโจมตีอีกครั้งหนึ่ง และเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวก็โหมเข้าใส่มู่หลินหลางทันที
ตูมมม โครมมม!
มู่หลินหลางสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเปลวเพลิงนี้เอาไว้ได้ และแม้ว่านางจะไม่เป็นอะไร แต่เสื้อผ้าของนางกลับถูกแผดเผาจนขาดรุ่งริ่งไปเล็กน้อย
ร่างของนางเซไปเซมา และการโจมตีในคราวนี้ก็ทำให้นางที่เป็นฝ่ายถูกกระทำได้รับความสูญเสียไม่น้อยเลยทีเดียว
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จากนั้นก็พุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีอีกครั้ง
ตูมมม โครมมม!
พวกนางต่อสู้กันอย่างนี้เป็นเวลานาน จนบนร่างกายของมู่เฉียนซีเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และมู่หลินหลางก็อยู่ในสภาพทุลักทุเลเป็นที่สุด นอกจากนี้นางยังถูกมู่เฉียนซีสร้างรอยแผลไว้บนใบหน้าสองสามรอยอีกครั้งหนึ่งด้วย
เมื่อเทียบสภาพที่ทุลักทุเลของหญิงสาวทั้งสอง ก็เห็นได้ชัดว่าเป่ยกงจั๋วนั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย?
นี่เป็นเพราะว่าเป่ยกงจั๋วแข็งแกร่งเกินไปอย่างนั้นหรือ? แต่มู่หลินหลางกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ
ดูเหมือนว่ามู่เฉินซีพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำร้ายเป่ยกงจั๋วเลย พวกเขาทั้งสองคนมีบางอย่างที่ผิดปกติแน่นอน
หลังจากที่ทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า มู่หลินหลางก็ค้นพบว่ามันคือเรื่องจริง
พวกเขาทั้งสองจะต้องมีสัมพันธ์ส่วนตัวกันเป็นแน่ และเป่ยกงจั๋วก็มายังราชวงศ์ตงหวงด้วยจิตในที่ไม่บริสุทธิ์อีกด้วย
เมื่อมู่หลินหลางเอาแต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ทำให้ตอนนี้นางเริ่มวอกแวก และมู่เฉียนซีก็ได้ฉวยโอกาสนี้ในการโจมตีนาง
แม้ว่าเป่ยกงจั๋วจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของมู่เฉียนซี แต่เขากลับไม่มีความคิดที่จะช่วยเหลือมู่หลินหลางเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีได้เริ่มกระตุ้นพลังวิญญาณธาตุวายุและอัคคี จากนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีมู่หลินหลางอย่างกะทันหัน
ตูมมม!
และพลังนี้ ก็ทำให้มู่หลินหลางถูกกระแทกจนลอยกระเด็นออกไปทันที
ตึงงง!
มู่หลินหลางตกลงมาจากกลางอากาศ และกระแทกเข้ากับก้อนหินใหญ่จนแตกละเอียด
“กรี๊ดดดด!” มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา และนางก็กระอักเลือดออกมาไม่หยุด
“ฝ่าบาทหลินหลาง!”
“ฝ่าบาทหลินหลาง!”
สีหน้าของคนจากราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ทว่าพวกเขากลับทำให้องค์หญิงหลินหลางต้องได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว
หากฝ่าบาทจะลงโทษ พวกเขาก็คงยากที่จะพ้นผิดไปได้
และในขณะนี้ ร่างของมังกรวารีก็พุ่งทะยานออกในพริบตา ซึ่งเขาก็ได้กลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีอีกครั้ง
“นายท่าน!” เขาคำรามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทางด้านนั้น เสี่ยวโม่โม่ก็จัดการเจ้าพวกนกเทพง่อย ๆ ทั้งสองตัวนั้นได้แล้ว
มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ พวกเราถอย!”
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
พวกของมู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไปจากวงล้อมด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด จากนั้นก็ออกไปจากเมืองหนานหวางทันที
“ตามไป!”
“ห้ามปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้!”
“……”
หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บด้วยยาศักดิ์สิทธิ์แล้ว มู่หลินหลางก็ค่อย ๆ ได้สติกลับคืนมา
นางคำรามกล่าวว่า “ไล่ตามมู่เฉินซีไป เร็วเข้า! ห้ามปล่อยให้นางหนีรอดไปได้เด็ดขาด!”
“ฝ่าบาทหลินหลาง พระองค์ต้องรักษาอาการบาดเจ็บก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้มอบหน้าที่ให้พวกเราจัดการแทนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่ได้! ข้าจะต้องได้เห็นกับตาตนเองว่านางมีจุดจบที่น่าสังเวชแค่ไหน ข้าถึงจะพอใจ!” มู่หลินหลางกัดฟันกล่าว
แม้ว่าตอนนี้นางจะเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว แต่นางก็จะกัดฟันทนและจะตามไปให้ได้
นางจ้องมองไปที่เป่ยกงจั๋วด้วยความโกรธ หากเป่ยกงจั๋วคิดจะช่วยนางละก็ เขาก็มีโอกาสเช่นกัน แต่เจ้าหมอนี่กลับเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น
นางรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ตั้งใจที่จะมาชมการแสดงของมู่เฉินซีเท่านั้น อีกทั้งยังตั้งใจปล่อยให้มู่เฉินซีหนีไปได้อีกด้วย เพราะพวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกันมาตั้งแต่แรกแล้ว
มู่หลินหลางถูกคนพยุงให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นนางก็กล่าวว่า “เอ๋าหวาง ส่งคนมาคอยดูองค์รัชทายาทเป่ยกง! การดำเนินการครั้งนี้ไม่ต้องการให้องค์รัชทายาทเป่ยกงเข้าร่วมอีกแล้ว ให้คนส่งพวกเขากลับไปยังพระราชวังตงหวงเพื่อพักผ่อนเสีย”
เรื่องนี้ยังไม่ทำให้ชัดเจน และเป่ยกงจั๋วก็ไม่อาจออกไปจากราชวงศ์ตงหวงได้ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาเข้ามาวุ่นวาย และสร้างปัญหาได้อีกแล้ว”แต่ว่า…เช่นนั้นองค์รัชทายาทเป่ยกง!” เอ๋าหวางกล่าวอย่างลำบากใจเล็กน้อย
“ที่นี่คือราชวงศ์ตงหวง ไม่ใช่สถานที่ที่ต้องทำตามคำสั่งขององค์รัชทายาทเป่ยกง แต่ต้องทำตามคำสั่งของข้า” มู่หลินหลางกล่าวอย่างเย็นชา
องค์รัชทายาทเป่ยกงกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “การปล่อยให้องค์หญิงหลินหลางได้รับบาดเจ็บเป็นความผิดพลาดของข้าเอง ข้าต้องขอโทษด้วยจริง ๆ! หากเจ้าไม่พอใจแล้วละก็ เช่นนั้นข้าจะกลับไปเอง”
องค์รัชทายาทเป่ยกงแสดงออกว่าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ฉะนั้นเอ๋าหวางจึงเตรียมการแล้วกล่าวว่า “เด็ก ๆ! ส่งองค์รัชทายาทเป่ยกงกลับไปยังพระราชวังตงหวงด้วย!”
“น้อมรับคำสั่ง!”
กองกำลังหลักได้ไล่ตามมู่เฉินซีไป ส่วนความสามารถของคนที่คุ้มครององค์รัชทายาทเป่ยกงกลับไปยังพระราชวังตงหวงนั้นก็ไม่แข็งแกร่งเท่าไรนัก
ถึงมู่หลินหลางจะไม่ค่อยพอใจอย่างไร แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ
พวกเขาไม่อาจละทิ้งโอกาสที่ดีในการไล่จับมู่เฉินซี เพื่อหันมาควบคุมเป่ยกงจั๋วได้
มู่เฉินซีในเวลานี้กำลังหัวเดียวกระเทียมลีบ และไร้คนคอยช่วยเหลือ จะมีก็เพียงองครักษ์ที่มีความสามารถสูงคนหนึ่ง และมีสัตว์พันธสัญญาที่อยู่ในระดับสัตว์เทพอีกตัวหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่น่าจะจัดการได้ง่ายที่สุดแล้ว
“ตามไป!”
ในขณะที่พวกของมู่หลินหลางกำลังไล่ตามไป เป่ยกงจั๋วก็กล่าวขึ้นมาว่า “พวกเราก็ออกไปจากเมืองหนานหวางกันเถอะ!”
เมื่อคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นค้นพบว่าที่องค์รัชทายาทเป่ยกงออกไปจากเมืองหนานหวางนั้นไม่ได้คิดที่จะกลับไปพระราชวังตงหวงแต่อย่างใด พวกเขาจึงกล่าวว่า “องค์รัชทายาทเป่ยกง ฝ่าบาทหลินหลางมีรับสั่งว่า ให้เชิญพระองค์เสด็จกลับไปยังพระราชวังตงหวง เนื่องจากว่าองค์จักรพรรดิของพวกกระหม่อมมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่อยากจะตรัสถามพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
“มู่หลินหลางเป็นเพียงองค์หญิงของราชวงศ์ตงหวงเท่านั้น แต่ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาทของราชวงศ์เป่ยกง แล้วเหตุใดข้าจะต้องฟังคำสั่งของนางด้วย?” เป่ยกงจั๋วกล่าวอย่างเย็นชา
“องค์รัชทายาทเป่ยกงนี่ท่าน…”
“ทำให้พวกเขาหมดสติไปเสีย!” เป่ยกงจั๋วออกคำสั่งกับลูกน้องของเขา
“พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท!”
และองครักษ์ที่ไม่คุ้มค่าที่จะให้กล่าวถึงเหล่านี้ ก็ถูกทุบตีจนหมดสติไปในทันที
“ไล่ตามมู่เฉินซีไป คราวนี้ข้าจะต้องพานางกลับไปที่ราชวงศ์เป่ยกงให้จงได้!” เป่ยกงจั๋วกล่าวอย่างมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง