ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2200 สมคบคิดกัน
เดิมทีจักรพรรดิตงหวงกำลังกลัวว่ากำลังพลที่รวบรวมมาจะไม่สามารถจัดการกับหอหมอปีศาจที่ลึกลับนั่นได้ แต่หากมีองค์รัชทายาทเป่ยกงมาเข้าร่วมด้วย มันก็จะเป็นการร่วมมือที่แข็งแกร่ง และไม่ต้องกลัวว่าจะจัดการหอหมอปีศาจไม่ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามเป่ยกงจั๋วก็ได้เริ่มร่วมมือกับราชวงศ์ตงหวงแล้ว และมู่หลินหลางที่ถูกเอาขังไว้เพื่อฝึกฝนก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมาเพราะการปรากฏตัวขึ้นของคู่หมั้นอย่างเป่ยกงจั๋ว ซึ่งนางก็ต้องออกมาคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกด้วย
นอกจากนี้นางยังสามารถออกไปต่อสู้กับหอหมอปีศาจด้วยกันกับเป่ยกงจั๋วได้อีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มู่หลินหลางมองเป่ยกงจั๋วในแง่ดีมากขึ้น
แน่นอนว่ามู่หลินหลางก็อยากจะสอบถามเหตุผลที่แท้จริงที่เป่ยกงจั๋วต้องการจะจัดการกับมู่เฉินซีเช่นกัน แต่เป่ยกงจั๋วที่มีระดับความสามารถสูงเช่นนี้จะถูกมู่หลินหลางล่อหลอกจนพูดออกมาได้อย่างไรกัน ผลสุดท้ายนางจึงรู้สึกรังเกียจที่ถูกเขาแสร้งทำเป็นเสน่หาอย่างลึกซึ้เช่นนี้
ทั้งสองเป็นคู่หมั้นที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ถึงจะตกลงแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว แต่อันที่จริงก็ไม่ได้ชอบหน้ากันมากนัก ทั้งยังชอบดูถูกกันและกันเสมอ และแน่นอนว่าไม่ได้มีความรักใคร่ต่อกันเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่หลุดพ้นจากมู่หลินหลางแล้ว เป่ยกงจั๋วก็ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกวารีและมองไปที่ร่างกายของตน
เขาบ่นพึมพำอย่างแผ่วเบาว่า “หาน มู่เฉินซีคนนั้นก็คงจะเป็นมู่เฉียนซีอย่างนั้นสินะ!”
“นอกจากนี้ยังมีหอหมอปีศาจ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลงานชิ้นเอกของนาง! แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนที่มีชื่อเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะบังเอิญมากเกินไปหน่อย ในแดนซวนเทียนแห่งนี้คนที่กล้าเอาชนะมู่หลินหลางได้โดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย คนที่มีพรสวรรค์เช่นนั้น นอกจากนางแล้วก็คิดถึงคนอื่นไม่ได้เลย”
“คราวนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยให้มู่เฉียนซีหลุดมือข้าไปได้อย่างแน่นอน! หาน เจ้าอดทนเฝ้าดูอย่างใจเย็นเสียเถอะ! สิ่งที่นางใส่ใจทั้งหมด ข้าจะเป็นคนทำลายมันเอง และมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งหมดของนาง ข้าก็จะแย่งชิงมันมาให้ได้ นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ของนางด้วย ข้าจะใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่! ยิ่งผู้ใดได้รับความสนใจจากนาง ข้าก็จะต้องยิ่งหยียบย่ำคนผู้นั้นให้มากขึ้นไปอีก!”
“เจ้าก็โกรธมากใช่หรือไม่…”
เป่ยกงจั๋วรู้สึกว่าใจของเขาเต้นเร็วมาก และจิตวิญญาณก็กำลังสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่มันก็เป็นเพียงแค่นี้เท่านั้น
หานถูกเขาผนึกเอาไว้แล้ว เขาต่างหากคือคนที่แข็งแกร่งคนนั้น และเป่ยกงหานก็เป็นเพียงลูกน้องที่พ่ายแพ้แก่เขาเท่านั้น
เป่ยกงจั๋วคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของมู่เฉินซีได้แล้ว แต่แน่นอนว่าเขาไม่อาจปล่อยให้คนของราชวงศ์ตงหวงรับรู้ได้อย่างแน่นอน
ที่นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง หากปล่อยให้พวกเขารู้ว่ามู่เฉินซีคือลูกสาวของมู่เฟิงอวิ๋นที่มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไว้ในครอบครอบคนนั้น เขาคงไม่มีทางจะพานางกลับไปที่ราชวงศ์เป่ยกงได้อย่างแน่นอน
เนื่องจากว่าได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิตงหวง เป่ยกงจั๋วจึงได้นำผู้ช่วยมาด้วยไม่น้อย และขบวนรบนั้นก็ทำให้จักรพรรดิตงหวงตื่นตัวขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตามเจ้าหมอนี่อ้างว่าต้องการจะล้างแค้นให้กับคู่หมั้นของตน แต่ความความตั้งใจที่แท้จริงนั้นคือสิ่งใดยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้
จักรพรรดิตงหวงไม่อยากที่จะถูกเป่ยกงจั๋วแทงข้างหลัง ซึ่งตอนนี้เขาก็มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เล็กน้อย
และเป่ยกงจั๋วก็ต้องมองความกังวลของจักรพรรดิตงหวงออกแน่นอนอยู่แล้ว เขาจึงกล่าวว่า “ร่างกายของเสด็จพ่อของข้าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก และนักปรุงยาขั้นเทวะระดับแนวหน้าแห่งราชวงศ์เป่ยกงของพวกเราก็หมดหนทางแล้วเช่นกัน! ข้าได้ยินข่าวลือมาว่าฝีมือของหมอปีศาจของหอหมอปีศาจนั้นเหนือชั้นเป็นอย่างมาก แต่กลับเชิญตัวไปได้ไม่ง่ายนัก! ดังนั้นจึงทำได้เพียงใช้วิธีการที่หยาบคายเล็กน้อยเช่นนี้เท่านั้น”
“อย่างไรก็ตามที่นี่ก็ไม่ใช่อาณาเขตของราชวงศ์เป่ยกง แน่นอนว่าหลังจากนี้ก็จะต้องให้ความร่วมมือกับราชวงศ์ตงหวงอย่างดีอยู่แล้ว ฉะนั้นภารกิจในคราวนี้จะล้มเหลวไม่ได้และมีแต่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น ไม่ใช่เพียงเพื่อเสด็จพ่อของข้าเท่านั้น แต่เพื่อองค์หญิงหลินหลางผู้เป็นพระคู่หมั้นของข้าด้วย” คำพูดของเป่ยกงจั๋วนั้นสมบูรณ์แบบยิ่งนัก
จักรพรรดิตงหวงเริ่มคล้อยตามในคำพูดของเขา เขาเองก็อยากได้คนอย่างหมอปีศาจมาอยู่ใต้อำนาจเช่นกัน แต่เพื่อความร่วมมือของเป่ยกงจั๋ว เขาจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้เท่านั้น
“เอาล่ะ เจ้าต้องการหมอปีศาจก็ย่อมได้! แต่มู่เฉินซีจำเป็นที่จะต้องมอบให้ข้าเป็นคนจัดการ”
“ไม่มีปัญหาพ่ะย่ะค่ะ!” เป่ยกงจั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อไรที่จับคนมาได้แล้วจริง ๆ ต่อให้ต้องฉีกหน้าเขาก็ไม่กลัว ในเมื่อเขาได้ครอบครองทั้งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ หม้อเทพนิรันดร์อีกทั้งยังไม่มีองค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นอยู่ด้วย ฉะนั้นคนของราชวงศ์ตงหวงทั้งหมดจึงมีแต่พวกไร้ความสามารถ ซึ่งสำหรับเขาแล้วก็เป็นเหมือนเสือที่ถูกถอดเขี้ยวเล็บออกไปแล้วเท่านั้น และไม่คุ้มค่าให้หวาดกลัวเลยด้วยซ้ำ
ช่วงนี้จูเชว่มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ตลอด และเขาก็มักจะมาหามู่เฉียนซีอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย “ซีซี ช่วงนี้ข้าไม่ได้รับข่าวอะไรเลย นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว! ฉะนั้นข้าจึงมีความรู้สึกว่ามันจะต้องมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นเป็นแน่”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากสู้ไม่ได้ก็แค่หนีไปเท่านั้นเอง ถ้ามีใครมาที่หอหมอปีศาจก็ยังมีปี้ฟางคอยช่วยเหลือและยังมีค่ายกลป้องกันอีกด้วย ถึงพวกเขาจะลงมือแต่ก็ไม่สามารถทำลายมันได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี ถึงแม้ว่าจะต้องพ่ายแพ้แค่กลับมาผงาดได้อีกครั้งในอนาคตก็พอแล้ว”
ตอนนี้นางได้วางแผนที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว หลังจากนั้นนางก็กล่าวว่า “ดังนั้น ครั้งนี้พวกเจ้าก็อย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีกเลย ข้าและมังกรวารีหลบหลีกไปได้ไม่ยาก แต่รากฐานที่พวกเจ้าต้องดูแลในราชวงศ์ตงหวงนั้นมีมากกว่า ฉะนั้นการมีส่วนร่วมในครั้งนี้มันจึงอันตรายเกินไป”
“ซีซี…”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจริงจังว่า “ครั้งก่อนข้าเชื่อฟังพวกเจ้าแล้ว ครั้งนี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้าบ้าง นี่คือวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
จูเชว่รู้ถึงความแน่วแน่ของนางดี หากต่อต้านและไม่ยอมร่วมมือ ซีซีก็มีหนทางอีกมากมายที่สามารถขับไล่เขาออกไปให้ไกลได้ จากนั้นจูเชว่จึงกล่าวว่า “ซีซี เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดเลยนะ!”
“วางใจเถอะ!”
และหลังจากที่จูเชว่กลับไปแล้ว นางก็คิดหาทางอยู่ตลอด
สถานการณ์หลังจากนี้น่าจะอันตรายมากยิ่งขึ้น ถึงพวกเขาจะยืนมือเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี แต่หากพ่อบุญธรรมยื่นมือเข้ามาช่วยละก็…
แต่ก่อนที่จะทำตามหัวใจ จูเชว่กลับถูกไป๋เจ๋อขัดขวางเอาไว้เสียก่อน
สภาพร่างกายของพ่อบุญธรรมในตอนนี้ไม่สู้ดีเท่าไรนัก หากให้เขาร่วมด้วย ก็มีแต่ทำให้พ่อบุญธรรมตายเร็วขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นจูเชว่จึงทำได้เพียงยอมแพ้ไป
พวกของฉงหมิงและไป๋เจ๋อก็สับสนมากเช่นกัน หวังว่านางและคู่หูของนางที่มีความสามารถอย่างมหัศจรรย์ จะสามารถหนีจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้!
ทันทีที่แสงแรกของรุ่งอรุณสว่างไสวขึ้น ก็มีสัตวศักดิ์สิทธิ์ท่องนภาจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านไปในอากาศ
เหนือท้องฟ้าของเมืองหนานหวางเป็นเขตห้ามบิน แต่บางคนก็สามารถได้รับข้อยกเว้นได้
อย่างเช่นคนของราชวงศ์ตงหวง!
แววตาของจูเชว่มืดมนลง “มาแล้ว!”
“คุณชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ คราวนี้ราชวงศ์ตงหวงไม่เพียงแต่ระดมยอดฝีมือที่ไม่ได้ใช้งานมาจำนวนมากเท่านั้น พวกเรา…พวกของเราที่อยู่ในกลุ่มเหล่านั้น ก็ได้ค้นพบว่ามีองค์รัชทายาทเป่ยกง และยังมีอัจฉริยะจากราชวงศ์เป่ยกงอยู่อีกด้วยขอรับ!”
“อะไรนะ?” จูเชว่เกือบที่จะตกลงจากเก้าอี้ด้วยความตื่นตกใจ
“เป่ยกง…เป่ยกงจั๋วก็มาอย่างนั้นหรือ!?”
ราชวงศ์ตงหวงส่งขบวนรบเช่นนี้ออกมา ถึงซีซีจะอยากหนีก็ดูเหมือนว่าจะยากเกินไปแล้วล่ะ
แค่มีเป่ยกงจั๋วเพิ่มเข้ามาอีกคน นั่นก็เหมือนกับการตกลงสู่หายนะที่ไม่อาจหวนคืนได้อย่างไรอย่างนั้น
ความยุ่งเหยิงระหว่างซีซีกับเป่ยกงจั๋วนั้น เขาก็ไม่ได้รู้อย่างแน่ชัดเช่นกัน แต่คราวที่แล้วที่พวกเขาและซีซีปะทะกับเป่ยกงจั๋วนั้นก็เป็นไปอย่างรุนแรงมาก
เป่ยกงจั๋วหมกมุ่นต่อซีซีอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้…
“บัดซบเอ้ย! เหตุใดทุกเรื่องถึงได้มารวมเข้าด้วยกันเช่นนี้ล่ะ คราวนี้มันยากลำบากเกินไปแล้ว มันร้ายแรงมากจริง ๆ!”
จูเชว่อยากที่จะพุ่งเข้าไปอย่างไม่ลังเล แต่ผลสุดท้ายก็ถูกคนขวางเอาไว้ก่อน “หากคุณชายตัดสินใจที่จะไปเสี่ยงอันตรายแล้วละก็ เช่นนั้นคนแก่อย่างข้าก็คงต้องบังคับท่านแล้ว”
สีหน้าของจูเชว่ดูหมดสิ้นหนทาง จากนั้นใบหน้าของเขาก็ขาวซีดขึ้นมาทันที และมองไปยังทิศทางของหอหมอปีศาจด้วยความกังวลใจ
เป่ยกงจั๋วมีความคิดที่รอบคอบมาก และมันก็ทำให้เขาไม่ได้รับรู้ข่าวสารใด ๆ เลย
เวลานี้พวกเขาดำเนินการไปอย่างเหนือความคาดหมาย ถึงจะส่งข่าวไปให้กับซีซีในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว
แต่ในตอนที่พวกเขาเข้ามายังเมืองหนานหวาง ทั้งมู่เฉียนซีและมังกรวารีก็สังเกตถึงมันได้แล้ว
นางกวาดสายตามองไปยังสมาชิกทุกคนของหอหมอปีศาจแล้วกล่าวว่า “ศัตรูได้มาถึงแล้ว หลังจากนี้ไปข้ามีคำขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น! คือเมื่อศัตรูมาถึง ก็จงฆ่าพวกเขาเสีย!”
“และในตอนที่พวกเจ้ารู้สึกว่าชีวิตตกอยู่ในอันตรายเพราะพลังไม่เพียงพอ จงรีบหนีไปเสีย! ขอเพียงแค่หมอปีศาจยังมีชีวิตอยู่แม้เพียงหนึ่งวัน หอหมอปีศาจก็จะไม่มีทางสูญสลายไปอย่างแน่นอน! และเมื่อไรที่ลมพายุพัดผ่านไปแล้ว พวกเจ้าก็สามารถกลับมาได้อีกครั้ง”
“ข้าไม่อนุญาตให้สู้จนตัวตาย ทุกชีวิตของพวกเจ้าล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ได้ยินไหม!”
พวกเขากำหมัดแน่นแล้วมองไปยังมู่เฉินซี กองกำลังจำนวนมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย คนส่วนใหญ่ล้วนให้พวกเขาต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง แต่ทว่าท่านมู่กลับทำตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ไม่ใช่ว่านางยอมรับโชคชะตา แต่เพราะนางนั้นหวงแหนชีวิตของพวกเขาทุกคนเช่นกัน
พวกเขากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราเข้าใจแล้วขอรับ! และจะไม่มีทางลืมคำสั่งของท่านมู่อย่างแน่นอน!”