ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2199 การมาถึงของเป่ยกงจั๋ว
จูเชว่รู้ว่าใบหน้านี้ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของมู่เฉียนซี และไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางมาก่อนอีกด้วย แต่เมื่อได้ยินคำพูดของชิงหลง กลับทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมาก
“ชิงหลง คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะดูคนที่หน้าตาเช่นนี้! ถึงแม้ว่าหน้าตาของซีซีจะไม่งดงาม แต่ข้าก็ชอบนางอยู่ดี! เจ้านี่มันจะหยาบคายเกินไปแล้ว”
หากต้องการจะเห็นหญิงงาม เขาแค่มองตนเองก็ได้เช่นกัน
ซวนอู่ก็มองไปทางมู่เฉียนซีอย่างแปลกประหลาดแล้วกล่าวว่า “คงไม่ได้มีหน้าตาเหมือนนางแม่มดหรอกใช่หรือไม่!”
มุมปากของไป๋เจ๋อกระตุกเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ชิงหลง เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ค้นพบว่าเจ้ามีปัญหาทางด้านสุนทรีภาพด้วย”
ชิงหลงกล่าวว่า “มันน่าเกลียดเสียจนข้าไม่อยากจะมองหน้านางเลยด้วยซ้ำ หากนางไม่ยอมบอกตัวตนของนางมาให้ชัดเจนก่อน ข้าจะไม่มีทางยอมรับนางอย่างแน่นอน”
“ชิงหลง หากเจ้าพูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด! เอาแต่พูดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าอยากตายสินะ!” จูเชว่เดือดดาลเป็นอย่างมาก เขาโมโหจนพุ่งเข้าโจมตีชิงหลงในทันที
แม้แต่มังกรวารีเองก็กวาดสายตามองไปยังชิงหลงอย่างเย็นชา และคันไม้คันมือขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาของนายท่านเช่นนี้
ช่างกวนโมโหยิ่งนัก!
สำหรับมังกรวารี นอกจากนายท่านแล้วรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงบนโลกนี้ล้วนเหมือนกันไปหมด ซึ่งมีนายท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น
แน่นอนว่านายท่านงดงามที่สุดในโลกแล้ว แล้วเขาจะทนให้ชิงหลงพูดจาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของจูเชว่ ชิงหลงก็ทำได้แต่หลบหลีกไปอีกด้านหนึ่งเท่านั้น
เขากล่าวว่า “รอเจ้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางเมื่อไรก็จะเข้าใจเอง และเจ้าก็จะต้องไม่ชอบใบหน้าของนางเหมือนข้าอย่างแน่นอน”
“ข้าไม่ใช่คนที่มองคนอื่นเพียงผิวเผินเช่นเจ้าหรอก ชิงหลงเจ้าหุบปากไปเลยนะ!”
อากุ่ยกล่าวอย่างจริงจังว่า “แม้ว่าเสี่ยวซีจะหน้าตาน่าเกลียดยิ่งกว่าผีที่น่าเกลียดที่สุดที่ข้าเจอมา แต่ข้าก็ยังจะชอบนางมากเหมือนเดิม!”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ชิงหลงเจ้าจะมั่นใจเกินไปหน่อยแล้ว ก็แค่ขี้เหร่นิด ๆ หน่อย ๆ เอง ถึงจะงดงามก็ไม่สามารถกินได้อยู่ดี! เจ้าดูอย่างจูเชว่ที่งดงามเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งสิ พอดูไปดูมาแล้วไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
เมื่อได้ฟังคำพูดของพวกเขา มู่เฉียนซีรู้สึกจะยิ้มก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน
สิ่งที่เรียกว่าน่าเกลียดของชิงหลง นั่นเป็นเพราะว่านางหน้าตาคล้ายกับคนที่น่าขยะแขยงคนนั้น ฉะนั้นเขาจึงเรียกว่าน่าเกลียด
เขาเก็บรักษาความลับนี้ให้กับมู่เฉียนซี แน่นอนว่าคนอื่นต้องไม่มีทางเข้าใจอยู่แล้ว ฉะนั้นนางจึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งภายในขึ้นมา
และซวนอู่ก็ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย “เอาล่ะ! อย่าเสียเวลาอีกเลย หากยังรออยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่ากองกำลังเสริมอีกกลุ่มคงได้มาถึงอีกครั้งเป็นแน่! พวกเรารีบถอยกันเถอะ!”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ซวนอู่กล่าวถูกต้องแล้ว รีบถอยกันเถอะ! ทุกคนกลับไปยังอาณาเขตของตนเอง และระวังตัวให้มากด้วย!”
ซวนอู่กล่าวว่า “เจ้าคือเป้าหมายของพวกเขา คนที่ควรระวังมากที่สุดก็คือเจ้า ข้าจะให้คำตอบเจ้าให้เร็วที่สุด ฉะนั้นเจ้าก็อย่าปล่อยให้ถูกคนของราชวงศ์ตงหวงจัดการไปเสียก่อนล่ะ”
เวลาทุกชั่วขณะของเขาล้วนถูกใช้หมดไปกับการหาเงิน และการเข้าร่วมแผนการในครั้งนี้ก็ทำให้เขาเสียเงินไปมากมายแล้ว ฉะนั้นเขาจำเป็นต้องรีบกลับไป หลังจากนั้นซวนอู่จึงจากไปอย่างรีบร้อน
ในเมื่อซวนอู่ไปแล้ว แน่นอนว่าอากุ่ยก็ลอยตามเข้าจากไปด้วยเช่นกัน
“เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อน!” ชิงหลงไม่อยากถูกจูเชว่จ้องเขม็งอีก จึงรีบล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
ฉงหมิงกล่าวว่า “หากมีปัญหาอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ เพราะถ้าเจ้าตายเร็วเกินไปโลกนี้คงต้องสูญเสียอัจฉริยะในการหลอมอาวุธไปคนหนึ่งเป็นแน่ และหากเป็นเช่นนั้นข้าคงจะเหงามากเลยทีเดียว”
ต่อมา มู่เฉียนซีก็ตามไป๋เจ๋อและจูเชว่กลับไปที่เมืองหนานหวาง
ที่นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง ในเมื่อมังกรวารีออกโรงแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ราชวงศ์ตงหวงจะสืบเสาะจนเจอเบาะแสเกี่ยวกับกับหอหมอปีศาจได้
ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงปรึกษาหารือกับจูเชว่และไป๋เจ๋อเพื่อยกระดับการป้องกันของหอหมอปีศาจ และมังกรวารีก็ได้ลงมือจัดเตรียมวางค่ายกลป้องกันและค่ายกลในการโจมตีที่อยู่บริเวณโดนรอบหอหมอปีศาจด้วยตนเอง
หากมีศัตรูบุกเข้ามา ค่ายกลก็จะเริ่มทำงาน แม้จะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณขั้นสูงก็อย่าหวังจะทำลายหอหมอปีศาจได้เลยภ
หลังจากที่คลื่นลมสงบเงียบมาหลายวัน มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ว่ากำลังมีลมพายุเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เป็นอย่างยิ่ง
ในขณะนี้ ณ พระราชวังหลวงของจักรพรรดิตงหวง จักรพรรดิตงหวงตรัสอย่างเคร่งขรึมว่า “ตัวตนของยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นตรวจสอบออกมาได้หรือยัง?”
“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ตรวจสอบชัดเจนแล้วพ่ะย่ะค่ะ ชายหนุ่มลึกลับผู้นั้นเป็นผู้ติดตามของหมอปีศาจ มีที่มาไม่ชัดเจน! นอกจากนี้พวกเรายังตรวจสอบพบความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างมู่เฉินซีกับหอหมอปีศาจอีกด้วย ฉะนั้นสถานที่ซ่อนตัวของนางในตอนนี้จะต้องเป็นที่หอหมอปีศาจแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ข้าหลวงที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าของเขากล่าวขึ้น
“หอหมอปีศาจอย่างนั้นหรือ?” จักรพรรดิตงหวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ในเวลานี้หอหมอปีศาจมีชื่อเสียงไม่น้อยเลย อีกทั้งยังมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย
“มู่เฉินซีมียอดฝีมือมากมายคอยปกป้องนางอยู่ นั่นต้องเป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับหอหมอปีศาจแน่นอน แม้ว่าตอนนี้หอหมอปีศาจจะยังไม่ได้รับการประเมิน แต่เพราะด้วยการมีอยู่ของทั้งสองคนอย่างนักปรุงยาขั้นเทวะและยอดฝีมือลึกลับคนนั้น รวมไปถึงยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสมาคมการค้าเฉินซีมากอีกด้วย ฉะนั้นหากจะจัดการจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยพ่ะย่ะค่ะ”
แรกเริ่มเดิมทีหอหมอปีศาจไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อมาสังเกตอีกทีก็ค้นพบว่าไม่สามารถแตะต้องได้แล้ว ซึ่งนี่ก็ทำให้จักรพรรดิตงหวงรู้สึกว่าราวกับมีบางอย่างติดอยู่ในลำคออย่างไรอย่างนั้นเลย
“ถึงจะไม่ง่ายแต่ก็ต้องจัดการ สมาคมการค้าเฉินซีก็เป็นเพียงแค่พ่อค้า ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะยอมล่วงเกินพวกเราราชวงศ์ตงหวงเพื่อหอหมอปีศาจได้ มู่เฉินซีจะต้องถูกกำจัด หากนางมีชีวิตต่อไป จะต้องกลายเป็นปัญหาอย่างแน่นอน”
“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
“ระดมกำลังพล เรียกตัวเหล่ายอดฝีมือทั้งหมดกลับมา โดยยึดอยู่ภายใต้หลักการที่ไม่ทำลายรากฐานของราชวงศ์ตงหวง! พวกเราบ่มเพาะพวกเขามานานขนาดนี้ อีกทั้งยังมอบทรัพยากรในการฝึกฝนให้อีกมากมายถึงเพียงนั้น ฉะนั้นก็ควรถึงเวลานี้จะนำเอามาใช้ได้แล้ว”
ก่อนหน้านี้ได้ประเมินมู่เฉินซีต่ำเกินไป และคนที่ส่งออกไปก็ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด ฉะนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกทำลายล้างทั้งกองทัพ นอกจากอัครมหาเสนาบดีที่ใช้เคล็ดวิชาลับในการแอบกลับมาแล้ว คนอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนตายอยู่ที่นั่น
อัครมหาเสนาบดีในตอนนี้ยังคงกำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ทว่าคนเหล่านั้นไม่เพียงแค่ตายแล้ว ยังมีเพื่อนสนิทของเขาหลายคนที่โดนตัดศีรษะ ซึ่งนั่นถือเป็นการยั่วยุราชวงศ์ตงหวงของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
ในตอนที่จักรพรรดิตงหวงกำลังวางแผนในการจัดการกับหอหมอปีศาจและสังหารมู่เฉินซีอยู่นั้น ก็มีคนเข้ามารายงานว่า “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทเป่ยกงต้องการที่จะยังมาราชวงศ์ตงหวงพ่ะย่ะค่ะ มิทราบว่าฝ่าบาทจะทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้องค์รัชทายาทใช้ค่ายกลส่งตัวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ราชวงศ์ตงหวงและราชวงศ์เป่ยกงนั้นมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ฉะนั้นจึงค่อนข้างที่จะอยู่ห่างไกลกัน แม้ว่าจะนั่งสัตว์เทพบินได้มาก็ใช้เวลานานมากอยู่ดี
ดังนั้นระหว่างทั้งสองราชวงศ์จึงมีค่ายกลส่ง เพื่อให้ไปมาหากันได้สะดวกยิ่งขึ้น
เพียงแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถมาได้ตามใจชอบ ถึงแม้ว่าคนของทางราชวงศ์เป่ยกงนั้นจะสามารถกลับจากราชวงศ์ตงหวงได้ตามต้องการ แต่หากต้องการจะมาแล้วละก็จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิตงหวงถึงจะมาได้ ซึ่งอีกฝ่ายก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน!
จักรพรรดิตงหวงตรัสว่า “ในเวลาเช่นนี้ องค์รัชทายาทเป่ยกงจะมาทำไมกัน?”
“ให้เขามา!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อค่ายกลส่งตัวเริ่มดำเนินการ และใช้ความพยายามเพียงไม่นาน เป่ยกงจั๋วก็สามารถมาถึงราชวงศ์ตงหวงได้แล้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปยังห้องโถงของจักรพรรดิตงหวง
มุมปากของเป่ยกงจั๋วเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นก็กล่าวกับจักรพรรดิตงหวงว่า “ข้าได้ยินมาว่าในการแข่งขันอัจฉริยะของราชวงศ์ตงหวงในคราวนี้ คู่หมั้นของข้าองค์หญิงหลิงหลางได้รับบาดเจ็บอย่างน่าสงสาร และคนที่ทำให้นางต้องได้รับบาดเจ็ยอย่างน่าสงสารผู้นั้นมีชื่อว่ามู่เฉินซีใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
จักรพรรดิตงหวงกล่าวว่า “องค์รัชทายาทเป่ยกงรู้ข่าวค่อนข้างดีเลยทีเดียว”
“สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับพระชายาในอนาคตของข้าแล้ว แน่นอนว่าข้าจะต้องสนใจมันเป็นพิเศษ! คิดไม่ถึงว่านางเด็กน้อยผู้นั้นจะกล้ามารังแกคู่หมั้นของข้าได้ ฉะนั้นจึงอยากจะขอให้เสด็จพ่อตาในอนาคตทรงอนุญาตให้ข้าแก้แค้นให้องค์หญิงหลินหลางด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เป่ยกงจั๋วกล่าวตอบ
ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเสน่หาเช่นนั้น มันช่างเหมือนกับว่าเขานั้นได้หลงรักมู่หลินหลางอย่างสุดซึ้งจริง ๆ
แต่ทว่าจักรพรรดิตงหวงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าการที่องค์รัชทายาทเป่ยกงมาที่นี่จะเป็นเพราะต้องการที่จะจัดการกับมู่เฉินซีเท่านั้น
จักรพรรดิตงหวงไม่เชื่อในคำพูดบ้า ๆ ที่ว่าอยากจะมาแก้แค้นให้กับหลินหลางของเขาเลยแม้แต่น้อย และคิดว่าจะต้องมีเหตุผลอื่นอย่างแน่นอน
หรือว่ามู่เฉินซีที่กล้าหาญชาญชัยผู้นั้น ก็ทำให้องค์รัชทายาทเป่ยกงขุ่นเคืองใจเช่นกัน?
จักรพรรดิตงหวงตรัสตอบกลับไปว่า “ในเมื่อลูกสาวของข้าถูกรังแก คนเป็นที่เสด็จพ่ออย่างข้าก็ต้องรับผิดชอบนางเป็นธรรมดา! แต่ในเมื่อองค์รัชทายาทเป่ยกงมีความตั้งใจเช่นนี้ แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว”
.
.