ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2198 หน้าตาไม่สวย
เนื่องจากรู้สึกว่าตนเองทำได้ไม่ดีพอ จนทำให้นายท่านต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว อารมณ์ของมังการวารีจึงไม่ดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณของราชวงศ์ตงหวงที่อยู่ในฐานะคู่ต่อสู้ของเขาจึงมีสภาพที่ย่ำแย่กว่าเดิมเป็นเท่าทวี
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
และทักษะวิญญาณธาตุวารีก็ได้เจาะทะลุเข้าไปในร่างของคนทั้งสามนั้นโดยตรง
พวกเขาที่ร่วงลงมาจากกลางอากาศ ก็ได้จมอยู่ในกองเลือดทันที!
“อ๊ากกก!” หลังจากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนอันน่าสังเวชดังขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าติดต่อกัน
พวกเขาเป็นทั้งผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากต้นไม้ใหญ่อย่างราชวงศ์ตงหวง และเป็นคนที่มีความสามารถอันแข็งแกร่ง จึงทำให้รู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ต้องสูญเสียมากมายถึงเพียงนี้
“พวกเจ้านี่ช่างบังอาจเกินไปแล้ว!”
“มู่เฉินซี เจ้านี่ช่างกำเริบเสิบสานจริง ๆ!”
และด้วยการสะบัดแขนเสื้อยาวเพียงครั้งเดียว ก็ได้ทำให้น้ำที่อยู่ในร่างกายของคนเหล่านั้นถูกดึงออกมาจนผิวหนังของพวกเขาเริ่มแห้งเหี่ยว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทรงพลังของเขา มันจึงทำให้พวกเขาไม่อาจหลบหนีไปได้เลย
ตอนนี้ท่านอัครมหาเสนาบดีได้ตายไปแล้ว ฉะนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ หากพวกเขายังคงต่อสู้ต่อไป ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น
มีชีวิตอยู่มานานถึงเพียงนี้ มันไม่ง่ายเลยกว่าจะฝึกฝนจนมีความสามารถเช่นตอนนี้ได้ ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่อยากที่ตายไปทั้งอย่างนี้แน่นอนอยู่แล้ว
“ถอย! ถอยก่อน!”
พวกเขาจะต้องกลับไป และให้ฝ่าบาทส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านี้มาแทน โดยเฉพาะยอดฝีมือที่สามารถควบคุมผู้ชายคนนี้ได้
“ทั้งหมดจงหยุดเดี๋ยวนี้!” มังกรวารีกล่าวอย่างเย็นชา และแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้ปกคลุมพวกเขาเอาไว้ อีกทั้งมันยังทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาช้าลงเล็กน้อยอีกด้วย
ส่วนกำลังพลคนอื่น ๆ ก็ได้ไปขวางทางหนีทั้งหน้าและหลังของพวกเขาทั้งหมดเอาไว้แล้ว “คิดจะหนีตอนนี้ พวกเจ้าจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”
“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็จงทิ้งชีวิตของพวกเจ้าเอาไว้ที่นี่เสียเถอะ!”
ตูมมม โครมมม!
เมื่อยอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงเหล่านี้ ได้เผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกมังกรวารี พวกเขาแต่ละคนก็ต้องสูญเสียพลังไปอย่างรวดเร็ว
ร่างของพวกเขาทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมันก็ดูน่าเวทนาจนทนมองไม่ได้เลยทีเดียว
เมื่อถูกกระบวนท่าสังหารโจมตีเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็ทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที
“เจ้า…พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงจะมาฆ่าพวกเราทุกคน พวกเจ้าไม่มีทางรับความพิโรธขององค์จักรพรรดิตงหวงได้อย่างแน่นอน” พวกเขาแต่ละคนจ้องมองไปที่พวกของมังกรวารีด้วยความเกรี้ยวกราด
สีหน้าของมังกรวารียังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “แล้วทำไมล่ะ? คนที่กล้ามาล่วงเกินนายท่านของข้า ก็สมควรตายทั้งหมดนั่นแหละ! ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นจักรพรรดิตงหวงก็ตาม”
หากพลังของเขาฟื้นฟูมากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย เขาคงพุ่งตัวไปยังพระราชวังของจักรพรรดิตงหวงและกวาดล้างเหล่าอุปสรรคที่น่ารำคาญเหล่านั้นให้นายท่านไปแล้ว ฉะนั้นเขาจะไปหวาดกลัวความโกรธของจักรพรรดิตงหวงผู้นั้นได้อย่างไรกัน
เพื่อความอยู่รอด ยอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงเหล่านี้ก็ได้แสดงความความแข็งแกร่งอย่างสุดความสามารถแล้วเช่นกัน
อย่างไรเสียศัตรูที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่นี้ก็มี่ความแข็งแกร่งมากเกินไปจริง ๆ และพวกเขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้เลย
ฉัวะ ฉัวะ!
กลุ่มคนที่ไล่ล่ามู่เฉียนซีในครานี้ เรียกได้ว่าถูกทำลายล้างทั้งกองทัพ และทุกคนล้วนถูกจัดการไปจนหมดสิ้น
ร่างสีน้ำเงินสว่างวาบขึ้น และมังกรวารีก็ได้คุกเข่าลงข้างหนึ่งพลางกล่าวว่า “นายท่าน จัดการทั้งหมดเรียบร้อยแล้วขอรับ นายท่านยังมีคำสั่งอื่นอีกหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้ว! มังกรวารีเจ้าจงไปพักผ่อนเสีย!”
“น้อมรับคำสั่ง!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
หลังจากศัตรูที่แข็งแกร่งถูกกำจัดไปได้ พวกของจูเชว่ก็มาล้อมรอบมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “คนเหล่านี้จะจัดการอย่างไรดี ให้ทำลายจนไม่เหลือซากไปเลยดีหรือไม่?”
จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว! ซีซี ในบรรดาคนเหล่านี้มีคนที่เป็นถึงลูกน้องระดับแนวหน้าของจักรพรรดิตงหวงอยู่หลายคน หากนำหัวของพวกเขาไปก็จะสามารถรับรางวัลได้ด้วยนะ”
ทันทีที่พูดจบ จูเชว่ก็ได้ลงมือก่อนเป็นคนแรก
อย่างไรเสียในฐานะที่เป็นหน่วยข้อมูล เขาจึงรับรู้ชื่อเสียงของคนเหล่านี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นเพียงการเด็ดศีรษะของคนที่มีสถานะรองลงมาจากอัครมหาเสนาบดีเท่านั้น
ฉงหมิงกล่าวว่า “จูเชว่ เจ้านี่มันจะนิสัยแย่เกินไปแล้วนะ! เหลือไว้ให้ข้าสักคนหนึ่งสิ!”
ซวนอู่ ชิงหลง รวมไปถึงไป๋เจ๋อต่างก็เริ่มลงมืออย่างเงียบ ๆ แล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดในการสังหารคนเหล่านี้ก็ตาม แต่หากสามารถเด็ดศีรษะของคนเหล่านั้นได้ เช่นนั้นก็สามารถพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาได้แล้ว
และสถานที่ที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็เต็มไปด้วยการนองเลือด!
เมื่อเห็นเช่นนั้นมังกรวารีก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย และตรงเข้าไปดึงมู่เฉียนซีเดินมาอีกทางหนึ่ง จากนั้นก็ใช้ม่านวารีสกัดกั้นกลิ่นอายที่นองเลือดเหล่านั้นเอาไว้ เขารู้สึกไม่พอใจที่คนหนุ่มเหล่านี้ไม่มีความพิถีพิถันเลยจริง ๆ
หลังจากที่รอให้จัดการพวกเขาเรียบร้อยแล้ว จูเชว่ก็กล่าวถามว่า “ซีซี ต่อไปเจ้าวางแผนจะไปที่ใดอย่างนั้นหรือ? มิเช่นนั้นไปที่เมืองหนานหวางดีหรือไม่ ที่นั่นข้าสามารถควบคุมข้อมูลทั้งหมดได้ ไม่ว่าราชวงศ์ตงหวงจะเคลื่อนไหวอะไรข้าก็สามารถรับรู้ได้ในทันที”
ซวนอู่กล่าวว่า “พูดได้ถูกต้อง! และข้าก็ไม่อยากให้เจ้าไปอยู่ทางทิศเหนือเพื่อสร้างความลำบาก และสร้างความสูญเสียให้ข้าอีก”
ชิงหลงมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ทางทิศตะวันออกก็ไม่เหมาะสมกับเจ้า ข้ายอมรับว่าข้าผิดพลาดเองที่สงสัยเจ้าก่อนหน้านี้ และตอนนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความบาดหมางกับราชวงศ์ตงหวงอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ฉะนั้นข้ารู้แล้วว่าเจ้าไม่สามารถยืนฝั่งเดียวกับพวกเขาได้แน่นอนแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หายากจริง ๆ! ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับความผิดพลาดและขอโทษข้าแล้ว เช่นนั้น…”
“เป็นไปไม่ได้!”
ซวนอู่มองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ก่อนที่จะไป ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้าเรื่องหนึ่ง ข้าเคยได้ยินข่าวลือมาว่า องค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นไต่ขึ้นไปได้เพียงชั้นที่สิบแปดเท่านั้น ฉะนั้นตอนที่เจ้าขึ้นไปถึงชั้นที่สิบเก้าได้รับสิ่งของอะไรดี ๆ บ้าง สามารถบอกข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”
ในตอนที่ถามคำถามนี้กับมู่เฉียนซี ดวงตาทั้งสองของซวนอู่ช่างเปล่งประกายเสียเหลือเกิน!
“การพัฒนาศักยภาพของคนคนหนึ่งต่อให้ใช้เงินก็ซื้อไม่ได้หรอก ซวนอู่เจ้านี่มันจะทะเยอทะยานเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้รับสมบัติอะไรเลย แต่หากบอกว่าได้รับแล้วละก็ หอคอยตงหวงให้ข้าไปเป็นเจ้านายของมันและรับหน้าที่เป็นจักรพรรดิตงหวงคนใหม่ อันนี้ถือว่านับหรือไม่?” สำหรับความลับเรื่องอื่นแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ถือเป็นความลับใหญ่โตอะไรเลย
พวกเขาเสี่ยงอันตรายมาช่วยเหลือนางขนาดนี้ ในเมื่อซวนอู่ต้องการที่จะรู้ เช่นนั้นก็บอกพวกเขาไปเลยจะเป็นอะไรไป
“เป็นจักรพรรดิตงหวงหรือ!?” พวกเขาต่างพากันตื่นตกใจ
“ไต่ขึ้นไปถึงชั้นที่สิบเก้าก็สามารถกลายเป็นเจ้านายของหอคอยตงหวงได้แล้ว อีกทั้งยังมีสิทธิ์กลายเป็นจักรพรรดิตงหวงคนใหม่อีกด้วยหรือ!” จูเชว่กล่าวถาม
ชิงหลงมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “แผนของเจ้าคืออะไรล่ะ?”
“ข้าไม่ได้มีความสนใจที่จะเป็นจักรพรรดิตงหวง ข้าเพียงแค่ต้องการหาคนที่ข้าต้องการหาให้เจอ ช่วยคนที่ข้าอยากจะช่วย คนที่ควรล้างแค้นก็ต้องถูกล้างแค้นทั้งหมด รักษาคนที่ข้าอยากจะรักษาหลังจากนั้นก็แต่งงานกับเขา และหลังจากที่ความสามารถของข้ายกระดับขึ้นแล้ว ข้าก็จะไม่ทำให้คู่ชีวิตของข้าต้องผิดหวัง” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“ผู้นำแห่งกองกำลังระดับห้า ไม่น่าดึงดูดสำหรับเจ้าขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ?” ซวนอู่กล่าวถาม
“มันไม่เห็นจะมีอะไรน่าดึงดูดเลย นอกจากนี้หากจะมีจักรพรรดิตงหวงคนใหม่สักคน ข้ารู้สึกว่ามีคนอยู่คนหนึ่งที่เหมาะสมกว่าข้าหลายหมื่นเท่านัก”
องค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋น มู่เฟิงอวิ๋น เป็นคนที่หอคอยตงหวงกล่าวว่าเป็นจักรพรรดิแห่งโชคชะตา น่าเสียดายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งมันก็ได้นำมาสู่สถานะการณ์เช่นในปัจจุบันนี้
ชิงหลงกล่าวว่า “คนผู้นั้น ก็คือองค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นที่เจ้าตามหาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว!” มู่เฉียนซีพยักหน้ากล่าว
ท่านพ่อจะต้องเหมาะสมที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว หากหอคอยตงหวงต้องการเจ้านายแค่ยอมรับท่านพ่อก็สิ้นเรื่อง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แล้วอีกอย่าง หอคอยตงหวงยังบอกข้ามาอีกเรื่องหนึ่งว่า ชะตากรรมของราชวงศ์ตงหวงใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ข้ารู้สึกว่าหากให้องค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นกลายเป็นจักรพรรดิตงหวงจะต้องสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของจักรพรรดิตงหวงได้อย่างแน่นอน อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเพื่อนตายกันแล้ว พวกเจ้าทั้งหลายก็ผ่อนคลายกันสักหน่อยเถอะน่า พวกเจ้าจะบอกข้าได้หรือยังว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเจ้าผู้นั้นอยู่ที่ใดกันแน่?”
ซวนอู่เม้มปากเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถให้คำตอบแก่เจ้าได้ เพียงแต่ว่าอีกไม่นานหรอก!”
ชิงหลงจ้องมองไปที่ใบหน้าของมู่เฉียนซี ดวงตาคู่นั้นสามารถมองทะลุการแปลงโฉมที่สมบูรณ์แบบของนางได้ และเมื่อได้เห็นหน้าที่เขาชอบไม่ลงใบหน้านั้น เขาก็กล่าวขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เป็นไปไม่ได้!”
ซวนอู่ต่างก็ยอมที่จะอ่อนข้อให้แล้ว แต่ชิงหลงยังคงดื้อรั้นอยู่อีก จูเชว่จึงกล่าวว่า “ชิงหลง เจ้าเป็นคนใจแคบเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? เจ้าพูดมาซิ ว่าซีซีทำอะไรให้เจ้าไม่เชื่อใจกันแน่ เจ้าพูดออกมาสิ!”
ชิงหลงกล่าวตอบว่า “ใบหน้าของนาง ไม่สวย ข้าไม่ชอบ!”