ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2197 รวมกลุ่มสังหารศัตรู
อัครมหาเสนาบดีกล่าวว่า “ครั้งนี้ข้ารับผิดชอบเอง ฝ่าบาทมอบสิทธิ์ในการควบคุมภารกิจนี้ให้ข้าแล้ว! พวกเจ้ากล้าไม่ฟังคำสั่งของข้าอย่างนั้นหรือ?”
ภารกิจกิจนี้มีความสำคัญมาก เพราะอย่างไรเสียมันก็เกี่ยวข้องกับอนาคตของฝ่าบาทหลินหลาง และยังเกี่ยวกับอนาคตของทั้งราชวงศ์ตงหวงอีกด้วย
แต่ทว่า เขาก็เป็นคนที่หวงแหนชีวิตคนหนึ่งเช่นกัน ทั้งยังไม่อยากที่จะตายเช่นนี้ด้วย
“ขอรับ ท่านอัครมหาเสนาบดี!”
แต่อัครมหาเสนาบดีเป็นถึงมือขาวของฝ่าบาท ซึ่งแน่นอนว่าไม่อาจให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันกับเขาได้เช่นกัน!
ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแยกตัวออกไป และไม่กล้าลงมืออีก หลังจากนั้นจูเชว่ก็กล่าวว่า “ซีซี เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่!?”
“อย่ากังวลไปเลย ไปกันเถอะ!”
“อื้ม!”
หลังจากนั้น พวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ทันที
เมื่อจักรพรรดิตงหวงได้รู้ว่าอัครมหาเสนาบดีถูกจับเป็นตัวประกัน อีกทั้งยังไม่สามารถจับมู่เฉินซีเอาไว้ได้ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที!
“ช่างบังอาจเสียจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าจับอัครมหาเสนาบดีของข้าเป็นตัวประกัน! คาดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะมีผู้ช่วยกับเขาด้วย อย่าให้ข้ารู้นะว่ากองกำลังระดับสี่ครึ่งที่ไหนเป็นคนทำ? นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าเช่นนี้!”
จำนวนของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตมีไม่น้อย เกรงว่าน่าจะมีกองกำลังระดับสี่ครึ่งมากกว่าหนึ่งกองกำลัง แต่กองกำลังระดับสี่ครึ่งที่มีความสามารถเช่นนี้กลับมีไม่มากนัก ฉะนั้นจึงตรวจสอบได้ง่ายเป็นอย่างมาก!
“ส่งกำลังพลออกไปเพิ่มอีก จำเป็นต้องทำให้รวดเร็ว!”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
มู่เฉียนซีรู้ว่า แม้ว่าจะจับอัครมหาเสนาบดีมาเป็นตัวประกันแล้วแต่นางก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี เพราะราชวงศ์ตงหวงจะต้องไล่ล่านางไปจนกว่าจะถึงจุดจบแน่นอน
หากต้องการที่จะปลอดภัย เช่นนั้นก็จะต้องสังหารกองกำลังเสริมที่ส่งมาไล่ล่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และทำให้ราชวงศ์ตงหวงต้องเจ็บปวดใจจากการสูญเสียจนต้องยอมลามือไปเองถึงจะรอดได้
ถึงนี่จะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จได้ และยังมีความอันตรายเป็นอย่างมาก แต่มันเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้น
ตลอดทางที่จับอัครมหาเสนาบดีมาเป็นตัวประกัน พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตามมาด้วย
แม้ว่าจะไม่ได้ติดตามมาอย่างเปิดเผย แต่กลับมีคนแอบติดตามมาด้วยเป็นจำนวนมาก ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็หนีไม่พ้นการรับรู้ของมู่เฉียนซีและมังกรวารีไปได้อยู่ดี
ฉัวะ!
เมื่อไรก็ตาม เมื่อนางรู้สึกว่ายังมีคนติดตามมาอยู่ บนร่างของอัครมหาเสนาบดีก็จะมีรอยแผลที่ลึกจนเห็นกระดูกเพิ่มขึ้นมารอยหนึ่งเสมอ และนั่นก็ทำให้ใบหน้าขาว ๆ ของอัครมหาเสนาบดีต้องบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด
อัครมหาเสนาบดีได้แต่ก่นด่าอยู่ภายในใจ นี่มันบ้าจริง ๆ คนที่คอยติดตามเหล่านี้ทำให้ถูกคนค้นพบได้ง่ายขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน
ตลอดเส้นทางนั้นมีความน่าหวาดเสียวเป็นอย่างมาก แต่ทว่ามีไพ่ใบเอกอย่างอัครมหาเสนาบดีอยู่ด้วย จึงถือได้ว่ามีความมั่นคงมากเลยทีเดียว
จูเชว่กล่าวว่า “ซีซี ข้างหน้านี้มีหุบเขาอยู่ด้วย พวกเราสามารถหยุดพักที่นั่นได้เล็กน้อย!”
“ปี้ฟาง พาคนของพวกเจ้าไปจัดการกางค่ายกลเอาไว้ หากคนพวกนั้นกล้าเข้าใกล้ก็ให้ลองดูได้เลย”
คนของปี้ฟางไปจัดการกางค่ายกล คนของไป๋เจ๋อจัดการพิษนานาชนิด คนของฉงหมิงจัดการเรื่องอาวุธลับต่าง ๆ คนของชิงหลงรับผิดชอบเรื่องซ่อนตัวและแอบลอบสังหาร ส่วนคนของซวนอู่ จูเชว่และยังมีหอหมอปีศาจทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในการต่อสู้
คิดไม่ถึงว่ามู่เฉินซีจะเตรียมแผนการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว และนางยังร่วมมือกับคนอื่นในการจัดการวางกับดักที่นี่ เพื่อคิดที่จะกำจัดคนของราชวงศ์ตงหวงอีกด้วย
เป้าหมายของมู่เฉินซีไม่ได้ง่ายดายอย่างการคิดที่จะเอาชนะฝ่าบาทหลินหลางและกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งเท่านั้น แต่ท่าทางทั้งหมดของพวกเขานี้มันคือการก่อกบฏอย่างสมบูรณ์เลยต่างหาก
หลักจากนั้น พวกเขาก็จับอัครมหาเสนาบดีและบุกเข้าไปในหุบเขาทันที
ฉึก ฉึก ฉึก!
นอกจากนี้มู่เฉียนซียังฝังเข็มให้อัครมหาเสนาบดีพลางกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี ท่านให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟังจะดีกว่า! มิเช่นนั้นพิษที่จะทำให้ท่านต้องทุกข์ทรมานกำลังรอท่านอยู่ แล้วอย่ามาโทษว่าข้าไม่เตือนท่านก็แล้วกัน”
เดิมทีมู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่ปลาบนเขียงสำหรับอัครมหาเสนาบดีเท่านั้น แต่ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้กลับตาลปัตรไปอย่างสิ้นเชิง
“ข้ารู้ดีว่าคนของราชวงศ์ตงหวงไม่มีทางยอมแพ้ที่จะไล่ตามมาอยู่แล้ว ที่นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง ฉะนั้นจึงไม่อาจกำจัดพวกเขาไปอย่างสมบูรณ์ได้ แต่เมื่อพวกเขามาถึง ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องพอใจกับของขวัญใหญ่ที่พวกข้ารอมอบให้อย่างแน่นอน”
เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะด้วยคำสั่งของจักรพรรดิตงหวง ทำให้ตอนนี้มียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งกำลังเข้ามาใกล้หุบเขาลูกนี้แล้ว
มู่หลินหลางกล่าวกับจักรพรรดิตงหวงว่า “เสด็จพ่อ คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะยังไม่ตาย นางยังไม่ตายจริง ๆ! ขะ…ข้าอยากจะพาคนกลุ่มหนึ่งไปไล่ล่านางด้วยตนเอง ทุก ๆ ลมหายใจที่นางยังมีชีวิตอยู่ มันทำให้เจ็บปวดใจยิ่งนัก”
จักรพรรดิตงหวงกล่าวว่า “เจ้ายังคิดว่าเรื่องที่ตนเองทำยังไม่แย่พออีกอย่างนั้นหรือ? เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้ากับอัครมหาเสนาบดีเถอะ! ความสามารถของเจ้าในตอนนี้ถึงจะเข้าร่วมก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี การรีบไปพัฒนาความสามารถของตนเอง และแก้ไขข้อบกพร่องของเจ้าต่างหากถึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด!”
มู่หลินหลางรู้สึกผิดหวังมากที่ถูกปฏิเสธ และมันก็ทำให้นางเกลียดชังมู่เฉินซีมากขึ้นไปอีก หากไม่ใช่เพราะมู่เฉินซี นางก็คงไม่ถูกเสด็จพ่อวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้แน่
“ข้าเข้าใจแล้วเพคะเสด็จพ่อ! เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวดีตอนที่เสด็จพ่อจัดการกับมู่เฉินซีได้ก็แล้วกันเพคะ!” มู่หลินหลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
และพวกเขาก็ต้องคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่า กำลังพลกลุ่มแรกได้เผชิญหน้ากับอันตรายทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ทางเข้าหุบเขาแห่งนี้แล้ว มันมีทั้งค่ายกล พิษ อาวุธลับ และการลอบสังหารอีกด้วย!
“บัดซบเอ้ย! นี่เป็นกับดัก!”
“อันตราย!”
“มันจะโหดร้ายเกินไปแล้ว”
มู่เฉียนซีที่เผชิญหน้ากับการไล่ล่าของกองกำลังระดับห้าอย่างราชวงศ์ตงหวง แม้ว่าจะมีเพื่อนทั้งหกคนคอยช่วยเหลือ แต่เมื่อรวมพลังของพวกเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ยังคงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราชวงศ์ตงหวงอยู่ดี ฉะนั้นจะไม่ให้ใช้สมองได้อย่างไรล่ะ?
“ลงมือได้!” ในขณะที่ด้านนอกเกือบที่จะเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็เอ่ยปากขึ้น
ร่างสีน้ำเงินกระโดดออกไป ส่วนคนอื่นที่อยู่ภายใต้การนำของมังกรวารี ก็ได้บุกเข้าไปในกลุ่มคนของอีกฝ่ายอีกครั้ง
ตูมม โครมมม!
สงครามใหญ่ได้ปะทุขึ้น ต้นไม้ที่อยู่บริเวณโดยรอบถูกทำลายล้างไปในพริบตา และมีเพียงหุบเขาที่ได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยค่ายกลเท่านั้นที่ยังคงปลอดภัยอยู่
ในฐานะที่มังกรวารีเป็นบุคคลสำคัญในการต่อสู้ มันจึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“คนผู้นี้โผล่ออกมาจากที่ใดกันแน่ จะน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!”
“พลังวิญญาณธาตุวารีของข้าหายไปแล้ว”
“น่ากลัวนัก!”
มู่เฉียนซีกำลังคอยเฝ้าสังเกตสถานการณ์ที่อยู่ภายนอกตลอดเวลา ส่วนคนที่ถูกจับมาเป็นตัวประกันเมื่อเห็นว่ายอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงล่าถอยอย่างต่อเนื่อง ก็อับอายจนต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเลยทีเดียว
การสูญเสียคนในจำนวนมากเพื่อมู่เฉินซีเพียงคนเดียวนี้ นับเป็นการขาดทุนที่ใหญ่หลวงมากจริง ๆ และหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ในไม่ช้าก็เร็วมู่เฉินซีจะต้องหนีรอดไปได้ เพราะความสามารถที่แข็งแกร่งเกินไปของชายผู้นั้นเป็นแน่
สุดท้ายแล้วอัครมหาเสนาบดีก็ตัดสินใจได้ เขารู้สึกเสียใจต่อทางเลือกในตอนแรกของเขาเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากว่าเขาทุ่มสุดตัวไปตั้งแต่แรก ก็คงสูญเสียเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“มู่เฉินซี เจ้าตายซะเถอะ! หญิงสาวที่เป็นอัจฉริยะของแดนซวนเทียนมีเพียงแค่ฝ่าบาทหลินหลางก็เกินพอแล้ว การมีอยู่ของเจ้าคือความผิดพลาด! ฉะนั้นเจ้าจงตายไปเสีย!”
อัครมหาเสนาบดีที่ถูกมังกรวารีคุมขังและยังถูกพิษในเวลานี้ได้ระเบิดพลังทำลายล้างอันแข็งแกร่งออกมา อย่างไรเสียนี่ก็ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของราชวงศ์ตงหวงอย่างหนึ่ง ฉะนั้นการที่เขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย
เขาทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะทำลายตนเองและยังต้องการที่จะลากมู่เฉียนซีให้ตายไปพร้อมกับเขาอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของมังกรวารีค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย “นายท่าน!”
ความโมโหเผยออกมาบนสีหน้าของมังกรวารี เขายังทำได้ไม่สมบูรณ์แบบพอ สุดท้ายก็จำเป็นต้องให้สุ่ยจิงอิ๋งออกโรงอยู่ดี
ตูมม!
เสียงระเบิดเสียงหนึ่งดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น
“ท่านอัครมหาเสนาบดี!”
“มู่เฉินซี!”
เสียงระเบิดนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง และหุบเขาลูกนี้ก็โดนทำลายล้างจนราบเป็นหน้ากอง
เพราะมู่เฉียนซีได้ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยลำแสงสีฟ้า มันจึงทำให้นางไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่หลังจากที่ร่างของอัครมหาเสนาบดีแหลกสลายไปแล้ว กลับไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยทางจิตวิญญาณของเขาเลยสักนิด
แววตาของมู่เฉียนซีมืดลงเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “หนีไปแล้วหรือ?”
เรื่องที่อัครมหาเสนาบดียอมที่จะสละชีวิตของตนเองเพื่อสังหารนางนั้น นางรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ที่เขากล้าทำเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่ามีไพ่เด็ดที่สามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้
เพียงแต่หากใช้มันเพียงครั้งเดียวก็อาจจะทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างไป ดังนั้นตอนที่ถูกมังกรวารีจับเอาไว้ก่อนหน้านี้เขาจึงไม่ได้เลือกที่จะทำเช่นนี้นั่นเอง
แต่ตอนที่ได้เห็นว่ายอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงถูกพวกเขาจัดการราวกับตัดข้าวสาลีก็มิปานนั้น มันก็ได้ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งนัก จนสุดท้ายแล้วเขาเลยตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้ออกมา
ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่ถึงแม้ว่าเขาอยากจะให้นางตาย แต่อาศัยเพียงความสามารถของเขาก็ไม่มีทางทำให้สำเร็จได้อยู่ดี
.
.