ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2186 เฉียนซีได้รับบาดเจ็บ
มู่หลินหลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ความสามารถไม่เพียงพอจนต้องใช้อุบา ายเช่นนี้เลยหรือ? น่าเสียดายที่นี่เป็นโอกาสเดียวของเจ้าแล้ว”
เมื่อได้เผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณคู่คนหนึ่ง ภายในใจของมู่หลิน นหลางก็รู้สึกเกลียดชังเป็นอย่างมาก
กลิ่นอายของมู่หลินหลางเปลี่ยนเป็นน่าหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก “หากนี่เป็นไม้ตา ายที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าแล้วละก็ เจ้าคงต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน มู่เฉินซี!”
“ข้าไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ”
ในเมื่อเปิดเผยตัวตนว่าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุอัคคีแล้ว หลังจากนั้นมู่เฉียน นซีจึงใช้พลังวิญญาณธาตุทั้งสองชนิดในการต่อสู้กับมู่หลินหลางได้อย่างอิสระ
เมื่อเห็นฝีมือของมู่เฉียนซี ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณคู่นั้นหาได้ยากเป็นอย่างมาก แต่คนที่สามารถใช้พ พลังธาตุทั้งสองชนิดได้ถึงขนาดนี้ ทั่วทั้งแดนซวนเทียนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น น”
“พรสวรรค์เช่นนี้ มันจะเหมือนปีศาจมากเกินไปแล้ว!”
เดิมทีแล้วการแข่งครั้งอัจฉริยะครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ตงหวงในคราวนี้เป็นที่ ไว้สำหรับแสดงพรสวรรค์ของมู่หลินหลาง แล้วตอนนี้ผลเป็นอย่างไรล่ะ!
ก่อนหน้านี้มีผู้คนมากมายต่างพากันยกย่องเฟิงอวิ๋นซิว ตอนนี้พวกเขายังมาให้ความส สนใจกับพรสวรรค์ของมู่เฉินซีอีก และนี่ก็ทำให้จิตสังหารของมู่หลินหลางเปลี่ยนเ เป็นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
นางไม่ต้องการให้มู่เฉินซียืนอยู่บนสนามการแข่งขันนี้แม้แต่อึดใจเดียว!
มู่เฉินซีจะต้องกลายเป็นคนพิการที่ไร้ประโยชน์ และตายทั้งเป็นเท่านั้น ถึงจะสามารถ บรรเทาความคับแค้นใจของนางได้
พลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวทะลักออกมาจากร่างของมู่หลินหลางอย่างบ้าคลั่ง และ ทั่วทั้งสนามการแข่งขันก็ได้ถูกควบคุมเอาไว้หมดแล้ว
ขณะนี้ทั่วทั้งมิติดูเหมือนว่าได้หยุดนิ่งไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น และมู่หลินหลา งก็สามารถไปปรากฏตัวได้ทุกที่ที่นางต้องการ!
ตูมมมม!
จากนั้นกระบวนท่าทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ร่างของมู่เฉียนซี หากไม่มีพลังการป้องกันท ทางกายภาพอันน่าทึ่ง กระดูกของมู่เฉียนซีคงจะแหลกละเอียดไปนานแล้ว
ผู้คนต่างกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“นี่คืออะไรกัน?”
“นี่คืออาณาจักรวิญญาณจักรพรรดิ และอาณาจักรวิญญาณจักรพรรดินี้ก็เป็นหนึ่งในเคล ล็ดวิชาลับที่ตระกูลมู่แห่งราชวงศ์ตงหวงเชี่ยวชาญมากที่สุด คิดไม่ถึงเลยว่าฝ่า าบาทหลินหลางจะเรียนรู้มันได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมได้ถึงเพียงนี้อีกด้ว วย!”
“ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ จะยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว หากอาณาจักรวิญญาณปรากฏขึ้น และ คู่ต่อสู้หลุดเข้าไปในอาณาจักรวิญญาณ เกรงว่าคงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ตนเองถูก เหยียบย่ำเท่านั้น”
ในฐานะที่ราชวงศ์ตงหวงเป็นผู้กุมอำนาจมานานนับหมื่นปี มันจึงทำให้ตระกูลมู่มีส สิ่งของดี ๆ อยู่มากมายเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้มู่หลินหลางมีพลังวิญญาณไม่เพียงพอที่จะใช้บรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลัง งขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ทว่าตอนนี้กลับต่างออกไปแล้ว
แต่ถึงกระนั้น การป้องกันทางกายภาพของมู่เฉียนซีก็ยังคงสร้างความปวดหัวให้กับมู หลินหลางอยู่ดี ฉะนั้นนางจึงได้ระเบิดการโจมตีที่เฉียบคมที่สุดออกมา
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ทุกกระบวนท่าของมู่หลินหลางนั้นล้วนเป็นกระบวนท่าสังหาร ซึ่งทำให้คนไม่น้อยจ้อง งมองไปทางมู่เฉียนซีอย่างเป็นกังวล
“ฝ่าบาทหลินหลางไม่ออมมือเลยจริง ๆ! ไม่เพียงแต่มู่เฉินซีจะพ่ายแพ้ แต่อาจจะรักษ ษาชีวิตของตนเองเอาไว้ไม่ได้อีกด้วย!”
“การแข่งขันเช่นนี้ จะสามารถออมมือได้อย่างไร เพราะเพียงผ่อนคลายเล็กน้อยก็อาจจะ ะถูกอีกฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีกลับได้แล้ว นอกจากนี้อาจจะทำให้ตนเองพ่ายแพ้ไปเลยก็เ เป็นได้! ฝ่าบาทหลินหลางของพวกเราไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้นหรอกนะ”
“อัจฉริยะก็ต้องทนต่อการทดสอบให้ไหวเช่นกัน หากมู่เฉินซีพ่ายแพ้ไป เช่นนั้นนาง งก็จะถูกกำหนดให้กลายเป็นอัจฉริยะเพียงชั่วครู่คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่อัจฉริยะที่แท้จ จริง”
กระบวนท่าสังหารเช่นนี้ มู่เฉียนซีไม่อาจเสี่ยงใช้การป้องกันทางกายภาพรับมันโดยตรง งได้ ดังนั้นนางจึงได้เลือกใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาแทน
แต่ทว่านี่คืออาณาจักรวิญญาณของมู่หลินหลาง ฉะนั้นเมื่ออยู่ภายในนี้ มู่หลินหล ลางก็จะสามารถใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเข้าใกล้นางอย่างเงียบเชียบได้ตลอด ดเวลาเช่นกัน
แต่หากนางเลือกที่จะใช้ความสามารถของการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาด้วยละก็ เม มื่อมู่หลินหลางต้องการโจมตีนางให้โดนก็ไม่นับว่าราบรื่นมากนัก
ปัง ปัง ปัง!
ความเร็วของมู่เฉียนซีไม่ได้ช้ากว่าเจ้าของอาณาจักรวิญญาณเลยแม้แต่น้อย และยังสา ามารถหลบหลีกการโจมตีได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอีกด้วย
ผู้คนต่างกล่าวอย่างตื่นตะลึงว่า “นะ…นี่มันผิดปกติ! มู่เฉินซีที่อยู่ในอาณา าจักรวิญญาณของฝ่าบาทหลินหลาง จะยังมีความเร็วเช่นนี้อยู่ได้อย่างไรกัน? นี่มัน นคือท่าร่างอะไรกันแน่ มันเหนือธรรมชาติเกินไปแล้ว!”
“นี่ไม่ใช่ท่าร่าง แต่นี่น่าจะเป็นมิติลึกลับ อย่างการเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบต ตามากกว่า!”
“เหมือนมันจะเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ แต่พลังวิญญาณธาตุมิติไม่มีผู้ใดสามารถควบค คุมได้มาเป็นเวลานานมากแล้ว หรือมู่เฉินซีจะสามารถทำได้อย่างนั้นหรือ?”
หลังจากที่มีคนมองออก พวกเขาต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เหล่าผู้อาวุโสของราชวงศ์ตงหวงที่เฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้อยู่ก็รู้สึกเสียดาย เล็กน้อยเช่นกัน แม้ว่ามู่เฉินซีจะไม่ใช่จอมภูตพลังธาตุมิติ แต่หากนางสามารถควบ บคุมพลังมิติได้เพียงเล็กน้อย นั่นก็นับว่านางเป็นเพียงคนเดียวในแดนซวนเทียน แห่งนี้อยู่ดี
คนเช่นนี้ไม่ควรที่จะมีปัญหากับฝ่าบาทหลินหลางเลย มิเช่นนั้นราชวงศ์ตงหวงของพ พวกเขาก็ยินดีที่จะบ่มเพาะนางเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องกลายมาหินปูทางในการก้าว วไปเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งขององค์หญิงหลินหลางเหมือนเช่นตอนนี้อีกด้วย
ตูมมม โครมมม!
ทั้งสองคนปะทะกันอยู่ในอาณาจักรวิญญาณนั้น และมู่หลินหลางก็ได้ระเบิดพลังอัน แข็งแกร่งออกมาโจมตีมู่เฉียนซี
ขณะเดียวกันมู่เฉียนซีก็โจมตีกลับอย่างสุดความสามารถเช่นกัน!
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“หงส์รุ้งจิ่วเทียน!”
“ทักษะซิวหลัว!”
“หงส์รุ้งสิบแปดปีก!”
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“หงส์รุ้งสามสิบหกปีก!”
ทั้งสองคนนี้คืออัจฉริยะไรัเทียมทานที่อยู่เหนือคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน นอกจากนี ความกดดันอันน่าสะพรึงกลัวและพลังในการต่อสู้ก็ทำให้เหล่าผู้อาวุโสมากมายต่าง ก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน
การต่อสู้ของทั้งสองคนดุเดือดเป็นอย่างมาก ซึ่งราวกับว่าได้เห็นศัตรูอันแข็งแกร่ง งของชีวิตและความตายอย่างไรอย่างนั้นเลย
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายภายในนี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง มู่หลินหลา างถือกระบี่เอาไว้ จากนั้นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพก็อันตรายมากขึ้นไปอีก
“เป็นไปไม่ได้! มู่เฉินซีบีบให้ฝ่าบาทหลินหลางใช้พลังของเทพกระบี่เลยอย่างนั้นห หรือ?” ทางด้านผู้อาวุโสของราชวงศ์ตงหวงกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นตกใจ
“เทพกระบี่เล่มนี้ ทุกครั้งที่บีบคั้นพลังของมัน ก็จะถือว่าเป็นการสูญเสียครั้ง งยิ่งใหญ่สำหรับมันเช่นกัน!”
“ตาแก่อย่างพวกเจ้าจะพูดจาไร้สาระให้มากมายไปทำไม? คิดว่าฝ่าบาทหลินหลางคือผู้ ใดกัน? ตราบใดที่พระองค์ต้องการ แม้ว่าจะเป็นการทำลายมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ พว วกเราก็พูดอะไรไม่ได้อยู่ดี รอให้หลังจากนี้สถานะของฝ่าบาทหลินหลางสูงมากขึ้นก กว่านี้ ราชวงศ์ตงหวงของพวกเราต้องการมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพมากมายแค่ไหนก็ย ย่อมได้ทั้งนั้น”
พลังกดดันอันมหาศาลได้กักขังมู่เฉียนซีเอาไว้ จนยากที่จะหลบเลี่ยงได้ จากนั้นเ เปลวเพลิงสีแดงก่ำก็ระเบิดออกมา
ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนั้นก็ต้องสกัดกั้นอย่างสุดความสามารถ ทีนี้ก็ต้องม มาดูแล้วล่ะว่ากระบวนท่าสังหารของมู่หลินหลางนั้นจะเก่งกาจมากเพียงใดกันแน่?
ปังงง!
มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวออกมา จากนั้นก็ได้ยินกระดูกหักดังแว่วออกมาด้วย
สีหน้าของมู่เฉียนซีในเวลานี้ซีดเผือดไปเล็กน้อย การที่แขนข้างซ้ายของนางหัก เ เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อลดอาการบาดเจ็บของส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย
ในการแข่งขันเช่นนี้ การที่แขนข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายส สำหรับผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างมาก และยังมีความเป็นไปได้ที่จะนําไปสู่ความพ่ายแพ้อย่า างย่อยยับในการเผชิญหน้าหลังจากนั้นอีกด้วย
แต่สำหรับมู่เฉียนซีแล้ว การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ดังนั้นนางกินยาน้ำและยาลูกกลอนอย่างรวดเร็วเพื่อซ่อมแซ่มร่างกาย
เหยียนที่อยู่บนที่นั่งผู้ชมกำหมัดแน่น ซีซีได้รับบาดเจ็บแล้ว นอกจากนี้ยังบาดเจ็ บสาหัสอีกด้วย! และตอนนี้เขาก็มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะพุ่งทะยานเข้าไป ปจัดการกับมู่หลินหลางอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
มู่หลินหลางช่างสมควรตายนัก!
มู่เฉียนซีที่ได้รับบาดเจ็บตอบโต้กลับอย่างต่อเนื่อง ราวกับแขนที่ได้รับบาดเจ็บข้ างนั้นสำหรับนางแล้วไม่มีค่าพอควรให้กล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ลำแสงของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพในมือของมู่หลินหลางเล่มนั้นเปลี่ยนเป็นมืดมน ลง และนางก็รู้สึกประหลาดใจที่มู่เฉินซียังมีแรงมากพอในการโต้กลับมาได้อีกด ด้วย
“ยังคิดที่จะดื้อดึงอย่างไร้ประโยชน์ต่อไปอีกหรือ?” มู่หลินหลางกล่าวอย่างเคร่ งขรึม และเทพกระบี่ของนางก็ได้ระเบิดพลังกระบี่แห่งการทำลายล้างออกมา
ตูมมม โครมมม!
กระบวนท่าสังหารของทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง
การโจมตีอันแข็งแกร่งปะทะเข้ากับพลังการป้องกันอันทรงพลัง สุดท้ายแล้วร่างของท ทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ แต่ทุกคนรู้ดีว่าหากเป็นเช่นนี้ ต่อไป คนที่พ่ายแพ้ต้องเป็นมู่เฉินซีอย่างแน่นอน!
และมู่เฉียนซีก็เข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดี!
เว้นแต่ว่านางจะใช้ทักษะวิญญาณธาตุวารี และนำเอากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณอ ออกมา เพื่อเพิ่มความได้เปรียบของนาง
แต่หากนางใช้มัน เช่นนั้นก็จะเป็นการบอกว่านางที่เป็นอัจฉริยะของราชวงศ์ตงหว วงก็คือมู่เฉียนซี ผู้ที่ซึ่งเป็นเจ้าของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์นั่นเอง
เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าไม่ทันที่ท่านพ่อจะหานางพบ นางก็คงได้ถูกยอดฝีมือข ของราชวงศ์ตงหวงจับตัวไปก่อนแล้วเป็นแน่